ตอนที่ 1155 เขา.. ได้ถูก เย่ เทียนอวี่ หลอกให้แล้ว
ไจ๋เจียจวง ฟาร์มเล็กๆ นอกหมู่บ้าน
ช่วงกลางดึกของวันนี้ รถตํารวจสองคันได้ขับมาถึงหน้าฟาร์มเล็กๆ จนเห็นเหตุการณ์ผิดปกติด้านหน้า เสี่ยวหวาง ได้นำทีมตํารวจ เดินเข้าไปข้างในลานหน้าฟาร์ม เห็นแต่ในลานด้านหน้า มีแต่ศพหลายศพ ..นอนกองเรียงรายกับพื้น เลือดได้ย้อมไปทั่วพื้น และกลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นก็อบอวลไปทั่ว
เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ทุกคนก็ต่างตกตะลึง.. แม้ว่าพวกเขาจะเป็นตํารวจแต่ก็ไม่เคยเห็นฉากเหตุการณ์สะเทือนขวัญเช่นนี้มาก่อน ฆาตกรโหดเหี้ยมเกินไป และไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร
สิ่งที่น่ากลัวก็คือ ..คนเหล่านี้ ไม่ได้ตายจากอาวุธร้อน แต่เป็นอาวุธเย็น และทุกคนก็ถูกอาวุธมีคมปาดเข้าที่คอหอย!
ฉากแบบนี้มักจะปรากฏเฉพาะในภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้เท่านั้น ..และยังคงเป็นฉากของการสังหารหมู่
สุดท้าย.. มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่?
ตำรวจนายหนึ่ง เกิดท้องไส้ปั่นป่วน ตัวคู้งอ และก้มตัวลงอาเจียน
เสี่ยวหวาง ยังถือว่านิ่ง แต่มือของเธอก็ยังคงสั่น เธอได้รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และโทรออกไปหา หลัว หลี่
“พี่สาวหลัว เราอยู่ที่ ไจ๋เจียจวง ฉันพบที่ซ่อนตัวของ เย่ เทียนอวี่ แล้ว อีกอย่างเราพบศพหลายศพ ทั้งหมดได้ถูกฆ่าตายในคืนนี้…”
เสี่ยวหวาง ได้บอกเล่า หลัว หลี่ เกี่ยวกับสถานการณ์ในด้านนี้
หลัว หลี่ กล่าวว่า : “สถานการณ์เป็นอย่างไร แล้ว เย่ เทียนอวี่ อยู่ข้างในหรือเปล่า?”
เสี่ยวหวาง กล่าวว่า : “เบื้องต้น ดูเหมือนจะไม่”
หลัว หลี่ กล่าวว่า : “งั้นปิดกั้นที่เกิดเหตุเดี๋ยวนี้ และให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานไปที่นั่น!”
หลัว หลี่ ก็ได้รีบวางสาย
ในขณะนี้ เธอกําลังนําทีมติดตามเข้าไปในป่าบนภูเขา เพราะความเป็นห่วง หลินฟาน.. เธอจึงเพียงต้องการหาที่อยู่ของ หลินฟาน โดยเร็ว
ค่ำคืนที่มีแสงจันทร์สลัวๆ อยากที่จะออกตามค้นหา ทางตํารวจต่างก็ได้ใช้ไฟฉาย และพวกเขาต้องระมัดระวังในการเดินเท้า นั่นเพราะภูเขาลูกนี้เต็มไปด้วยหลุมบ่อ ทั้งการเดินเท้าก็เป็นไปได้อย่างยากลำบากมาก
