บทที่ 51-1 การสอบสวน
บทที่ 51-1 การสอบสวน
‘มันคือเถาวัลย์ปรสิต!’ เมื่อเห็นเถาวัลย์งอกออกมาจากนิ้วของ โจนาส โอลส์สัน ฟลินน์ก็ครุ่นคิด
หลังจากเพิ่งอ่านหนังสือ ‘ศาสตร์ลึกลับ’ เขาก็ไม่สนใจศาสตร์ลึกลับอื่นๆ อีกต่อไป
ศาสตร์ลึกลับที่โจนาส โอลส์สันฝึกฝนควรเป็นเถาวัลย์ปรสิต ซึ่งเป็นศาสตร์ลึกลับโดยการฝังเมล็ดพืชปรสิตเข้าสู่ร่างกายผ่านพิธีเบิกเนตร วิชานี้เป็นศาสตร์ลึกลับของปรมาจารย์ด้านการจัดสวน
ผิวหนังที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้าจางๆ ได้จะเกิดจากเมล็ดปรสิตในร่างกาย
“พิษในเถาวัลย์ทำให้เกิดอาการโคม่า เขาน่าจะหลับไปสักหนึ่งหรือสองชั่วโมง” โจนาส โอลส์สันพูดกับฟลินน์ด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณ” ฟลินน์ขอบคุณเขา
เนื่องจากอีกฝ่ายยังคงรักษามารยาทแบบผิวเผิน เขาจึงไม่รังเกียจที่จะรักษามารยาทแบบผิวเผินกับอีกฝ่ายเช่นกัน
แต่ในใจเขาชัดเจนมากว่าคนคนนี้ไม่สามารถเป็นเพื่อนได้
“ด้วยความยินดี พวกเราต่างเป็นสมาชิกของสำนักงานความมั่นคงฯ ด้วยความแข็งแกร่งของคนที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ผมเชื่อว่าอีกไม่นานคุณจะก้าวไปถึงระดับกัปตัน” โจนาส โอลส์สันยิ้ม
“เขาดูหนักไม่เบา ให้ผมช่วยแบกไหม”
“ไม่ต้องรบกวนกัปตันโอลส์สัน ผมยังไหวอยู่” ฟลินน์ปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม
เขาต้องคอยระวังคนอย่างโจนาส โอลส์สันคนสองหน้านี้ เขาควรจะได้รับคำชื่นชมมากมายจากการจับลัทธิของสมาชิกทั้งเป็นได้ในครั้งนี้ และเขาไม่ต้องการแบ่งผลงานกับใคร
เขาเดินไปหาจิน ไวท์ที่นอนหมดสติอยู่ ฟลินน์อุ้มเขาด้วยมือข้างหนึ่งแล้วแบกไว้บนบ่า
เมื่อปืนลึกลับและดวงตาประเมินเก้ามาถึงระดับวงแหวนที่สาม ศาสตร์ลึกลับทั้งสองนี้ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นสองเท่านับประสาอะไรกับแบกคนคนเดียว แม้แต่สองคนก็ไม่มีปัญหา
โจนาส โอลส์สันชำเลืองมองฟลินน์ที่กำลังแบกจิน ไวท์ไปข้างหน้า มุมปากของเขายกยิ้มจางๆ
หลังจากนั้นไม่กี่ก้าวเขาก็ตามอีกฝ่ายไป โจนาส โอลส์สรรหาเรื่องตลกมากมายมาคุยกับฟลินน์ตลอดการเดินทาง
ครึ่งชั่วโมงต่อมาฟลินน์พา จิน ไวท์มาถึงที่สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรด้วยรถม้าที่พวกเขาจัดหาให้
หลังจากได้รับข่าว ลินดี้และจูลี่ก็รีบไปที่สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรก่อนกำหนดหนึ่งก้าว
ลินดี้สวมเดรสชุดสีม่วงและเสื้อโค้ตขนสัตว์สีดำเต็มไปด้วยความสง่างามหรูหรา เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“สามารถจับเป็นสมาชิกลัทธิได้ คุณซอร์คคุณทำได้ดีมาก!” เมื่อเทียบกับรอยยิ้มของโจนาส โอลส์สันแล้วรอยยิ้มของเธอดูจริงใจกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างน้อยก็ในมุมมองของฟลินน์
“ผมก็โชคดีเหมือนกัน ที่บังเอิญพบเบาะแส” ฟลินน์พูด
“ดีจัง ฉันก็อยากมีโอกาสทำความดีเหมือนกัน แต่โชคไม่ดี ฉันไม่มีโชคแบบนั้น” จูลี่สวมกางเกงสีเบจอวดขาเรียวเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสียแต่มันเป็นเพียงเรื่องตลกร้ายมากกว่าอิจฉา
“นี่ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่การจับเป็นสมาชิกลัทธิได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของคุณ” ลินดี้พูดด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ดีมาก
ฟลินน์เป็นสมาชิกที่ขึ้นตรงต่อเธอ การที่เขาสามารถจับเป็นสมาชิกลัทธิได้ จึงพลอยทำให้เธอรู้สึกภาคภูมิใจไปด้วย
ขณะที่พูด พวกเขาทั้งสามคนก็มาถึงห้องสอบสวนแล้ว ฟลินน์วางจิน ไวท์ ที่อยู่บนบ่าของเขาลงและล็อกเขาไว้กับเก้าอี้สอบสวน
ยกเว้นเก้าอี้สอบสวน ไม่มีเครื่องมือทรมานอื่นอีกในห้องสอบสวน สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรซึ่งรวบรวมวัตถุทุกประเภทไม่ต้องการเครื่องมือดังกล่าว
“คุณได้รับบาดเจ็บเหรอ” เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าอกของฟลินน์และเสื้อที่ขาดของจิน ไวท์
ทั้งลินดี้และจูลี่มองดูบาดแผลบนหน้าอกของฟลินน์ด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอะไร ผมจะจัดการมันเองในภายหลัง” ฟลินน์กล่าว
หากบาดแผลรุนแรงเกินไป หุ่นคู่จะเปิดใช้งาน หากหุ่นคู่ไม่เปิดใช้งาน แสดงว่าบาดแผลไม่ร้ายแรง
“จูลี่ ฉันมียารักษาเฉพาะทางอยู่ที่ห้องทำงาน คุณพาฟลินน์ไปที่ห้องทำงานของฉันและช่วยเขาใช้ยา” ลินดี้พูดกับจูลี่
“รับทราบค่ะ” จูลี่ตอบ มองไปที่ฟลินน์แล้วพูดติดตลก
“คนบาดเจ็บ มากับฉัน”
“ผมไปคนเดียว” ฟลินน์พูดอย่างรวดเร็ว
“คุณรู้หรือว่ายาอยู่ไหน แน่ใจนะว่าคุณจะไม่กินยาผิด” จูลี่ดันแว่นกรอบบางของเธอแล้วถามอย่างจริงจัง
“เอ่อ งั้นต้องรบกวนคุณจูลี่ด้วยครับ” ฟลินน์ยอมรับอย่างตามตรง ถ้าเกิดเขาหยิบยาพิษมาทาที่แผล นี่ไม่เท่ากับฆ่าตัวตายเหรอ
เมื่อทำความสะอาดบาดแผลก่อนจะทายาพันและผิดผ้าก๊อซปิดแผลแล้ว ฟลินน์และจูลี่ก็กลับมาที่ห้องสอบสวน ชายสมาชิกลัทธิที่ถูกจับกุมก็ตื่นขึ้นพอดี ไอวี่ก็ปรากฏตัวในห้องสอบสวนด้วยเช่นกัน
ศาสตร์ลึกลับของไอวี่ คือหัตถ์สะกดจิตซึ่งมีผลต่อการควบคุมจิตใจของเป้าหมายได้โดยตรง เธอสามารถใช้การสะกดจิตนี้สอบปากคำผู้ต้องสงสัยได้
ป๊อก!
ไอวี่ยื่นมือออกแล้วดีดนิ้ว
เมื่อได้ยินเสียงดีดนิ้ว ลินดี้ ฟลินน์และจูลี่ในห้องสอบสวนก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ แต่ดวงตาของชายสมาชิกลัทธิกลับหม่นหมองราวกับเปลี่ยนเป็นคนบ้า
“ชื่อ” ไอวี่ถาม
“จิน ไวท์” จิน ไวท์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ ไร้อารมณ์ใดๆ ราวกับเครื่องตอบรับอัตโนมัติ
“คุณเป็นสมาชิกของลัทธิใด” ไอวี่ถาม
“เฟืองสังหาร” จิน ไวท์ตอบกลับ
“งานที่ลัทธิเฟืองสังหารมอบหมายให้คุณคืออะไร?” ไอวี่ ยังคงถามต่อไป
ขณะที่เธอถาม จูลี่หยิบสมุดบันทึกออกมาแล้วและเขียนอย่างรวดเร็ว
ความทรงจำของเธอสามารถบันทึกเนื้อหาทั้งหมดของการสอบสวนได้แบบคำต่อคำ ทั้งยังสามารถถอดข้อความเสียงไว้ให้ผู้อื่นอ่านบันทึก
“รับสมัครคนงานขุดเหมืองแร่ด้วยค่าตอบแทนสูงกว่าราคาตลาด จากนั้นก็ฆ่าพวกเขาแล้วส่งศพไปให้ผู้ศรัทธา” จิน ไวท์ตอบ
“ให้ตายสิ” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟลินน์และคนอื่นๆ ในห้องก็อดไม่ได้ที่จะเย็นยะเยือกถึงขั้วหัวใจ
สิ่งที่ลัทธิเฟืองสังหารทำนั้นไร้มนุษยธรรมโดยสิ้นเชิง เป็นอาชญากรรมที่ไม่สามารถให้อภัยได้
สีหน้าของไอวี่ดูน่าเกลียดมาก แม้เธอจะรู้ว่าพวกลัทธิไร้มนุษยธรรมแต่เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกใจเมื่อเห็นมัน
หลังจากหยุดครู่หนึ่ง เธอยังคงถามต่อไป
“พวกคุณนำศพไปทำอะไร?”
“ใช้สังเวยต่อพิธีกรรมเวทมนตร์เพื่อสร้างสัตว์ประหลาด” จิน ไวท์ ตอบ
“ตอนนี้มีคนถูกฆ่าตายไปกี่คน”
“ประมาณร้อยคน ฉันจำตัวเลขที่แน่ชัดไม่ได้”
จิน ไวท์กล่าว
การสืบสวนของจุมนาพบว่ามีผู้สูญหายไปหลายสิบคน แต่ในความเป็นจริงคนงานเหมืองแร่บางคนอาศัยอยู่ตามลำพัง ดังนั้นผู้สูญหายจึงมากกว่าที่เธอคิด
“คนจำนวนมากถูกฆ่าตาย สำนักงานความมั่นคงฯ จะทำอย่างไร” ลินดี้พูดด้วยใบหน้าเย็นชาอย่างหาได้ยาก
การหายตัวไปครั้งนี้ดูไม่ใช่เรื่องแปลกดังนั้นมันจึงไม่ได้รับความสนใจจากกระทรวงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีเหยื่อจำนวนมากถึงขนาดนี้ จนถึงตอนนี้กระทรวงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรก็ยังไม่ได้ลงมือจัดการเรื่องดังกล่าว
“กระทรวงความมั่นคงฯ?” ฟลินน์อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว นี่เป็นการละทิ้งหน้าที่อย่างร้ายแรง
หากกระทรวงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรค้นพบความผิดปกติได้เร็วกว่านี้ก็อาจคลี่คลายคดีการหายตัวไปนี้ได้ อย่างน้อยก็อาจช่วยชีวิตเหยื่อเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบคน
“ถูกเคลื่อนย้ายไปที่ใด ใครเป็นผู้รับผิดชอบ?”
“ศพบางส่วนถูกส่งไปยังเลขที่ 52 ถนนเพนนิงตัน ทางตอนเหนือของเมือง รับผิดชอบคือนาวีน ราค
ศพบางส่วนถูกส่งไปยังเลขที่ 27 ถนนบลูทรีทางตอนเหนือของเมือง ผู้รับผิดชอบคือ แจน กู๊ดแมนและศพบางส่วนถูกส่งไปยังเลขที่ 68 ถนนฟลาวเวอร์ ทางตอนใต้ของเมือง และผู้รับผิดชอบก็คือคาทู ดอตตี้…” จิน ไวท์บอกสถานที่ที่ศพถูกส่งออกไปและชื่อสมาชิกที่รับผิดชอบ นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นจิ๊กซอว์เชื่อมต่อส่วนที่หายไป
“ในขณะที่พวกเรากำลังสอบสวนอยู่นี้ ก็อาจเปิดโอกาสให้สมาชิกคนที่เหลืออยู่หลบหนีไปได้ พวกเราต้องรีบดำเนินการจับกุมพวกมันทันที” ลินดี้ขัดจังหวะการสอบสวนและพูดอย่างจริงจัง
เพียงไม่กี่นาทีรถม้ากว่าสิบคันก็ออกจากสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรและมุ่งหน้าไปยังทิศทางต่างๆ ในเมือง
ในรถม้าคันหนึ่งมีฟลินน์และไอวี่นั่งอยู่
แม้ว่าฟลินน์จะได้รับบาดเจ็บแต่ก็มีสถานที่จับกุมมากถึง 13 แห่ง ในขณะที่สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรมีกำลังพลเพียงน้อยนิด ดังนั้นเขาจึงต้องเข้าร่วมภารกิจนี้แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บก็ตาม
ในรถม้า ไอวี่ชำเลืองมองฟลินน์เธอเห็นผ้าพันแผลสีขาวใต้เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งของเขาและพูดว่า
“ตอนนี้คุณบาดเจ็บ คอยเป็นกองหลังให้ฉันก็พอ”
“ตกลง” ฟลินน์เห็นด้วย
ไอวี่มีความตั้งใจดี ดังนั้นเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่เห็นด้วย