บทที่ 1014 (135) เจอมนุษย์ดัดแปลงมานี่เอง?(ตอนฟรี)
บทที่ 1014 (135) เจอมนุษย์ดัดแปลงมานี่เอง?
หลังจากตรวจสอบร่างกายของเซียงหยงซานและคนอื่นๆแล้ว จี้เฟิงก็พบว่าพวกเขาเคยใช้พลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพมาก่อนแล้ว และถ้าพวกเขาใช้มันอีกครั้ง มันอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี เกรงว่ามันจะเป็นการทำให้ร่างกายของพวกเขารับภาระหนักเกินไป ซึ่งนั่นไม่ดีอย่างแน่นอน
“มาสเตอร์ไม่ต้องกังวล การใช้ยากระแสไฟฟ้าพิเศษจะไม่ทำให้ร่างกายของผู้ใช้รับภาระหนักจนเกินไป เพียงแต่หลังจากผลของยาหมดลงพวกเขาจะอ่อนแอลง แต่ตราบใดที่มีกระแสไฟฟ้าชีวภาพคอยดูดซับพลังจากภายนอก มันจะช่วยหล่อเลี้ยงระบบภายในร่างกายของพวกเขาและพวกเขาจะสามารถฟื้นตัวได้ เพียงแต่ความเร็วจะค่อนข้างช้า” สมองหมายเลข 1 กล่าว
ได้ยินเช่นนั้นจี้เฟิงก็รู้สึกโล่งใจ สำหรับเซียงหยงซานและคนอื่นๆที่ฝึกฝนยิมนาสติก แม้จี้เฟิงจะไม่รู้ว่าพวกเขาฝึกไปไกลแค่ไหน แต่จี้เฟิงก็สามารถตรวจจับร่องรอยของกระแสไฟฟ้าชีวภาพจากร่างกายของพวกเขาได้แล้ว
เซียงหยงซานและคนอื่นๆคงสังเกตเห็นว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพของพวกเขาอ่อนแอลงหลังจากที่ถูกพิษ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้กระแสไฟฟ้าชีวภาพพิเศษ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่สามารถยื้อเวลาชีวิตมาได้จนถึงตอนนี้ และถ้าลองคำนวณดีๆ เป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมงแล้วหลังจากที่จี้เฟิงได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเซียงหยงซาน พวกเขาในตอนนี้คงจะอ่อนแอมากแล้ว
‘มาทันอย่างฉิวเฉียดเลยแฮะ!’ จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะพูดอยู่ในใจ ยากระแสไฟฟ้าพิเศษสามารถกระตุ้นศักยภาพของพวกเขาได้ก็จริง แต่หลังจากที่ฤทธิ์ของยาหมดลง ร่างกายของผู้ใช้จะอ่อนแอมาก ประกอบกับถูกสารพิษเกรงว่าพวกเขาอาจจะอดทนได้อีกไม่นาน
จี้เฟิงเชื่อว่าถ้าเขามาช้ากว่านี้อีกนิดเดียว เขาอาจจะได้เห็นเพียงแค่ร่างที่ไร้วิญญาณของเซียงหยงซาน
‘เฮ้อ... มันเป็นชะตากรรมของนายนี่นะ!’ จี้เฟิงส่ายหัวและยิ้มอย่างบิดเบี้ยว จากนั้นเขาก็ไม่รอช้าอีกต่อไปและหันหน้าไปถามแมงมุมขาว “คุณพอจะเคลื่อนไหวได้คล่องหรือยัง? ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”
แมงมุมขาวพยักหน้าและพูดว่า “ไม่มีปัญหา”
“ดีมาก!” จี้เฟิงหยิบขวดเล็กๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้านในทันทีและยื่นให้ “ให้พวกเขากินยาในขวดนี้คนละหนึ่งเม็ด”
ในขณะที่พูด เขาก็เปิดขวดออกแล้วหยิบยากระแสไฟฟ้าพิเศษออกมาเม็ดหนึ่งแล้วเปิดปากของเซียงหยงซานให้อ้าออกแล้วป้อนให้เขา จากนั้นก็ส่งขวดให้แมงมุมขาว และบอกให้เธอป้อนมันให้กับทหารคนอื่นๆตามลำดับอาการ
หลังจากนั้นจี้เฟิงก็คว้ามือของเซียงหยงซานและเริ่มกระตุ้นร่างกายของเขาด้วยกระแสไฟฟ้าชีวภาพ
...............
