ตอนที่ 1 แค่หายใจก็แข็งแกร่งขึ้น
อำเภอผิงหยิน
“ภายนอกฝึกผิวหนังกล้ามเนื้อกระดูก ภายในฝึกลมปราณ สำนักหมัดจีซานของเราปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม แม้แต่วิชาพลังภายในอันล้ำค่ายังมีผู้เชี่ยวชาญสอนให้ ตราบใดที่พวกเจ้าฝึกฝนอย่างหนัก วิชายุทธ์ที่ทรงพลังกว่านี้ก็รอพวกเจ้าอยู่!”
ปี้หงปรมาจารย์สำนักหมัดจีซานกำลังตะโกนเสียงดัง ผู้คนในสำนักต่างตั้งใจฟัง ตรงมุมห้อง แม้ชายร่างผอมตัวคล้ำจะเชิดหน้ามอง แต่หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าสายตาเขาดูเบื่อหน่าย
เฉินเฟยอยู่ในโลกนี้ได้สิบวันแล้ว หลังซึมซับความทรงจำของร่างเดิมจึงรู้ว่านี่คือโลกที่เหมือนกับดาวเคราะห์น้ำเงินยุคโบราณ
แต่โลกนี้มีนักสู้อยู่มากมาย การฆ่าคนธรรมดาง่ายเหมือนการเชือดไก่
ตอนนี้เฉินเฟยเป็นคนรับใช้ในศูนย์การแพทย์ วันธรรมดามักจะทำงานของศูนย์การแพทย์
เรียนรู้วิชาแพทย์? หากไม่มีสถานการณ์บางอย่างเกิดขึ้นคงไม่มีทางได้รับโอกาสนี้
แอบร่ำเรียน? หากถูกจับได้จะโดนหักแขนหักขา ต่อจากนั้นทำได้เพียงดูแลตัวเอง
ร่างเดิมไม่อยากเป็นแบบนี้ตลอดชีวิตจึงเลือกเชื่อฟังศูนย์การแพทย์ กัดฟันทำงานหนักจนกระทั่งได้รับความโปรดปรานและได้เรียนวิชาเล็กน้อย
น่าเสียดายที่คนรับใช้ทุกคนมีความคิดเหมือนกัน
ด้วยความสิ้นหวังนี้ร่างเดิมจึงใช้เงินเก็บไปขอเรียนกับผู้เชี่ยวชาญสำนักหมัดจีซานโดยหวังว่าจะเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเอง
สำนักหมัดจีซานตรงไปตรงมาเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญมอบวิธีหายใจกับวิชาหมัดให้ ร่างเดิมมองมันดั่งสมบัติและศึกษามันอย่างเต็มที่ในเวลาว่าง
หลังศึกษาอยู่สามเดือน ก่อนจะทันเริ่มต้นหมัดกับวิธีหายใจก็ดันตายเสียก่อนเพราะทำงานหนักเกินไป!
เฉินเฟยได้รับความทรงจำนี้มาจากร่างเดิม เขาสนใจวรยุทธ์เช่นกันและฝึกมาพักหนึ่งแล้ว
แต่ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเหตุใดเจ้าของร่างเดิมจึงฝึกวรยุทธ์สามเดือนแต่ยังเริ่มต้นไม่ได้
นั่นเป็นเพราะพรสวรรค์ไม่ดี เฉินเฟยสืบทอดร่างนี้และพบว่าตัวเองไม่ได้มีพรสวรรค์ดีไปกว่า
หรือจะใช้ความคิดของคนสมัยใหม่ หาเงินแล้วกลายเป็นเศรษฐี?
