ตอนที่ 295 จอมพลวิลเลียม
ตอนที่ 295 จอมพลวิลเลียม
สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ชายหัวโล้นคิดไม่ถึง โดยในปัจจุบันเซี่ยเฟยได้กำจัดยานรบไปแล้ว 4 ลำ แต่ยานของเขาก็เริ่มมีเปลวไฟลุกขึ้นมาบนบางชิ้นส่วนของตัวยานเช่นกัน
จากสถานการณ์ที่ดำเนินมาถึงแม้ว่าชายหัวโล้นจะได้รับชัยชนะแต่เขาก็ยังมีโอกาสถูกปรับแพ้ตกรอบอยู่ดี และในเมื่อเขาได้รับเงินสินบนจากหลี่โม่มาแล้วเขาก็ต้องพยายามกำจัดเซี่ยเฟยลงไปให้ได้
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะโจมตีเข้าไปรอบแล้วรอบเล่าแต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถทำลายยานรบของเซี่ยเฟยลงไปได้ และเมื่อเทียบกับพลังทำลายของยานทั้งเก้าลำแล้วพลังทำลายของยานที่เหลืออีกเพียงแค่ 5 ลำก็ถูกลดทอนลงไปถึงเกือบครึ่งหนึ่ง
การโจมตีระลอกต่อไปทำให้เกราะพลังงานของเซี่ยเฟยถูกทำลายลงไป 74% แต่ยานของเพื่อนร่วมทีมของชายหัวโล้นก็ถูกทำลายลงไปหนึ่งลำเช่นเดียวกัน ซึ่งการโจมตีระลอกหลังจากนั้นก็ทำให้เกราะพลังงานของเซี่ยเฟยถูกทำลายลงไป 79% พร้อมกับยานของเพื่อนร่วมทีมของชายหัวโล้นที่ถูกทำลายลงไปอีกลำ
เมื่อถึงเวลาที่ชายหัวโล้นเหลือยานอยู่เพียงแค่ลำเดียวขีปนาวุธของเขาก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเกราะพลังงานของเซี่ยเฟยได้อีกต่อไป เพราะถึงแม้เขาจะสามารถสร้างความเสียหายได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่พลังงานของเกราะพลังงานบนยานของเซี่ยเฟยก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
“โจมตีเต็มกำลัง! ทำลายยานลำนั้นเดี๋ยวนี้!!” เซี่ยเฟยตะโกนออกคำสั่ง
ในเวลานี้ทั่วทั้งห้องบัญชาการบนยานรบของเซี่ยเฟยเต็มไปด้วยควันอันหนาทึบ และอุปกรณ์ส่วนใหญ่บนยานก็ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถจะใช้การได้แล้ว
ตูม!
ขีปนาวุธพุ่งเข้าใส่ยานรบหมายเลข 11079 ของชายหัวโล้นอย่างแม่นยำ และถึงแม้ว่าชายหัวโล้นต้องการจะหลบหนีแต่เขาก็กลัวอิทธิพลของหลี่โม่เกินกว่าที่จะยอมถอยหนีกลับไปได้
“ยิงมันเข้าไปอีก!”
ฟิ้ว!
เนื่องมาจากระบบล็อกเป้าหมายได้รับความเสียหาย เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องออกคำสั่งการยิงถึงสามครั้งถึงจะสามารถทำลายยานรบของชายหัวโล้นลงไปได้
เมื่อยานรบถูกทำลายชายหัวโล้นก็กดปุ่มดีดตัวยานกู้ชีพออกมา
“อย่างน้อยฉันก็คงจะไม่ถูกลงโทษอย่างรุนแรงมากเกินไปใช่ไหม” ชายหัวโล้นอุทานออกมาพร้อมกับถอนหายใจ เพราะการสู้รบกับเซี่ยเฟยเป็นเวลานานทำให้เขารู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก
ยานกู้ชีพมีรูปทรงเป็นยานกลม ๆ ที่ปล่อยแสงกระพริบออกมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในขณะที่ชายหัวโล้นกำลังมองออกไปจากช่องหน้าต่างสีหน้าของเขาก็ซีดเซียวลงอย่างฉับพลัน!
ปัจจุบันยานรบของเซี่ยเฟยกำลังพุ่งเข้าหายานกู้ชีพของชายหัวโล้นด้วยความเร็วสูง โดยบริเวณหางของยานกำลังลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟ
ตูม!
