ตอนที่ 142 ข้ายังเป็นคนจน (ฟรี)
ตอนที่ 142 ข้ายังเป็นคนจน
ศิษย์สายในสามารถเรียนรู้บทแรกฉบับสมบูรณ์ของคัมภีร์หยวน
สำหรับหวังจิ่ว… นี่ควรเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดจากภารกิจขนาดใหญ่นี้
500 คะแนนสนับสนุน
ไม่ใช่ว่าเขาฆ่าทหารกบฏไป 500 คน แต่เขาเป็นคนลงดาบสุดท้ายได้สองสามคนระหว่างความโกลาหล และฆ่ามินิบอสระดับสิบได้
หลังจากที่เขาได้เลื่อนขั้นเป็นศิษย์สายใน
หวังจิ่วรีบไปหาผู้อาวุโส และเรียนรู้บทแรกของคัมภีร์หยวนฉบับสมบูรณ์
คะแนนสนับสนุน 500 แต้มเพื่อแลกกับสถานะของศิษสายในการแลกเปลี่ยนนี้ควรค่าแก่การได้มา! เมื่อมองไปที่โทเค็นประจำตัวซึ่งเหลือคะแนนสนับสนุนเพียงหลักเดียว เขาก็เผยรอยยิ้มบนใบหน้า
น่าเสียดาย …
สำหรับศิษย์สายในที่จะก้าวไปสู่ศิษย์ชั้นนำ เขาต้องการคะแนนสนับสนุน 2,000 แต้ม
สำหรับเขาตอนนี้… เป้าหมายนี้ยังห่างไกลเกินไป
หวังจิ่วเดินไปที่หอคัมภีร์
หน้าหอคัมภีร์
“ข้าอยากเข้าหอคัมภีร์”
“ส่งโทเค็นประจำตัวของเจ้ามาให้ข้า”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวังจิ่วก็หยิบโทเค็นประจำตัวของเขาออกมาและมอบให้กับคนที่อยู่ข้างหน้าเขา
หรานหยวนมองดูโทเค็นประจำตัว จากนั้นส่งคืนและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ศิษย์สายในสามารถใช้คะแนนสนับสนุนเพื่อเข้าสู่สองชั้นแรกของหอคัมภีร์ เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการเข้าไปตอนนี้?”
“ข้าแน่ใจ”
“เข้าไปข้างใน จำไว้ว่าเจ้าสามารถอยู่ในหอคัมภีร์ได้สูงสุดสองชั่วโมงเท่านั้น”
"ตกลง"
ทันทีที่ หวังจิ่วก้าวเข้าสู่หอคัมภีร์ คะแนนสนับสนุนบนโทเค็นประจำตัวของเขาก็ลดลงเหลือศูนย์ทันที
ในอีกด้านหนึ่ง
ในทางกลับกัน หรานหยวนกลับนั่งลง
เดิมทีเขามาจากหอชิงเป่าของฐานที่มั่นเหลียงซาน ตอนนี้หวังตี่จู่ได้ดูแลหอคัมภีร์แล้ว เขาจึงถูกย้ายมา
อาจกล่าวได้ว่า… ในสามชั้นแรกของหอคัมภีร์
มีคนเช่นเขาเฝ้าทางเข้าแต่ละชั้น
สำหรับผู้อาวุโสหวังตี่จู่ เว้นแต่จะเป็นกรณีฉุกเฉิน เขามักจะไม่ค่อยแสดงตัว
เขามองเทคนิคบ่มเพาะ และเทคนิคต่อสู้ในหอคัมภีร์ ใบหน้าของหวังจิ่วยังเผยให้เห็นรอยยิ้ม
บางคนก็มีความสุข แน่นอนว่ามีคนที่เป็นน่ากังวล
เมื่อเทียบกับความสุขของหวังจิ่วและคนอื่นๆ ที่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นศิษย์สายใน ผู้เล่นคนอื่นๆ ก็มีความสุขที่ได้รับคะแนนสนับสนุนมากมาย
หลิวต้าจงรู้สึกเศร้าเล็กน้อย
เมื่อมองไปที่คนไม่กี่คนที่อยู่ข้างๆ เขาซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาอยากจะกินเขาทั้งตัว เขาก็รู้สึกผิดและทำอะไรไม่ถูก
เขาไม่เคยคาดหวังสิ่งนี้มาก่อน
กองทัพกบฏไม่ได้หนีจากความพ่ายแพ้ พวกเขาเลือกที่จะยอมจำนนแทน
เป็นผลให้บางคนที่นั่งยองๆ อยู่ด้านหลังและเตรียมขัดขวางการล่าถอยของกองทัพกบฏถูกแมลงทุกชนิดกัดต่อย พวกเขารออยู่ตรงนั้นทั้งวัน
“หลิวต้าจงนี่หรือสิ่งที่เจ้าบอกว่าจะไม่ผิดพลาด!!” เหมียวหยูชิงกัดฟันของเธออย่างหนักจนเกือบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาต้องการเป็นเพื่อนคนนี้จริงๆ เธอคงทุบตีเขาไปแล้ว
ขาดทุน!
