บทที่ 24
วันนี้ลง 24 25
บทที่ 24
“ดูท่าว่าการศึกษาวิธีประสานค่ายกลจะเป็นสิ่งจําเป็น”
สวี่ล่ายเพิ่งเดินทางกลับจากศาลาสิบลี้มายังตระกูลสวี่
เขาก็เรียกพวกสวี่หู และหยิบทักษะฝึกประสานหนึ่งไร้ขอบเขตออกมา แล้วสอนให้สามสี่คน นอกจากนี้ยังสอนเพลงดาบสองกระบวนท่าแรกของฟ้ามายาเมฆาสามานย์ให้อีกด้วย
ทันทีที่ทั้งสองทักษะลับถูกเปิดเผย สวี่หูและคนอื่นๆต่างตกตะลึง หลังจากได้สติกลับมา พวกเขาก็คุกเข่าทั้งสองข้างลงอย่างไม่ลังเล กล่าวปฏิญาณตนเข้าพิธีสาบานตน
“ดีมาก สวี่หู เจ้าคือคนที่ข้าสวี่ล่ายไว้ใจมากที่สุด หลังจากออกไปก็ขอให้เจ้าเก็บตัวฝึกฝนทันที เร่งใช้ทักษะฝึกนี้บำเพ็ญเพียร พัฒนาโดยเร็วที่สุด จากนั้นถ่ายทอดมันแก่หน่วยอารักขาทั้ง 32 คน และแน่นอน ก่อนสอนอย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจเรื่องความภักดีของพวกเขา”
สวี่ล่ายเริ่มออกคำสั่งทีละข้อ
“ขอรับนายน้อย” สวี่หูพยักหน้ารับคําสั่ง
“อืม ดีมาก หลังจากนี้ข้าจะไปพักผ่อนสักระยะหนึ่ง เจ้าไม่ต้องส่งคนมาตาม และข้าหวังว่าในอีกสามเดือนจะเห็นผลการฝึกของเจ้า”
“ขอรับ!”
“ขอรับ!”
“แยกย้ายได้”
สวี่ล่ายพยักหน้า หันหลังกลับเข้าไปภายในห้องนอน
สวี่ล่ายทำเช่นนี้ แค่หวังว่าหน่วยอารักขาทั้งสามสิบสองคนของเขา จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ในเวลาที่สั้นที่สุด
เพราะนี่นอกจากจะใช้ปกป้องตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในหมู่พวกเขา ผู้ใดโดดเด่น สวี่ล่ายตัดสินใจว่าจะพาไปเข้าร่วมงานประลองเกณฑ์ทหารด้วยกัน
หากทำแบบนี้ ก็จะสามารถแบ่งเบาจำนวนคู่ต่อสู้ของตนได้บ้าง
ต่อมา สวี่ล่ายศึกษาวิถีแห่งการประสานค่ายกลอย่างเต็มที่ หวังว่าจะใช้หินประสานค่ายกลต่อสู้กับศัตรูที่ทรงพลัง
และแค่ครั้งเดียว ก็ทำให้สวี่ล่ายรู้สึกได้ถึงพลังของผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล!
ผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลนั้นเรียกได้เลยว่าโกงเกินไป อาชีพนี้แทบจะอยู่ยงคงกระพัน สวี่ล่ายรู้สึกว่าการเลือกตัวเองไม่ผิด
[ติ๊ง!]
[ภารกิจเสริม : หลอมหินประสานค่ายกลก้อนแรกสำเร็จ]
[รางวัลความสำเร็จ:แต้มสะสม 500 แต้ม , เปิดฟังก์ชั่นใช้แต้มสะสมแลกทักษะติดตัว]
“หือ? ไม่นึกว่าจะมีภารกิจแบบนี้ออกมาด้วย?”สวี่ล่ายผงะเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าฟังก์ชั่นแลกแต้มสะสมนี้อาจมีประโยชน์อยู่บ้าง
พอคิดได้ สวี่ล่ายก็นำบันทึกสร้างค่ายกลสวรรค์แตกตื่นออกมา และเริ่มศึกษามันอย่างถี่ถ้วน
“ผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล ขั้นที่ 1 ... การกลั่นวัสดุ ....”
สวี่ล่ายแปะแผ่นหยกบนหน้าผาก ใส่ใจทุกรายละเอียดและขั้นแรกของการกลั่นวัสดุ
“อืม น่าจะประมาณนี้” สวี่ล่ายพยักหน้า นำวัสดุหลักบางส่วนออกจากแหวนมิติ รวมไปถึงเตาหลอมขาตั้งสีเงินใบใหญ่
สวี่ล่ายหายใจเข้าลึกๆ พลิกฝ่ามือตัวเอง เปลวไฟสีดำขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนฝ่ามือทันที จากนั้นเขาก็เป่าปราณบริสุทธิ์ลงไปยังเพลิงต้านมังกร ทันใดนั้นเพลิงต้านมังกร ก็ลุกโชติช่วง อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าเดิมมากอย่างเห็นได้ชัด
สวี่ล่ายพยักหน้า ทุกอย่างเหมือนกับที่เขียนไว้ในบันทึกลับ ทันทีหลังจากนั้น เขาวาง เพลิงต้านมังกรไว้ใต้เตาเงิน เริ่มให้ความร้อนกับมัน
“อันดับแรก ...... ต้องหลอมแก่นแท้เหล็ก ......”สวี่ล่ายคว้าชิ้นส่วนของแก่นเหล็ก โยนมันลงในเตาเงินโดยไม่ลังเล
อย่างไรก็ตาม...
ฟู่~!
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ควันดำพวยพุ่งออกมาจากเตาเงิน
“ไอ้หยา ... ฟู่ว ... ฟู่ว ....” สวี่ล่ายโบกมือ นำแกนเหล็กที่อยู่ในเตาหลอมออกมา
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ แก่นแท้ของเหล็กโดนเผาไหม้กลายเขม่าไปแล้ว
“บ้าชิบ! มาลองอีกที!”สวี่ล่ายกัดฟัน โยนแก่นเหล็กลงไปอีกครั้ง
ส่วนผลลัพธ์...
ฟู่ฟ่า~!
มีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งออกมาอีกรอบ
“บัดซบ! มีข้อผิดพลาดตรงไหนกันเนี่ย?”สวี่ล่ายโกรธมากจนกระโดดลุกขึ้นยืน อย่างไรก็ตามเมื่อเผชิญกับวัสดุที่โดนเผาไหม้แล้ว ก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้
วัสดุเหล่านี้มีราคาแพงมาก แค่ถูกทำลายชิ้นเดียว หัวใจดวงน้อยๆของสวี่ล่ายแทบไม่สามารถทนได้
ณ จุดนี้ สวี่ล่ายตัดสินใจหยุดก่อน หันมาอ่านบันทึกสร้างค่ายกลสวรรค์แตกตื่นอีกครั้ง
หลังจากใช้เวลานานพอสมควร ในที่สุดสวี่ล่ายก็เข้าใจว่ามันล้มเหลวตรงจุดไหน จากนั้นได้ปรับความคิดเล็กน้อย เริ่มหลอมใหม่อีกครั้ง
แก่นเหล็กถูกโยนเข้าไปในเตาเงิน สวี่ล่ายเริ่มปล่อยพลังจิตควบคุมอุณหภูมิของไฟ ทางหนึ่งสกัดสิ่งเจือปนภายในเหล็กออก ทางหนึ่งค่อยๆหลอมเหล็กไปเรื่อยๆ และครั้งนี้ถือว่าราบรื่นดี แก่นเหล็กไม่ไหม้
ไม่นาน ชิ้นส่วนแก่นเหล็กก็หลอมสำเร็จ
“ทำต่อไป” มุมปากของสวี่ล่ายโค้งขึ้น ไม่ได้ยินดียินร้ายกับความสำเร็จเพียงครั้งเดียว เขาต้องต่อยอดจนประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง!
...
ไม่กี่วันต่อมา
หึ่ง หึ่ง~!