ตอนแรกเฉินเฟยคิดแบบนั้น แต่เพื่อให้ได้ทำงานเป็นคนรับใช้ให้ศูนย์การแพทย์ เจ้าของร่างเดิมได้เซ็นสัญญาและต้องทำงานให้ศูนย์การแพทย์เป็นเวลายี่สิบปี
หากต้องการลาออกใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อยกเลิกสัญญา
และต้องคืนรายได้ทั้งหมดที่ได้รับมาจากศูนย์การแพทย์ หากซ่อนเงินไว้แล้วถูกจับได้จะโดนฆ่าทิ้ง
สิ่งนี้ค่อนข้างโหดร้ายไร้มนุษยธรรม
แม้ศูนย์การแพทย์จะน่ากลัวขนาดนี้แต่ร่างเดิมยังยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เข้าร่วม
เพราะอย่างน้อยศูนย์การแพทย์ยังให้เป็นวัวเป็นม้าไปตลอดชีวิต ในขณะที่ที่อื่นไม่ให้โอกาสเป็นวัวเป็นม้าด้วยซ้ำ
ทันใดนั้นมีภาพปรากฏต่อหน้าเฉินเฟย
[ชื่อ: เฉินเฟย]
[อาชีพ: ไม่มี]
[วิชายุทธ์: หมัดจีซาน, วิธีหายใจจีซาน]
[ระดับ: ไม่มี]
“ค้นพบวิชายุทธ์ ต้องการใช้เงินหนึ่งตำลึงทำให้หมัดจีซานเป็นแบบง่ายหรือไม่?”
“ค้นพบวิชายุทธ์ ต้องการใช้เงินหนึ่งตำลึงทำให้วิธีหายใจจีซานเป็นแบบง่ายหรือไม่?”
ข้อมูลบางอย่างของเฉินเฟยแสดงอยู่บนระบบ ในเวลาเดียวกันมีการแจ้งเตือนสองรายการกระพริบอยู่ที่ด้านล่าง ในจังหวะที่กำลังเหม่อลอยเขาก็มองระบบที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน
“มัวทำหน้างงอะไรอยู่ ยังไม่เริ่มฝึกหมัดอีก!”
ปี้หงเดินมาหาเฉินเฟยแล้วตะโกนเสียงดัง “ถ้าเจ้ายังเริ่มต้นหมัดจีซานไม่ได้ เดือนหน้าเจ้าต้องจ่ายเงินให้สำนักหมัดอีก รู้เรื่องนี้ไว้เสีย!”
เฉินเฟยกลับมามีสติและเริ่มฝึกฝนโดยไม่กล้าพูดอะไร
ปี้หงเหลือมองเล็กน้อยแล้วส่ายหัว เขารู้ภูมิหลังของเฉินเฟยดี เฉินเฟยมาสำนักหมัดจีซานเพื่อลองเสี่ยงโชค ตอนนี้ดูแล้วคงไม่พ้นชะตากรรมคนธรรมดาซึ่งไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
หนึ่งชั่วยามต่อมา เฉินเฟยออกจากสำนักหมัดด้วยเหงื่อเต็มตัว สิ่งที่ได้มาในครั้งนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากความหิว
เขารีบกลับไปยังศูนย์การแพทย์ ทักทายคนรับใช้สองสามคนที่รู้จักแล้วไปหมกตัวอยู่ในห้องพัก
นี่เป็นห้องพักส่วนรวมซึ่งมีคนนอนรวมกันนับสิบ กลิ่นเหม็นเปรี้ยวทุกประเภทโชยเข้าจมูกเฉินเฟยอย่างต่อเนื่อง โชคดีที่เฉินเฟยชินกับมันแล้ว ตอนลืมตาตื่นครั้งแรกในโลกนี้เฉินเฟยแทบลุกไม่ขึ้นเพราะโดนกลิ่นตราตรึงไว้
“หนึ่งตำลึงเงิน ไม่ได้เยอะเท่าไหร่”
