ตอนที่ 12 โจร
“ตอบสนองไวดี แต่ระดับแย่เกินไป”
เจี่ยนเหลียงชำเลืองมองผูเหลียวจากนั้นหันมองเฉินเฟยกับหมอซ่ง เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ได้ต้องการทำให้ทั้งสองตกใจ แต่นี่เป็นสถานการณ์พิเศษจึงต้องทำให้ขุ่นเคือง”
“ไม่ใช่ว่าต้องการหมอหรือ แล้วพวกเจ้า...”
หมอซ่งมองเจี่ยนเหลียงกับคนสองคนที่ปรากฏบนกำแพงลานบ้านและถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
เฉินเฟยขมวดคิ้วมองไปรอบด้านและคิดหาเส้นทางหลบหนี แต่ไม่นานเขาก็ต้องหายใจ
หนีไปไหนไม่ได้เลย เจี่ยนเหลียงปิดทางหนีไว้หมดแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเฉินเฟย ถ้าเขาฝ่าออกไปคงมีผลไม่ต่างจากผูเหลียว
ตัดสินจากพฤติกรรมของเจี่ยนเหลียงในตอนนี้ เขาต้องเป็นคนโหดเหี้ยมอย่างแน่นอน การเดินทางครั้งนี้อันตรายมาก
“เราต้องการหมอจริง แต่เพื่อนคนนี้ตอบสนองมากเกินไปข้าจึงต้องทำเช่นนั้น” เจี่ยนเหลียงผายมือเชิญ “เชิญทั้งสอง”
มือเท้าหมอซ่งสั่นเล็กน้อย เขาเป็นแค่หมอธรรมดาซึ่งไม่เคยเห็นการต่อสู้แบบนี้มาก่อน เฉินเฟยก้าวไปข้างหน้า สนับสนุนให้หมอซ่งเดินไปในห้องโถง
เจี่ยนเหลียงเอียงหน้าไปมองผูเหลียว ทันใดนั้นมีคนมาช่วยผูเหลียวเข้าไปในห้องโถงด้วยกัน
“มีบางอย่างเกิดขึ้นพี่น้องของเราจึงบาดเจ็บเล็กน้อย ตราบใดที่พวกเจ้ารักษาพวกเขาได้ ค่ารักษาจะจ่ายเต็มจำนวนและพวกเจ้าจะไม่ถูกแตะต้อง”
เมื่อเดินเข้าไปในห้องโถงก็เห็นผู้บาดเจ็บจำนวนมากนอนอยู่บนพื้นและมีกลิ่นเลือดโชยออกมา เมื่อครู่ผูเหลียวได้กลิ่นเลือดจึงรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่มันสายไปเสียแล้ว
“พวกเจ้าต้องรักษาคำพูด” หมอซ่งบังคับให้ตัวเองสงบ
“สำหรับผู้มีพระคุณ พวกเรายังคงรักษาคำพูด”
เจี่ยนเหลียงยิ้มกว้าง “แต่หลักการคือพวกเจ้าต้องรักษาพวกเขาได้ ถ้ารักษาพวกเขาไม่ได้ก็อย่าโทษพวกเรา!”