แสงสีครามส่องประกายอยู่ในเตาหลอมสีเงิน
ตอนนี้สวี่ล่ายเหงื่อออกเต็มตัว ควบคุมความรุนแรงของเพลิงฟ้าดินอย่างระมัดระวังและมักจะจับตาดูการเปลี่ยนแปลงในเตาเงินเป็นระยะๆ
ภายในเตาเงิน อักขระยันต์ตัวหนึ่งไหลช้าๆ ผลึกสีครามกำลังจับตัวเป็นก้อน
[ติ๊ง!]
มาพร้อมกับเสียงเบาๆ ผลึกสีครามขนาดเท่านิ้วชี้จับตัวเป็นก้อนสำเร็จ
“มันได้ผล!” สวี่ล่ายมีความสุขมาก สะบัดมือเดียวผลึกสีครามลอยเข้ามาอยู่ในมือตัวเอง
“นี่น่ะหรือหินประสานค่ายกล? งดงามจริงๆ” มุมปากของสวี่ล่ายโค้งงอเล็กน้อย เกิดความรู้สึกว่าข้ามีพรสวรรค์ในการเป็นผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลอย่างแน่นอน ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ก็ประสบความสําเร็จในการหลอมหินประสานค่ายกลเปล่าๆแล้ว
“ขั้นต่อไปคือส่วนสำคัญที่สุด นั่นคือการผนึกค่ายกลลงในหิน”
การประสานค่ายกลก็ตามชื่อ มันคือการโยกย้ายเขตค่ายกลที่เดิมมีขนาดใหญ่โต ใช้วิชามิติย่อมันให้เล็กที่สุด จากนั้นใช้มีดสลักผนึก ทำการฝังมันลงในหินประสานค่ายกลเปล่าๆ
ซึ่งนี่แหละคือการทดสอบ! มันคือพื้นฐานสุดของผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล
แน่นอน
เพื่อที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลที่ดี พลังจิตอันแก่กล้าเป็นหัวใจสำคัญ โชคดีที่สวี่ล่ายได้ฝึกฝนประสานหนึ่งไร้ขอบเขต ทักษะฝึกนี้คือวิชาพิเศษที่มีลักษณะเฉพาะสําหรับผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล
พลังจิตของสวี่ล่ายในปัจจุบัน แก่กล้ากว่านักบู๊ในขอบเขตเดียวกันมาก
ทุกอย่างพร้อม สวี่ล่ายตรวจสอบค่ายกลพื้นฐานบางส่วนในบันทึกสร้างค่ายกลสวรรค์แตกตื่น
“ค่ายกลหล่อเลี้ยงปราณ ...... อืม เอาเป็นอันนี้ก่อนแล้วกัน”
ค่ายกลหล่อเลี้ยงปราณ มันคือค่ายกลสนับสนุนขั้นต้น หน้าที่หลักคือการฟื้นฟูปราณบริสุทธิ์ในร่างกายของนักบู๊
นี่คือพื้นฐานที่สุดของการประสานค่ายกล สวี่ล่ายตั้งใจจะเรียนรู้ทีละน้อยจากค่ายกลพื้นฐานที่สุด
คิดได้แบบนี้ สวี่ล่ายก็เริ่มสร้างค่ายกลหล่อเลี้ยงปราณ
ในฐานะผู้สร้างค่ายกลมือใหม่ ความสามารถในการทำความเข้าใจของสวี่ล่าย นับว่าค่อนข้างเร็ว
หลังจากใช้เวลาศึกษาการจัดวางค่ายกลมาเป็นสิบกว่าวัน เขาก็สามารถสร้างค่ายกลหล่อเลี้ยงปราณได้สำเร็จ
“ฮู้ว ทีนี้ก็ใกล้เสร็จแล้ว” สวี่ล่ายยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็ปล่อยปราณบริสุทธิ์ออกมา
ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!
อักขระยันต์สว่างขึ้น ค่ายกลขนาดใหญ่เปิดใช้งาน
“ต่อไปคือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด” สวี่ล่ายกลั้นหายใจ พลังจิตค่อยๆ กระจายออกจากหัว
“วิชาเคลื่อนมิติ!”
ครืนนนน——!
