ตอนที่ 298 ตอบแทนเป็น 10 เท่า (ตอนนี้เนื้อน้อยนะจ้ะ)
ตอนที่ 298 ตอบแทนเป็น 10 เท่า
สิ่งที่หลี่โม่ไม่ชอบมากที่สุดภายในตระกูลของเขาคือสุสานบรรพบุรุษ เพราะถึงแม้ว่ามันจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เอาไว้สำหรับกราบไหว้บรรพบุรุษ แต่มันก็มีอะไรบางสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเกลียดจากก้นบึ้งของหัวใจ
“วันนี้ไม่ใช่วันไหว้ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมพ่อถึง…” หลี่โม่กล่าวขึ้นมาพร้อมกับขมวดคิ้ว
“นายท่านเรียกไปเพราะเรื่องอื่นครับ” พ่อบ้านกล่าวขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม ซึ่งมันก็ทำให้หลี่โม่หน้าซีดในทันทีราวกับว่าเขากำลังรู้สึกกลัวอะไรบางอย่าง
“เชิญนายน้อยที่ดาดฟ้าได้เลยครับ ยานอวกาศได้จอดรอนายน้อยเอาไว้แล้ว” พ่อบ้านกล่าว
หลี่โม่กัดฟันเปลี่ยนชุดเป็นชุดสูทสีดำอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อเดินทางไปยังสุสานบรรพบุรุษ
—
สำหรับคนธรรมดาพวกเขาก็สามารถที่จะซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ ในนครหลวงได้เท่านั้น แต่สำหรับตระกูลชั้นนำอย่างตระกูลหลี่แล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องกังวลเรื่องการซื้อที่ดินเลยแม้แต่น้อย เพราะพวกเขามีสินทรัพย์ในนครหลวงอยู่อย่างมากมายถึงขนาดตั้งสุสานบรรพบุรุษเอาไว้ในนครหลวงเลยด้วยซ้ำ
ยานอวกาศขนาดเล็กค่อย ๆ ลงจอดในป่าไผ่สีเขียวอย่างช้า ๆ ซึ่งแรงลมจากการลงจอดก็ทำให้ต้นไผ่ถูกพัดเป็นระลอกคลื่นคล้ายกับคลื่นในทะเลที่ดูสวยงาม
แม้ว่าวิวทิวทัศน์จะสวยงามแต่มันก็ไม่มากพอจะทำให้หลี่โม่มีความสุขได้ เขาจึงเดินเข้าไปในป่าไผ่ด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง
หลังจากเดินไปตามเส้นทางหลี่โม่ก็ได้เห็นอาคารขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านเสียดแทงขึ้นไปบนท้องฟ้า และอาคารทั้งหลังก็ให้ความรู้สึกที่น่าเกรงขาม
เมื่อหลี่โม่เดินเข้ามาในอาคารแสงสว่างก็เริ่มจางหายไปในทันที ซึ่งในระหว่างที่ชายหนุ่มได้ก้าวเดินเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของตัวเองดังก้องไปทั่วทั้งอาคาร
ทางเดินที่หลี่โม่กำลังเดินอยู่นี้มีระยะที่ยาวมาก เพราะชายหนุ่มต้องใช้เวลาเดินนานกว่า 20 นาที เขาจึงจะเดินมาถึงบริเวณด้านนอกของห้องโถงบรรพบุรุษที่มีบอดี้การ์ดในชุดดำ 2 คนกำลังยืนคุมอยู่ที่ประตู
ฉัวะ! ฉัวะ!
เสียงประหลาดดังขึ้นมาจากห้องโถงก่อนที่หลี่โม่จะได้เห็นกวาง 2 ตัวถูกนำไปวางเอาไว้บนแท่นหินบูชา โดยกวางพวกนี้ถูกลอกหนังออกจนหมดจนเผยให้เห็นเลือดสีแดงสดและหยดเลือดที่ยังคงไหลออกมาจากบาดแผลอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันหลี่กวนก็กำลังถลกหนังกวางตัวที่ 3 อย่างชำนาญราวกับว่าเขาเป็นพ่อค้าขายเนื้อมืออาชีพที่ต้องคอยถลกหนังของสัตว์อยู่เป็นประจำ นอกจากนี้หลี่กวนยังสวมผ้ากันเปื้อนที่ถูกออกแบบมาสำหรับคนขายเนื้อ แต่รองเท้าหนังราคาแพงของเขาถูกกลับย้อมไปด้วยเลือดสด ๆ, เสื้อสีขาวของเขามีหยดเลือดกระเด็นขึ้นมาติดอยู่บ้างประปราย และทั่วทั้งร่างของเขาก็มีเหงื่อซึมออกมาให้เห็นผ่านทางเสื้อผ้าอยู่บ้างเล็กน้อย
หลังจากเทคโนโลยีในพันธมิตรมนุษย์ได้ถูกพัฒนาขึ้นมา พวกเขาก็ได้ผลิตเครื่องถลกหนังอัตโนมัติขึ้นมาใช้งานเป็นเวลานานแล้ว แต่ใครจะไปคิดว่าหลี่กวนผู้ซึ่งเป็นประธานบริษัทไฟร์สตาร์ไฟแนนซ์ในปัจจุบันจะสามารถถลกหนังได้อย่างเชี่ยวชาญแบบนี้ ซึ่งถ้าหากว่าใครไม่ได้มาเห็นการเคลื่อนไหวของชายชราคนนี้ด้วยตาของตัวเอง พวกเขาก็คงจะไม่คิดว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริง
กลิ่นเลือดที่คละคลุ้งอยู่ทั่วทั้งห้องทำให้หลี่โม่รู้สึกอยากจะอ้วก เขาจึงพยายามเอามือปิดปากปิดจมูกเฝ้าดูการกระทำของบิดาอย่างเงียบ ๆ แต่ภายในแววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างชัดเจน
ปัก!