สีหน้าหมอซ่งแข็งทื่อ เขาไม่กล้ามองเจี่ยนเหลียงต่อและเดินไปหาคนบาดเจ็บ ตอนนี้เขาเพียงต้องการรักษาคนเหล่านี้เพื่อให้เขาออกไปจากที่นี่ได้
ในฐานะหมอประจำศูนย์การแพทน์ชิงเจิ้ง ทักษะแพทย์ของซ่งเมี่ยวต้องดีมากแน่นอน หลังตรวจสอบสภาพของผู้บาดเจ็บเสร็จเขาก็เริ่มวางแผนรักษา
เขาหันไปกระซิบสองสามคำกับเฉินเฟย เฉินเฟยจ่ายยาให้กับผู้บาดเจ็บส่วนซ่งเมี่ยวยังคงเดินไปหาผู้บาดเจ็บอีกคน
ในขณะที่ทั้งสองดำเนินการไปพร้อมกัน เสียงโอดครวญเป็นครั้งคราวในห้องโถงค่อยๆลดลง เจี่ยนเหลียงและคนด้านข้างมีสีหน้าดีขึ้นมาก
ผูเหลียวยืนพิงกำแพงมองทุกอย่างตรงหน้า ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา เขากลัวคนอื่นจะเห็นจึงก้มหน้าหลับตากัดฟันแน่น นี่เป็นสภาพจิตใจของเขาในตอนนี้
ในช่วงเวลาสั้นๆผู้บาดเจ็บมากกว่าสิบสองคนในห้องโถงได้รับยาแล้ว ความเจ็บปวดได้บรรเทาลง ใบหน้าพวกเขาจึงมีรอยยิ้ม
ซ่งเมี่ยวเช็ดเหงื่อบนหน้าผากและถอนหายใจโล่งอก อาการบาดเจ็บของคนเหล่านี้ล้วนคล้ายคลึงกัน ส่วนใหญ่เป็นบาดแผลที่เกิดจากมีดดาบจึงรักษาได้ไม่ยาก
แค่ไปหาหมอประจำบ้านในอำเภอผิงหยิน คนเหล่านี้ก็ได้รับการช่วยเหลือแล้ว
แต่ตัวตนของกลุ่มคนนี้น่าจะไม่มีที่มาจึงเข้าอำเภอผิงหยินไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีนี้หลอกคนมารักษา
“หมอรักษาเก่งจริงๆ ข้าขอขอบคุณในนามของพี่น้องทุกคน”
เจี่ยนเหลียงมีใบหน้ายิ้มแย้มซึ่งไม่เหมือนใบหน้าดุดันก่อนหน้านี้
“ไม่เท่าไหร่หรอก” ซ่งเมี่ยวโบกมือแล้วพูด “ตอนนี้พวกเราไปได้แล้วหรือไม่?”
ซ่งเมี่ยวไม่ถามหาค่ารักษาแม้แต่น้อย ตอนนี้เขาแค่ต้องการออกจากที่นี่อย่างปลอดภัยเท่านั้น
“ไม่ต้องรีบร้อน ยังมีอีกคนที่ต้องรับการรักษา ทั้งสองโปรดตามข้ามา”
เจี่ยนเหลียงเดินไปข้างหน้า ซ่งเมี่ยวชำเลืองมองเฉินเฟยและอดถอนหายใจไม่ได้ เรื่องนี้ยังไม่จบ เฉินเฟยไม่พูดอะไร เขาคอยคาดเดาสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในใจและเตรียมการหลบหนี
เมื่อเดินมาถึงสวนหลังบ้าน ที่นี่เป็นระเบียบเรียบร้อยดูสะอาดสะอ้านขึ้นมาก มีแม้กระทั่งคนรับใช้วิ่งเข้าออก ดูจากเสื้อผ้าแล้วพวกเขาน่าจะเป็นผู้ลี้ภัยพวกนั้น
“พี่ใหญ่ หมอมาแล้ว”
เมื่อเดินเข้าไปในห้อง คนคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงและมีคนหลายคนยืนอยู่ข้างเขา ทุกคนต่างมองมาที่เฉินเฟยด้วยสายตาเสียดแทง
ดูเหมือนว่าเมื่อมีบางอย่างผิดปกติ คนพวกนั้นจะกระโจนฆ่าพวกเขาสองคนทันที
“รักษาพี่ใหญ่ของข้าแล้วพวกเจ้ากลับไปได้ สิ่งเหล่านี้มอบให้พวกเจ้าด้วย” เจี่ยนเหลียงชี้ตำลึงเงินบนโต๊ะข้างเขา ดูคร่าวๆน่าจะไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยตำลึง
ค่ารักษาครั้งนี้เยอะแน่นอน แต่มันอาจแลกมาด้วยความตาย
ที่เจี่ยนเหลียงให้ซ่งเมี่ยวรักษาคนอื่นก่อนอาจเป็นเพราะเขาไม่เชื่อทักษะการแพทย์ของซ่งเมี่ยว ซ่งเมี่ยวจึงยังไม่ถูกพาตัวมาที่นี่จนกระทั่งรักษาคนข้างนอกได้
ไม่มีที่ว่างให้ปฏิเสธ ซ่งเมี่ยวเดินไปสัมผัสชีพจร หลังจากนั้นไม่นานคิ้วของเขาก็ขมวดเล็กน้อยและแสดงสีหน้าลังเล
“ทำไม รักษาไม่ได้หรือ? ถ้ารักษาไม่ได้เจ้าต้องตาย!”
คนที่อยู่ข้างเขาพูดด้วยเสียงทุ้มพร้อมปล่อยออร่าดุร้าย ซ่งเมี่ยวตกใจจนเกือบล้ม
“รักษาได้รักษาได้” ซ่งเมี่ยวปาดเหงื่อจากหน้าผากแล้วพูดด้วยเสียงต่ำ “คนนี้แตกต่างจากคนอื่น เขาได้รับบาดเจ็บภายในและอาการบาดเจ็บค่อนข้างรุนแรง ถ้าจะรักษาสมุนไพรทั่วไปคงไม่พอ ต้องกินร่วมกับโอสถรักษา”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเจ้าลังเลทำไม?”
“ข้าไม่มีโอสถรักษา”
ซ่งเมี่ยวพูดอย่างขมขื่นว่าวันนี้ขาออกมานอกเมืองเพื่อให้การรักษาฟรีแก่ผู้ลี้ภัย และสิ่งที่ซ่งเมี่ยวนำมาเป็นเพียงยาธรรมดาเท่านั้น ผู้ที่ต้องรักษาล้วนอยู่ในศูนย์โถงแพทย์
“หมายความว่าตอนนี้เจ้ารักษาไม่ได้ใช่ไหม!”
คำพูดนี้เต็มไปด้วยความเย็นชา พวกเขารู้เรื่องโอสถรักษาแต่ในการต่อสู้ครั้งก่อนพวกเขาใช้โอสถไปหมด ให้คนไปซื้อมันในอำเภอผิงหยิน?
ในเวลานี้ผู้คุ้มกันประตูเมืองผิงหยินเข้มงวดมาก แม้แต้ผู้ลี้ภัยยังไม่สามารถเข้าไปได้ และเป็นเรื่องยากเข้าไปอีกสำหรับผู้ไร้ตัวตนแบบพวกเขาที่จะเข้าไปได้ และโอสถรักษาที่ซ่งเมี่ยวพูดถึงยังไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่
บางทีอาจเป็นเพราะทักษะการแพทย์ไม่เพียงพอเขาจึงใช้โอสถรักษาขึ้นมาอ้าง ถ้าอย่างนั้นการฆ่าเขาโดยตรงคงเป็นเรื่องดีกว่าเพื่อให้ข้อมูลไม่รั่วไหลออกไป
“ข้าขอคิดก่อน ข้าขอคิดก่อน!”
ร่างซ่งเมี่ยวสั่นสะท้าน ผู้คนรอบข้างต่างเปิดเผยจิตสังหารแล้ว ถ้าคำตอบไม่เป็นที่พอใจคาดว่าในช่วงเวลาต่อมาหัวเขาคงหลุดออกจากบ่า
“หมอซ่ง ข้ามีโอสถรักษา”
เฉินเฟยเดินออกมาและหยิบขวดโอสถรักษาในกระเป๋าคาดเอวออกมา มันเป็นโอสถรักษาที่เฉินเฟยลองหลอมเมื่อไม่กี่วันก่อนหลังจากโอสถรักษาถึงระดับเชี่ยวชาญ
มันมีรูปร่างหน้าตาธรรมดาแต่ใช้สำหรับรักษาได้ เฉินเฟยไม่ได้ขายมันและเก็บเอาไว้กับตัว
ซ่งเมี่ยวตกตะลึงจากนั้นก็ดีใจ เขารีบหยิบโอสถรักษาออกมาให้เจี่ยนเหลียง “นำไปดื่มกับน้ำอุ่น ข้าจะฝังเข็มให้อาการจะได้ดีขึ้น”
เจี่ยนเหลียงดมโอสถ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นโอสถจริง จากนั้นเขาก็นำโอสถไปป้อนคนบนเตียง
ซ่งเมี่ยวหยิบเข็มเงินออกมาเริ่มฝังเข็มผู้บาดเจ็บ จากนั้นไม่นานคนบนเตียงไอเสียงดังพ่นเลือดออกมาเต็มปาก สีหน้าของเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด