(ฟรี)ยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 600 แค่สอน
ยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 600 แค่สอน
หมิงเยว่ไม่ได้คิดมาก ท้ายที่สุด ก่อนมาที่นี่นางเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้คร่าว ๆ พรสวรรค์ของหยาหยาแล้ว
"อืม" นางไม่ได้ถามเขา แต่กลับมองไปที่หยาหยาแทน ก่อนหน้านี้นางยังดูรากฐานคร่าว ๆ ของหยาหยา และจริงอย่างที่ลือกัน หยาหยาถูกมองว่าเป็นคนธรรมดา จากนั้นนางก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย
"ข้าได้ยินมาว่าเจ้าทำให้คู่มู่ไห่อับอายในห้องโถงสุดยอดสวรรค์ คนผู้นี้จะหาทางแก้แค้นให้กับความคับข้องใจที่เล็กน้อยที่สุด ไม่กลัวหรือว่าเขาจะคิดบัญชีกับลูกศิษย์ของเจ้าในภายหลัง”
"ยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนข้าจะเคยได้ยินมาว่าในบรรดาศิษย์ใหม่ของมรดากบุปผาซากศพ มีบุคคลที่มีความสามารถพิเศษสูงพร้อมด้วยกายาจักรพรรดิโดยกำเนิด อัจฉิรยะดังกล่าวจะเป็นกลายวีรบุรุษในอนาคตอย่างแน่นอน และเป็นตัวตนที่ดึงดูดความสนใจของโลก ถึงตอนนั้น คู่มู่ไห่จะเยาะเย้ยเจ้าแน่นอน เตรียมใจกันไว้หรือยัง"
หมิงเยว่รู้ดีกว่าเย่ชิวว่าคู่มู่ไห่เป็นคนแบบใด บุคคลนี้มีชื่อเสียงในการหาทางแก้แค้นให้กับความคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ยิ่งกว่านั้น เขาเป็นคนชั่วร้ายที่มีไหวพริบโดยธรรมชาติ และมีความทะเยอทะยานอย่างยิ่ง
นางเปิดเผยข้อดีและข้อเสียด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ มีเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่านั้น หากคู่มู่ไห่ใช้สิ่งนี้เป็นข้ออ้างในการยับยั้งตัวตนของเย่ชิว มันอาจก่อให้เกิดความคิดเห็นสาธารณะมากมายและทำให้เย่ชิวตกจากแท่น
แน่นอนว่าเย่ชิวจะไม่คิดถึงคำถามเหล่านี้ได้อย่างไร
เขาหัวเราะและพูดว่า "ข้าไม่ได้คาดคิดว่าศิษย์พี่หญิงจะสนใจข้ามากขนาดนี้ ข้าตื้นตันใจมาก หากศิษย์พี่หญิงไม่เตือนข้า ข้าคงไม่รู้ข้อดีข้อเสีย ข้าไม่มีค่าพอที่จะรับความโปรดปรานนี้ เช่นนี้ข้าขอมอบตัวข้าแก่ท่าน”
เดิมทีหมิงเยว่ยังอารมณ์ดี แต่ก็ถูกพัดหายไปเมื่อเย่ชิวพูดคำที่ไม่เหมาะสมเช่นนั้น มุมปากกระตุก นางอยากจะตบใบหน้าหล่อของเขาจริง ๆ นางไม่พูดอะไรอีก
คู่มู่ไห่ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยม แต่ปัญหาคือเย่ชิวไม่ใช่คนดีเช่นกัน
หมิงเยว่ทำสีหน้าเหนื่อยหน่าย สหายที่น่ารังเกียจคนนี้ นางได้ใช้ความกรุณาเตือนอีกฝ่ายแล้ว หากเขาไม่จริงจังกับมันก็ไม่เป็นไร แต่เขาถึงกับต้องการเอาเปรียบนา
มุมปากของหมิงเยว่กระตุก นางอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเย็นชาว่า "ถอยไป"
พูดจบ นางก็เดินตรงไปหาหยาหยา ในที่สุดนางก็เข้าใจว่านางจะไม่มีวันได้ความจริงใด ๆ จากเย่ชิว นางอาจกำหนดเป้าหมายไปที่หยาหยาและดูว่ามีอะไรพิเศษในตัวอีกฝ่ายบ้าง
ทันใดนั้นหมิงเยว่ก็ขมวดคิ้ว ขณะที่นางเดินไปที่ขอบหน้าผาและมองดูหญิงสาวที่นั่งสมาธิเงียบ ๆ นางค่อย ๆ ยื่นมือออกไปและคว้าไปในอากาศ นางรู้สึกถึงลูกไฟที่แผดเผาอยู่ในฝ่ามือของนาง
"อืม สิ่งนี้… เพลิงหัวใจ"
ก่อนหน้านี้ นางเคยได้ยินว่าเปลวไฟหัวใจที่สืบทอดมาจากดินแดนเพลิงนั้นทรงพลังมาก มันคือเปลวไฟที่ทรงพลงอย่างไม่ต้องสงสัย
ในอดีต นางได้เห็นเพลิงหัวใจของดินแดนเพลิงที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน มันทรงพลังจริง ๆ อย่างไรก็ตาม ราวกับว่าบอลเพลิงบนร่างของหยาหยานั้นบริสุทธิ์กว่า และพลังของมันเพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่า
ในช่วงเวลานั้น หมิงเยว่ตกตะลึง "ไม่ถูกต้อง มีบางอย่างผิดปกติ"
นางฉลาดมาก และสังเกตเห็นความผิดปกติทันที นี่ไม่ใช่เปลวเพลิงหัวใจธรรมดาแน่นอน นางรู้สึกได้ว่าอักขระเพลิงหัวใจที่ไหลอยู่บนท้องฟ้านั้นบริสุทธิ์มาก เคล็ดวิชาเต๋าก็ลึกซึ้งและทรงพลัง
นางต้องการเปิดเนตรสวรรค์ของนางเพื่อดูรากฐานของมัน แต่นางก็ตระหนักว่าลูกบอลแห่งเพลิงสวรรค์ได้บังดวงตาของนาง
หมิงเยว่สับสนอย่างมาก นางหันตัวกลับและพูดกับเย่ชิวว่า "เจ้าทําอะไรกับนาง"
เย่ชิวยิ้มและยักไหล่ "ศิษย์พี่หญิง มีบางอย่างผิดปกติกับสิ่งที่ท่านพูด นางเป็นศิษย์ของข้า ข้าจะทำอะไรได้รึ ข้าแค่สอนการบ่มเพาะให้นาง"
"แค่การบ่มเพาะหรือ" หมิงเยว่ขมวดคิ้ว รูปเช่นนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การบ่มเพาะอย่างที่นางคิด ใช่หรือไม่ นางไม่รู้สึกถึงปราณใด ๆ จากหยาหยา แต่พลังอันยิ่งใหญ่ในร่างกายของนางนั้นเหนือกว่าพลังที่ผู้ฝึกตนขอบเขตฝึกปราณควรมีเสียอีก
เมื่อเห็นว่านางสังเกตเห็นความผิดปกติ เย่ชิวก็ไม่ปิดบังอีกต่อไป เขายิ้มและพูดว่า "ฮิฮิ แน่นอน ถึงข้าจะมีบุญไม่มาก แต่ข้าก็ขึ้นชื่อเรื่องทำดีกับลูกศิษย์ ข้าเห็นว่าลูกศิษย์ของข้าพื้นฐานไม่ค่อยดี ข้าจึงควักสมบัติทั้งหมดของข้าออกมาเตรียมขัดเกลานาง"
หมิงเยว่เข้าใจทันที ดังนั้นเย่ชิวจึงใช้วิธีที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ด้วยวิธีนี้ ทุกอย่างสมเหตุสมผล จากนั้น นางพยักหน้าและชมเชย "ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเอาใจใส่ศิษย์ของเจ้ามากขนาดนี้"