ห่างจากถ้ำออกไปไม่กี่ร้อยเมตรในส่วนลึกของป่า ตรงบริเวณนั้นมีพุ่มไม้และเถาวัลย์เตี้ยๆขึ้นอยู่หนาแน่นมาก หากมองผ่านๆมันเหมือนกับเนินเขาเล็กๆ
แต่แท้จริงแล้วภายใต้เถาวัลย์ที่หนาแน่นนั้นมีเต็นท์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ภายในเต็นท์นี้มีถุงนอนเยอะมาก นอกจากนั้นยังมีจอมอนิเตอร์ ปืนและอาวุธอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นฐานทัพเล็กๆก็คงว่าได้
แต่เมื่อเทียบกับฐานทัพขนาดใหญ่โดยทั่วไป สถานที่แห่งนี้ไม่เป็นทางการนัก อุปกรณ์ก็มีไม่มาก แต่เมื่อเทียบกับถ้ำที่เซียงหยงซานและคนอื่นๆซ่อนตัวอยู่ก็ถือว่าที่นี่นั้นดีกว่ามาก
ในเวลานี้ มีคนเจ็ดแปดคนเดินย่องเข้ามาอย่างเงียบๆ พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในป่าพุ่มไม้ข้างหน้า
คนเหล่านี้คือกู่เฉาและคนอื่นๆในทีมเรดแอร์โรว์ พวกเขาค้นหาเป้าหมายไปทั่วและกำจัดศัตรูที่พบเจอระหว่างทางไปนับไม่ถ้วน และในที่สุด เมื่อพวกเขาเปิดเครื่องตรวจจับพวกเขาก็พบเข้ากับที่นี่
“มีสัญญาณตอบรับอยู่ข้างหน้า!” ทหารคนหนึ่งพูดเสียงเบา
กู่เฉามีท่าทีลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับเสียงเบา “ไปตรวจสอบ ระวังให้มากที่สุด...”
กลุ่มของกู่เฉาก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ และในที่สุดก็มาถึงจุดที่พวกเขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อีกต่อไป ไม่เช่นนั้นอีกฝ่ายอาจได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกเขา
กู่เฉาหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมา เขานอนราบลงท่ามกลางพุ่มไม้และเฝ้าดู เขามองเห็นผู้ชายหลายคนนั่งอยู่ในฐานเล็กๆแห่งนี้
พวกเขาเหล่านี้เป็นชายร่างกำยำ ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว พวกเขาทั้งหมดน่าจะเป็นชาวเอเชีย พวกเขาสวมเสื้อเกราะและหมวกเครื่องแบบ ดูเหมือนทหารทั่วไป
แต่ถ้ามองดูๆ จะพบว่าผู้ชายเหล่านี้เป็นทหารที่ไม่ได้มีระเบียบวินัยเคร่งครัดเท่าไหร่นัก เพราะท่านั่งของพวกเขาดูสบายๆมาก บางคนนั่งชันเข่าสูบซิกการ์ บางคนถึงกับดื่มเหล้า เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่กองทัพปกติ
สิ่งที่โดดเด่นดึงดูดสายตามากที่สุดคือชายร่างใหญ่สองคนที่นั่งอยู่ตรงมุม พวกเขานั่งหลับตาอยู่เงียบๆ
แต่ถึงแม้ว่าสองคนนี้จะแต่งตัวเหมือนกับคนอื่นๆ แต่พวกเขาสวมเสื้อกั๊กและหมวกผ้าเนื้อหยาบ
แต่สิ่งที่ทำให้กู่เฉารู้สึกแปลกๆกับการแต่งตัวของพวกเขามันเป็นเพราะนอกจากเขาจะสวมเสื้อแขนยาวไว้ด้านในและเสื้อกั๊กด้านนอกแล้วพวกเขายังสวมถุงมือด้วย
