ตอนที่ 55 คุเรไน : ฉันไม่ใช่นังอีตัว!
ปั้มลูกฟื้นฟูตระกูลอุจิวะ ตอนที่ 55 คุเรไน : ฉันไม่ใช่นังอีตัว!
"เรื่องราวชักจะเลยเถิดแล้ว!" นัตสึฮิโกะตบหน้าผากอย่างช่วยไม่ได้
อุจิวะ มาดาระ ได้กลายเป็นคนดัง และเป็นที่เคารพยกย่องของนินจาทั้งโลก
และโลกนินจาเองก็เต็มไปด้วยดินปืนที่พร้อมจะปะทุได้ทุกเมื่อ
นี่ต่างจากต้นฉบับอย่างสิ้นเชิง!
นัตสึฮิโกะเข้าใจว่านี่คือบัตเตอร์ฟลายเอฟเฟ็กต์ของเขา เพราะเขาโจมตีหน่วยรากหลายครั้ง ทำให้โคโนฮะรู้สึกถึงวิกฤตครั้งใหญ่
การระแวดระวังของโคโนฮะได้กระตุ้นการระแวดระวังของหมู่บ้านอื่นด้วย
สายลับจากทุกสารทิศถูกส่งมาอย่างบ้าคลั่ง สืบสวนซึ่งกันและกัน หน่ำซ้ำการต่อสู้ทั้งที่เปิดและที่ลับก็บานปลายในทันที...
โลกนินจาได้รับการพักฟื้นเป็นเวลานานแล้ว เพราะงั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่สงครามจะปะทุขึ้นเมื่อใดก็ได้!
อันที่จริง ในการสอบจูนินในอีกสามปีหน้า หากคาเสะคาเงะและโฮคาเงะไม่ได้ถูกโอโรจิมารุสังหาร บางทีสงครามโลกนินจาครั้งที่สี่อาจปะทุขึ้นแล้วก็ได้ ดีที่ทั้งสองฝ่ายสูญเสียผู้นำไปพร้อม
สงครามโลกนินจาครั้งที่สี่นั้นเป็นรวมพลังกันของห้าหมู่บ้านใหญ่ต่อสู้กับแสงอุษา
อันที่จริง หากโอบิโตะสามารถทนรอได้อีกสักสองสามปี โลกนินจาก็จะต่อสู้กันเองอยู่ดี เพราะช่วงเวลานั้นทุกหมู่บ้านมีความแข็งแกร่งพร้อมรบ และเพื่อหาผลประโยชน์มากขึ้น ทุกหมู่บ้านก็จะเกิดความขัดแย้งกันตามธรรมชาติ
ตอนนี้ทุกคนได้พักฟื้นกันในระดับหนึ่งแล้ว ได้เวลาเริ่มสงคราม!
“เอาตามจริง ไม่น่ายั่วดันโซจนเลยเถิดเลย” นัตสึฮิโกะคิดกับตัวเองว่า: "ฉันไม่อยากให้แผนฟื้นฟูตระกูลอุจิวะถูกสงครามขัดจังหวะเลย"
เมื่อสงครามเริ่มขึ้น เขาจะแต่งภรรยารับอนุเข้าบ้านอย่างสบายใจได้ยังไง!
แถมเพิ่งได้รับอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ระดับไฮเอนด์ และตัวอย่างทดลองล้ำค่าจำนวนมากจากหน่วยราก
นัตสึฮิโกะขุดหลุมใหญ่สร้างห้องทดลองไว้ในดินของ 'เรือนจำอุจิวะ' เขาเก็บสิ่งของทั้งหมดไว้ที่นั่น
โดยเฉพาะดวงตาของฟุงาคุและมิโตะ เขาเก็บไว้อย่างดีเป็นพิเศษ
และเลือดของอุซึมากิ คุชินะก็เก็บไว้ขนาบกลางของดวงตาทั้งสองคู่ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุด
สำหรับตัวอย่างทดลอง อย่างเช่น ไขกระดูกของนามิคาเซะ มินาโตะนั้นมีความสำคัญรองลงมา
“ระวังเป็นพิเศษไว้ก่อน ในอนาคตอาจจะชุบชีวิตคุชินะได้ก็ได้!”