สิ่งที่ตํารวจไม่ได้สังเกตเห็นก็คือ ในเวลานี้ มีผู้หญิงสองคน ที่ราวกับภูตผี อยู่ตามหลังพวกเขา ร่างกายของพวกเธอดูมีความยืดหยุ่นมาก ภูเขาที่คนทั่วไปเดินได้อย่างยากลำบากมาก แต่พวกเธอก็กลับเดินกันไปได้อย่างกับมันราบเรียบจริงๆ
ผู้หญิงสาวสองคนนี้ แต่งตัวแปลกประหลาด แต่พวกเธอก็เป็นผู้หญิงสาวสองคนที่ได้ปรากฏตัวบนถนนในย่านขายอาหารมื้อดึก ภายในตัวเมืองหยุนเฉิง จากในก่อนหน้านี้ ในตอนนั้นพวกเธอเองได้พบเจอเข้ากับรถตํารวจ เมื่อนั้นพวกเธอก็ได้ออกติดตามมาทันที ทั้งยังไม่มีใครรู้ว่าพวกเธอได้ติดตามมาอย่างไร ไม่มีใครได้ทันสังเกตเห็น และก็ไม่มีใครคิดเลยว่า.. จะมีคนที่มีความสามารถนี้อยู่จริงๆ
“ศิษย์พี่ ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ศิษย์พี่โจว คงจะไม่อยู่ในภูเขานี้ใช่ไหม?” ผู้หญิงที่อายุน้อย ได้พูดถามด้วยเสียงแผ่วเบา
ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า กล่าวว่า : “ไม่รู้สิ แต่ตำรวจกลุ่มนี้มาตามล่านักโทษที่หลบหนี และศิษย์พี่ก็อยู่กับนักโทษที่หลบหนี ดังนั้นตามพวกเขาไปนั้นก็ถูกแล้ว”
ผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า ได้พยักหน้า แล้วพูดว่า : “มีเหตุผล ตอนนี้ก็ต้องบอกว่าตํารวจพวกนี้เก่งมาก ไม่ช้าพวกเขาก็พบร่องรอยของศิษย์พี่แล้ว”
ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า ได้ขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า : “ถ้าเป็นแค่ตำรวจกลุ่มนี้ ก็คงไม่มีอะไรมาก และด้วยความสามารถของศิษย์พี่ ก็สามารถกําจัดพวกเขาได้ แต่ที่น่าจะกลัว ..ก็คงจะเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่ง”
ผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า กล่าวว่า : “เป็นอีกกลุ่มที่ตามไล่ล่า เย่ เทียนอวี่ นะเหรอ?”
ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า กล่าวว่า : “อืมม เกรงว่าครั้งนี้อีกฝ่ายจะส่งผู้เชี่ยวชาญมา ดูท่าแล้ว.. ครานี้เราคงต้องช่วยศิษย์พี่หน่อยแล้ว”
ผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าที่ได้ยิน ก็ได้หัวเราะออกมาเล็กน้อย : “เรื่องได้เริ่มน่าสนุกขึ้นแล้ว ฉันเองก็ได้บอกไปนานแล้วว่าจะออกมากับศิษย์พี่ด้วย แต่ศิษย์พี่ก็ไม่ยอม ครั้งนี้ไม่ได้ ..ต้องทำให้ศิษย์พี่ได้รู้ว่าพวกเราสามารถช่วยได้!”
