990 - ความโกรธแค้นของวังโบราณไป๋จิง
990 - ความโกรธแค้นของวังโบราณไป๋จิง
เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่สงครามนอกอาณาเขตและเรือโบราณไม่เคยกลับมา มีเพียงชิ้นส่วนทองแดงที่เปื้อนด้วยเลือดกระจายอยู่ทั่วทะเลทรายอันยิ่งใหญ่
หลังสงครามครั้งใหญ่ ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งซึ่งเป็นเซียนของมนุษยชาติไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย เย่ฟ่านมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและคร่ำครวญโดยรู้ว่ามันจะเป็นจุดจบที่นองเลือด
ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งไม่ยอมให้ราชาโบราณกลับมา และใช้เลือดของเขาพรมท้องฟ้าเพื่อแลกกับความสงบสุขของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่เป็นการยากที่ผู้คนจะได้เห็นเขาอีก
เมื่อเซียนสิ้นชีวิต สวรรค์พิภพจะคร่ำครวญ มันคล้ายกับวันโลกาวินาศได้มาถึงแล้ว ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ทุกอย่างเกิดขึ้นเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลงอีกครั้ง
ในเดือนที่ผ่านมาเย่ฟ่านสัญจรไปทั่วโลก แต่เขาเข้าใจโลก แต่เขาได้สอบถามเกี่ยวกับวังไป๋จิงในถ้ำเสวียนตูและในที่สุดก็มีความเข้าใจบางอย่าง
ในช่วงเวลานี้ เขายังพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปรับแต่งเปลือกต้นกำเนิดสวรรค์แห้งๆ สักชิ้นเพื่อเพิ่มฐานการบ่มเพาะให้เร็วที่สุด
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ฝึกฝน เขาได้ใช้ทักษะที่ได้รับจากคัมภีร์ไท่หยินดูดกลืนพลังจากต้นกำเนิดสวรรค์ และฉกฉวยร่องรอยสุดท้ายของพลังงานชีวิตที่บรรจุอยู่ภายใน
สิ่งนี้จะทำให้เซียนผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นนักฆ่าในยุคโบราณไม่สามารถฟื้นชีวิตกลับมาได้อีก
“เมื่อสิบปีก่อนหยินเทียนเต๋อเอาชนะผู้นำของทุกฝ่าย จากนั้นได้รับมรดกของวังไป๋จิงตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาทรงพลังมากกว่าเดิมเพียงใด”
ทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ย หลายคนกล่าวถึงเรื่องนี้แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
ไม่นานหลังจากที่เย่ฟ่านมาถึงทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ยภาพลักษณ์ของเขาก็แพร่กระจายไปทั่วทวีปอย่างรวดเร็ว
ในการต่อสู้ระหว่างสิ่งมีชีวิตอมตะเมื่อเดือนก่อน การลงมือของเขานั้นแม้จะเพียงเล็กน้อยแต่ก็โดดเด่นจนทำให้ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ทั่วโลกเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
อย่างไรก็ตามทุกคนไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมีชีวิตรอดนานเท่าใด หยินเทียนเต๋อมีความเย่อหยิ่งมากเพียงใดทุกคนล้วนเห็นด้วยตาของตัวเอง
และในไม่ช้าหยินเทียนเต๋อจะต้องมาชำระความแค้นกับเย่ฟ่านอย่างแน่นอน
“มันน่าเกรงขามมาก!”
เย่ฟานอารมณ์ไม่ดี จุดจบของชายชราผู้บ้าคลั่งทำให้เขาเช่าโศกเป็นอย่างมาก
เขาจ่ายด้วยราคามากมายมหาศาลเพื่อมาถึงดาวดวงนี้ แต่เขายังไม่ทันได้ทำอะไรกลับต้องเผชิญกับยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
“เมื่อผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่อสู้กับราชาโบราณ ชายหนุ่มคนนี้เคลื่อนไหวและส่งน้ำเต้าสีดำออกไป!”
“ดูเหมือนจะเป็นเขา”
ในเมืองเทียนหยวน ผู้นำหลายคนรู้สึกประหลาดใจ เพราะบุคคลที่หยินเทียนเต๋อต้องการฆ่ามีภาพวาดกระจายไปทั่วทุ่งดวงดาวโบราณแห่งนี้และมันเป็นภาพของเย่ฟ่านนั่นเอง
พวกเขาสงสัย แต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก ทั้งสองฝ่ายล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่แทบจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของเต๋ามนุษย์แล้ว การต่อสู้ของคนระดับนั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสอดมือเข้าไปได้
“หยินเทียนเต๋อมีน้องร่วมสาบานสามคนนั่นคือตวนมู่หมิงบุตรชายของเทพไท่หยิน อีกคนคือลู่หยาองค์ชายหกของเผ่าพันธุ์อีกาทองแห่งอาณาจักรฟู่ซาง และคนสุดท้ายคือนักพรตซานเชวียจากวิหารโบราณในหมิงหลิง”
“คนเหล่านี้เป็นวีรบุรุษที่ไม่สามารถยั่วยุได้และหยินเทียนเต๋อจะต้องเชิญทุกคนมาฆ่าปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์คนนี้อย่างแน่นอน”
ผู้คนแสดงความคิดเห็น และพวกเขาทั้งหมดต่างคาดเดาได้อยู่แล้วว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะต้องน่ากลัวอย่างถึงที่สุด
ตวนมู่หมิงบุตรชายของเทพไท่หยิน ลู่หยาองค์ชายที่หกของเผ่าพันธุ์อีกาทอง และนักพรตซานเชวียแห่งวิหารโบราณในหมิงหลิงเป็นผู้นำของทุ่งดาวโบราณจื่อเว่ย ดินแดนของพวกเขาตั้งอยู่ในโลกต่างๆ ของทุ่งโด่งดังๆนี้
“ว่ากันว่าลู่หยาองค์ชายที่หกแห่งอีกาทองกำลังเดินทางมาที่ลู่โจว เจ้าคิดว่าเขาจะประจบหยินเทียนเต๋อโดยการลงมือเพื่อฆ่าชายหนุ่มคนนั้นหรือไม่”
เย่ฟานขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเขาได้ยินทั้งหมดนี้
เขารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามมีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์ องค์ชายแห่งเผ่าพันธุ์อีกาทองผู้อาศัยอยู่บนต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เขาเป็นเผ่าพันธุ์โบราณหรือไม่?
เย่ฟ่านส่ายหน้า รู้สึกว่านี่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงลงมือช่วยเหลือราชาโบราณทำลายโลกไปแล้ว
แม้ว่าเย่ฟ่านจะขมวดคิ้ว แต่เขาก็ไม่มีความกลัวใดๆ ตอนนี้เขามีร่างกายที่แข็งแกร่งราวกับเซียน เขาได้ฝึกฝนคัมภีร์โบราณสุริยันจันทรา และเนื้อหนังของเขาแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“แม้ว่าข้าจะอาศัยอยู่ในทุ่งดาราโบราณจื่อเว่ย แต่ข้าจะไม่ถูกรังแก”
หลังจากกลายเป็นปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือการคุกคามของอาวุธเต๋าสุดขั้ว และในโลกใบนี้ไม่มีอาวุธเต๋าสุดขั้วแม้แต่ชิ้นเดียว ด้วยญาณวิเศษซิงจื่อที่เขาครอบครองมันจะไม่มีผู้ใดทำอะไรเขาได้
ทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ยประกอบด้วยดาวหลายดวงที่เชื่อมต่อกันด้วยค่ายกล อย่างไรก็ตามค่ายกลเคลื่อนย้ายเหล่านี้ล้วนตั้งอยู่ในสถานที่ลึกลับซึ่งมีเพียงมหาอำนาจโบราณเท่านั้นจึงจะรู้ที่ตั้ง
“น่าจะมีความลับบางอย่างที่ทำให้อาวุธเต๋าสุดขั้วหายไปจากโลก บางทีมันอาจมีเส้นทางที่ทำให้ข้ากลับสู่โลกอำพรางสวรรค์ได้อีกครั้ง”
………
ตั้งแต่ยุคโบราณภูเขาเทียนหลางซึ่งเป็นสถานที่อันทรงเกียรติได้กำเนิดสิ่งมีชีวิตอมตะมาเจ็ดชั่วอายุคน นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์อสูรอย่างแท้จริง
วันนี้ เจ้าของภูเขาเทียนหลางหมาป่าชรากำลังนั่งสมาธิอยู่บนท้องฟ้า ในวันนี้จะเป็นงานฉลองวันเกิดปีที่สองพันแปดร้อยของเขาหลังจากสำเร็จมรรคผลกลายร่างเป็นมนุษย์
ในลู่โจว ผู้คนจำนวนมากต่างหลั่งไหลมาจากทุกทิศทางเพื่อร่วมฉลองวันเกิดให้กับเทพผู้ยิ่งใหญ่
เย่ฟานก็มาที่นี่เช่นกัน เขามองไปยังภูเขาเทียนหลางจากระยะไกล
มันตระหง่านและน่าเกรงขาม มีไอน้ำสีเขียว และในขณะเดียวกันก็งดงามหาที่เปรียบมิได้ มีน้ำตกสูงหลายพันฉื่อตกลงมา และต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์โบราณที่เติบโตระหว่างหน้าผาก็ดูกลมกลืนไปกับบรรยากาศ
วันนี้มีผู้คนจำนวนมากเข้าและออกจากภูเขาโบราณเทียนหลาง พวกเขาทั้งหมดมาเพื่อฉลองวันเกิดของเทพหมาป่าชรา พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีชื่อเสียงในเผ่าพันธุ์ต่างๆ
เย่ฟ่านใช้ทักษะซิงจื่อปีนบันไดขึ้นไปบนท้องฟ้าและค่ายกลปิดผนึกของดินแดนแถบนี้ไม่สามารถทำอะไรก็ได้
แม้ว่าเขาจะไม่มีบัตรเชิญ แต่ด้วยทักษะนี้เพียงอย่างเดียว ศิษย์ของเทพหมาป่าที่อยู่หน้าประตูก็ไม่กล้าละเลยเขา และต้อนรับเขาด้วยความเคารพ
เทพหมาป่าชราที่จุติมาเป็นเวลาสองพันแปดร้อยปีได้สั่งการมาอย่างเด็ดขาดว่าพอเพียงผู้มาอวยพรมีคุณสมบัติย่อมสามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่มีปัญหา
“เทพหมาป่าชรามีสถานะอันยิ่งใหญ่ เมื่อจัดงานวันเกิดขึ้นผู้คนในโลกต่างก็ให้เกียรติมาร่วมงานของเขา ในขณะเดียวกันงานนี้ก็มีวาระอันยิ่งใหญ่ซ่อนเร้นอยู่ นั่นคือการวิพากคัมภีร์สุริยันครึ่งหน้า”
“คัมภีร์สุริยันแม้จะมีเพียงครึ่งหน้าแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือสมบัติอันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก!”
ในขณะนี้มีคนกลุ่มใหญ่ปรากฏตัวที่ด้านหน้าของภูเขา คนเหล่านี้ล้วนสวมอาภรณ์สีทองขนนกที่งดงามจับตา ทุกคนมีผมสีทองยาวประหนึ่งหล่อจากทองคำศักดิ์สิทธิ์ และดวงตาของพวกเขาก็เป็นสีทอง
นี่เป็นงานเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ที่ผู้คนมากมายต่างให้ความสนใจ ไม่ต้องกล่าวถึงทายาทรุ่นหลังของเผ่าพันธุ์ต่างๆ ที่ต้องการแสดงความโดดเด่นออกมาในงานชุมนุมครั้งนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นคนชุดสีทองมากมายปรากฏตัวขึ้นสีหน้าของพวกเขาก็บิดเบี้ยวในทันที
“นี่คือลู่หยาองค์ชายลำดับหกของเผ่าพันธุ์อีกาทองเขามาจริงๆ เขามาที่ลู่โจวเพื่อช่วยหยินเทียนเต๋อพี่น้องร่วมสาบานของเขา?!”
ทุกคนรู้สึกถึงบรรยากาศที่ร้อนแรง ในไม่ช้าลู่โจวจะตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายอีกครั้ง
“ปัด”
ชายหนุ่มจากเผ่าอีกาทองเปิดม้วนภาพและกล่าวว่า
“เขาอยู่ที่นี่หรือไม่”
แน่นอนว่าม้วนภาคที่ถูกเปิดเผยย่อมเป็นรูปของเย่ฟาน
“ยังไม่เห็น!”
“ข้ารู้ว่าเขาไม่กล้ามา ไม่ว่าสถานที่ใดที่องค์ชายหกผ่านไปศัตรูของท่านได้แต่หลบหน้าเท่านั้น เขาจะกล้ามาได้อย่างไร!”
ฉีเฟิงชายหนุ่มจากเผ่าอีกาทองเย้ยหยันด้วยความอวดดี