หลี่กวนปักมีดถลกหนังลงบนแท่นหิน ก่อนที่จะหันกลับมามองลูกชายของตัวเองอย่างเย็นชา
“อะไรกัน นี่ลูกดูถูกทักษะที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของตัวเองงั้นเหรอ?” หลี่กวนกล่าวพร้อมกับหยิบผ้าขี้ริ้วขึ้นมาเช็ดเลือดที่เปื้อนมือ
หลี่โม่พยายามหลบสายตาบิดาของตัวเองและไม่ตอบคำถามอะไรกลับไป
“เอามือออกไปจากปากของตัวเองเดี๋ยวนี้!” หลี่กวนร้องคำรามออกมาเสียงดัง
เมื่อได้รับคำสั่งหลี่โม่ก็จำเป็นจะต้องเอามือออกจากใบหน้าและสูดกลิ่นเลือดเข้าไปอย่างไม่เต็มใจ
“ลูกต้องจำเอาไว้ให้ขึ้นใจว่าถึงแม้ตระกูลของพวกเราจะไม่ได้ขายเนื้อหาเลี้ยงชีพอีกต่อไปแล้ว แต่พวกเราต้องไม่ลืมรากเหง้าที่ทำให้พวกเรามีวันนี้ บรรพบุรุษของพวกเราต้องแล่เนื้อสัตว์ไปวางขายตามท้องถนน ก่อนที่จะค่อย ๆ นำเงินมาลงทุนจนทำให้ตระกูลของพวกเราเติบโตมาได้จนถึงปัจจุบัน”
“แม้ว่าตอนนี้ตระกูลของพวกเราจะเปลี่ยนมาทำธุรกิจทางด้านการเงิน แต่พวกเราก็ต้องระลึกถึงสิ่งที่บรรพบุรุษเคยทำเอาไว้อยู่เสมอ และถึงแม้ว่าในวันหนึ่งตระกูลของพวกเราจะขึ้นเป็นตระกูลอันดับ 1 ของพันธมิตร แต่พวกเราก็ไม่สามารถที่จะละทิ้งหน้าที่ของตัวเองได้” หลี่กวนกล่าวพร้อมกับจ้องมองไปทางลูกชายอย่างตำหนิ
“ครั้งนี้ลูกพลาดอีกแล้วใช่ไหม?”