ขาดทุนย่อยยับ!
อาจกล่าวได้ว่าผู้เล่นเกือบทั้งหมดได้รับรางวัลมากมายจากภารกิจขนาดใหญ่นี้ ยกเว้นผู้ที่ถูกฆ่าด้วยก้อนหินก่อนที่จะเห็นกองทัพกบฏ และผู้ที่เสียชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจด้วยน้ำมือของกองทัพกบฏหลังจากการเผชิญหน้าในตอนแรก
ในนิกายหยวนทั้งหมด พวกเขาเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด
มันเป็นภารกิจขนาดใหญ่
พวกเขาไม่ได้รับคะแนนสนับสนุนแม้แต่แต้มเดียว
เขาไม่ได้รับค่าประสบการณ์ด้วยซ้ำ
หลิวต้าจงอ้าปาก และต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ไม่พูด
เขามองดูเหตุการณ์ตรงหน้า
ยิ่งเขาพยายามอธิบายมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งถูกตำหนิมากขึ้นเท่านั้น
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หอภารกิจถือว่าเสร็จสมบูรณ์
…
ฉินซู่เจียน รู้สึกโล่งใจมากที่มีจางเทียนหยู ผู้อาวุโสฝ่ายคุมกฏมาดูแล
หลังจากนั้นไม่นาน
กลุ่มพ่อค้าเฉิงหยุนได้ส่งข่าวว่าจะมีการขนส่งผ่านดินแดนชี่เหลียงซาน ในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเขาหวังว่านิกายหยวนจะส่งคนมาช่วยพวกเขา
ฉินซู่เจียนจะไม่ปฏิเสธสิ่งที่พวกเขาได้พูดคุยกันก่อนหน้านี้
แต่ครั้งนี เขาไม่ได้ส่งคนไปทำโดยตรง แต่ออกในรูปแบบของภารกิจในหอภารกิจ
“ภารกิจคุ้มกัน : ปกป้องกองคารวานของกลุ่มพ่อค้าเฉิงหยุนในดินแดนชี่เหลียงซาน ในช่วงเวลานี้ เจ้าต้องปกป้องความปลอดภัยของสินค้า นักสู้ฝึกหัดระดับเจ็ดขึ้นไป!”
“รางวัลภารกิจ : เงินสามตำลึงและห้าคะแนนสนับสนุน!”
“หมายเหตุ: ภารกิจนี้ต้องการคนถึงสิบคนจึงจะยอมรับได้!”
ในพริบตาเดียว หอภารกิจดึงดูดผู้คนมากมายในทันที
…
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นข้อกำหนดของภารกิจ…
ผู้เล่นหลายคนถอนหายใจกับตัวเอง
นักสู้ฝึกหัดระดับเจ็ดเป็นอุปสรรคที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ในนิกายหยวนไม่สามารถข้ามได้
อย่างไรก็ตาม … แม้ว่าผู้เล่นจะไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆ ในนิกายหยวนไม่สามารถทำได้
ภารกิจนี้เพิ่งประกาศได้ไม่ถึงชั่วโมง ก็ถูกรับไปทันที
ในอีกด้านหนึ่ง
ฉินซู่เจียนอารมณ์ดีทีเดียว
นี่เป็นเพราะเขาได้ค้นพบปริศนาอื่น ภารกิจที่ออกโดยหอภารกิจสามารถใช้ในการตัดสินใจว่าเขาควรจะใช้ค่าชีวิตหรือไม่
ตามการคาดเดาของเขา
การใช้ค่าชีวิตหรือไม่จะเป็นตัวกำหนดความน่าจะเป็นที่ผู้เล่นจะได้รับค่าประสบการณ์จากการทำภารกิจให้สำเร็จ
เช่นนี้ … การออกภารกิจผ่านหอภารกิจทำให้ต้นทุนของเขาลดลงมากอย่างไม่ต้องสงสัย
ขณะที่ผู้เล่นยังคงเข้าร่วมนิกาย
จนถึงตอนนี้ จำนวนผู้เล่นที่เข้าร่วมนิกายหยวนมีมากกว่า 1,000 คนแล้ว ใกล้จะถึง 2,000 คนแล้ว
นี่เป็นจำนวนที่สูงมาก
นอกจากนี้ยังหมายความว่า… ผู้เล่นเหล่านี้นำเงินหลายหมื่นตำลึงมาสู่นิกายหยวน
และมีผู้เล่นมากมาย ตราบใดที่พวกเขาฆ่ามอนสเตอร์ ฉินซู่เจียนจะสามารถได้รับค่าชีวิต