และภายใต้หมวกของพวกเขา ยังมีผ้ายาวสองผืนจากข้างซ้ายและขวามาปิดหน้าของพวกเขาอย่างมิดชิด และนอกจากดวงตาของพวกเขาแล้ว ก็ไม่สามารถมองเห็นผิวหนังส่วนอื่นใดในร่างกายของพวกเขาได้เลย
แม้ว่าสองคนนี้จะดูแปลกมาก แต่ในฐานทัพเล็กๆแห่งนี้ ไม่มีใครหัวเราะเยาะพวกเขา ไม่มีใครกล้าที่จะมองพวกเขาด้วยซ้ำ
อาจมีบ้างที่ใครบางคนเหลือบมองไปทางพวกเขา แต่ภายในเสี้ยววินาที สายตาของพวกเขาก็กวาดผ่านไป จากนั้นพวกเขาก็ไม่กล้ามองอีก และในแววตาของพวกเขายังมีความหมายบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ ดูเหมือนเป็นความกลัวแต่ก็ยังมีความรู้สึกอื่นๆอยู่อีก ซึ่งค่อนข้างแปลก...
อันที่จริง หากสังเกตดีๆ คุณจะพบว่าใบหน้าของชายร่างใหญ่สองคนที่ถูกปกปิดด้วยผ้าอย่างมิดชิดจะดูแปลกๆเล็กน้อย
โหนกแก้มใกล้ดวงตาดูบางกว่าปกติ ซึ่งในขณะที่เนื้อแก้มข้างจมูกดูหนาและห้อยย้อย หากมองแวบแรกมันเหมือนกับหมาปั๊ก
อันที่จริง ถ้าเสื้อผ้าของพวกเขาไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมดไว้อย่างมิดชิด จะเห็นได้ว่าเนื้อหนังบนร่างกายของพวกเขาล้วนหย่อนยาน เหมือนกับว่ามีเนื้อห้อยอยู่บนกระดูกเท่านั้น
‘นี่มันสัตว์ประหลาดชนิดไหนกัน?’ เมื่อเห็นฉากตรงหน้า กู่เฉาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และพูดอยู่ในใจ ‘หรือว่าจะเป็นมนุษย์ดัดแปลง?’
หัวใจของกู่เฉาเต้นรัวขึ้นทันที ถ้าสองคนนี้เป็นมนุษย์ดัดแปลงจริงๆ ภารกิจครั้งนี้จะยากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นผู้ชายสองคนนี้ มันทำให้กู่เฉานึกถึงมนุษย์ดัดแปลงที่เจียงโจวขึ้นมาทันที ผิวหนังของผู้ชายคนนั้นดูเหมือนจะแยกออกจากกระดูก มันเป็นอะไรที่แปลกประหลาดและน่าขนลุกมาก
และเมื่อมองดูภาพรวมของสองคนนั้นที่อยู่ในฐานแล้ว.. พวกเขามีลักษณะคล้ายกันมาก!
‘ไม่แปลกใจเลยที่เซียงหยงซานจะพลาดท่า กลายเป็นว่าพวกเขาพบกับมนุษย์ดัดแปลงขั้นสูงซะได้!’ กู่เฉาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉากเหตุการณ์ที่เซียงหยงซานและทีมปฏิบัติการพิเศษต้องเผชิญหน้ากับมนุษย์ดัดแปลงขั้นสูง เขาพอจะรู้เกี่ยวกับศักยภาพในด้านพลังการต่อสู้ของมนุษย์ดัดแปลงขั้นสูง ไม่ว่าจะความเร็วหรือความแข็งแกร่งนั้นเกินจะบรรยายจริงๆ
ในการเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดเช่นนี้ เกรงว่าจะมีเพียงปืนใหญ่หรือเครื่องบินรบเท่านั้นที่สามารถจัดการกับมันได้สินะ?
ไม่สิ! ยังมีอีกคนหนึ่งที่สามารถจัดการกับสัตว์ประหลาดเช่นนี้ได้!
จี้เฟิงปรากฏขึ้นมาในความคิดของกู่เฉาทันที ที่เจียงโจว จี้เฟิงเคยเผชิญหน้าและจับมนุษย์ดัดแปลงขั้นสูงมาแล้ว คราวนี้ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรเช่นกันใช่ไหม?
ทันใดนั้น ในฐานทัพก็มีการเคลื่อนไหว กู่เฉารีบมองไปทันที
“ส.. สหายทั้งสอง เราทุกคนต่างก็คุ้นเคยกับพื้นที่ของเกาะนี้เป็นอย่างดี ขอแค่เราระดมกำลังค้นหา เราสามารถจับคนร้ายทั้งหมดได้อย่างแน่นอน แถมยังในเวลาไม่นานอีกด้วย ทำไมเราถึงต้องรอกันอยู่ที่นี่แบบนี้ด้วย?” ในเวลานี้ ดูเหมือนผู้นำคนหนึ่งของทหารจะเอ่ยถามออกมาอย่างระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาพูดด้วยภาษาอื่น เป็นภาษาที่กู่เฉาฟังไม่ออก เขาจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าจะเป็นภาษาญี่ปุ่น... คนพวกนี้กำลังพูดถึงอะไร?”
แม้ว่าเขาจะเคยผ่านหูผ่านตากับภาษาของหลายประเทศ แต่เขาก็ไม่ได้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาขนาดนั้น เขาไม่ได้เรียนรู้ทางด้านภาษาต่างประเทศอย่างลึกซึ้ง อย่างมากก็เข้าใจแค่คร่าวๆ แต่ถ้าอีกฝ่ายพูดเร็วๆ เขาก็ฟังแทบไม่รู้เรื่องเลย
ทหารที่เชี่ยวชาญด้านภาษาที่อยู่ข้างๆมาทำหน้าที่เป็นล่ามให้เขาทันที เมื่อกู่เฉารู้ความหมาย เขาก็หัวเราะอย่างเย้ยหยันอยู่ในใจ ‘พวกมันเป็นนักเลงหรือยังไง?’
และอดไม่ได้ที่จะสบถอยู่ในใจ ‘ให้ตายเถอะ ถ้าไม่ใช่เพราะเป้าหมายหลักในครั้งนี้คือการช่วยเหลือคนและเป็นการปฏิบัติการรบอย่างเต็มกำลังแทน ฉันจะต้องฆ่าไอ้สารเลวพวกนี้ให้หมด อย่างน้อยฉันก็ต้องได้ระบายความเกลียดชังที่มีต่อพวกมันออกบ้าง!’
กู่เฉาอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงฮึ่มอยู่ในลำคอด้วยความโมโห แต่เขาก็ยังคงตั้งใจฟังและในขณะเดียวกันก็สังเกตผู้คนในฐานทัพเล็กๆนั้นผ่านกล้องส่องทางไกล
ชายร่างใหญ่ที่แต่งตัวประหลาดชำเลืองมองไปยังคนที่พูด ฝ่ายหลังผงะจนถึงกับถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว แต่เขาก็รู้ตัวทันทีว่าได้แสดงอาการที่น่าขายหน้าออกไปและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแห้งๆแก้เขิน
“อยากรู้เหรอว่าทำไม?” มนุษย์ดัดแปลงคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยเสียงที่แหบแห้ง เสียงของเขามันหนาใหญ่แต่กลับแห้งมาก เหมือนต้นไม้ไผ่ที่ถูกหักท่ามกลางสายฝน เมื่อได้ยินเสียงนี้ ผู้คนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตึงไปทั่วหนังศีรษะ
“ห๊ะ? ครับ!” หัวหน้าทหารอดไม่ได้ที่จะผงะเล็กน้อย
“ที่นี่อยู่ใกล้กับหัวเซี่ย(จีน) หากคนพวกนั้นหนีออกไปไม่ได้ จะต้องมีคนมาช่วยพวกมันแน่นอน” มนุษย์ดัดแปลงคนหนึ่งกล่าว “ไอ้สารเลวพวกนี้ทำลายฐานทัพแห่งหนึ่งของเราไป ตายแค่นี้มันไม่สาสมกับเรื่องที่มันทำหรอก จะต้องฝังมันกับพวกของมันไปให้ได้มากที่สุด!”
“ให้หน่วยสอดแนมของพวกนายระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน เพราะถ้ามันกล้ามาช่วย มันก็คงไม่ธรรมดา จัดการไม่ได้ง่ายๆแน่ อย่าโดนพวกมันเล่นซะก่อนล่ะ!”
“ถะ.. ถ้าอย่างนั้น ในเมื่อคนที่มาช่วยเหลืออาจจะเก่งมาก เราควรขอกำลังเสริมดีหรือเปล่า.. ผมกลัวว่าพวกเรา...” คำพูดของหัวหน้าทหารยังพูดไม่ทันจบก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน
“พวกมันเก่ง ถ้าหากเทียบกับขยะอย่างพวกนายเท่านั้นแหละนะ ดังนั้นนายไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว!”
“อึ่ก!” หัวหน้าทหารถึงกับสำลัก ‘นี่เขาด่าว่าพวกเราเป็นขยะ? ทีพวกแกเป็นสัตว์ประหลาดฉันยังไม่พูดเลย!’
แน่นอนว่าประโยคเหล่านั้นเขาไม่กล้าที่จะพูดออกไป พวกเขาเคยเห็นความน่ากลัวของสัตว์ประหลาดสองตัวนี้มาก่อนแล้ว ดังนั้นถ้าหากเขายังไม่เบื่อชีวิต เขาคงไม่พูดอะไรที่ต้องท้าทายความตายแน่นอน!
ที่บริเวณรอบนอก หลังจากที่แอบฟังการสนทนาของอีกฝ่าย กู่เฉาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเล็กน้อย ตัวประหลาดสองคนนั้นมันสุดโต่งจริงๆ ขนาดพวกเดียวกันยังปฏิบัติต่อพวกเขาราวกับคนไร้ค่า คงไม่ได้มีแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่บิดเบี้ยว แต่ความคิดและจิตใจก็คงบิดเบี้ยวแปลกประหลาดไม่แพ้กันสินะ?
เมื่อกู่เฉารู้ว่าเขาไม่น่าจะได้ยินข้อมูลที่เป็นประโยชน์อีกต่อไป เขาจึงโบกมือเล็กน้อย “จำพิกัด ถอนตัว!”
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นเอง มีเสียงกรอบแกรบดังอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา และสีหน้าของกู่เฉาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
มีคนกำลังมา!!
ทหารสองคนรีบรุดหน้าไปยังจุดเกิดเสียงทันทีและพบว่าเป็นชายติดอาวุธ 2 คน พวกเขาลอบโจมตีอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบและในขณะที่กำลังจะลากตัวชายติดอาวุธ 2 คนเข้าไปแอบในพุ่มหญ้า ในตอนนี้ก็มีเสียงอุทานจากด้านข้างดังขึ้น ปรากฏว่ามีชายติดอาวุธอีกคนมาพบเขา เขาได้เห็นฉากที่เพื่อนของเขาถูกฆ่าตาย
ถูกเปิดเผยตัวแล้ว!
กู่เฉารีบตะโกนออกไปทันทีอย่างไม่ลังเล “ฆ่า!”
....จบบทที่ 10014 ~