การติดตั้งเครื่องมือต่าง ๆ อย่างเช่น สายไฟ แหล่งจ่ายไฟ และอุปกรณ์เก็บรักษาตัวอย่างทดลองเองก็เลือกอันที่ดีที่สุด
ในที่สุดนัตสึฮิโกะก็เริ่มทำการวิจัย!
"สำหรับฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องไล่ตามพลังที่แข็งแกร่งเหมือนโอโรจิมารุ" นัตสึฮิโกะคิดกับตัวเองว่า: "สิ่งที่ฉันต้องทำคือทำให้นินจาธรรมดาสามารถมีพลังที่แข็งแกร่งขึ้นได้"
เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา, โหมดเซียน, คาถาไม้ เป็นต้น พวกนี้เป็นสิ่งที่โอโรจิมารุต้องการ ไม่ใช่เป้าหมายของนัตสึฮิโกะ
สำหรับนัตสึฮิโกะ แม้นว่าพวกนี้จะวิจัยได้ไม่ยากเย็น แต่พวกภรรยาของเขาที่มีความแข็งแกร่งเท่ากับจูนินโดยเฉลี่ยจะใช้ได้งั้นเหรอ?
พวกเธอสามารถควบคุมมันได้งั้นเหรอ?
ตลกหน่า!
"งั้นตอนนี้เป้าหมายเป็นอักขระสาปก่อนแล้วกัน"
โหมดเซียนอักขระสาปนั้นเหมาะสำหรับนินจาทุกคน ต่อให้ได้เวอร์ชันที่อ่อนแอลง แต่ก็พอทำให้จูนินมีพลังต่อสู้ระดับโจนิน
อย่างไรก็ตาม โอโรจิมารุไม่สามารถควบคุมอัตราการเสียชีวิตในการปลูกฝังอักขระคำสาปได้ นัตสึฮิโกะจึงต้องทำการวิจัยลดอัตราการเสียชีวิตในการปลูกฝังอักขระคำสาปลง เพื่อให้ปลอดภัยและควบคุมได้
"ได้หัวข้อวิจัยแล้ว และฉันก็ยังสังเกตอักขระสาปของอังโกะในระยะประชิดได้ การลอกผลงานของโอโรจิมารุไม่ใช่ยากมั้ง?"
มาทำกันเถอะ!
…
เมื่อนัตสึฮิโกะขจัดความคิดในหัวแล้วทำการวิจัย
เขม่าควันดินปืนในโลกนินจาทวีความรุนแรงขึ้น
หน่วยลับและหน่วยรากต่อสู้กับนินจาหมู่บ้านอื่น ๆ ที่ชายแดนหลายครั้ง
เนื่องจากมีศัตรูมากเกินไป พวกเขาจึงมักจะเสียเปรียบ
ในตอนนี้ แม้แต่นินจาตระกูลใหญ่ก็ไม่ต้องการลงโทษคุมขังดันโซแล้ว เพราะดันโซเป็นดาบที่แหลมคมที่สุดของโคโนฮะมาโดยตลอด หน่ำซ้ำมันทรงพลังมากทั้งภายในและภายนอก
แม้นว่าคำสั่งคุมขังของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 จะยังไม่ถูกยกเลิก แต่ดันโซก็ได้ออกจากห้องขัง และเริ่มคุมหน่วยรากเป็นทางการแล้ว นินจาตระกูลใหญ่เองก็เริ่มสนับสนุนเขาเช่นกัน
ในที่สุดการต่อสู้ก็ทัดเทียมกับหมู่บ้านนินจาใหญ่ต่าง ๆ
กลิ่นควันดินปืนภายในหมู่บ้านโคโนฮะก็รุนแรงมากเช่นกัน ราคาอุปกรณ์นินจาก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเป็นแร่ ราคาได้เพิ่มขึ้นสูงเสียดฟ้า ทำให้อุจิวะที่ดูแลเหมืองได้กำไรก้อนโต
แม้นว่านัตสึฮิโกะจะหันเหความสนใจไปที่การวิจัย แต่เขาก็ไม่ได้ชะลอภารกิจฟื้นฟูตระกูลอุจิวะของเขา
เนื่องจากดินปืนที่หนาแน่นขึ้น นินจาสาวบางคนที่ไม่เก่งการต่อสู้จึงตอบรับภารกิจต้องการลูกพร้อมจ่ายหนักของตระกูลอุจิวะ โดยหวังว่าจะได้แต่งเข้าตระกูลอุจิวะและได้รับการยกเว้นจากการเกณฑ์เข้าสงคราม
เพราะงั้น ฮาเร็มของนัตสึฮิโกะจึงเกิดการรับสมัครรอบใหม่ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ที่ได้รู้ก็โมโหมากเสียจนอยากจะยกเลิกภารกิจของอุจิวะ
นั่นคือนินจาทั้งหมดเชียวนะ!