พริบตาต่อมายานรบของเซี่ยเฟยก็พุ่งชนเข้ากับยานกู้ชีพของชายหัวโล้น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานี้มันก็เหมือนกับการที่เอาไข่ไปปะทะกับก้อนหิน มันจึงทำให้ยานกู้ชีพของชายหัวโล้นแตกเป็นชิ้น ๆ และไม่มีทางที่เขาจะรอดชีวิตไปจากการปะทะในครั้งนี้ได้
ปุง!
ในเวลาต่อมายานกู้ชีพอีกลำก็ถูกดีดออกมาจากยานรบของเซี่ยเฟย โดยในขณะนี้ชายหนุ่มกำลังนั่งสูบบุหรี่พร้อมกับมองวิวทิวทัศน์ในอวกาศด้วยรอยยิ้ม
ไม่กี่นาทีต่อมายานอวกาศจากสมาคมช่างกลก็ได้เข้ามาเก็บกู้ยานกู้ชีพของเซี่ยเฟย ก่อนที่จะนำตัวเขาตรงไปยังสำนักงานของคณะกรรมการ
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในระหว่างการแข่งขันจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต มันก็จำเป็นจะต้องเลื่อนเกมการแข่งขันออกไปชั่วคราวจนกว่าพวกเขาจะทำการสอบสวนเรื่องนี้จนเสร็จ
—
ขณะเดียวกันจอมพลวิลเลียมแห่งกรมทหารก็ปิดหน้าจอโดยไม่สนใจผู้บรรยายที่กำลังพูดถึงเหตุการณ์ ก่อนที่เขาจะลุกยืนขึ้นนำปลายดินสอมากัดเบา ๆ ในระหว่างใช้ความคิด
มนุษย์มักจะมีการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ในระหว่างที่พวกเขากำลังใช้ความคิด เช่น บางคนใช้นิ้วมือนวดขมับ, บางคนจุดบุหรี่และทำการสูดควันเข้าไปอย่างช้า ๆ ซึ่งในกรณีของวิลเลียมเขาก็มีนิสัยชอบกัดปลายดินสอซึ่งเป็นนิสัยที่เขาติดมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก
จำนวนดินสอที่วิลเลียมกัดในทุกวันเป็นปริมาณที่เยอะมาก จนทำให้เขาถูกตั้งฉายาอย่างลับ ๆ ในกองทัพว่าเขาเป็นนักฆ่าดินสอ
ชื่อเต็ม ๆ ของจอมพลวิลเลียมคือ ‘วิลเลียม สัน’ เขามีผมสีแดงสั้นซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล ในขณะเดียวกันบนหน้าผากของเขาก็มีรอยย่น 17 รอยเรียงชิดติดกัน โดยมีระยะห่างอย่างสม่ำเสมอราวกับว่ารอยย่นเหล่านี้ถูกแกะสลักขึ้นมาอย่างปราณีต
ตระกูลวิลเลียมเป็นหนึ่งในตระกูลโด่งดังในพันธมิตรที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน เพราะตระกูลของพวกเขาคือตระกูลของทหารที่เก่งกาจและมีจอมพลจากตระกูลนี้มาแล้วหลายสิบชั่วอายุคน
ว่ากันว่าสมาชิกในตระกูลวิลเลียมวัดความโดดเด่นได้จากการดูหน้าผากและเส้นผม เพราะยิ่งใครมีผมสีแดงสว่างไสวมากเท่าไหร่หรือยิ่งมีรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผากอยู่เป็นจำนวนมาก มันก็จะยิ่งทำให้คนคนนั้นมีไอคิวมากขึ้นตามไปด้วย
ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์วิลเลียม เดนตัน ผู้ซึ่งเป็นปู่ทวดของวิลเลียม สันมีรอยย่นบนหน้าผากมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูล โดยชายคนนั้นมีรอยย่นอย่างน่าอัศจรรย์ถึง 29 รอย และผมสีแดงของเขาก็เปล่งประกายราวกับดวงอาทิตย์ในตอนเที่ยง
แต่น่าเสียดายที่วิลเลียม เดนตันเสียชีวิตอย่างรวดเร็วเกินไป เพราะยานอวกาศของเขาได้ถูกดูดเข้าไปในหลุมดำจนทำให้เขาเสียชีวิตไปด้วยวัยเพียงแค่ 27 ปี
ถึงแม้รอยย่นบนหน้าผากของวิลเลียม สันจะไม่ได้มากเท่ากับบรรพบุรุษของเขา และสีผมของเขาจะไม่ได้มีสีแดงโดดเด่นราวกับดวงอาทิตย์ แต่ความสำเร็จที่เขาทำก็มากพอที่จะทำให้บรรพบุรุษหลาย ๆ คนรู้สึกละอายใจ เพราะเขาสามารถขึ้นมาดำรงตำแหน่ง 1 ใน 3 จอมพลใหญ่ของกรมทหารได้ในวัยเพียงแค่ 53 ปี ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งจอมพลที่มีอายุน้อยที่สุด