ทันใดนั้นนางก็อิจฉาหยาหยา ในตอนนั้น นางไม่เคยมีประสบการณ์กับการมีอาจารย์ที่ปกป้องนางอย่างสุดหัวใจ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับอาจารย์ที่ดีเช่นนี้ มันสามารถช่วยชีวิตนางจากความพ่ายแพ้มากมายบนเส้นทางของการบ่มเพาะ
เมื่อเห็นนางเคลื่อนไหวและมีสีหน้าอิจฉา เย่ชิวยิ้มอย่างเฉยเมยและพูดว่า "ก็ไม่มีอะไรมาก เนื่องจากพวกนางยอมรับว่าข้าเป็นอาจารย์ของพวกนาง เป็นโชคชะตาของข้ากับพวกนาง ภารกิจของข้าคือปกป้องพวกนาง ข้าไม่มีความทะเยอทะยานมากนัก ข้าต้องการปกป้องทุกคนภายใต้สามารถของข้าเท่านั้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว"
หมิงเยว่จิตใจสั่นคลอนเมื่อได้ยินดังนั้น ร่างกายของนางสั่นเล็กน้อย และดวงตาของนางเผยให้เห็นถึงอารมณ์ที่แปลกประหลาด นางไม่คิดว่าชายใจดำคนนี้จะมีด้านเช่นนี้ ดูเหมือนว่านางจะคิดอคติเกินไป
เขาพิถีพิถันและยินดีใช้จ่ายเพื่อคนที่เขาห่วงใย เขาไม่ใช่คนขี้งกที่เห็นแต่ผลประโยชน์ หมิงเยว่อิจฉาหยาหยามาก นางโชคดีมากที่ได้พบกับอาจารย์ที่ปฏิบัติต่อนางด้วยความจริงใจ
"อืม" หมิงเยว่ไม่ได้พูดอะไรอีก นางชื่นชมเย่ชิวจากก้นบึ้งของหัวใจ ด้วยนิสัยใจคอ จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาโดดเด่นมาก หลังจากนั้นไม่นาน หมิงเยว่ก็พูดต่อ
"เจ้าให้สมบัติอะไรกับนาง เหตุใดพลังของมันถึงน่ากลัวมากเช่นนี้"
"ก็ไม่มีอะไรดีมากนักหรื ข้าก็แค่ให้เห็ดหลินจือเพลิงสวรรค์แก่นาง เพื่อพยายามขัดเกลานาง"
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา หัวใจที่สงบแต่เดิมของหมิงเยว่ก็ปั่นป่วนทันที
"อะไรกัน" นางฟังไม่ผิด เห็ดหลินจือเพลิงสวรรค์อย่างน้อยที่สุดก็เป็นยาอายุวัฒนะ เย่ชิวเอาออกมาอย่างง่ายดายเพื่อขัดเกลาร่างกายของหยาหยา สิ่งนี้เรียกว่าไม่มีอะไรมากงั้นหรือ
"เจ้า… เจ้า… " มุมปากของหมิงเยว่กระตุก และนางสูญเสียสติรับรู้ ชายคนนี้ดูจริงจังมากจนนางต้องการตบหน้าเขา
"ฟู่ว… " หมิงเยว่ตกใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ นางหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อสงบสติอารมณ์ ไม่เป็นไร มันเป็นแค่ยาอายุวัฒนะ พูดตามตรง นางก็มีเช่นกัน
จากนั้น นางถามว่า "คุณภาพระดับใด"
เมื่อเย่ชิวได้ยินสิ่งนี้ เขาครุ่นคิดเป็นเวลานานและค่อย ๆ พูดว่า "มันไม่ได้ดีมากนัก เป็นเพียงยาอายุวัฒนะระดับสูงสุดที่แสนจะธรรมดา เฮ้อ ศิษย์พี่หญิง ข้าแค่ตั้งใจสอน ข้าไม่รู้อะไรมาก หากมีอะไรไม่เข้าใจ ข้ายังคงต้องถามท่านอีกในอนาคต"
เย่ชิวแสร้งทําเป็นอ่อนน้อมถ่อมตน
"นี่… "