ตอนที่ 57 คุเรไน : ฉันแค่ทำเพื่อลูก
ปั้มลูกฟื้นฟูตระกูลอุจิวะ ตอนที่ 57 คุเรไน : ฉันแค่ทำเพื่อลูก
[ทายาทตระกูลอุจิวะ +1 คน, ประเมินพรสวรรค์โดยรวมของทายาทคนนี้คือ 121, โฮสต์ได้รับพลังจิต +10, และคาถาไม้ · ม่านพฤกษาก่อเกิด】
ลูกชายของคุเนไร!
รางวัลพลังจิต +10 เทียบได้กับลูก 5-6 คนรวมกัน!
"นี่น่าจะเป็นนินจาอัจฉริยะ!" นัตสึฮิโกะถอนหายใจ
เมื่อเทียบกับโยโกะแล้ว คุเรไนนั้นแข็งแกร่งกว่าและมีพรสวรรค์มากกว่าเล็กน้อย
ยิ่งไปกว่านั้น นัตสึฮิโกะเองก็แข็งแกร่งขึ้น ทำให้เพิ่มพรสวรรค์ของเด็กอย่างมาก
แม้แต่นินจาที่แต่งเข้ามาเพื่อเงินรางวัลก็ยังดีกว่ามาก!
"คาถาไม้·ม่านพฤกษาก่อเกิด นี่เป็นวิชานินจาของเซ็นจู ฮาชิรามะ!" นัตสึฮิโกะคิดกับตัวเอง
เขาหาสถานที่ทดสอบอยู่ครู่หนึ่ง พลังของคาถาน่าประทับใจจริง ๆ
เพียงแต่ว่าปริมาณของจักระที่ใช้ไปนั้นใหญ่ขึ้นเล็กน้อย นัตสึฮิโกะในตอนนี้ยังเทียบไม่ได้กับร่างเซียนของโฮคาเงะรุ่นที่หนึ่ง
แต่เมื่อนัตสึฮิโกะยังคงให้กำเนิดลูกต่อไป เขาก็จะแซงหน้าโฮคาเงะรุ่นที่หนึ่งในไม่ช้า
ในเวลานั้นพลังของคาถาไม้จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!
...
หลังจากที่คุเรไนให้คลอดลูกชาย อนุภรรยาหลายคนก็คลอดลูกทีละคน
ในชุดนี้มีนินจาสาวโจนินหลายคน
แต่โจนินดูเหมือนจะมีพรสวรรค์ด้อยกว่าคุเรไนและโยโกะมาก
คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 80 และคะแนนสูงสุดคือ 95
แม้นว่าจะแซงหน้ากลุ่มภรรยาของนัตสึฮิโกะ แต่ก็ยังไม่สามารถทะลุเส้น 100 คะแนนได้
นัตสึฮิโกะปลอบโยนพวกเธอทีละคน และเกลี้ยกล่อมให้พวกเธอมีรอยยิ้ม โดยบอกว่าคราวกันเขาจะขยันใหม่ยิ่งกว่าเดิม
แต่สีหน้าของคุเรไนดูเศร้าเล็กน้อย
หลังจากการคลอดลูกเสร็จ ดูเหมือนว่าเธอหมดเหตุผลที่จะอยู่ในตระกูลอุจิวะ
ในเวลานี้เอง มือใหญ่จับมือเล็กของเธอไว้อย่างเบามือ
"คุไรเน" แววตาของนัตสึฮิโกะลึกล้ำ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ: "เธออยู่ต่ออีกหน่อยได้ไหม? แค่อยู่กับฉัน..."
คุเรไนเอียงหน้า: "ฉันไม่อยากเข้าร่วมฮาเร็มของนาย... นี่ไม่ใช่ชีวิตที่ฉันต้องการ"
"จริงสิ... ถึงยังไง ฉันก็ยังตาไม่ถึงเท่าเธออยู่ดี" นัตสึฮิโกะยิ้มอย่างขมขื่น: "แต่ถึงเธอไม่คิดถึงตัวเอง เธอก็ควรคิดถึงลูกของเธอด้วย"
"เขาเพิ่งเกิด เขาต้องอยู่กับพ่อแม่ และต้องได้รับการดูแล..."