ทุกครั้งที่วิลเลียมใช้ความคิดเขาจะใช้ดินสอเขียนความคิดเห็นทุกอย่างของเขาลงไป จากนั้นเขาก็จะค่อย ๆ วิเคราะห์รายละเอียดก่อนที่จะตัดตัวเลือกที่ไม่ใช่แล้วค่อยได้คำตอบในที่สุด
คืด! คืด! คืด! …
ปลายดินสอขีดฆ่าตัวเลือกในกระดาษครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้ตัวเลือกเหลือลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ และเมื่อคำตอบที่แท้จริงได้ปรากฏออกมาจอมพลวิลเลียมก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
ทันใดนั้นระบบสื่อสารบนโต๊ะก็ส่งเสียงดังขึ้น วิลเลียมจึงกดเชื่อมต่อระบบสื่อสารก่อนที่จะได้พบกับจอมพลเลย์ตันผู้ซึ่งเป็น 1 ใน 3 จอมพลแห่งกรมทหารเช่นเดียวกัน
“ได้คำตอบหรือยัง?” เลย์ตันถาม
“ได้แล้ว” วิลเลียมตอบกลับไป
“ถ้าอย่างนั้นก็มาแลกเปลี่ยนความคิดกันในห้องทำงานของฉัน” เลย์ตันกล่าว
คำพูดของเลย์ตันทำให้วิลเลียมขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็โต้เถียงกันในเรื่องต่าง ๆ มาเป็นเวลากว่า 20 ปี ตั้งแต่วันที่พวกเขาได้พบกันในคณะเสนาธิการ และถึงแม้ว่าในตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนจะได้ขึ้นเป็นจอมพลแล้วแต่พวกเขาก็ยังคงโต้เถียงกันอย่างไม่มีหยุด
การโต้วาทีถือว่าเป็นงานอดิเรกที่เลย์ตันชื่นชอบมากที่สุด เพราะเขาสามารถที่จะโต้เถียงได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นในกาแฟควรจะใส่น้ำตาลกี่ก้อน หรือแม้กระทั่งเรื่องอย่างไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน
เคยมีเรื่องตลกเล่าต่อ ๆ กันมาในกลุ่มทหารว่าวันหนึ่งจอมพลทั้งสองคนนี้ได้ไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งในระหว่างนั้นพนักงานได้ถามว่าพวกเขาต้องการจะสั่งอะไร แต่ทั้งสองกลับพูดพร้อมกันว่ามันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะกินอะไร เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือพวกเขาจะทำการโต้เถียงกันในเรื่องของราคาอาหาร
“ครั้งสุดท้ายที่นายเถียงฉันชนะคือเมื่อ 749 วัน 15 ชั่วโมง 22 นาทีที่แล้ว ฉันเชื่อว่าครั้งนี้นายก็ไม่มีทางชนะฉันได้หรอก” วิลเลียมกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อย่าคิดว่าการชนะฉันติดต่อกันได้ 197 ครั้งแล้วจะมาข่มฉันได้ ฉันขอบอกเลยว่าต่อให้ฉันแพ้ติดต่อกันเป็นหมื่น ๆ ครั้ง แต่ฉันก็จะโต้เถียงกับนายต่อไป” เลย์ตันกล่าว
“เรื่องนั้นฉันไม่เถียง เพราะท้ายที่สุดนายก็เป็นคนที่ดื้อรั้นที่สุดเท่าที่ฉันได้เคยเจอมา” วิลเลียมกล่าวพร้อมกับยักไหล่
“ไม่ใช่ว่าคนที่ดื้อรั้นที่สุดเท่าที่นายเจอมาคือไทสันงั้นเหรอ?” เลย์ตันถามอย่างสงสัย
“ถึงแม้ไทสันจะดื้อรั้นแต่เขาก็สู้นายไม่ได้หรอก” วิลเลียมกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ช่างมันเถอะ รีบมาที่ห้องทำงานฉันเร็ว ๆ เข้า” เลย์ตันกล่าวพร้อมกับโบกมืออย่างไม่พอใจ
“โอเค เตรียมน้ำเมเปิ้ลเชื่อม, สลัดผลไม้และกาแฟเอาไว้ให้ฉันด้วย” วิลเลียมกล่าว
***************