987 - ต่อสู้อย่างสิ้นหวัง
987 - ต่อสู้อย่างสิ้นหวัง
ในขณะนี้ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งใช่ว่าจะมีความสุขจากชัยชนะ เพราะตอนนี้กิ่งก้านทั้งเจ็ดของต้นไม้อมตะได้ทะลวงผ่านร่างกายของเขาและต่อตรึงลงไปในดินอย่างแน่นหนา
รากของพวกมันก็แทงทะลุจักรวาล ใบมีดสั่นสะเทือนและแกว่งไปมา แสงศักดิ์สิทธิ์นับพันตกลงมา ทำให้ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งจมลงสู่ความสิ้นหวังและทำได้เพียงตะเกียกตะกายดิ้นรนหลบหนี
“ทงเทียน เสิ่นเต้า!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามดังออกมาจากเรือทองแดง จากนั้นพลังชีวิตมากมายมหาศาลก็ถูกดูดกลืนมาจากทั่วทั้งโลกและทำให้ม่านพลังที่ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งกางขึ้นสั่นสะท้านคล้ายจะแตกออกได้ตลอดเวลา
ในขณะนี้มังกรสีทองตัวใหญ่ได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สายตาที่เขาเหลือบมอเย่ฟานเต็มไปด้วยความเย็นชา อย่างไรก็ตามทันทีที่เขากวาดสายตาไปเห็นน้ำเต้าสีดำในมือของเย่ฟานสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
ครืน!
ความหวาดกลัวที่ส่องประกายในดวงตาคู่นั้นปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน จากนั้นมังกรตัวใหญ่ก็ส่งเสียงคำรามและทำให้ต้นไม้อมตะถอนรากขึ้นจากพื้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นต้นไม้ขนาดเล็กบินไปอยู่ด้านหน้าของราชาโบราณที่เป็นมังกร
การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว ราชาหลายคนเริ่มฟื้นขึ้นจากความหลับไหล พวกเขาดูดกลืนพลังชีวิตของโลกใบนี้เพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง
ผมสีดำของชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งตั้งตรงราวกับเส้นลวด เลือดสีแดงฉานไหลทะลักออกจากร่างของเขาราวกับน้ำพุ
“อ๊าก!!!”
เขาคำรามเสียงดังลั่นและประตูมิติทั้งหกบานก็เปิดขึ้นในความว่างเปล่าอีกครั้ง
นี่คือการเชื่อมต่อไปสู่อาณาจักรทั้งหกแห่งความเป็นนิรันดร์ เพียงความกดดันที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากอาณาจักรเซียนก็สามารถบดขยี้สิ่งมีชีวิตอมตะได้อย่างง่ายดาย
เมื่อหมัดหกสังสารวัฏกระแทกออกไปข้างหน้าอีกครั้ง คลื่นพลังอันน่าเกรงขามไหลหลั่งออกจากประตูและม้วนพันเข้าหาราชามังกรด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง
ราชาโบราณผู้ยิ่งใหญ่ไม่สามารถดึงดูดพลังจากต้นไม้อมตะได้อีกแล้วเขาส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธและพ่นเปลวเพลิงสีทองเพื่อต่อต้านพลังทำลายล้างจากหมัดหกสังสารวัฏทันที
บูม!