เกิดเสียงดังลั่น พลังจิตของสวี่ล่ายเริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก่อตัวเป็นหลุมดำขนาดใหญ่
เวลานี้ คลื่นของความเจ็บปวดแผ่ขยายออกมาจากสมองของสวี่ล่าย เกิดอาการวิงเวียน แต่สวี่ล่ายเข้าใจว่านี่เป็นผลมาจากการระดมพลังจิตของตัวเอง
เพื่อให้การประสานค่ายกลสำเร็จลุล่วง สวี่ล่ายต้องต่อสู้กับความรู้สึกนี้จนถึงที่สุด
หลุมดำขนาดใหญ่ค่อยๆ ปกคลุมค่ายกลหล่อเลี้ยงปราณอย่างช้าๆและห่อหุ้มมันไว้แน่น
ต่อไปก็คือเริ่มกำราบและบังคับย่อขนาดค่ายกล
สวี่ล่ายสร้างผนึกด้วยมือทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว ใช้พลังจิตบังคับให้หลุมดำหดตัวลง
“กำราบ!”
แคร่ก แคร่ก แคร่ก
ค่ายกลหล่อเลี้ยงปราณขนาด 10 อิงฉื่อ ภายใต้อิทธิพลของหลุมดำ มันค่อยๆหดลงทีละอิงฉื่อ
จนในที่สุด เมื่อค่ายกลหล่อเลี้ยงปราณถูกย่อส่วนจนมีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ สวี่ล่ายก็หยิบมีดสลักผนึกออกมา และยัดมันลงในหินประสานค่ายกลที่ว่างเปล่า เริ่มปิดผนึก แกะสลักอักขระยันต์
ติ๊ง!
อักขระยันต์หนึ่งดวงสว่างขึ้น
ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ....
สวี่ล่ายแกะสลักอักขระยันต์บนหินประสานค่ายกลอย่างระมัดระวัง เมื่ออักขระยันต์ทั้งหมดสว่างขึ้น ลำแสงสีฟ้าอ่อนก็พุ่งออกมาจากหินประสานค่ายกล
หึ่ง หึ่ง~!
“สำเร็จแล้ว?” สวี่ล่ายตกตะลึงเล็กน้อย ไม่เคยคิดว่าตนสามารถประสบความสำเร็จได้ตั้งแต่ครั้งแรก
[ติ๊ง!]
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณทำภารกิจ: หลอมหินประสานค่ายกลก้อนแรกสำเร็จ]
[รางวัลที่ได้รับ: แต้มสะสม 500 แต้ม , เปิดฟังก์ชั่นแลกเปลี่ยนแต้มสะสมกับอาชีพเสริม]
หึ่ง หึ่ง!
ม้วนเหล็กดำในตันเถียนสั่นสะเทือนเล็กน้อย เปิดฟังก์ชั่นการแลกเปลี่ยนแต้มสะสมกับอาชีพเสริม
สวี่ล่ายไม่สนใจตรวจสอบหินประสานค่ายกลที่เขาหลอม เจ้าตัวถอนพลังจิตออกโดยพลัน และเพ่งสมาธิไปยังม้วนเหล็กดำในตัวแทน
“ทักษะติดตัวอาชีพเสริม……ตะวันแผดเผา , จันทร์กระจ่าง , ดาราจักร , ดาวทอง , ดาวไม้ , ดาวน้ำ , ดาวไฟ , ดาวดิน , ราชาสวรรค์ , ราชานรก”
สวี่ล่ายตรวจสอบทักษะทั้งสิบเหล่านี้อย่างระมัดระวัง
ตะวันแผดเผาคือเพิ่มอัตราความสำเร็จ 10%
จันทร์กระจ่างคือเพิ่มโอกาสอัพเกรดสูงขึ้น 10%
ดาราจักรคือลดการใช้งานพลังจิตลง 10%
สำหรับทักษะทั้งเจ็ดที่เหลือ เช่น ทอง ไม้ น้ำ ไฟ และดิน ราชาสวรรค์และราชานรก ทั้งหมดนี้เพิ่มการรับรู้ธาตุที่สอดคล้องกัน