หลี่โม่พยักหน้าโดยไม่พูดอะไรตอบกลับไป
“ถ้าพวกเราแพ้พวกเราจะต้องให้ศัตรูชดใช้เป็น 10 เท่านั่นคือคำขวัญประจำตระกูลของเรา แต่ลูกกลับล้มเหลวติดต่อกันถึงสองครั้งเนี่ยนะ อย่าคิดว่าลูกทำอะไรแล้วพ่อจะไม่รู้พ่อแค่อยากเห็นว่าลูกจะทำอะไรเองไปได้ไกลสักแค่ไหน แต่น่าเสียดายที่ดูเหมือนพ่อจะประเมินลูกชายของตัวเองสูงเกินไป”
เมื่อได้ยินคำตำหนิหลี่โม่ก็ทำท่าเหมือนต้องการจะอธิบายอะไรบางอย่างออกไป แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะหาเหตุผลมาอธิบายความล้มเหลวของตัวเองได้ เพราะเซี่ยเฟยได้รอดชีวิตมาจากเงื้อมมือของเขาถึงสองครั้งแล้วจริง ๆ
“จากนี้ลูกไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปยุ่งกับเรื่องนั้นอีกแล้ว ถึงเวลาที่ลูกจะต้องมาสืบทอดธุรกิจและ เตรียมความพร้อมเพื่อจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าตระกูลในอนาคตสักที” หลี่กวนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
“พ่อ! แต่ครั้งนี้มันเป็นแค่อุบัติเหตุนะครับ ถ้าพ่อเชื่อในตัวผมครั้งหน้าผมจะต้องทำมันได้อย่างแน่นอน” หลี่โม่กล่าวขึ้นมาอย่างร้อนใจและความเกลียดชังที่เขามีต่อเซี่ยเฟยก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะถ้าหากว่าเซี่ยเฟยไม่ปรากฏตัวขึ้นมาเขาก็คงจะไม่ถูกบิดาตำหนิอยู่เช่นนี้
“พ่ออยากจะเชื่อคำพูดของลูกจริง ๆ แต่พ่อไม่สามารถทำได้ อย่าลืมว่าที่นี่คือห้องโถงบรรพบุรุษ พ่อไม่สามารถพูดจาโกหกต่อหน้าบรรพบุรุษของตัวเองได้จริง ๆ” หลี่กวนกล่าวอย่างเย็นชา
“ครั้งหน้าผมจะต้องทำให้ได้” หลี่โม่กัดฟันกล่าวอีกครั้งพร้อมกับกำมือเอาไว้แน่นจนแขนสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้
หลี่กวนมองลูกชายก่อนที่จะเดินไปลากกวางตัวหนึ่งออกมาจากมุมห้อง โดยกวางตัวนี้ถูกมัดเอาไว้อย่างแน่นหนาและเมื่อมันได้รู้ชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นมันจึงพยายามดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง
ปัก!
หลี่กวนโยนกวางที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมขึ้นไปไว้บนแท่นหิน ก่อนที่จะโยนมีดถลกหนังไปให้กับหลี่โม่
“ทำให้พ่อดูเดี๋ยวนี้”
อย่างไรก็ตามหลี่โม่ก็ไม่กล้าที่จะจับมีดเปื้อนเลือดเล่มนี้เอาไว้ เขาจึงหลบและปล่อยให้มีดลอยผ่านตัวเขาไปโดยไม่ได้พยายามหยุดมันเอาไว้เลยแม้แต่นิดเดียว
เกล้ง! เกล้ง! เกล้ง!
มีดกระทบเข้ากับผนังก่อนที่มันจะร่วงหล่นลงมาบนพื้น
หลี่โม่ยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ความเกลียดชังต่อเซี่ยเฟยจะเอาชนะความกลัวภายในใจของเขาได้ เขาจึงกัดฟันเดินไปหยิบมีดเปื้อนเลือดขึ้นมาจากพื้นพร้อมกับถอดชุดสูทโยนออกไปด้านหลังอย่างไม่สนใจ ต่อมาเขาก็ได้เดินไปที่แท่นบูชาด้วยมืออันสั่นเทา ก่อนที่จะยกมีดขึ้นไปด้วยมือทั้งสองข้างพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
1 วินาที!
2 วินาที!
3 วินาที!
5 วินาทีต่อมามีดของหลี่โม่ก็ยังคงหยุดนิ่งอยู่ในอากาศ ขณะที่แขนของเขากำลังสั่นเทามากขึ้นเรื่อย ๆ
หลี่กวนผิดหวังในตัวลูกชายของเขามาก เขาจึงถอนหายใจออกมาก่อนที่จะเดินไปหยิบมีดมาจากมือของลูกชาย
“ดูเอาไว้ให้ดี ๆ”
ฉัวะ!
มีดได้ตัดผ่านลำคอและหลอดเลือดแดงของกวางที่อยู่บนแท่นบูชาอย่างรวดเร็ว จนทำให้เลือดสีแดงสดพุ่งออกมาราวกับน้ำพุสาดกระจายไปทั่วทั้งใบหน้าของหลี่โม่
หลี่โม่รู้สึกเหมือนภาพทุกอย่างกำลังกลายเป็นสีแดงพร้อมกับของเหลวอุ่น ๆ ที่เปรอะเปื้อนอยู่ทั่วทั้งใบหน้าและกลิ่นคาวเลือดที่ชวนให้ท้องไส้ปั่นป่วนจนรู้สึกอยากจะอ้วก
“จำเอาไว้ว่าบรรพบุรุษของเราคือคนขายเนื้อ ในยุคสมัยที่โหดร้ายพวกเราไม่ได้กินเพียงแค่สัตว์เท่านั้น เพราะถ้าหากว่าจำเป็นพวกเราก็ยังสามารถกินมนุษย์เข้าไปได้!”
“ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้ามาท้าทายตระกูลหลี่ พวกมันก็จะต้องจ่ายค่าตอบแทนมากกว่าเดิมเป็น 10 เท่า!” หลี่กวนกล่าวขึ้นมาอย่างดุเดือด
***************