เลือดสีทองกระเซ็นไปทุกที่ ร่างของราชาโบราณมังกรแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย สิ่งเหล่านี้เกิดจากความอ่อนแอที่สะสมมาเป็นเวลานานหลายแสนปี
และมันไม่มีทางที่เขาจะป้องกันหมัดหกสังสารวัฏด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันได้
อย่างไรก็ตามราชาโบราณทุกคนที่อยู่บนเรือล้วนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในยุคอดีต พวกเขาครอบครองพลังแห่งความเป็นอมตะ ดังนั้นแม้ว่าร่างกายจะแตกสลายแต่ราชามังกรก็ยังประกอบร่างกลับขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง
ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง เขาพุ่งเข้าหาราชามังกรที่อยู่บนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
เพราะตระหนักว่าการที่ฝ่ายตรงข้ามเสียสละตัวเองออกมาเช่นนี้ก็เพื่อถ่วงเวลาให้กับราชาโบราณคนอื่นฟื้นฟูตัวเองจากความอ่อนล้า
“ปัง”
การต่อสู้ดุเดือดเลือดพล่านเกิดขึ้นที่ด้านหน้าเรือรบทองแดง ราชามังกรผู้ยิ่งใหญ่ไม่อาจปล่อยให้ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งบุกขึ้นเรือไปได้
ความตายของเทพอสูรพันมือและคนอื่นๆเป็นความสูญเสียอย่างไม่อาจย้อนคืน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถปล่อยให้ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งฆ่าราชาโบราณคนต่อไปได้
“ฆ่ามันให้ข้า”
ราชาโบราณผู้ยิ่งใหญ่ส่งเสียงคำราม จากนั้นค้อนศักดิ์สิทธิ์สีทองก็ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าและทุบเข้าหาชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นการประลองครั้งยิ่งใหญ่ที่สั่นสะเทือนทุ่งดาวโบราณจื่อเว่ยตามปกติแล้วหาพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิต การต่อสู้ระหว่างพวกเขามันจะกินเวลาหลายร้อยปีอย่างไม่ต้องสงสัย
ในเวลาเดียวกัน เรือทองแดงโบราณก็สั่นสะเทือนมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดราชาโบราณที่มีร่างกายแห้งเหี่ยวหกคนก็ปรากฏตัวออกมา
พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ อย่างไรก็ตามทุกคนล้วนแก่ชราจนน่าเหลือเชื่อ ผิวหนังของพวกเขาเหี่ยวย่นและมีเส้นผมสีขาวโพลนไปทั้งศีรษะ
ในความเป็นจริงแม้ว่าพวกเขาจะปรากฏตัวออกมา แต่ก็เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้แทบจะไม่ต่างอะไรจากซากศพเดินได้ และการที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้นมันก็เพราะต้องการที่จะเสียสละตัวเองเพื่อสังหารชายหนุ่มผู้ว่าคลั่งให้ได้
ราชาโบราณทุกคนล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามยังมีช่องว่างอันกว้างใหญ่ระหว่างพวกเขากับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ นั่นเป็นเหตุผลให้อิทธิฤทธิ์ที่พวกเขาสามารถแสดงออกมาได้นั้นมีอยู่อย่างจำกัด
อย่างไรก็ตามต่อให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ปรากฏตัวขึ้นมาจะอยู่ในสภาพหน้าสังเวชอย่างยิ่ง แต่ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งก็มีสภาพไม่แตกต่างกันไม่ใช่หรือ?!
ทุกคนสิ้นหวัง แม้ว่าหนุ่มผู้บ้าคลั่งจะอยู่ยงคงกระพัน แต่มันไม่มีทางที่เขาจะยืนหยัดต่อสู้กับราชาโบราณถึงเจ็ดคนได้
ความหวังเดียวของผู้คนคือราชาโบราณเหล่านี้อ่อนแอเกินไปและไม่สามารถต่อสู้อย่างดุเดือดได้ ไม่เช่นนั้นทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ยจะเต็มไปด้วยซากศพของสิ่งมีชีวิตนับแสนล้าน
สงครามปะทุ! ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งถูกปิดล้อมโดยราชาโบราณผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดคน ร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล
อย่างไรก็ตามชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งยังคงใช้แขนข้างเดียวแลกชีวิตกับราชาโบราณเหล่านั้นโดยไม่หวั่นเกรงความตายแม้แต่น้อย
นี่เป็นการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกอย่างถึงที่สุด นัยน์ตาของชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยว ผมสีดำของเขาโบกสะบัดและหมัดหกสังสารวัฏที่ไร้เทียมทานนี้คืออาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา
ท่ามกลางต่อสู้อย่างดุเดือด ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งได้คว้ากระบี่เล่มหนึ่งจากมือของราชาโบราณผู้เฒ่า เขาใช้กระบี่เล่มนี้กวาดออกไปรอบทิศทางและตัดศีรษะของราชาโบราณคนหนึ่งทันที
“บูม”
ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งถูกกำปั้นอันแข็งแกร่งทะลวงผ่านหน้าอกและทำให้รูเลือดขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนร่างของเขาอย่างน่าหวาดหวั่น
แต่ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งดูเหมือนจะคุ้มคลั่งถึงขีดสุดแล้ว ด้วยเจตนาฆ่าไม่สิ้นสุดปะทุออกมาจากร่างของเขา ในขณะเดียวกันกระบี่ในมือก็สับลงไปที่ศีรษะของราชาโบราณอีกคน
การต่อสู้ระหว่างวิสุทธิชนครั้งนี้ดุเดือดมาก มันเป็นการต่อสู้แลกชีวิตที่ฝ่ายพ่ายแพ้มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่
“เจ้าไม่มีโอกาส แม้ว่าเจ้าจะเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะแต่เจ้าก็ไม่สามารถเอาชนะเราได้” ราชาโบราณโบราณคนหนึ่งเย้ยยันพร้อมกับกระอักเลือดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาอายุมากแล้ว การเดินทางหลายแสนปีนี้ทำให้อายุของเขาสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามเขายังใช้ความเข้มแข็งครั้งสุดท้ายเพื่อถ่วงเวลาให้กับราชาโบราณคนอื่น
ราชาโบราณผู้ยิ่งใหญ่ที่มาจากเผ่าพันธุ์มังกรเหลือร่างกายเพียงครึ่งเดียว ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังตะโกนด้วยความโกรธว่า
“การกระทำของพวกเราทั้งสองฝ่ายไม่มีถูกผิด เจ้าทำด้วยความเชื่อของเจ้า เราทำด้วยความเชื่อของเรา เพียงแต่ความเชื่อของทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันเท่านั้น”
ดวงตาของชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งนั้นเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น เขาไม่สนใจคำพูดของฝ่ายตรงข้ามแต่ยังคงพุ่งเข้าหาราชามังกรพร้อมกับกระบี่เล่มนั้น
“ปัง”
ต้นไม้อมตะถูกตัดขาดในกระบี่เดียว ราชามังกรที่มีร่างกายเพียงครึ่งส่งเสียงคำรามอย่างสิ้นหวัง สุดท้ายคลื่นที่ปะทุจากประตูทั้งหกบานซึ่งลอยอยู่เหนือความว่างเปล่าได้บดขยี้ร่างกายและวิญญาณของเขาจนแหลกละเอียดทันที
“ฟุ่บ…”
ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งได้รับบาดเจ็บทั่วร่างกายและสภาพของเขาตอนนี้แทบจะไม่เหลือเค้าโครงของมนุษย์อีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตามเขายังคงสามารถสังหารราชาโบราณในการต่อสู้ครั้งนี้ได้ถึงสามคน
แต่สถานการณ์นี้จะดำเนินต่อไปจนถึงเมื่อไหร่? เขากำลังต่อสู้อย่างสุดชีวิต และเห็นได้ชัดว่าพลังการต่อสู้ของเขาเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ
“ผู้อาวุโส!”
เย่ฟ่านตะโกนด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ เมื่อการต่อสู้ดำเนินไปจนถึงจุดสิ้นสุดและพลังของชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งอ่อนแอลงเป็นอย่างมากม่านพลังที่เขากางไว้ก็พังทลายลงทันที
เย่ฟานไม่ชักช้า เขาขว้างน้ำเต้าสีดำให้พุ่งไปที่ใจกลางสนามรบอย่างสุดกำลังพร้อมกับกระตุ้นให้มันปลดปล่อยเพลิงเก้าสีที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดออกมาทั้งหมด
ราชาโบราณผู้ยิ่งใหญ่ไม่ใช่คนโง่ ทันทีที่เห็นน้ำเต้าพุ่งเข้ามาพวกเขาก็รีบตะคุบมันไว้โดยไม่อนุญาตให้ฝาของน้ำเต้าเปิดออกได้
ในขณะนั้นราชาผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งเหลือบมองน้ำเต้าและหัวเราะออกมาเบาๆ
“สมบัติศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ได้รับความเสียหายแล้ว ไม่ทราบว่ามันปรากฏตัวขึ้นมาบนโลกนี้ได้อย่างไร”
“มันน่าจะถูกทำลายไปตั้งแต่เมื่อหลายแสนปีก่อน แม้ว่ามันจะคงอยู่ได้แต่มันก็เป็นเพียงวัตถุเสียหายชิ้นหนึ่ง!”
ในระยะไกลสีของเย่ฟ่านเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง เขาพยายามกระตุ้นให้ฝาของน้ำเต้าเปิดออก แต่มีหรือที่พลังของเขาจะเทียบได้กับพลังของสิ่งมีชีวิตอมตะเหล่านั้น!
“บูม”
ในเวลาเดียวกันภายใต้เสียงระเบิดดังกึกก้องจากเรือโบราณ ราชาโบราณอีกแปดคนก็ปรากฏตัวออกมา!