ตอนที่แล้วยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 679 เก้าฟ้าไร้อนันล่มสลาย (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 681 ห่าฝนอาวุธสะเทือนปฐพี

ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 680 ตักเตือนเบาๆ (ฟรี)


เกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าขึ้นไปทั่วจักรวรรดิสุขาวดี นี้เป็นสิ่งเล็กๆ ที่จักรวรรดิระดับสูงส่งมาเตือนซู่เสี่ยวไป่ และมันได้สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนของจักรวรรดิสุขาวดีอย่างมาก แต่นี้เป็นแค่คำเตือนเท่านั้นพวกเขาจะไม่ส่งกำลังทหารใดเข้ามาทั้งสิ้น

แต่ซู่เสี่ยวไป่ไม่สนใจคำเตือนเหล่านี้ และมองว่าการกระทำนี้ไม่ต่างจากการยั่วมือยั่วเท้ามากกว่า ทำให้เขาเลือกที่จะออกไปสั่งสอนพวกจักรวรรดิระดับสูง

“เฉี่ยวเห้อ เปิดย้อนรอยนิรันดร์สุดขั้วที”

“นายท่านอีกฝ่ายอาจจะอยู่ห่างออกไปเป็นล้านๆ ปีแสง มันยากเกินไปที่นายท่านจะติดตามพวกมันได้”

“ก็ใช้พลังจากอาคม999ชั้นฟ้าที่ข้าสร้างขึ้นเสริมพลัง แล้วระบุตำแหน่งพร้อมกับตบะของพวกมัน เดี๋ยวข้าจะไปเยี่ยมพวกมันถึงบ้านเอง”

ซู่เสี่ยวไป่เป็นคนขี้หวาดระแวง แม้ว่าจะแข็งแกร่งก็ตาม เพราะไม่รู้ว่าปลายทางที่เขาไปนั้นจะเจอเข้ากับจักรวรรดิระดับสูงที่มีจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 อยู่หรือไม่ เขาสร้างม่านอาคม999ชั้นฟ้าขึ้นมาเพื่อปกป้องจักรวรรดิของเขา และเสริมพลังให้กับผู้ที่อยู่ภายในม่านพลังนี้

เฉี่ยวเห้อไม่สามารถขัดขืนซู่เสี่ยวไป่ได้ และเปิดใช้ย้อนรอยนิรันดร์สุดขั้ว ระบุตำแหน่งจักรวรรดิระดับสูงที่ส่งเมฆฝนพายุมายังจักรวรรดิของเขา

ซึ่งอยู่ห่างออกไป 7 ล้านล้านปีแสง และผู้ปกครองจักรวรรดิแห่งนั้นมีนามว่าจักรพรรดิหมิงจู

“หือ…ความรู้สึกเมื่อครู่นี้มัน”

เหมือนว่าจักรพรรดิหมิงจูเอง ก็จะรู้ตัวแล้วว่ากำลังถูกตรวจจับอยู่

“หาข้าเจอด้วยยังงั้นหรอ….ก็เอาสิไม่มีทางที่แกจะมาโผล่ที่นี่ได้อยู่แล้ว!”

จักรพรรดิหมิงจูเป็นจ้าวภัยพิบัติขั้น 9 เขามั่นใจว่าซู่เสี่ยวไป่คงไม่สามารถละทิ้งจักรวรรดิที่อยู่ในสภาวะสงครามแล้วเดินทางมาหาเขาได้

แต่เขาคิดผิด วินาทีนั้นเสียงเตือนของอาคมเตือนภัยดังสนั่นไปทั่วจักรวรรดิ

“จิตสังหารที่รุนแรงแบบนี้มัน….อันตราย!!”

จักรพรรดิหมิงจูนั้นลุกขึ้นแล้วถอยหนีออกมาจากจุดเดิมทันที และยืนมองด้วยแววตาที่เบิกกว้าง

ตูม!!!

ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ราวกับเป็นของเทพแห่งการทำลายล้างได้พุ่งเข้าใส่จุดที่เขาอยู่เมื่อครู่ มันเดินทางมาเป็นระยะทางหลายล้านปีแสง พุ่งลงมาจากทางเหนือของวัง และทำลายอาคมและม่านพลังป้องกันทั้งหมดของจักรวรรดิ

“เดี๋ยวๆ นี้มันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดอะไรสักอย่าง!!”