“เธออยู่เพื่อเขาได้ไหม”
คุเรไนอ้าปาก มองนัตสึฮิโกะที่มีสีหน้าอ้อนวอน ใจเธออ่อนลง
"ก็... ฉันมาที่นี่เพื่อลูก...อืม ถึงยังไง ตระกูลอุจิวะของนายก็มีระบบการเลี้ยงลูกที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย"
ตระกูลอุจิวะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อแย่งคนจากโรงพยาบาลโคโนฮะตั้งแต่ต้น
ในด้านความปลอดภัยของแม่และเด็กไม่เคยมีการงดเว้นค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่น้อย!
ทายาทของตระกูลอุจิวะจะต้องไม่ป่วยกระทันหัน การคลอดต้องเป็นไปด้วยดี แม้นว่านัตสึฮิโกะจะดูแลอย่างระมัดระวังถึงที่สุด แต่จำนวนคนก็มากเกินไป ทำให้บางครั้งอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้
แต่ค่าใช้จ่ายทางด้านรักษาพยาบาล ทำให้เด็กทุกคนที่เกิดมามีสุขภาพแข็งแรง และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครเสียชีวิตแม้แต่รายเดียว!
เด็กทุกคนเติบโต และมีความสุขทุกวัน
และอีกอย่าง ระบบได้ให้รางวัลทันทีที่เด็กเกิด
ทำให้ในอนาคต ไม่ว่าเด็กจะตาย แข็งแกร่ง หรืออ่อนแอจึงไม่ส่งผลต่อความแข็งแกร่งของนัตสึฮิโกะ
เพราะสุดท้ายเด็กทุกคนเป็นลูกของเขาอยู่ดี
นัตสึฮิโกะต้องการดูแลพวกเขาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
เหตุผลของคุเรไนนั้นสมเหตุสมผล
“ขอบคุณนะคุเรไน!” นัตสึฮิโกะเปลี่ยนจากสีหน้าขมขื่นเป็นความสุขทันทีที่ได้ยิน แสดงรอยยิ้มที่จริงใจ
เขากอดเรือนร่างที่บอบบางของคุเนไรไว้แน่น อ้อมแขนของเขารัดแน่นขึ้น ราวกับว่าต้องการหลอมเธอเข้ากับร่างกายของเขา
คุเรไนยกยิ้มมุมปาก เห็นได้ชัดว่ามีความสุขมาก แต่เธอยังพูดว่า: "ฉันแค่ทำเพื่อลูก อย่าคิดเกินเลยไป!"
เธอไม่เห็นรอยยิ้มของนัตสึฮิโกะที่กำลังมีเลศนัย
เพื่อลูก?
คิดเหรอว่าโรงพยาบาลโคโนฮะเลี้ยงดูแย่กว่าของตระกูลอุจิวะ?
เป็นไปได้ไง!
ไม่อยากออกไปเพราะกลัวปัญหาซะมากกว่า!
อีกอย่าง ตอนนี้เธอทำเพื่อลูก ทำเพื่อให้ลูกได้รับการเลี้ยงดูทางวิทยาศาสตร์ของตระกูลอุจิวะ
แล้วเมื่อลูกโตขึ้น เรายังต้องอยู่เพื่อสอนลูกอีกรึไม่?
เมื่อลูกโตขึ้น อีกหน่อยลูกต้องมีครอบครัวที่สมบูรณ์รึไม่?
“ตั้งแต่เธอเข้าประตูตระกูลอุจิวะของเรา เธอยังอยากวิ่งหนีงั้นเหรอ”
นัตสึฮิโกะยิ้มโดยไม่พูดอะไร
…
ห้องรับแขกของตระกูลอุจิวะ
“แล้วพวกเขาทำจริงงั้นเหรอ” นัตสึฮิโกะขมวดคิ้ว: "มีคนธรรมดาไม่กี่คนที่ยั่วนินจา"
ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นธุรกิจใหม่ของนัตสึฮิโกะที่เพิ่งเริ่มพัฒนา เพราะงั้น ในตลาดจึงทำได้แค่เขา แต่ธุรกิจอื่นของตระกูลอุจิวะกำลังตกเป็นเป้า
นั่นคือเหมืองโลหะธุรกิจอาวุธที่ทำกำไรได้มากที่สุดในบรรยากาศแห่งสงคราม ณ ตอนนี้!
แคว้นแห่งไฟเข้ายึดครองเหมืองของตระกูลอย่างเป็นทางการโดยไม่ทันตั้งตัว ด้วยเหตุผลของ 'กองหนุนเชิงกลยุทธ์'!