ป่าเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองหยุนเฉิง ทอดยาวไปกว่าร้อยลี้ (กว่า 50 กิโลเมตร) มีหมู่บ้านน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ และส่วนใหญ่ก็เป็นป่าเขา เมื่อเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ก็มักจะหลงทางได้ง่าย บวกกับตอนกลางคืนเช่นนี้แล้ว กอปรกับเป็นช่วงกลางคืนที่มืดมิด คงได้กลายเป็นโหมดนรกในเกมที่ลงเล่นด้วยตนเองจริงๆ
และในยามค่ำคืนที่มืดมิด ..ในป่าทึบ
ในขณะนี้ ได้มีชายหนุ่มเดินเตร็ดเตร่อยู่ในป่าเพียงลำพัง
ถ้าในที่นี่มีแสงไฟ.. จะพบว่า ชายหนุ่มคนนี้ มีสีหน้าซีดเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บ
สภาพของชายหนุ่มในตอนนี้ ..ไม่ค่อยดีนัก เขาอยู่ในอารมณ์รีบร้อน ตกใจ หวาดกลัว แถมยังมาพร้อมกับความวิตกกังวลเล็กน้อย
ในหัวของเขากำลังคิดอยู่เรื่องหนึ่ง ที่เขาไม่สามารถลบมันออกไปได้.. เพราะในคืนนี้เขาได้ประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต
แต่เดิม เนื่องจากรถของพวกเขาได้รับความเสียหายจาก หลินฟาน จึงไม่สามารถขับต่อไปได้ ชายหนุ่ม จึงคิดที่จะพยายามแย่งรถของ หลินฟาน ไป แต่หลังจากถูก หลินฟาน ปฏิเสธ ชายหนุ่ม ก็ได้เริ่มลงมือก่อน และพยายามจะฆ่า หลินฟาน
เย่ เทียนอวี่ ที่ได้มองอยู่ข้างๆ ก็เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวของ ชายหนุ่ม เพราะเขาได้เห็นมากับตาว่ากลุ่มคนฝึกศิลปะการต่อสู้ที่อยู่ในลานหน้าฟาร์มได้ถูกกวาดล้างโดย ..ชายหนุ่ม เขาเองคิดว่าการฆ่า หลินฟาน ของชายหนุ่ม มันคงจะเป็นเพียงเรื่องที่ง่ายดายมาก
ใครจะไปรู้ เมื่อชายหนุ่มได้เริ่มลงมือกับ หลินฟาน จริงๆ พวกเขาจึงตระหนักได้ว่าพวกเขากำลังมีปัญหาแล้ว ชายหนุ่ม ไม่สามารถฆ่า หลินฟาน ได้อย่างง่ายดาย และหลินฟาน ก็สามารถต้านรับการโจมตีที่รุนแรงของเขาได้หลายครั้งติดต่อกัน และในทุกๆ ครั้งของการโจมตี หลินฟาน ก็สามารถต้านรับมันได้โดยตรง
เมื่อเห็นอย่างนี้ ชายหนุ่ม ก็ได้หยิบกริชออกมาจากเอว และได้เริ่มออกกระบวนท่าโจมตีอย่างรวดเร็ว และนี่ก็เป็นทักษะหนึ่งที่ ชายหนุ่ม ภาคภูมิใจ..
อย่างไรก็ตาม เขายังคงไม่สามารถทําร้าย หลินฟาน ได้แม้แต่น้อย
และแน่นอนว่า หลินฟาน ก็ไม่สามารถจัดการกับ ชายหนุ่มคนนี้ ได้ในทันที แต่ก็ยังเห็นอยู่ชัดๆ ว่า หลินฟาน เป็นฝ่ายได้เปรียบ
เมื่อเห็นท่าไม่ดี เย่ เทียนอวี่ ก็ได้หันศีรษะ และได้วิ่งหนีเข้าไปในป่าข้างๆ ทันที หัวของเขาเองก็ได้จมหายเข้าไปในป่าหญ้าที่สูงเทียบเท่ากับผู้ใหญ่
ปรากฎว่า เย่ เทียนอวี่ คนนี้ได้ตื่นตัวมาก และก็ดูเหมือนว่าเขาจะได้อยู่บนเส้นทางแห่งการหลบหนีมาเป็นเวลานานแล้ว และได้เข้าใจกฎของการอยู่รอดมานานแล้วเช่นกัน
เมื่อเห็นว่า ชายหนุ่ม ไม่สามารถเอาชนะ หลินฟาน ได้ เย่ เทียนอวี่ ก็ได้ตัดสินใจวิ่งหนีไปทันที พึ่งฟ้าพึ่งดินหรือ มิสู้เท่ากับพึ่งตนเอง นี่เป็นหนึ่งในกฎของการอยู่รอดของ เย่ เทียนอวี่..