ในช่วงเวลาแห่งสงครามที่ใกล้เข้ามานี้ กำลังคนมีค่ามาก!
"สงครามกำลังจะเริ่มขึ้นอีกแล้ว" คุเรไนถอนหายใจเบา ๆ สัมผัสท้องที่นูนของเธอแล้วคร่ำครวญ: "ฉันหวังว่ามันจะไม่ปะทุเร็วเกินไป ไม่อย่างนั้น ฉันจะไปสนามรบทั้งแบบนี้ได้ยังไง... "
“เรื่องของเธอแก้ไม่ยาก แต่...” อังโกะเพื่อนสนิทก็ถอนหายใจเช่นกัน: "ฉันเป็นห่วงนัตสึฮิโกะมากกว่า"
"นัตสึฮิโกะเป็นโจนิน เมื่อสงครามเริ่มขึ้น หมู่บ้านจะปล่อยให้เขาอยู่แต่บ้านไม่ได้ ถ้างั้น..."
ตระกูลอุจิวะ แต่เหลือแต่ผู้ชายที่โตแล้วแค่คนเดียว!
แต่นี่ก็เป็นชะตากรรมของนินจาเช่นกัน พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้
เหมือนกันคนอื่น อังโกะพูดได้แค่ไม่กี่คำด้วยอารมณ์ว่า "คงจะดีหากโฮคาเงะรุ่นแรกได้ฟังคำของอุจิวะ มาดาระ" และจบหัวข้อนี้
คุเรไนถอนหายใจเบา ๆ เธอกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้มากเช่นกัน
นั่นคือพ่อของลูกในท้องของเธอ!
เมื่อคิดถึงนัตสึฮิโกะ ใบหน้าของคุเรไนก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำทันที
“อุ้ย หน้าแดงแล้วนะ” จู่ ๆ อันโกะก็เอนตัวเข้ามาใกล้
คุเรไนตกตะลึง: "เธอกำลังทำอะไร?"
“ไม่มีอะไร ฉันแค่เห็นจู่ ๆ เธอหน้าแดง เธอคิดถึงสามีงั้นเหรอ” อังโกะอมยิ้ม: "ถ้างั้น ให้ฉันเรียกเขาเอาไหม"
"เธอกำลังเป็นหญิงท้อง ได้เวลาใส่ใจตัวเองแล้วนะ!"
คุเรไนหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว อังโกะชำเลืองมอง: "นั่นคือสามีของเธอ ฉันไม่ได้แต่งกับตระกูลอุจิวะ"
"แต่ฉันคิดว่าพวกเธอสองคนค่อนข้างสนิทกัน..." อังโกะเอามือป้องปากแล้วหัวเราะคิกคัก
คุเรไนดูเขินอาย
แม้นว่าพวกเธอกำลังตั้งครรภ์ แม้นว่าพวกเธออยากจะทำอะไรสักอย่างแก้เบื่อ แต่พวกเธอก็ทำอะไรไม่ได้
ได้แต่การกอดท้องนูน ๆ จนดูเหมือนจะกลายเป็นนิสัยเคยชินไปแล้ว
หลังจากนั้น......