พูดง่ายๆ ทักษะติดตัวเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมาก หากอัพเต็มทั้งหมด ทักษะการประสานค่ายกลของเขาจะต้องก้าวกระโดดขั้นเทพอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม พอสวี่ล่ายลองตรวจสอบดูจริงๆ เขากลับพบว่าการปลดล็อคทักษะพวกนี้มันใช้แต้มสะสมเยอะกว่าที่คิดไว้มาก
“หนึ่งทักษะต้องการ 1,000 แต้ม? งั้นถ้าจะปลดล็อคทั้งหมดไม่ใช่ว่าต้องใช้ 10,000 แต้มเลยหรือ? ...” สวี่ล่ายอ้าปากกว้าง สุดท้ายก็เกาหัวอย่างช่วยไม่ได้
ต้องรู้นะว่าทักษะเหล่านี้ที่แสดงอยู่คือขั้นต้นเท่านั้น หากในอนาคตต้องการอัพเกรดมันในระดับที่สูงขึ้น เกรงว่าแต้มที่ใช้คงเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
กล่าวอีกนัยหนึ่งทุกๆทักษะที่เพิ่มขึ้นในอนาคตมีแนวโน้มที่จะใช้แต้มสะสมหลายหมื่นแต้ม ขณะที่ตอนนี้สวี่ล่ายมีเพียง 1,500 แต้มในมือเท่านั้น
หลังจากคิดทบทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้าย สวี่ล่ายตัดสินใจด้วยตัวเอง “เอาล่ะ เปิดใช้งานทักษะตะวันแผดเผาก่อนก็แล้วกัน การได้ทักษะติดตัวที่ช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จ 10% เวลาใช้งานจะต้องมีประโยชน์มากแน่ๆ”
[ติ๊ง!]
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณเปิดใช้งานทักษะติดตัว ‘ตะวันแผดเผา’ เพิ่มอัตราความสำเร็จในการหลอมหินประสานค่ายกลขึ้น 10% ]
“อืม ไม่เลว แค่ไม่รู้ว่า 10 %นี้มีผลยังไงบ้าง” หลังจากสวี่ล่ายตรวจสอบเสร็จ เขายิ้มเล็กน้อย เตรียมทดลองสร้างหินประสานค่ายกลในขั้นสูงขึ้นดู
“ต่อไป...... หือ? ค่ายกลสุดยอดไฟผลาญ!?” สวี่ล่ายชำเลืองมอง และต้องกระพริบตาเมื่อเห็นบันทึกสร้างค่ายกลสวรรค์แตกตื่น ค่ายกลโจมตีธาตุไฟหนึ่งดาว
“อันนี้น่าจะดี ถ้าหลอมได้สำเร็จ มันจะเป็นอาวุธสังหารที่ยอดเยี่ยมในการต่อสู้อย่างแน่นอน” แสงเจิดจ้าส่องประกายในดวงตาของสวี่ล่าย
“ดีล่ะ! มาทำกันเถอะ!”
เขาได้ตัดสินใจแล้ว จากนั้นสวี่ล่ายก็เริ่มหลอมวัสดุใหม่ สร้างหินประสานค่ายกลที่ว่างเปล่าเพื่อผนึกค่ายกลธาตุไฟ
ตามที่คาดไว้ หลังจากปลดการใช้งานทักษะติดตัว ความเร็วในการหลอมวัสดุนั้นไวขึ้นอย่างมาก และการหลอมหินประสานค่ายกลที่ว่างเปล่าก็ราบรื่นเป็นพิเศษเช่นกัน
สวี่ล่ายมีความสุขมาก! ดูท่าทักษะติดตัวของตนจะไม่ไร้ประโยชน์จริงๆ!
ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ค่ายกลสุดยอดไฟผลาญก็ได้รับการกำราบย่อส่วน
ติ๊ง ติ๊ง... อักขระยันต์สว่างขึ้น สวี่ล่ายเตรียมที่จะเริ่มสลักผนึก
อย่างไรก็ตาม...
หึ่ง หึ่ง!
“ห๊ะ? เกิดอะไรขึ้น? เฮ้ย?!ท่าไม่ดี-!”
บรึ้ม——!
เกิดไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ห้องนอนทั้งห้องจมดิ่งลงสู่ทะเลเพลิงทันที
“นายน้อย!?”
“นายน้อย!?”