เฉินเฟยนั่งขมวดคิ้วอยู่บนเตียง เขายังไม่เข้าใจการทำงานของระบบนี้เพราะไม่ว่าจะถามหรืออ่านทุกอย่างเพื่อทำความเข้าใจ ระบบก็ไม่ได้โต้ตอบและไม่มีการเปลี่ยนแปลง
มีเพียงสองข้อความายเงินที่ยังกระพริบอยู่
แต่เฉินเฟยใช้เงินเก็บทั้งหมดไปกับสำนักหมัดจีซานแล้ว ในเดือนที่ผ่านมาเขาไม่ได้เก็บไว้แม้แต่ตำลึงเดียว
“ต้องคิดวิธีหาเงิน” ความคิดต่างๆผุดขึ้นในใจ เขาจำได้ว่าร่างเดิมซ่อนสมุนไพรไว้ข้างนอก
เมื่อสี่เดือนก่อนศูนย์การแพทย์มีสมุนไพรไม่เพียงพอ ดังนั้นคนรับใช้กลุ่มหนึ่งจึงต้องตามคนเก็บสมุนไพรขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนภูเขา ร่างเดิมนำสมุนไพรส่วนหนึ่งไปซ่อนไว้ และในช่วงที่ไปเก็บสมุนไพรเขาได้เจอความประหลาดบนภูเขาฆ่าคนสามคน นั่นทำให้เจ้าของร่างเดิมตัดสินใจฝึกวรยุทธ์
เจ้าของร่างได้ยินว่าเมื่อฝึกวรยุทธ์ถึงระดับหนึ่งจะสามารถสู้กับความประหลาดได้ แม้จะสู้ไม่ได้ แต่หากคนอื่นในกลุ่มเป็นคนอ่อนแอกว่า ความประหลาดจะไปหาคนกลุ่มนั้นก่อน
ช่วงนี้นอกเมืองไม่ค่อยสงบสุขนักจึงทำให้ศูนย์การแพทย์ขาดสมุนไพรเป็นครั้งคราว การไปเก็บสมุนไพรบนภูเขาทุกสองสามเดือนจึงเป็นเรื่องปกติ
เฉินเฟยเดินออกจากห้องพักตั้งใจจะไปยืมเงินจากคนรับใช้คนอื่น แต่เงินหนึ่งตำลึงเป็นจำนวนมากสำหรับพวกเขาจึงไม่มีใครให้ยืม
ถ้ายืมเงินเล็กน้อยจากหลายคนอาจตกเป็นที่สงสัย เฉินเฟยลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนออกไปจากศูนย์การแพทย์
ครึ่งชั่วยามต่อมา เฉินเฟยได้รับสมุนไพรที่ซ่อนไว้ เขาสวมหมวดไผ่ปิดบังใบหน้าและแอบนำสมุนไพรไปขายในตลาดด้วยราคาหนึ่งตำลึงเงินห้าสิบเหรียญทองแดง
เฉินเฟยไม่กล้ากลับไปที่ศูนย์การแพทย์จึงไปที่บ้านร้างในอำเภอแทน
“วิธีหายใจจีซานแบบง่าย”
เฉินเฟยพูดในใจ ช่วงเวลาต่อมาหนึ่งตำลึงในแขนเสื้อเฉินเฟยหายไป ระบบในสายตาเขากะพริบเล็กน้อย
“วิธีหายใจจีซานแบบง่าย...ทำให้เป็นแบบง่ายสำเร็จ...วิธีหายใจจีซาน → หายใจ!”
หายใจ?
ก่อนจะทันได้คิดอะไร ทันใดนั้นก็เห็นข้อมูลบนระบบมีการเปลี่ยนแปลง
[ชื่อ: เฉินเฟย]
[อาชีพ: นักยุทธ์]
[วิชายุทธ์: หมัดจีซาน, วิธีหายใจจีซาน(เริ่มต้น1/100)]
[ระดับ: ไม่มี]
ขณะที่เฉินเฟยหายใจตามปกติ ความรู้สึกอบอุ่นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ในขณะเดียวกันตัวเลขด้านหลังวิธีหายใจยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเวลาไม่นานมันเพิ่มเป็น10/100
ความเข้าใจวิธีหายใจจีซานปรากฏในใจ
“แค่หายใจก็ฝึกได้แล้ว?”
เฉินเฟยตกใจจนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ฟังก์ชั่นทำให้เป็นแบบง่ายสุดยอดยิ่งนัก วิธีหายใจจีซานเป็นวิธีหายใจแบบพิเศษซึ่งช่วยเสริมสร้างร่างกายและอวัยวะภายในให้แข็งแรงขึ้น
หลังทำให้เป็นแบบง่ายมันได้กลายเป็นการหายใจธรรมดาที่สามารถเพิ่มความชำนาญวิชายุทธ์
วิปริตอะไรขนาดนี้ บอกเลยว่าเฉินเฟยชอบมันยิ่งนัก!
“ปัง!”
เฉินเฟยกำลังจะศึกษาวิธีหายใจต่อ แต่ทันใดนั้นประตูถูกเปิดออกและมีคนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา
“ผู้ดูแลชุย เป็นมัน” ชาต้าซินชี้เฉินเฟย “ข้าเห็นมันถือสมุนไพรไปขายแล้วมาที่นี่”
เฉินเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย ชาต้าซินคนนี้มีเรื่องขัดแย้งกับร่างเดิม พูดอีกอย่างคือคนคนนี้จับตามองเฉินเฟยอยู่เสมอ ซึ่งตอนนี้เขาได้โอกาสนั้นแล้ว
“ค้นตัว!”
ชุยซานเจียโบกมือ คนรับใช้หลายคนรีบพุ่งไปหาเฉินเฟยทันที เฉินเฟยไม่ขัดขืนและปล่อยให้คนเหล่านี้ค้นตัว
ครู่ต่อมา คนรับใช้เหล่านี้โยนเงินทั้งหมดบนตัวเฉินเฟยลงพื้นซึ่งมีเพียงห้าสิบเหรียญทองแดง
“เจ้าบอกว่าเขาขายในราคาหนึ่งตำลึงเงินไม่ใช่หรือ?” ชุยซานเจี๋ยขมวดคิ้วหันไปมองชาต้าซิน
“มันต้องซ่อนมันไว้ในบ้านแน่”
ชาต้าซินกระวนกระวายใจแต่ก็นึกเหตุผลได้ทันที เขาเดินไปคว้าคอเสื้อเฉินเฟยแล้วตะโกนเสียงดัง “เฉินเฟย เจ้าขายมันไปแล้ว รีบเอาเงินออกมาซะไม่อย่างนั้นหลังจากนี้จะไม่จบลงง่ายๆ!”
“ข้าไม่ได้ขายสมุนไพร เจ้าอย่าได้ใส่ความคนอื่น” เฉินเฟยปัดมือชาต้าซินออกด้วยสีหน้าไม่รู้เรื่อง
“ผู้ดูแลชุย เงินนั่นต้องอยู่ในลานบ้านนี้ แค่ค้นหาอย่างรอบคอบจะต้องเจอแน่นอน” ชาต้าซินมองเฉินเฟยอย่างดุเดือดแล้วหันไปหาชุยซานเจีย
ชุยซานเจียเพียงมองลานบ้านที่ทรุดโทรมโดยไม่พูดอะไร พื้นดินเต็มไปด้วยฝุ่น มีเพียงรอยเท้าที่พวกเขาสร้างไว้เมื่อครู่เท่านั้น ในที่แห่งนี้ไม่มีจุดผิดปกติอื่นใด
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่!” ชุยซานเจีนมองเฉินเฟย
“ฝึกยุทธ์ไม่ได้จึงเข้ามาพัก” เฉินเฟยพูดเสียงต่ำ
ชุยซานเจียยิ้ม เขาได้ยินมาว่าคนรับใช้ตรงหน้าไปเรียนรู้จากปรมาจารย์สำนักหมัดจีซาน แต่ผ่านมาสามเดือนแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า
“ชาต้าซิน เจ้ามานี่” ชุยซานเจียพูดต่อ
“ขอรับผู้ดูแลชุย” ชาต้าซินไม่กล้าชักช้า รีบไปหาชุยซานเจียทันที
“เพี๊ยะ!”