จักรพรรดิหมิงจูตื่นตระหนกไปหมด เขาแทบตั้งตัวไม่ทัน และไม่มีคำเตือนอะไรจากอีกฝ่ายก่อนเลยมีเพียงแค่สัมผัสตรวจสอบกับจิตสังหารที่รุนแรง

การโจมตีเมื่อครู่แม้แต่จักรวรรดิระดับสูงหลายสิบจักรวรรดิรวมพลังกัน ก็ยังสร้างการโจมตีแบบเมื่อครู่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ซู่เสี่ยวไป่ปรากฏตัวพร้อมกับมีดสีดำในมือ ลำแสงที่เขาปล่อยออกมานั้นทำลายเมืองไปครึ่งหนึ่ง และเขาก็เดินเข้าไปในวังพร้อมกับขนสมบัติทั้งหมดออกมา โดยที่ทิ้งคำเตือนเอาไว้

“นี้แค่คำเตือน  อย่าได้ยุ่งกับข้าอีก”

เงายักษ์เทพได้พุ่งหายไปในพริบตา และทิ้งให้ทุกคนในวังมองหน้ากันด้วยความมึนงง

เงายักษ์เทพในรูปร่างของซู่เสี่ยวไป่ได้ทิ้งคำเตือนเอาไว้ และสร้างคำถามมากมายขึ้นอีกด้วย

นี้มันจะหยิ่งผยองเกินไปแล้ว ไม่สิยิ่งกว่าหยิ่งผยองเสียอีก!

ใครมันจะกล้าบุกโจมตีจักรวรรดิระดับสูงอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ได้ และบอกว่านี้เป็นแค่การขู่ ไป่หยินผู้นี้มันบ้าอำนาจเกินกว่าที่ใครจะควบคุมได้แล้ว

จักรวรรดิหมิงจูไม่อาจจะทำใจรับได้ แต่เวลานี้ซู่เสี่ยวไป่ได้หอบเอาสมบัติไปทั้งหมดพร้อมกับส่งสมบัติทั้งหมดให้ระบบเผาผลาญทันที

ทำให้ระบบถูกยกระดับขึ้นอีกครั้ง และสร้างความแตกต่างใหม่ขึ้น

จำนวนเงาในพื้นที่ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียวมีเพิ่มอีกสิบล้านตัว นั้นก็หมายความว่าซู่เสี่ยวไป่สามารถเพิ่มพลังตัวเองให้เท่ากับจ้าวภัยพิบัติขั้น 9 ได้อย่างง่ายดายแล้ว

แล้วเมื่อระบบถูกยกระดับความเร็วในการฝึกวิชาก็เร็วขึ้นด้วย ทำให้ตอนนี้วิชาภัยพิบัติของซู่เสี่ยวไป่เริ่มจะบรรลุในขั้นพื้นฐานเยอะขึ้น และยังปิดรอยร้าวของศิลากาลเวลาได้เร็วขึ้นอีก ซึ่งตอนนี้ปิดไปแล้ว 87 จุด อีกไม่นานเขาจะเข้าใกล้กับเขตแดนภัยพิบัติขั้น 9 อย่างแท้จริง

มันเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะปล้นจักรวรรดิระดับสูงอื่นด้วย และจักรวรรดิเล็กจักรวรรดิน้อยอีก เพื่อมาลับคมให้กับระบบอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาที่สหัสจักรวรรดิเก้าฟ้าไร้อนันล่มสลายลงก็มีหลายจักรวรรดิพยายามที่จะขึ้นมาแทนที่ แต่ก็ถูกซู่เสี่ยวไป่เล่นงานทั้งหมด

และยังมีบางคนที่คิดฉวยโอกาสเข้ามาหาโชคลาภในดินแดนที่ซู่เสี่ยวไป่พึ่งยึดได้มาจากสหัสจักรวรรดิเก้าฟ้าไร้อนัน ทำให้มีแมงเม่าเข้ามาติดกับและถูกสังหารจำนวนมาก

“นี้มันปีศาจจากดินแดนนรกไหนกัน? หากว่าไม่ยอมหรือไม่เห็นด้วยกับเขา จักรวรรดิใดจะอยู่หรือจะพินาศก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของไป่หยินยังงั้นหรอ?”

“อย่าเสี่ยงเลยมอบสมบัติให้ไป่หยินไปเถอะ รักษาชีวิตเอาไว้ก่อน ข้าไม่อยากจะปะทะกับเขา”

“ท่าทางของผู้กลับชาติมาเกิดคนนี้ดุร้ายเกินไป อย่าเสี่ยงไปยั่วยุเขาจะดีกว่า”

หลายจักรวรรดิระดับสูงเริ่มพูดคุยปรึกษากันเพื่อหาทางออก เพราะเมื่อพวกเขาอยู่ต่อหน้าซู่เสี่ยวไป่แล้วพวกเขาเองก็ไม่ต่างจากมดแมลงที่จะฆ่าทิ้งเมื่อไรก็ได้ แล้วจักรวรรดิที่ไม่มีจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ปกครองอยู่อย่างพวกเขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับปีศาจร้ายที่ชื่อไป่หยินแม้แต่วินาทีเดียว

ซู่เสี่ยวไป่เริ่มยึดครองและทำลายจักรวรรดิระดับสูงทั้งห้าที่เปิดศึกกับเขา ทั้งราชวงศ์หวู่เหลี่ยง ลัทธิสวรรค์ สหัสจักรวรรดิเก้าฟ้าไร้อนัน สหประชาไท่คูซวน และรวบดินแดนมาเป็นของเขา

ซู่เสี่ยวไป่ได้อาศัยจังหวะนี้เก็บเกี่ยวสมบัติจากจักรวรรดิทั้งห้าด้วย ทำให้สามารถเพิ่มระดับระบบได้อีก