เมื่อเห็นว่า เย่ เทียนอวี่ หนีไปแล้ว หลินฟาน ก็ไม่สนใจที่จะต่อสู้กับชายหนุ่ม อีกแล้ว เขาเองได้หันศีรษะกลับมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทันใดนั้น เขาก็ได้ปล่อยหมัดออกไปเข้าใส่หน้าท้องของ ชายหนุ่ม
ความรุนแรงของหมัดนี้ทำให้ กริชในมือของ ชายหนุ่ม ตกลงไปกับพื้น
หลินฟาน ก็ได้ปล่อยหมัดที่สอง ..ตามมา
ชายหนุ่ม ไม่สามารถหลบมันได้พ้น ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับหมัดของ หลินฟาน ตรงๆ แต่เมื่อเขาได้ลองรับหมัดนี้เข้าตรงๆ เข้าก็ถูกต่อยจนตัวเหวี่ยงล้มคว่ำ ลำคอของเขามีรสหวานขึ้นมา และแทบจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด
ชายหนุ่ม ก็ได้ล้มลงไปกับพื้น ใบหน้าของเขาซีดลงทันที เขาไม่มีแม้แต่แรงที่จะลุกขึ้นมาในชั่วขณะหนึ่ง ได้แต่มอง หลินฟาน ที่ได้หันหลัง และวิ่งเข้าไปในป่า ไล่ตามหลัง เย่ เทียนอวี่ ไป
ชายหนุ่มตกใจมาก เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมาเจอคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวอย่าง หลินฟาน เขาได้ถามตัวเองว่าแม้แต่ในนิกาย คนที่สามารถทําร้ายเขาได้แบบนี้ เขาเองยังสามารถนับด้วยมือทั้งสิบนิ้วได้ และส่วนใหญ่คนเหล่านั้นต่างก็เป็นศิษย์พี่ของเขา..
แต่.. หลินฟาน ก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ หลินฟาน ทําแบบนี้ได้อย่างไรกัน หรือว่า หลินฟาน จะเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ในตำนาน?
ชายหนุ่ม เองได้ลังเล หลินฟาน แข็งแกร่งขนาดนี้ ภารกิจในการพาตัว เย่ เทียนอวี่ กลับไปในครั้งนี้ ความยากลําบากมันก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่ม จึงได้พยายามลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิอยู่กับพื้นในทันที และพยายามควบคุมลมหายใจ ไม่รู้เวลาได้ผ่านไปนานแค่ไหน แต่สักพักหนึ่งสีหน้าของเขาก็ค่อยๆ ดีขึ้นเล็กน้อย และเขาก็กลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง
เขาเองได้กระโดดขึ้นทันที และคว้ากริชบนพื้น พร้อมกับหมุนตัววิ่งไล่ตามเข้าไปในป่า แต่พอเขาได้ตามเข้าไประยะหนึ่ง ร่องรอยของ หลินฟาน และเย่ เทียนอวี่ ก็ได้หายไป
ชายหนุ่ม จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตามหาเบาะแส เย่ เทียนอวี่ ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างหลบหนี เลือดก็ยังคงเปื้อนอยู่บนพื้นหญ้า นี่เท่ากับว่าเป็นเบาะแสให้คนอื่นติดตามมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น ชายหนุ่ม ก็รู้สึกงงงวยเล็กน้อย หลังจากเดินติดตามไปรอบๆ ป่า ..เป็นเวลานาน เขาก็ได้ตื่นขึ้น ในตอนนี้เขารู้ได้ทันทีว่า เขา.. ได้ถูก เย่ เทียนอวี่ หลอกให้แล้ว
เย่ เทียนอวี่ คนนี้มีความสามารถในการซ่อนเร้นอำพรางที่แข็งแกร่งมาก เขาได้ใช้เลือดของตัวเองแสร้งทําให้ผู้อื่นสงสัย และทั้งยังทําให้ชายหนุ่มเข้าใจผิด
แต่แน่นอนว่าความตั้งใจเดิมของ เย่ เทียนอวี่ ก็คือการทําให้ หลินฟาน เข้าใจผิด แต่ เย่ เทียนอวี่ ก็ไม่คาดคิดว่านี่มันจะเป็นความผิดพลาดที่จะทำให้เขา สำนึกผิดเสียใจ ..ในภายหลัง