“ใช่แล้วเหมียว เมื่อเผชิญกับอำนาจของทางการ มันจึงทำให้เราเคลื่อนไหวยากขึ้น” เมียวซัง แมวขาวดำที่เป็นคนเพื่อนเก่าของนัตสึฮิโกะ เลียอุ้งเท้าของเธอแล้วพูดว่า: "ว่ากันว่านี่ไม่ใช่อุบายของขุนนางหรือนักธุรกิจเหมียว มันคือไดเมียว..."
"ไดเมียว" นัตสึฮิโกะหรี่ตาลง
"ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่ฉันที่ไม่มีเงิน แม้แต่ไดเมียวก็ต้องคิดหาวิธีหาเงิน..."
เมื่อสงครามใกล้เข้ามา แคว้นแห่งไฟจึงสนับสนุนโคโนฮะอย่างเต็มกำลัง และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จึงถูกใช้จ่ายเหมือนน้ำประปา
แม้แต่ชื่อเสียงของผู้นำของแคว้นแห่งไฟก็เริ่มต่ำทราม
และในฐานะผู้นำของแคว้นแห่งไฟ ไดเมียวควรทำยังไงหากตัวเองยากจน?
แน่นอนว่า ต้องเป็นหาข้ออ้างชิงทรัพย์!
"ดูเหมือนว่าพวกเขาจะลืมความหวาดกลัวของอิทาจิไปแล้ว... ไม่น่าแปลกใจ นี่ก็ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว" นัตสึฮิโกะพยักหน้าอย่างเข้าใจ
แม้นว่าตระกูลอุจิวะจะขัดขวางพวกหมาป่าโลภมากด้วยการอาศัยการสังหารอย่างบ้าคลั่งของอิทาจิ แต่ไม่ว่าการยับยั้งอันใดก็มีกำหนดเวลาของมัน
ตอนนี้ทุกคนยากจนข้นแค้น ภายใต้แรงกระตุ้นของความยากจน ความหวาดกลัวในอดีตย่อมถูกลืมเร็วขึ้นตามธรรมชาติ
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยรูปลักษณ์ของแสงอุษา หลายคนจึงคิดว่าไม่ใช่ตระกูลอุจิวะที่น่าหวาดกลัว แต่เป็นแสงอุษาต่างหาก
ในตระกูลอุจิวะเหลือผู้ใหญ่อยู่เพียงคนเดียว พวกเขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายครอบครองทรัพย์สินที่ดีเช่นนี้ได้ยังไง!
เริ่มแรกแค่คิด แต่ด้วยแรงกระตุ้นนานวันจึงนำไปสู่การลงมือทำ
"นัตสึฮิโกะ เราจะทำยังไงดีเหมียว" เมียวซังเงยหน้าขึ้นถามด้วยความสงสัย "ดูเหมือนว่าคราวนี้ฉันจะพึ่งพลังของแสงอุษาไม่ได้แล้ว ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้พวกเขายุ่งมาก"
“อืม มีเรื่องแบบนี้ด้วย” นัตสึฮิโกะพยักหน้า: "คาคุซึกำลังพิจารณาที่จะขอลาหยุด เพราะตอนนี้มีภารกิจมากเกินไป และหลายภารกิจก็ได้ค่าตอบแทนที่ดี"
สำหรับผู้แข็งแกร่ง เงินหาได้ง่ายที่สุดในยามสงคราม ด้วยการรับภารกิจจากขุมพลังอื่นสิ่ง!
ไม่เพียงแต่แสงอุษาเท่านั้น แม้แต่นินจาโคโนฮะก็เริ่มรับภารกิจเช่นกัน แต่ละภารกิจราคาแพงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ เป็นที่คาดกันว่า ต่อให้นัตสึฮิโกะต้องการจ้างแสงอุษาแก้ปัญหา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสำรองกำลังคนได้
"งั้นก็ไม่มีทาง" นัตสึฮิโกะถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
เมียวซังพยักหน้า: "ใช่ ไดเมียวได้ลงมือแล้ว และนินจาไม่สามารถโจมตีไดเมียวได้ ดูเหมือนว่าเราจะทำได้แค่ถอย—"
นัตสึฮิโกะ: "ดูเหมือนว่าเราจะต้องฆ่าไอ้เจ้าไดเมียวงี่เง่านั่น"
เมียวซัง : "!!!"
…