ทำให้ตอนนี้ขอบเขตพลังของซู่เสี่ยวไป่เทียบกับกับจ้าวภัยพิบัติขั้น 9 โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเงามากอีกแล้ว หากว่าเขาดูดกลืนเงาทั้งหมดก็พอจะไปถึงครึ่งก้าวสู่เขตแดนภัยพิบัติขั้น 10

อย่างไรก็ตามพลังที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจที่สุด แต่คือความสามารถใหม่ที่ได้รับ

“-เผยความสามารถใหม่ พื้นที่กลืนกินในคลิกเดียว-”

“-พื้นที่กลืนกินในคลิกเดียว หลังจากที่เจ้านายสังหารศัตรูได้แล้ว เจ้านายเลือกได้ว่าจะดูดซับร่างของศัตรูเข้าไปหรือไม่ หากดูดซับมาจะได้รับวิชาที่ศัตรูคนนั้นมีทั้งหมด-”

เหตุผลที่ซู่เสี่ยวไป่สนใจก็คือเขาสามารถได้รับวิชาภัยพิบัติได้เลยหากดูดซับศพจ้าวภัยพิบัติมา

ด้วยความสามารถใหม่นี้ จะช่วยทำให้ซู่เสี่ยวไป่ได้รับวิชาภัยพิบัติได้โดยตรง และไม่ต้องฝึก

พื้นที่กลืนกินในคลิกเดียวนั้นถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อจ้าวภัยพิบัติและผู้ฝึกตนทุกคน เพราะทุกครั้งที่จ้าวภัยพิบัติตายลงวิชาระดับสูงจะถูกทำลายไปพร้อมกับเขาด้วยซึ่งยากมากที่จะได้รับวิชาจากศพของจ้าวภัยพิบัติ

แล้วพื้นที่กลืนกินในคลิกเดียวนั้นทำงานร่วมกับพื้นที่ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียวได้ดีมาก

เมื่อเงาเยอะขึ้น โอกาสเจอจ้าวภัยพิบัติก็เยอะขึ้น เพิ่มโอกาสดูดกลืนวิชามากขึ้นด้วย

วิชาระดับภัยพิบัตินั้นหาได้ยากมากหากไม่อยู่ในคลังสมบัติก็แทบจะหาไม่ได้เลย

แต่เพราะด้วยความสามารถใหม่นี้การเก็บรวบรวมวิชาจะเร็วขึ้นหลายเท่า และยิ่งปิดรอยร้าวบนศิลากาลเวลาได้เร็วขึ้น ในไม่ช้าศิลากาลเวลาจะสมบูรณ์

“ตอนนี้เขตแดนภัยพิบัติขั้น 9 เราก็บรรลุได้แล้วไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้”

ซู่เสี่ยวไป่ยังตกใจอยู่เลยด้วยซ้ำถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดดหลังจากได้ความสามารถใหม่มา นั้นเพราะเกิดจากเงาที่กลืนกินร่างของจ้าวภัยพิบัติไปจำนวนมาก จนได้รับวิชาภัยพิบัติอย่างไม่ขาดสาย และเพิ่มขอบเขตพลังของเขาอย่างต่อเนื่อง

แต่ยังไม่มีใครสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ของซู่เสี่ยวไป่ พวกจักรวรรดิระดับสูงเองก็ยังไม่รู้ เอาแต่คิดว่าจะเล่นงานซู่เสี่ยวไป่ตอนไหนดี

“งั้นก็ดีในเมือทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว เมื่อถึงเวลาเพิ่มระดับระบบอีกครั้ง คาดว่าครั้งต่อไปจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 คงอยู่แค่เอื้อม”

ซู่เสี่ยวไป่รู้สึกตื่นเต้นมาก กับสิ่งนี้เขาเฝ้ารอวันที่จะกลายเป็นจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 มานานแล้ว และครั้งนี้ใช้เวลาหลายปีกว่าจะยกระดับเขตแดนได้ จนกระทั้งเขาเริ่มปล้นจักรวรรดิระดับสูงเขาถึงสามารถเพิ่มความเร็วในการเติบโตได้อีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน กระแสมิติและกาลเวลาขนาดใหญ่ก็ได้ปรากฏขึ้นในที่ห่างไกลจากมหาจักรวรรดิผิงเจียง

ก่อนที่จะมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาพร้อมกับทำลายทั้งมหาจักรวรรดิผิงเจียงต่อหน้าต่อตาเงาของซู่เสี่ยวไป่

“ครั้งนี้แหละ ข้าจะไม่ปล่อยให้แกหนีได้อีกแล้ว และจะลากคอแก..มาขึ้นแท่นประหารให้ได้!”

จักรวพรรดิหวู่ดาที่ออกตามล่าซู่เสี่ยวไป่ พร้อมกับความเคียดแค้นที่มีอยู่เต็มอก  ก่อนที่เขาจะทำลายร่างเงาของซู่เสี่ยวไป่ที่อยู่ตรงนั้นทิ้งทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด