(ฟรี) ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 135 ภัยพิบัติเมฆเงิน
ในขณะที่คนอื่น ๆ มุ่งบ่มเพาะ เซวียนห่าวก็รู้สึกราวกับว่าตนได้รับรู้ถึงโลกนี้มากยิ่งขึ้น
เขาเริ่มเข้าใจเต๋าแล้ว
ในช่วงเวลาที่ความคิดของเขา, สภาพแวดล้อมและทุกสรรพสิ่งหลอมรวมเป็นหนึ่ง เขาสามารถสัมผัสถึงร่องรอยเต๋าได้เป็นครั้งแรก เงื่อนไขที่จะบรรลุนั้นคือการเป็นหนึ่งเดียวกับโลกใบนี้อย่างแท้จริง
หลังจากที่จิตใจของผู้คนสามารถกลายเป็นหนึ่งเดียวกับโลกได้อย่างสมบูรณ์แล้ว เมื่อนั้นเขาก็จะสามารถสัมผัสและเข้าใจเต๋าได้
ค่ำคืนผ่านไป โดยที่เซวียนห่าว, ศิษย์ทั้งสองของเขาและผู้คนโดยรอบต่างก็บ่มเพาะอย่างสงบสุข เนื่องจากพลังปราณที่เคยแปรปรวนก่อนหน้าราวกับถูกทำให้สงบและเชื่องมากขึ้น มันไม่ได้ทำอันตรายพวกเขาแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน มันช่วยพวกเขาบ่มเพาะเสียด้วยซ้ำ
ไม่นานแสงรุ่งอรุณก็ส่องมาจากทางทิศตะวันออก ขณะที่ผู้คนที่อยู่บนยอดเขาดาราที่สามเริ่มทยอยตื่นขึ้นและตระหนักว่าตนนั้นพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดด้วยการบ่มเพาะเพียงคืนเดียว
ในขณะที่ผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ บนยอดเขาดาราที่สามค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากการทำสมาธิ พลังปราณกระบี่ก็ล้อมรอบเซวียนห่าว ขณะที่เขายังคงนั่งสมาธิ
แสงสีดำบางส่วนปรากฏขึ้นและค่อย ๆ ก่อตัวเป็นกระบี่เล่มแล้วเล่มเล่ารอบ ๆ ตัวเขา กระบี่ล้อมรอบเซวียนห่าว ผู้คนมองมาที่เขาด้วยความตื่นตระหนก ทั่วทั้งยอดเขาดาราที่สามเต็มไปด้วยกระบี่จากแสงสีดำนี้
นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากนั้นแสงสีขาวบริสุทธิ์ก็เริ่มรวมตัวกันกลายเป็นกระบี่สีขาวบริสุทธิ์เช่นกัน
กระบี่ทั้งสองสี ทั้งขาวและดำลอยอยู่รอบ ๆ ยอดเขาดาราที่สาม ขณะที่พลังปราณกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวปะทุออกมาจากพวกมัน ก่อนที่จะหายไปอย่างรวดเร็วอีกครั้งราวกับมันไม่เคยปรากฏตั้งแต่แรก
เซวียนห่าวรู้สึกว่าโลกตรงหน้านั้นแต่ต่างไปโดยสิ้นเชิง เขารู้สึกว่าสภาวะตรัสรู้ทำให้เขาเข้าใจฐานการบ่มเพาะของตน ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้นสูง! แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังห่างใกล้จากขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้นสมบูรณ์
ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขา มีเพียงผู้ฝึกตนครึ่งก้าวขอบเขตราชันเท่านั้นที่จะสามารถเป็นภัยอันตรายแต่เขาได้
ฐานกระบ่มเพาะของเขาทะลวงจากขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 6 กลายเป็นขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 7 แล้ว
เมื่อเซวียนห่าวลืมตาขึ้น เขาก็เห็นศิษย์ทั้งสองกำลังนั่งบ่มเพาะอยู่ เขาจึงไม่อยากจะขัดทั้งสอง ก่อนที่เขาจะหันไปมองผู้คนโดยรอบ
แม้จะมีบางคนที่ยังไม่ตื่นขึ้น แต่ก็มีหลายคนที่ตื่นขึ้นแล้วและคนเหล่านั้นก็มองเซวียนห่าวด้วยสีหน้าหวาดกลัว
จากพลังปราณกระบี่ก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาตระหนักว่าผูที่อยู่เบื้องหน้าคือผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดอย่างแท้จริฃ
ผู้คนที่อยู่ที่นี่ ต่างก็ต้องการที่จะทะลวงผ่านขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดทั้งนั้น เพราะอายุขัยที่เพิ่มขึ้นนั้นเพิ่มมากกว่าขอบเขตควบแน่นแก่นแท้และขอบเขตก่อตั้งรากฐานอยู่มาก
แม้ว่าพวกเขาจะต้องการ แต่ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดนั้นยากเกินเอื้อม ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ
ตู้ม!
ในขณะที่เซวียนห่าวกำลังจดจ้องเซวียนห่าว ทันใดนั้นก็เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงขึ้น พลังปราณบนยอดเขาดาราที่สามต่างก็ทะยานเข้าหาชายชราที่นั่งอยู่บนแท่นดอกบัวพร้อมกับสหายของเขา
ชายชราผู้นี้คือชายชราที่เซวียนห่าวและศิษย์ทั้งสองของเขาเคยพูดคุยด้วยก่อนหน้านี้
ในขณะนี้ภายในตันเถียนของชายชรานั้น แก่นแท้ของเขาค่อย ๆ เผยรอยแตก ในขณะที่กระแสพลังปราณที่ไม่มีที่สิ้นสุดไหลเข้าสู่แก่นแท้ ทำให้มันไม่เสถียรมากขึ้นเรื่อย ๆ
ชายชรามุ่งความสนใจไปที่แก่นแท้ของเขา ขณะที่แก่นแท้เริ่มแตกออก เผยให้เห็นวิญญาณดวงเล็ก ๆ ที่ส่องแสงหลากสีอยู่ภายใน นี่คือวิญญาณก่อกำเนิดของชายชรา!
มันเพิ่งเกิดและอ่อนแอมาก ในขณะที่วิญญาณก่อกำเนิดเกิดขึ้น เมฆสีเงินที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่หยั่งไม่ถึงก็ปรากฏขึ้นภายในตันเถียนของชายชรา
เมฆสีเงินค่อย ๆ บินผ่านและรวมเข้ากับวิญญาณก่อกำเนิด มันแข็งแกร่งขึ้นและเริ่มไม่เสถียรอย่างมากราวกับมันจะพังทลายได้ทุกเมื่อ
นี่อาจถือเป็นความยากลำบากที่ผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดจะต้องผ่าน เมื่อไปถึงขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเป็นครั้งแรก ความยากลำบากนี้เรียกว่าภัยพิบัติเมฆเงิน
หากผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดอดทนและผสานรวมวิญญาณก่อกำเนิดที่เข้าเมฆสีเงินได้สำเร็จ เขาก็อยู่ในขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดอย่างแท้จริง
ในทางกลับกัน หากผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดไม่อาจทนต่อช่วงนี้ได้ วิญญาณของเขาจะพังทลายและเขาจะตายไปในท้ายที่สุด...
ชายชราเริ่มเหงื่อแตกพลั่ก เมื่อพยายามรวมวิญญาณก่อกำเนิดเข้ากับเมฆสีเงิน
ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ในที่สุดชายชราก็สามารถรวมวิญญาณก่อกำเนิดเข้ากับเมฆสีเงินได้สำเร็จ
“ฮ่าฮ่า... ข้าทำสำเร็จ!” ชายชราอุทานด้วยความสุข ก่อนจะเปล่งกลิ่นอายผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดออกมา