ตอนที่ 15 ให้มากเกินไป
ผลลัพธ์การทำแบบง่ายครั้งนี้น่าพอใจมาก เฉินเฟยกำลังคิดถึงจำนวนก้าวที่เขาเดินทุกวัน หากเขาเดินให้มากขึ้น วิชาหยดน้ำจะถึงระดับรู้แจ้งได้ภายในหนึ่งวัน
ในเวลานั้นท่าร่างของเฉินเฟยจะพัฒนาขึ้นมาก ต้องขยันต่อไป คาดว่าต้องใช้เวลาสี่ห้าวันในการผสานและฝึกฝนท่าร่างทั้งสี่
เฉินเฟยวางวิชาหยดน้ำลงและหยิบวิชากระบี่เซียนเมฆาขึ้นมา
เขาคิดจะทำให้กระบี่เซียนเมฆาเป็นแบบง่าย แต่ตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่าระบบจะจดจำกระบี่เซียนเมฆาหรือเปล่า หากมันจดจำได้ ผลการขาดวิชาขั้นสูงของเฉินเฟยก็จะลดลง
หนึ่งชั่วยามต่อมา เฉินเฟยรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย แต่โชคดีที่วิชากระบี่เซียนเมฆาปรากฏบนแผงแล้ว
[วิชายุทธ์: กระบี่เซียนเมฆา(ไม่สมบูรณ์)]
“ต้องการใช้เงินห้าสิบตำลึงทำให้กระบี่เซียนเมฆา(ไม่สมบูรณ์)เป็นแบบง่ายหรือไม่?”
“เป็นวิชากระบี่เซียนเมฆาจริง แม้จะไม่สมบูรณ์ก็เถอะ แต่ค่าใช้จ่ายในการทำให้เป็นแบบง่ายค่อนข้างสูง”
ดวงตาเฉินเฟยเป็นประกาย เป้าหมายแรกสำเร็จแล้ว ถ้าทำให้เป็นแบบง่ายได้อนาคตย่อมสดใสแน่นอน ถึงจะหาวิชาขั้นสูงที่เป็นต้นฉบับไม่ได้ แต่วิชาที่คล้ายกันยังมีอีกมากมาย
“ระบบ กระบี่เซียนเมฆาแบบง่าย”
“กระบี่เซียนเมฆาแบบง่าย...ทำให้เป็นแบบง่ายสำเร็จ...กระบี่เซียนเมฆา → เซียนชี้นำ!”
วิชากระบี่รูปแบบหนึ่งปรากฏในใจเฉินเฟย ท่วงท่าสง่างามว่องไวดั่งสายลม ฟันกระบี่ออกไปในช่วงเวลาที่เป็นไปไม่ได้ เฉินเฟยยังไม่ทันได้ฝึกฝนก็เริ่มมึนงงกับท่วงท่าที่เห็นแล้ว
“วิชากระบี่ดี!”
หลังจากนั้นพักหนึ่ง เฉินเฟยอดชมไม่ได้หลังจากซึมซับวิชากระบี่ เมื่อเทียบกับเซียนชี้นำ กระบี่เขาเขียวระดับรู้แจ้งเป็นเหมือนเด็กน้อยเต้นระบำวุ่นวายซึ่งลำบากสายตาที่ต้องมอง
“เซียนชี้นำเป็นเพียงการแสดงกระบวนท่ากระบี่เซียนเมฆา มันลึกลับมาก แล้วกระบี่เซียนเมฆาฉบับสมบูรณ์จะมีพลังแค่ไหน สำนักกระบี่เซียนเมฆายิ่งใหญ่ขนาดไหนดกัน!”
เฉินเฟยพูดกับตัวเอง หลังได้มองเสือดาวผ่านท่อจะเห็นได้ว่ายิ่งเขาเข้าใจมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้ถึงความไร้ค่าของตัวเอง
เฉินเฟยส่ายหัวสลัดอารมณ์แปลกๆในใจออกไปและเพ่งดูเซียนชี้นำ
ถ้าเฉินเฟยได้ฝึกวิชากระบี่นี้ตามปกติ ด้วยความสามารถด้านกระบี่ของเฉินเฟยในตอนนี้คาดว่าต่อให้ใช้เวลาหลายเดือนก็ยังไม่อาจเริ่มต้นได้ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะถึงระดับสมบูรณ์เมื่อไหร่
พอใช้กระบี่เขาเขียวผสานกับเซียนชี้นำมันก็ไปกันคนละทาง
เหมือนกับการผสานโอสถเลือดลมกับโอสถรักษาก่อนหน้านี้ โอสถสองประเภทที่มีผลต่างกันสามารถผสานกันได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกมันจะแตกต่างกัน
การผสานกระบี่เขาเขียวกับเซียนชี้น้ำเป็นสิ่งเป็นไปได้ แต่ต้องลำดับความสำคัญ
เซียนชี้น้ำอยู่ในระดับที่สูงกว่าจึงต้องให้เซียนชี้น้ำเป็นหลัก ดังนั้นกระบี่เขาเขียวระดับรู้แจ้งจึงถูกทิ้งซะส่วนใหญ่ แต่เซียนชี้น้ำมีเพียงกระบวนท่าเดียวซึ่งเหมาะกับการใช้เป็นท่าสังหารมากกว่าเป็นวิชากระบี่ทั้งชุด
ไม่อย่างนั้นต้องลงมือเพียงครั้งเดียว แต่เฉินเฟยยังไปไม่ถึงจุดที่สามารถทำลายทุกวิชาด้วยกระบี่เดียว สุดท้ายเฉินเฟยก็แยกทั้งสองวิชาอย่างไม่เต็มใจ
“วิชาที่ทำให้เป็นแบบง่ายแล้วทำให้เป็นแบบง่ายอีกครั้งได้ไหม?”
ทันใดนั้นเฉินเฟยเกิดความคิดนี้ในใจ เมื่อคิดได้ดังนั้นเฉินเฟยจึงลองสั่งระบบ
“ห้าร้อยตำลึง!”
ข้อมูลที่ปรากฏขึ้นบนแผงควบคุมทำให้เฉินเฟยประหลาดใจเล็กน้อย การทำให้เป็นแบบง่ายครั้งที่สองทำได้จริงแต่มีราคาเป็นสิบเท่าของการทำให้เป็นแบบง่ายครั้งแรก
“เงินทำให้คนมีความสุขจริงๆ”
เฉินเฟยหายใจเข้าลึกและหันไปสนใจวิชาหยดน้ำ เซียนชี้น้ำไม่สามารถทำให้เป็นแบบง่ายแต่วิชาหยดน้ำยังพอเป็นไปได้ เฉินเฟยแค่ต้องการเห็นของการทำให้เป็นแบบง่ายครั้งที่สอง
“ทำให้หยดน้ำเป็นแบบง่ายครั้งที่สอง...ทำให้เป็นแบบง่ายสำเร็จ...หยดน้ำ → เขย่าขา!”
ดวงตาเฉินเฟยเบิกกว้าง เยี่ยมมาก คราวนี้การทำให้เป็นแบบง่ายเปลี่ยนจากการเดินเป็นเขย่าขา ความยากของมันลดลงไปอีก เงินทองมีอำนาจทุกอย่างจริงๆ
“ข้างต้องทำงานหนักเพื่อหาเงิน!”
เฉินเฟยยกขาขึ้นและเริ่มเขย่า
เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินเฟยมาศูนย์การแพทย์ชิงเจิ้งตามปกติ ทักทายผู้คนที่พบระหว่างทางและมาที่ห้องหลอมโอสถ
เฉินเฟยชำเลืองมองระบบ ความชำนาญวิชาหยดน้ำอยู่นในระดับสมบูรณ์และใกล้ถึงระดับรู้แจ้ง ในขณะเดียวกันเฉินเฟยพบว่าการเดินยังสามารถเพิ่มความชำนาญให้วิชาหยดน้ำได้
กล่าวคือหลังจากการทำให้เป็นแบบง่ายครั้งที่สอง วิธีฝึกฝนจะง่ายขึ้นและวิธีแรกยังคงมีประโยชน์อยู่ เท่ากับว่าได้รับวิธีเพิ่มความชำนาญอีกหนึ่งอย่าง
เฉินเฟยอารมณ์ดีมาก การเดินมาในเช้านี้เขารู้สึกได้เลยว่าร่างกายเบาขึ้นมาก เห็นได้ชัดว่าท่าร่างกำลังทำงาน
เฉินเฟยจุดไฟ ตั้งเตาหลอม เริ่มหลอมโอสถรักษา
ราคาของโอสถรักษาสูงกว่าโอสถเลือดลม ดังนั้นเมื่อเฉินเฟยมักจะหลอมโอสถรักษาก่อนเสมอและเก็บบางส่วนไว้ใช้เองหรือเอาไปขายในตลาดมืด
จากนั้นหลอมโอสถเลือดลมอีกสองสามเตา เก็บส่วนหนึ่งไว้ใช้ฝึกฝนแล้วเอาส่วนที่เหลือไปขาย
เมื่อเทียบกับเดือนก่อน เดือนนี้เฉินเฟยเพิ่มปริมาณการหลอมโอสถ ความคืบหน้าเล็กน้อยจะทำให้คนของศูนย์การแพทย์คิดว่าคุณเก่งแต่ไม่ได้มากเกินไปซึ่งอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
ในตอนบ่าย ขณะที่เฉินเฟยหลอมโอสถเลือดลมเจิงเต๋อฟางก็เรียกหาเขา
“วันนี้ข้าไปถามคุณหนูใหญ่ให้แล้ว หลังจากคุณหนูใหญ่รู้สถานการณ์ของเจ้านางจึงตั้งใจบ่มเพาะเจ้า นางให้เจ้าไปประจำที่ศูนย์การแพทย์ทางประตูเมืองทิศเหนือในตำแหน่งรองผู้ดูแล”
เจิงเต๋อฟางหยิบถ้วยชาขึ้นมาเป่าสองสามทีแล้วจิบ
“มีอันตรายหรือไม่?”
เฉินเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย ความคิดแรกของเขาคือเรื่องดีๆแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับคนอย่างเขา เขามีพรสวรรค์ด้านหลอมโอสถแต่ไม่ถึงกับทำให้โลกตกตะลึง แล้วแบบนี้เขาจะขึ้นสู่ตำแหน่งรองผู้ดูแลศูนย์การแพทย์ได้อย่างไร
“ไม่มีอันตราย แต่มีปัญหาเล็กน้อย”
เจิงเต๋อฟางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด “คุณหนูใหญ่สงสัยว่าผู้ดูแลซุนมีบางอย่างผิดปกติจึงต้องการให้เจ้าลองไปตรวจสอบ เจ้าไม่มีพื้นหลังและมีความสามารถในการหลอมโอสถ ดังนั้นเจ้าสามารถนั่งตำแหน่งนี้ได้โดยไม่ต้องกังวลมากนัก”
“อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ”
เจิงเต๋อฟางอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าเฉินเฟย “เพื่อจะส่งเจ้าไปที่นั่นคุณหนูใหญ่จึงตัดสินใจปรับสัดส่วนการส่วนแบ่งของเจ้าจากสามส่วนเป็นสี่ส่วน หากเจ้าหาหลักฐานได้ว่าผู้ดูแลทำความผิด การมอบสูตรโอสถจิตเบาก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้”
เฉินเฟยที่กำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธถึงกับต้องกลืนคำพูดกลับไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการปฏิเสธ แต่อีกฝ่ายเสนอผลประโยชน์ให้มากเกินไปเฉินเฟยเลยไม่สามารถคิดเหตุผลที่ปฏิเสธได้
การเพิ่มส่วนแบ่งจากสามส่วนเป็นสี่ส่วนทำให้เฉินเฟยเก็บเงินได้เร็วขึ้น เมื่อค้นพบฟังก์ชันการทำให้เป็นแบบง่ายครั้งที่สอง เฉินเฟยจึงต้องการพัฒนาความแข็งแกร่งให้เร็วขึ้นซึ่งเงินเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้และยิ่งมีเยอะก็ยิ่งดี