ชาต้าซินล้มไปด้านข้างด้วยใบหน้างุนงง เขาใช้มือทาบแก้มบวมแดงโดยไม่รู้ตัว ชาต้าซินเอามือปิดปากบ้วนฟันสองสามซี่ออกมา
“คราวหน้าอย่ามาหาข้าอีกหากไม่มีหลักฐาน เข้าใจไหม?” ชุยซานเจียมองชาต้าซินอย่างเฉยเมย
“เข้า...เข้าใจขอรับ!” ชาต้าซินมองสีหน้าชุยซานเจียแล้วพยักหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ
ชุยซานเจียส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย เมื่อเขาหันหลังเดินออกจากลานบ้านคนรับใช้ที่เหลือก็รีบตามไป ชาต้าซินลุกขึ้นมองเฉินเฟยอย่างอาฆาต เขาไม่กล้าด่าชุยซานเจียจึงทำได้เพียงลงความโกรธทั้งหมดที่เฉินเฟย
“คราวนี้เจ้าโชคนี้!”
ชาต้าซินมองเฉินเฟยแต่เฉินเฟยไม่แสดงสีหน้าอะไร เงินหนึ่งตำลึงหายไปแถมยังหาไม่เจออีก แล้วการไปเจอกับคนในร้านนั่นเล่า?
ศูนย์การแพทย์ย่อมไม่ลงมือเพื่อหาเงินหนึ่งตำลึงอยู่แล้ว
“ฮึ!”
ชาต้าซินโกรธยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นเฉินเฟยไม่ตอบโต้ เขามองเฉินเฟยอย่างเย็นชาแล้วหันหลังจากไป
ครึ่งชั่วยามต่อมา เฉินเฟยกลับมาที่ห้องพักส่วนรวมของศูนย์การแพทย์ มองที่ระบบด้านหน้า
[ชื่อ: เฉินเฟย]
[อาชีพ: นักยุทธ์]
[วิชายุทธ์: หมัดจีซาน, วิธีหายใจจีซาน(เชี่ยวชาญ930/1000)]
[ระดับ: นักสู้(1/100)]
วิธีหายใจจีซานถึงระดับเชี่ยวชาญ ทุกลมหายใจทำให้ร่างกายรู้สึกชัดเจนขึ้น และตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นระดับนักสู้แล้ว
เฉินเฟยได้ยินมาจากปรมาจารย์สำนักหมัดว่านักสู้คือคนธรรมดาที่เพิ่งเริ่มฝึก หากบรรลุตัวจริงจะต้องไปถึงระดับขัดเกลาผิวหนังเสียก่อน
การเข้าถึงระดับนี้จะทำให้ห่างไกลจากคนธรรมดายิ่งขึ้น ในเวลาเดียวกันสำนักหมัดจีซานจะยอมรับให้เป็นสมาชิกสำนักหมัดจีซานเต็มตัว
ขณะที่เฉินเฟยกำลังศึกษา แผงระบบได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
[วิชายุทธ์: วิธีหายใจจีซาน(สมบูรณ์1/10000)]
[ระดับ: นักสู้(2/100)]
ความอบอุ่นในร่างกายเหมือนจะชัดเจนขึ้น ระดับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน ในเวลาเดียวกันท้องของเฉินเฟยเริ่มส่งเสียงคำราม เมื่อร่างกายแข็งแกร่งขึ้นจึงต้องใช้พลังงานมากขึ้นตามธรรมชาติ
ในวันปกติศูนย์การแพทย์จะจัดอาหารให้สองมื้อ แน่นอนว่าในอาหารไม่มีเนื้อ แต่อย่างน้อยก็ไม่มีปัญหากับการกินจนอิ่มซึ่งศูนย์การแพทย์จะไม่หักเงินกับเรื่องนี้
