ตอนที่ 290 แข่งขันดัดแปลงยาน
ตอนที่ 290 แข่งขันดัดแปลงยาน
การแข่งขันดัดแปลงยานรบเป็นการแข่งขันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการแข่งขันโกลเดนฟิงเกอร์ โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องพยายามปรับแต่งยานรบธรรมดาภายใต้เงื่อนไขที่จำกัดเพื่อให้ได้ยานรบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
นอกจากนี้การแข่งขันดัดแปลงยานรบยังเป็นการแข่งขันที่ยาวนานมากที่สุดในบรรดาการแข่งขันทั้งหมด โดยจะมีเวลาในการแข่งขันรวมกันอยู่ที่ประมาณ 1 อาทิตย์
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเซี่ยเฟยก็นั่งรถตรงไปยังสนามแข่ง ก่อนที่จะได้พบกับยานรบลำใหม่จอดรออยู่อย่างเงียบ ๆ และมีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการปรับแต่งยานถูกจัดวางเอาไว้อยู่เป็นจำนวนมาก
ทั้งยานรบและอะไหล่อุปกรณ์เหล่านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นของที่การแข่งขันได้รับมาจากสปอนเซอร์ เพราะท้ายที่สุดยานรบและอะไหล่ของแชมป์จะได้รับความนิยมสูงมาก ซึ่งมันก็จะทำให้ยอดขายของสิ่งของเหล่านี้พุ่งกระฉูดในทันที
มันจึงมีบริษัทให้สปอนเซอร์การแข่งขันโกลเดนฟิงเกอร์อยู่เป็นประจำ และหลาย ๆ บริษัทก็ยังได้เซ็นสัญญากับช่างกลที่โดดเด่น โดยมีเงื่อนไขว่าช่างกลเหล่านี้จะต้องใช้อะไหล่จากบริษัทของพวกเขาในระหว่างการแข่งขัน
ในความเป็นจริงหลังจากการแข่งขัน 2 เกมแรกมันก็มีบริษัทหลาย ๆ บริษัทติดต่อเซี่ยเฟยเพื่อขอเป็นสปอนเซอร์เข้ามาเช่นเดียวกัน แต่ชายหนุ่มได้ปฏิเสธข้อเสนอพวกนั้นไปทั้งหมด
ท้ายที่สุดจุดประสงค์หลักที่เซี่ยเฟยเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ นั่นก็เพราะว่าเขาต้องการแสดงประสิทธิภาพของอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จต่อหน้าพันธมิตร ซึ่งถ้าหากว่าเขาเซ็นสัญญามันก็จะทำให้เขาเลือกใช้อะไหล่ได้อย่างจำกัด แล้วมันย่อมส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของยานอวกาศในระหว่างการแข่งขันอย่างแน่นอน
นอกจากนี้เซี่ยเฟยยังชอบดัดแปลงยานรบตามอารมณ์ของตัวเอง ทำให้เขาไม่เคยมีแผนการดัดแปลงยานรบที่ตายตัว บางครั้งเขาก็อาจจะมีแนวคิดใหม่ ๆ ในระหว่างที่เขาดัดแปลง ทำให้เขาไม่สามารถรับประกันว่าเขาจะใช้อะไหล่จากบริษัทไหนได้จริง ๆ
แม้ว่าผลประโยชน์ที่สปอนเซอร์หยิบยื่นให้จะเป็นตัวเลขที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเซี่ยเฟยเป็นอย่างมาก แต่ถ้าหากว่าอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จได้รับความนิยมในพันธมิตรจริง ๆ ผลกำไรที่เขาได้รับกลับมามันก็สูงเกินกว่าผลประโยชน์ที่สปอนเซอร์ได้หยิบยื่นให้อย่างแน่นอน
เซี่ยเฟยหยุดอยู่ที่ประตูของห้องเวิร์กช็อปของเขาและทำการพิจารณายานฟริเกตรุ่นเคสเทลที่จอดเอาไว้จากระยะไกล ท้ายที่สุดยานรบแต่ละลำก็มีเสน่ห์เป็นของตัวเอง ดังนั้นการมองยานอย่างพิจารณาตั้งแต่แว๊บแรกจึงส่งผลต่อจินตนาการในระหว่างการดัดแปลง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของการแข่งขันก็เดินเข้ามาพร้อมกับเปรียบเทียบรูปลักษณ์ของเซี่ยเฟยกับภาพที่บันทึกเอาไว้ภายในคอมพิวเตอร์อย่างระมัดระวัง
“สวัสดีครับคุณเซี่ยเฟย นี่คือรายการอะไหล่ทั้งหมดที่คุณสั่งซื้อเอาไว้ สินค้าทั้งหมดถูกเก็บเอาไว้ในโกดัง ถ้าหากไม่มีข้อผิดพลาดอะไรรบกวนคุณยืนยันรายการอะไหล่ให้ผมด้วย นอกจากนี้ถ้าหากว่าคุณไม่พอใจยานรบที่คุณได้รับ คุณสามารถติดต่อพวกเราได้ทันทีพวกเราจะรีบเปลี่ยนยานรบให้คุณโดยเร็วที่สุด” พนักงานกล่าว
“ถ้าผมต้องการเปลี่ยนแปลงรายการอะไหล่บางส่วนใหม่ ทางการแข่งขันจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อเตรียมอะไหล่ชุดใหม่ให้กับผม” เซี่ยเฟยกล่าวหลังจากที่ได้ตรวจสอบรายการอะไหล่ที่เขาสั่งซื้อ
“หากเรามีสินค้าอยู่ในคลังเราสามารถปรับเปลี่ยนอะไหล่ให้คุณได้ในทันที แต่ถ้าหากว่าเราไม่มีสินค้าพวกเราก็จำเป็นต้องใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการหาอะไหล่ชุดใหม่ให้กับคุณ”
“แต่ตอนนี้คุณได้สั่งซื้ออะไหล่ในราคาแค่ 37.51 ล้าน ซึ่งตามกฎของการแข่งขันผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนสามารถใช้เงินซื้ออะไหล่ได้ถึง 50 ล้านสตาร์คอยน์ ดังนั้นคุณยังเหลือเงินอีกมากในการชอปปิงอะไหล่ชิ้นส่วนที่คุณต้องการ” พนักงานกล่าว
“โอเค ขอบคุณครับ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“คุณจะดัดแปลงยานรบด้วยตัวคนเดียวงั้นเหรอครับ?” พนักงานกล่าวถามเซี่ยเฟย
เซี่ยเฟยพยักหน้ากลับไปโดยไม่พูดอะไร
“ตามกฎผู้เข้าแข่งขันสามารถจ้างผู้ช่วยมาช่วยดัดแปลงยานรบได้ โดยผู้ช่วยแต่ละคนต่างก็เป็นช่างชั้นยอดในสมาคมที่มีค่าจ้างเพียงแค่ 30,000 สตาร์คอยน์ต่อวัน แต่เงินจำนวนนี้ก็จะถูกนำไปคิดในโควตาของเงิน 50 ล้านสตาร์คอยน์ตามกฎการแข่งขันด้วย” พนักงานกล่าวแนะนำ
การดัดแปลงยานรบไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ ดังนั้นผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่จึงจ้างผู้ช่วยมาช่วยพวกเขาในการดัดแปลงยานเป็นเรื่องปกติ
เซี่ยเฟยปฏิเสธความหวังดีของพนักงานคนนั้นด้วยรอยยิ้ม เพราะหลังจากที่เขาถูกล่อเข้าไปยังสังเวียนเลือด มันก็ทำให้เขาระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ท้ายที่สุดหลี่โม่ก็พร้อมที่จะใช้ทุกวิธีในการกำจัดเขาออกไป ซึ่งถ้าหากว่าหลี่โม่ได้ซื้อตัวใครคนใดคนหนึ่งเอาไว้ มันก็จะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในครั้งนี้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้เซี่ยเฟยก็ไม่ใช่พวกคุณชายที่ทำงานหนักไม่เป็น อย่างมากที่สุดเขาก็แค่จะต้องกินอาหารเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ได้รับพลังงานมากพอสำหรับการดัดแปลงยานรบเพียงคนเดียว ซึ่งอาหารสำหรับการแข่งขันก็มีให้เขากินฟรี ๆ โดยไม่จำกัดปริมาณอยู่แล้ว
เมื่อถึงเวลาการแข่งขันเซี่ยเฟยก็ทำการเชื่อมต่อข้อมูลภายในบัตรประจำตัวเข้ากับหน้าจอข้าง ๆ ประตูเพื่อเดินเข้าไปยังด้านในของเวิร์กช็อป
การแข่งขันได้พิจารณาถึงความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าแข่งขันทุกคน ดังนั้นมันจึงมีระบบยืนยันตัวตนก่อนเข้าห้องเวิร์กช็อปทุกครั้ง ซึ่งคนที่ไม่ใช่เจ้าของห้องเวิร์กช็อปก็จำเป็นจะต้องได้รับอนุญาต พวกเขาจึงจะสามารถเข้าไปในห้องเวิร์กช็อปของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนได้
หลังจากเดินผ่านประตูห้องเวิร์กช็อปเซี่ยเฟยก็ได้เห็นประตูโกดังห่างออกไปอยู่สุดปลายห้อง ซึ่งหลังจากที่เขาเดินเข้ามาสำรวจในโกดังเขาก็ได้พบกล่องอะไหล่ถูกวางซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้มันยังมีรถขนส่งขนาดเล็กเพื่อเอาไว้ขนย้ายอะไหล่ไปยังเวิร์กช็อปด้วย
เซี่ยเฟยเปิดไมโครคอมพิวเตอร์เพื่อเปรียบเทียบรายการอะไหล่ที่เขาสั่งกับอะไหล่ที่ถูกจัดเตรียมไว้ในโกดัง ก่อนที่เขาจะขนอุปกรณ์ที่จำเป็นขึ้นไปวางไว้บนรถขนส่ง
“ยานรุ่นเคสเทลโดดเด่นในเรื่องระบบขีปนาวุธ แต่มันมีเกราะที่อ่อนแอและแทบที่จะไม่มีความเร็วในการขับเคลื่อนเลย เรียกได้ว่ามันเป็นยานรบที่ไม่ต่างไปจากป้อมปราการ นายมีแผนที่จะดัดแปลงมันยังไง?” อันธถาม
“ในเมื่อมันเป็นยานรบที่โดดเด่นในเรื่องการโจมตีอยู่แล้ว พวกเราก็มาเพิ่มพลังโจมตีของมันให้ได้อย่างเต็มที่ไปเลยดีกว่า ส่วนทางด้านการป้องกันฉันก็วางแผนที่จะใช้อุปกรณ์เสริมพลังชาร์จเพื่อช่วยให้เกราะพลังงานสามารถคงอยู่ได้นานมากที่สุด” เซี่ยเฟยกล่าว
“นายไม่คิดจะปรับแต่งความเร็วของมันหน่อยเหรอ? ความเร็วของยานลำนี้ช้ามากทำให้มันขาดความยืดหยุ่นในระหว่างการสู้รบ” อันธกล่าว
“อย่าลืมว่ายานรบที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนได้รับต่างก็เป็นยานรบรุ่นเดียวกัน และระบบอาวุธของยานรุ่นนี้ก็เป็นขีปนาวุธนำวิถี ซึ่งถ้าหากว่าฉันไม่ได้ปรับแต่งความเร็วของยานอย่างสุดกำลัง มันก็ไม่มีทางที่ยานลำนี้จะหลบหนีขีปนาวุธของยานลำอื่นได้อยู่แล้ว ดังนั้นการปรับแต่งความเร็วของยานรบเพียงแค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ในการแข่งขันครั้งนี้มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องที่ไร้ประโยชน์” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
อันธพยักหน้ารับอย่างเข้าใจเมื่อพิจารณาถึงเหตุผลที่เซี่ยเฟยได้พูดขึ้นมา
ข้อเสียของระบบขีปนาวุธนำวิถีคือมันจำเป็นจะต้องใช้เวลาในการพุ่งตัวของขีปนาวุธค่อนข้างนาน ซึ่งต่างจากปืนใหญ่ที่จะสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างรวดเร็วมากกว่า
แต่ระบบขีปนาวุธนำวิถีก็มีข้อดีอยู่เช่นเดียวกัน เพราะมันสามารถล็อกเป้าหมายไปยังยานรบของข้าศึกได้ ซึ่งถ้าหากว่ายานรบลำนั้นมีความเร็วน้อยกว่าขีปนาวุธที่ถูกยิงออกไป มันก็สามารถรับประกันได้เลยว่าขีปนาวุธจะปะทะเข้ากับยานเป้าหมาย 100%
ในความเป็นจริงการแข่งขันลักษณะนี้เอื้อประโยชน์ให้กับเซี่ยเฟยมาก เพราะเขาสามารถที่จะทำให้เครื่องเสริมพลังชาร์จสามารถแสดงประสิทธิภาพของมันออกมาได้อย่างเต็มที่
—
ในที่สุดเวลาก็เดินทางมาจนถึง 6 โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่เซี่ยเฟยจะต้องออกมาจากเวิร์กช็อป
เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันสามารถแสดงประสิทธิภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทางงานแข่งจึงให้เวลาผู้เล่นทำการปรับแต่งยานรบเพียงแค่วันละ 12 ชั่วโมง ซึ่งทันทีที่หมดเวลาผู้เข้าแข่งขันทุกคนก็จะต้องออกมาจากเวิร์กช็อปเพื่อรอเข้าไปปรับแต่งยานในวันต่อไป
เซี่ยเฟยเดินออกมาจากเวิร์กช็อปพร้อมกับยืดเส้นยืดสายอย่างเหนื่อยล้า โดยในช่วงเวลา 12 ชั่วโมงที่ผ่านมาชายหนุ่มก็ได้ทำการดัดแปลงยานรบตามแผนไปได้มากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว ซึ่งถ้าหากว่าทุกอย่างยังคงเป็นไปได้ด้วยดี พรุ่งนี้เขาก็จะสามารถดัดแปลงยานรบได้จนเสร็จ และเขาก็จะสามารถใช้เวลาในวันสุดท้ายในการทดสอบระบบต่าง ๆ ก่อนที่จะส่งยานรบเข้าสู่สนามแข่งในวันถัดไป
เมื่อมองจากระยะไกลเซี่ยเฟยก็ได้เห็นคอนสแตนตินเดินออกมาจากเวิร์กช็อปด้วยเสื้อผ้าที่เลอะทำให้ชายร่างผอมคนนี้ดูไม่เหมือนเจ้าชายเลยแม้แต่น้อย
ทั้งเซี่ยเฟยและคอนสแตนตินต่างก็ทำการดัดแปลงยานรบด้วยตัวคนเดียวเหมือน ๆ กัน ซึ่งในบรรดาผู้เข้าแข่งขัน 312 คนมันก็มีเพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่ดัดแปลงยานรบเพียงลำพัง
เซี่ยเฟยเข้าไปทักทายคอนสแตนตินอย่างเป็นกันเอง ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกันเล็กน้อยคอนสแตนตินก็ได้เล่าให้ฟังว่านอกเหนือจากที่เขาเดินทางเข้ามาเพื่อแข่งขันโกลเดนฟิงเกอร์แล้ว เขายังต้องการที่จะแต่งงานกับหญิงสาวสักคนในกลุ่มดาวนครหลวงด้วย
เซี่ยเฟยไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม เพราะท้ายที่สุดเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัว แต่เขายังคงเตือนคอนสแตนตินว่าให้รักศักดิ์ศรีของตัวเอง ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่มีทางได้รับความรักจากใคร
คอนสแตนตินพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น เพราะนิทานที่เซี่ยเฟยได้เล่าให้เขาฟังยังคงตราตรึงอยู่ในใจและเขาก็เริ่มรักตัวเองตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
เมื่อทั้งคู่เดินออกมายังพื้นที่ด้านนอกของสนามแข่ง แอวริลกับผางชิงก็ยืนรอเซี่ยเฟยอยู่แล้ว คอนสแตนตินจึงกล่าวลาอย่างอิจฉาก่อนที่จะเดินกลับไปยังห้องพักของตัวเองเพียงลำพัง
“เซี่ยเฟย! แอวริล!” ทูรามตะโกนดังมาแต่ไกล
เซี่ยเฟยเดินเข้าไปทักทายพร้อมกับแนะนำแอวริลให้รู้จักกับทูราม ซึ่งชายชราคนนี้ก็ชื่นชมแอวริลตลอดเวลาจนทำให้หญิงสาวรู้สึกเขินอายอยู่เล็กน้อย
“ฉันมีเรื่องมาบอกนาย” ทูรามกล่าว
“ใช่เรื่องเสี่ยวหยูหรือเปล่าครับ?” เซี่ยเฟยถามอย่างกระตือรือร้น
***************