“ยังไงเขาก็เป็นพ่อของลูกในท้องฉันเหมือนกัน เขาอยากฟังการเคลื่อนไหวของเด็ก ฉันห้ามเขาไม่ได้...”
คุเรไนไม่ใช่คนขาดเงิน อีกทั้งเธอมีความภาคภูมิใจ
แน่นอนว่านัตสึฮิโกะเองก็ไม่ได้บังคับ
แต่ในฐานะพ่อ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะฟังการเคลื่อนไหวของลูกใช่ไหมละ?
ฟังแล้วหัวต้องติดท้องเลยใช่มั้ยละ?
เพื่อป้องกันไม่ให้สตรีมีครรภ์ที่เคลื่อนไหวไม่สะดวกรู้สึกเหนื่อย การเอาแขนโอบเอวก็สมเหตุสมผลใช่ไหมละ?
กอดกลับพาห้องก็เป็นเรื่องปกติ จริงไหม?
แถมหากรู้สึกว่าบางครั้งเคลื่อนไหวไม่สะดวก หากหิวน้ำก็ป้อนน้ำอุ่นทางปากกับคุเรไนสักหลายคำเพื่อช่วยทดสอบอุณหภูมิของน้ำ หรือบางทีก็ช่วยเช็ดตัวให้หลังจากอาบน้ำ...
แม้จะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับกลายเป็นเรื่องปกติ
กลายเป็นความเคยชิน!
"ใช่ เธอถูก" อังโกะพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม: "ฉันเชื่อ พวกเธอสองคนบริสุทธิ์!"
“ถึงเธอจะนอนกอดสามีสุดหล่อของฉันทุกวัน ฉันเชื่อว่าเธอไม่มีความคิดอื่น!”
"ถึงสามีของฉันจะมีกล้ามหน้าท้องถึง 8 มัด หน้าอกแน่น สัดส่วนที่สวยงาม และไหล่กว้าง..."
“แต่ฉันก็ไว้ใจเธอได้เต็มที่!”
"ฉันเชื่อว่าเธอไม่เคยคิดที่จะลูบมันเลย! ไม่เคยคิดที่จะรู้สึกถึงความแข็งของกล้ามเนื้อนั้น!"
คุเรไน: "..."
“ฉันไม่ได้งี่เง่านะ!” คุเรไนกลอกตา
แต่ถึงกระนั้น เธอก็ต้องยอมรับว่าถึงนัตสึฮิโกะจะเปิดฮาเร็ม แต่เขาก็ทำให้ผู้หญิงรักอิสระอย่างเธอค่อนข้างพอใจ
แต่หน้าตาเขาดีจริง ๆ
หล่อสุด ๆ หุ่นล่ำ ๆ กล้ามแน่น ๆ และองุ่นพวงโต ๆ ก็ทำให้สาว ๆ เสียวซ่านจนหุบขาไม่อยู่กันเลยทีเดียว
ถึงฉันจะยอมรับนัตสึฮิโกะอย่างช้า ๆ แต่อย่างน้อยฉันก็สามารถแสดงความเหนือกว่าได้อยู่บ้าง เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ดูเหมือนนังอีตัวที่แค่สนแต่ดูความหล่อเหลาของเขา
คารินสาวน้อยนั่นเป็นนังอีตัวที่แท้จริง!
ฉันจำได้เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันพบเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้แอบดูนัตสึฮิโกะที่กำลังอาบน้ำอยู่ ฉันอยากจะดุเธอ แต่สาวน้อยนั่นดันรีบวิ่งหนีไปเข้าห้องอาบน้ำเฉย
คุเนไรคิดแล้วคิดอีก แล้วสีหน้าของเธอก็กลายเป็น "รถไฟใต้ดิน ชายชรา โทรศัพท์มือถือ" ในทันที
เธออายุเท่าไหร่เอง...
…