ดังนั้นมันค่อยๆ เพิ่มมันขึ้นแทบทุกขณะ แม้ว่าความเร็วที่เพิ่มขึ้นจะไม่เร็วเท่าตอนที่พวกเขาทำลายกลุ่มกบฏ มันก็ยังน่าประทับใจมากหลังจากเวลาผ่านไป
เมื่อพิจารณาถึงจำนวนผู้เล่นที่เพิ่มขึ้น…
ฉินซู่เจียนใช้ค่าชีวิตของเขาอีกครั้งและออกภารกิจเพื่อขยายหมู่บ้าน
โดยมีเขาเหลียงเป็นศูนย์กลาง
รอบข้างถูกล้อมด้วยหมู่บ้านแล้ว
ศิษย์สายนอกทั้งหมดพักอยู่ในหมู่บ้านชั่วคราว
นอกจากนี้ ตามการประเมินของฉินซู่เจียน …
หากในอนาคตมีศิษย์สายในมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ศิษย์สายในบางส่วนก็ยังต้องอาศัยอยู่ที่เชิงเขา
เขามีเงินจำนวนมาก
ฉินซู่เจียน โบกมือและส่งคนไปที่กลุ่มพ่อค้าเฉิงหยุน ทันทีเพื่อซื้อชุดเกราะล้ำค่าระดับเก้าจำนวนหนึ่ง พวกมันทั้งหมดถูกสลักด้วยสัญลักษณ์เฉพาะของนิกายหยวน
ศิษย์สายนอกที่เข้าร่วมนิกายหยวนจะได้รับชุดเกราะล้ำค่าระดับเก้า
เงินส่วนใหญ่ที่เขาได้รับจากผู้เล่นละลายหายไป
อย่างไรก็ตาม ฉินซู่เจียน ไม่ได้สนใจ
ท้ายที่สุดแล้ว การหาเงินจากผู้เล่นเป็นเรื่องรองจากเขาเท่านั้น เป้าหมายหลักของเขาคือการยืมมือผู้เล่นเพื่อรับค่าชีวิตที่มากขึ้น
หลังจากนั้น ฉินซู่เจียนไปเยี่ยมศิษย์สายนอก
ผลลัพธ์ เขาพบคนทรยศสองสามคนที่มีความภักดีในเชิงลบ
ไม่มีอะไรจะพูดมาก เขาขับไล่อีกฝ่ายออกจากนิกายโดยตรงแล้วส่งเขากลับไปยังจุดเกิดของเขา
สำหรับเหตุผล… ทำไมเจ้านิกายจำเป็นต้องให้เหตุผลแก่ศิษย์สายนอกในการทำบางสิ่ง?
“เจ้าเหลือเงินเท่าไหร่ในนิกายหยวน”
“สองหมื่นหนึ่งพันสามร้อยห้าสิบเอ็ดตำลึง!” ซูหยวนหมิงมองไปที่สมุดบัญชีและตอบตามความเป็นจริง
เมื่อนิกายหยวนแข็งแกร่งขึ้น พวกเขายังต้องการใครสักคนเพื่อจัดการการเงินของพวกเขา
คนๆ นั้นคือซูหยวนหมิงที่เข้ามาดูแลเรื่องนี้โดยตรง
ฉินซู่เจียน ค่อนข้างน่าเชื่อถือเมื่อเขาเห็นว่าความภักดีของอีกฝ่ายคือ 93 แต้ม
“สองหมื่นหนึ่งพันตำลึงใช้ได้กี่วัน”
“ตามค่าใช้จ่ายปัจจุบัน เราใช้จ่ายประมาณสามร้อยตำลึงต่อวัน สองหมื่นตำลึงเป็นค่าใช้จ่ายประมาณสองเดือน หลังจากหักค่าใช้จ่ายประจำวันของเราแล้ว แทบจะไม่มีอะไรใช้ได้เลย”
“ยิ่งระดับสูงเท่าไรก็ยิ่งมีการบริโภคมากเท่านั้น”
นอกจากนี้ มีผู้เล่นและ NPC เกือบ 4,000 คนในนิกายหยวน ดังนั้นเงิน 300 ตำลึงจึงถือว่าต่ำมากแล้ว
จู่ๆ ฉินซู่เจียนก็ตระหนักถึงบางสิ่ง
เขาจึงยังยากจนอยู่มาก
เขาถอนหายใจในใจ “ข้ายังยากจนอยู่”
หลังจากตรวจสอบบัญชีของนิกายหยวนแล้ว ฉินซู่เจียน ก็ครุ่นคิดในขณะที่เขาเดินออกไป
เมื่อพวกเขากำลังจะไปถึงห้องโถงเฉิงหวู่ …
ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนทิศทางและมุ่งตรงไปที่หอภารกิจ
ขนแกะมาจากลำตัวของแกะ
หากนิกายต้องการหาเงิน ก็ยังต้องอาศัยศิษย์เหล่านี้
ทันทีหลังจากนั้น
ฉินซู่เจียนปล่อยภารกิจระยะยาวในหอภารกิจ หากรวบรวมดอกไม้หายาก ผลไม้หายาก แร่และวัตถุดิบล้ำค่าทุกชนิด จะได้รับคะแนนสนับสนุนจำนวนหนึ่งตามมูลค่าของพวกมัน
ภารกิจนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที
ท้ายที่สุดสำหรับพวกเขา … คะแนนสนับสนุนเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่จะได้รับ
นอกเหนือจากนิกายหยวนที่จัดตั้งขึ้นใหม่ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นตำแหน่งต่างๆ ผู้เล่นและ NPC ทุกคนต้องใช้คะแนนสนับสนุนเพื่อเลื่อนขั้น
เฉพาะผู้ที่เหนือกว่าเป็นพิเศษเท่านั้นที่จะมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับการยกเว้น และเลื่อนตำแหน่ง
หลังจากที่ฉินซู่เจียนออกภารกิจ เขาก็ส่งคนไปที่สาขาของกลุ่มพ่อค้าเฉิงหยุน เขาขอให้กู่เฟิงขายหนังสือภาพประกอบซึ่งบันทึกแร่ ดอกไม้หายาก และผลไม้ รวมถึงราคาโดยประมาณที่สอดคล้องกัน
ท้ายที่สุดก็ต้องได้รับการตรวจสอบ
จำนวนคะแนนสนับสนุนยังคงขึ้นอยู่กับมูลค่าของสิ่งของนั้นๆ
หลังจากทำทั้งหมดนี้
ฉินซู่เจียนพลันตระหนักว่าเขาดูเหมือนจะเป็นอิสระ
บอสคนเดิมได้กลายเป็นบอสที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม และเป็นเจ้านิกาย เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับผู้เล่นที่จะมาโจมตีเขาในระยะนี้
เพราะ … ก่อนที่พวกเขาจะโจมตีเขาได้ พวกเขาต้องผ่านผู้เล่นจากนิกายหยวนก่อน
เมื่อเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ระหว่างนิกายหยวนและผู้เล่นได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นแล้ว และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ความน่าจะเป็นที่ผู้เล่นเหล่านี้ทรยศต่อพวกเขาโดยรวมนั้นแทบจะเป็นศูนย์
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ…
ฉินซู่เจียน ยังคงไปตรวจสอบความภักดีของคนเหล่านี้เป็นครั้งคราว
ตราบใดที่ไม่ใช่เป็นลบ มันก็จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่
บนยอดเขาเหลียง
นอกจากฉินซู่เจียนแล้ว ไม่มีใครมีสิทธิ์เข้ามาเหยียบที่นี่โดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อภูเขาเหลียงสูงขึ้นเรื่อยๆ
อาจกล่าวได้ว่าสถานที่นี้อยู่ใกล้ท้องฟ้ามากที่สุดในดินแดนชี่เหลียงซาน
เขามองไปที่คัมภีร์หยวน ซึ่งเมื่อค่าชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 15,000แต้ม เครื่องหมายบวกก็ปรากฏขึ้น
ฉินซู่เจียน เลือกที่จะยกระดับทันที
ในชั่วขณะนั้น
ค่าชีวิตหายไป 15,000 แต้ม
คัมภีร์หยวนได้รับการยกขึ้นเป็นระดับสิบหก
คัมภีร์หยวนระดับสิบหก (ระดับหลุดพ้นขั้นกลาง) : อายุยืนระดับสิบเจ็ด กายวัชระระดับสิบสาม แก่นแท้หมอกดาราระดับหนึ่ง เกราะปราณระดับสาม
แก่นแท้ทลายดาราได้พัฒนาเป็นแก่นแท้หมอกดารา
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว
ฉินซู่เจียน มองไปที่คำว่า "อายุยืน" บนนั้น จู่ๆ เขาก็อยากรู้ว่าอายุขัยของระดับ 17 เพิ่มอายุขัยให้กับเขามากเพียงใด
ตอนนี้เขาจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน?
อย่างไรก็ตาเขายังอายุไม่นานมากนัก ฉินซู่เจียน รู้สึกได้ถึงพลังชีวิตที่แข็งแกร่งในร่างกายของเขาเท่านั้น เขาไม่สามารถบอกได้ว่าอายุขัยของเขานั้นยาวนานเพียงใด
หลังจากนั้นไม่นาน
เขาวางเรื่องนี้ไว้และหันไปสนใจเทคนิคบ่มเพาะอีกสองอย่าง