เฉินเฟยตั้งใจกินให้มากขึ้นแต่ยังคงตื่นกลางดึกเพราะความหิว หลังดูแผงระบบ วิธีหายใจยังอยู่ในระดับสมบูรณ์และเหลือความคืบหน้าอีกหลายพัน คาดว่าพรุ่งนี้น่าจะเต็ม
เขาไม่รู้ว่าหลังบรรลุระดับสมบูรณ์แล้วยังมีระดับอื่นหรือเปล่า
ในเวลาเดียวกันการบ่มเพาะก็เพิ่มขึ้นอีกหลายคะแนน เฉินเฟยคาดการณ์ว่าอาจใช้เวลายี่สิบวันในการไปถึงระดับขัดเกลาผิวหนังและกลายเป็นนักยุทธ์ตัวจริง
ในเวลานั้นเฉินเฟยจะเลือกได้ว่าอยู่ในศูนย์การแพทย์ต่อหรือไปที่สำนักหมัด
หลังกินอาหารกลางวันจนอิ่ม เฉินเฟยไปทำงานอย่างกระฉับกระเฉง ไม่เพียงแค่ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นซึ่งทำให้มีพละกำลังมากกว่าเดิม แต่เป็นเพราะเขามีความหวังในชีวิตแล้ว
ทุกลมหายใจจะแข็งแกร่ง นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่วิเศษยิ่งนัก ในขณะเดียวกันการได้ดูตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นระยะๆบนแผงระบบยังทำให้เขารู้สึกถึงความสำเร็จ
วิธีหายใจจีซานถึงจุดสูงสุดก่อนถึงตอนเที่ยง
[วิชายุทธ์: วิธีหายใจจีซาน(รู้แจ้ง)]
ไม่มีช่องว่างให้เพิ่มต่อ ความเข้าใจทุกอย่างของวิธีหายใจจีซานอยู่ในใจเฉินเฟย หลังฝึกถึงจุดนี้เฉินเฟยเกือบมาถึงระดับผู้สร้างวิชาแล้ว
เกรงว่าในสำนักหมัดจีซานจะไม่มีใครฝึกวิธีหายใจนี้ถึงระดับรู้แจ้ง
ท้ายที่สุดเป็นเพียงวิธีหายใจพื้นฐานเท่านั้น เฉินเฟยไม่ได้ย่ามใจกับเรื่องนี้เช่นกัน มันเป็นธรรมดาที่เขาฝึกจนถึงระดับสูงสุดได้
วิธีหายใจระดับรู้แจ้งทำให้เฉินเฟยรู้สึกแจ่มชัดขึ้น และแผงระบบได้พิสูจน์การคาดเดาของเฉินเฟย เดิมทีอาจใช้เวลายี่สิบวันในการไปถึงระดับขัดเกลาผิวหนัง ตอนนี้คาดว่าสิบวันก็เพียงพอแล้ว มันใช้เวลาน้อยกว่าเดิมครึ่งหนึ่ง
การกินอาหารของเฉินเฟยเริ่มเพิ่มขึ้นทีละน้อย แต่เขาไม่ได้โดนต่อว่าและยังได้รับคำชมจากผู้ดูแลคนหนึ่ง
เมื่อเทียบกับคนรับใช้ที่ไร้ชีวิตชีวาคนอื่น สภาวะจิตใจของเฉินเฟยในตอนนี้อยู่ในเชิงบวกอย่างเห็นได้ชัด ความแตกต่างของสภาวะจิตใจทำให้ผู้ดูแลพอใจกับเฉินเฟยตัวปลอมคนนี้อย่างยิ่ง
คนรับใช้คนอื่นต่างอิจฉาและพากันเข้าใกล้เฉินเฟย มีเพียงชาต้าซินตรงมุมห้องเท่านั้นที่มองเฉินเฟยอย่างเย็นชา