ตอนที่ 285 จลาจล
ตอนที่ 285 จลาจล
“วันนี้เธอเป็นอะไร? ถ้าเธอละเมิดกฎโดยไม่มีเหตุผลเธอจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงนะ” หญิงอ้วนที่อยู่ใกล้ ๆ เซียวรั่วหยูกล่าวขึ้นมาอย่างสงสัย
เซียวรั่วหยูกัดริมฝีปากแน่นโดยไม่กล้าพูดอะไรออกไป โดยก่อนหน้านี้การกระทำของเซี่ยเฟยทำให้เธอกลับมามีความหวังที่จะได้กลับไปหาครอบครัวของเธอบนโลกอีกครั้ง แต่เสียงตำหนิของหญิงอ้วนคนนี้ก็ดึงเธอกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง
“อย่าเข้มงวดไปนักเลย หยูเอ๋อยังเด็ก ปล่อยเธอไปเถอะ” หญิงสาวผู้โดดเด่นที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
หญิงอ้วนรีบพยักหน้ารับและก้าวเท้าออกไปเพราะว่าเธอรู้สึกกลัวหญิงสาวคนนี้มาก
“พวกเรากลับกันเถอะ” หญิงสาวผู้นำกล่าวพร้อมกับเดินมาจับมือเซียวรั่วหยู
แน่นอนว่าเซียวรั่วหยูยังไม่ต้องการที่จะจากไป เพราะในที่สุดเธอก็เพิ่งได้พบกับเซี่ยเฟยหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี และถึงแม้ว่าเธอกับเซี่ยเฟยจะไม่ใช่คนในครอบครัว แต่พวกเขาทั้งสองก็ผ่านทุกข์ผ่านสุขร่วมกันมาเป็นเวลาหลายวัน ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยเฟยยังแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาจดจำเธอได้ มันจึงทำให้หญิงสาวได้นึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นบนดาวโลก
อย่างไรก็ตามเซียวรั่วหยูก็ไม่สามารถที่จะขัดคำสั่งหญิงสาวผู้นำคนนี้ได้ เธอจึงเดินตามผู้หญิงคนนี้ออกไปพร้อมกับมองย้อนกลับไปทางเซี่ยเฟยด้วยน้ำตา
“รอฉันก่อน! อย่าพึ่งหนีไปไหน!!” เซี่ยเฟยตะโกนออกมาเสียงดังเมื่อได้เห็นว่าเซียวรั่วหยูกำลังจะจากไปแล้ว แต่เพื่อป้องกันความสงสัยเขาจึงจงใจชี้นิ้วไปที่บุชเชอร์
แน่นอนว่าทุกคนย่อมคิดว่าเซี่ยเฟยกำลังคุยกับบุชเชอร์อยู่ มีเพียงแต่เซียวรั่วหยูเท่านั้นที่รู้ว่าเซี่ยเฟยกำลังพูดกับเธอ
‘ขอโทษด้วยนะพี่เฟยครั้งนี้ฉันอยู่รอพี่ไม่ได้แล้วจริง ๆ แค่รู้ว่าพี่ยังมีชีวิตอยู่ก็ทำให้ฉันดีใจแล้ว ลาก่อนค่ะ หวังว่าพวกเราจะมีโอกาสได้มาเจอกันใหม่’ เซียวรั่วหยูพูดกับตัวเองภายในใจก่อนที่จะก้มหน้าลงไปมองพื้นอย่างหมดหนทาง
เมื่อได้เห็นว่าพวกเซียวรั่วหยูกำลังจะจากไปแล้วเซี่ยเฟยก็ยิ่งร้อนใจมากขึ้นกว่าเดิม เขาจึงเหวี่ยงดาบอีวีสเซอเรทออกไปอย่างดุเดือดพร้อมกับทำการจู่โจมออกไปอย่างบ้าคลั่ง
ดาบขนาดใหญ่เคลื่อนไหวราวกับว่ามันบินได้โดยมีเป้าหมายในการจู่โจมไปยังเท้าของบุชเชอร์
ชายฉกรรจ์ไม่ได้ใช้อาวุธของตัวเองในการสกัดกั้นการโจมตีของเซี่ยเฟย แต่เขาเลือกที่จะกระโดดลอยขึ้นไปในอากาศ ก่อนจะพบว่าเซี่ยเฟยได้เร่งการโจมตีเข้ามาอย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
ปัง! ปัง! ปัง!
เซี่ยเฟยทำการจู่โจมต่อเนื่องถึงสามครั้ง ซึ่งทุกครั้งบุชเชอร์ก็กระโดดหลบการโจมตีจนทำให้มีรอยปริแตกบนแผ่นโลหะผสมปรากฏขึ้นมามากกว่า 10 จุด
หลังจากหลบการโจมตีต่อเนื่องของเซี่ยเฟย บุชเชอร์ก็มองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเย็นชาพร้อมกับเม็ดเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผาก เพราะเขาไม่สามารถคาดเดาได้จริง ๆ ว่าเซี่ยเฟยกำลังเล่นละครหรือกำลังต้องการจะฆ่าเขาจริง ๆ กันแน่
การจู่โจมอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นจนไม่สามารถนั่งติดเก้าอี้ได้อีกแล้ว และถึงแม้ว่าการแข่งขันในก่อนหน้านี้จะน่าตื่นเต้นพอสมควร แต่พวกมันก็ไม่สามารถสร้างความตื่นเต้นได้มากกว่าฉากการจู่โจมต่อเนื่องของเซี่ยเฟย
ชายหนุ่มหันหน้าไปยังจุดที่อยู่กึ่งกลางของเวที จากนั้นเขาก็พยักหน้าเบา ๆ เป็นสัญญาณจนทำให้บุชเชอร์ชะงักไปเล็กน้อย
ในครั้งนี้เซี่ยเฟยกับบุชเชอร์ไม่ได้โจมตีในทันที แต่ค่อย ๆ รวบรวมพลังราวกับว่าพวกเขาตั้งใจจะสร้างความเสียหายให้รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
บุชเชอร์พุ่งตัวออกไปพร้อมกับขวานขนาดใหญ่ในมือทั้งสองข้าง แต่การโจมตีในครั้งนี้แตกต่างจากการโจมตีโดยปกติ เพราะขวานของเขากำลังแดงฉานไปด้วยความร้อน!
“นั่นมันพลังความร้อน! บุชเชอร์กำลังจะเอาจริงแล้ว” ผู้ชมตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“ตายซะ!!” บุชเชอร์เกร็งกล้ามเนื้อจนทำให้เห็นกล้ามแขนที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดอย่างชัดเจน จากนั้นเขาก็รวมพลังจากส้นเท้าง้างขวานยักษ์จากด้านหลังจู่โจมออกไปจนเห็นเป็นเส้นรูปครึ่งวงกลม!
นี่คือการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของบุชเชอร์และการจู่โจมในครั้งนี้มันก็จะส่งผลกระทบต่อพละกำลังของเขาเป็นอย่างมาก!
ตูม!
แรงระเบิดมหาศาลได้ปะทะเข้ากับพื้นและทำให้หินแกรนิตใต้แผ่นโลหะผสมแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ!
แน่นอนว่าการโจมตีในครั้งนี้ไม่ได้ตกกระทบที่ร่างของเซี่ยเฟย เพราะในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเซี่ยเฟยได้หายไปในทะเลเพลิง ร่างของชายหนุ่มก็กระโดดขึ้นไปบนฟ้าลอยสูงจากพื้นมากกว่า 20 เมตร
ฮาร์ชธันเดอร์!
ชายหนุ่มจับด้ามดาบเหนือศีรษะด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนที่จะฟาดฟันมันลงมาจนทำให้ผู้ชมได้เห็นเหมือนกับลำแสงเลเซอร์ที่พุ่งลงไปทางบุชเชอร์!
ตูม! ! !
ผลของการโจมตีในครั้งนี้รุนแรงมากยิ่งกว่าการโจมตีของบุชเชอร์ เพราะดาบอีวีสเซอเรทได้จมทะลุแผ่นหินพุ่งเข้าไปเสียบสิ่งที่ซ่อนอยู่ด้านใน
แรงระเบิดจากการโจมตีของเซี่ยเฟยทำให้แม้แต่ผู้ชมบางคนบนอัฒจันทร์ก็ยังโดนเศษหินปลิวเข้าไปกระแทก ซึ่งมันได้แสดงให้เห็นว่าการโจมตีในครั้งนี้รุนแรงมากแค่ไหน!
เหล่าผู้ชมบนอัฒจันทร์ต่างก็รู้สึกหวาดกลัวและพยายามซ่อนตัวอยู่ใต้ที่นั่งเพื่อหลีกเลี่ยงเศษหินที่กระเด็นขึ้นมาบนฟ้า ทำให้มีคนเพียงแค่ไม่กี่คนที่สังเกตเห็นว่าลำแสงเลเซอร์บนท้องฟ้ากำลังอ่อนกำลังลงเหมือนกับหลอดไฟที่กำลังจะดับ
หลังจากเวลาผ่านพ้นไปประมาณ 10 วินาที มันก็มีผู้ชมโผล่หัวออกมามองเหตุการณ์ในสนาม และเขาก็ได้เห็นว่าเซี่ยเฟยกับบุชเชอร์ยืนเคียงข้างกันโดยไม่ได้ต่อสู้เอาชีวิตกันและกันอีกต่อไปแล้ว
“ในที่สุดก็สำเร็จ!!” บุชเชอร์ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นเมื่อได้เห็นแสงเลเซอร์อ่อนกำลังลงจากเดิมเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นสัญญาณว่าพลังงานของเครื่องยิงเลเซอร์กำลังจะหมดลง แล้วมันก็เป็นเวลาที่เขาจะได้รับอิสรภาพของตัวเองคืนมา
ขณะเดียวกันทั่วทั้งร่างของเซี่ยเฟยก็กำลังสั่นขึ้นมาอย่างรุนแรง เพราะท้ายที่สุดฮาร์ชธันเดอร์ก็เป็นเทคนิคการใช้พลังจิตระดับที่ 2 ซึ่งการฝืนใช้พลังออกมาในครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดจนเกือบจะหมดสติ
“พวกเราควรจะทำยังไงต่อไปดี?” บุชเชอร์พูดขึ้นมาด้วยดวงตาอันเปล่งประกาย และเมื่อได้เห็นกับอิสรภาพที่กำลังจะมาถึงมันก็ทำให้เขาไม่สามารถที่จะระงับความตื่นเต้นภายในใจของตัวเองได้
เซี่ยเฟยมองไปรอบ ๆ และเห็นว่านักสู้หลายร้อยคนที่ถูกคุมขังอยู่ในกรงกำลังมารวมตัวกันหน้ารั้วเลเซอร์และเตรียมพร้อมอย่างตื่นเต้น ท้ายที่สุดแม้แต่คนโง่ก็มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเลเซอร์ที่ขัดขวางอิสรภาพของพวกเขากำลังอ่อนกำลังลงจนแทบที่จะหายไป
“ถ้าอยากเป็นอิสระก็ร่วมมือกับฉันและบุชเชอร์ แล้วฆ่าพวกฮุกให้หมด!!” เซี่ยเฟยยกแขนพร้อมกับตะโกนปลุกใจ
“ฆ่าฮุก!!”
“ฆ่าฮุกกับลูกน้องของพวกมันให้หมด!!!”
ในเวลาเพียงแค่พริบตานักสู้ที่ถูกขังหลายร้อยคนก็ตะโกนตอบรับคำปลุกใจของชายหนุ่ม
“ผมฝากพวกคุณทุกคนไปไล่ฆ่าพวกฮุกด้วย” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันจริงจัง
“ไม่มีปัญหา!! ฉันรอวันนี้มาตั้งนานแล้ว!!!” บุชเชอร์พยักหน้ารับอย่างหนักแน่น
เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้ชมเริ่มตื่นตระหนกและพวกเขาก็รีบวิ่งหนีไปในทันที เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็เพลิดเพลินกับสังเวียนเลือดมาเป็นเวลานาน มันจึงไม่สามารถมีใครคาดเดาได้ว่านักสู้เหล่านี้จะทำอะไรหลังจากที่พวกเขาได้รับอิสระ
“พวกมัน... พวกมันทำลายระบบพลังงาน!” ฮุกตะโกนขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“นายท่านพวกเราควรจะทำยังไงดีครับ? ตอนนี้ดัชนีพลังงานกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ผมคิดว่าเครื่องคงจะพังในเวลาอีกไม่กี่นาที”
“นายท่านรีบออกคำสั่งเถอะครับ ตอนนี้เริ่มมีคนของเราหนีไปแล้ว”
ลูกน้องของฮุกเริ่มส่งเสียงกรี๊ดร้องเมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะวิกฤต
“รีบสั่งการทหารยามด้านนอกว่าใครพยายามหลบหนีให้ฆ่าพวกมันให้หมด” ฮุกเริ่มสั่งการหลังจากที่เขาต้องใช้เวลาในการตั้งสตินานกว่า 10 วินาที
หลังจากออกคำสั่งฮุกก็ลุกยืนขึ้นพร้อมกับเดินทางกลับที่พักโดยเส้นทางหลัก และถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าการออกคำสั่งแบบนี้ไม่ต่างจากการส่งลูกน้องของตัวเองออกไปตาย แต่อย่างน้อยมันก็พอถ่วงเวลาของเหล่าสัตว์ร้ายที่กำลังจะถูกปล่อยออกมาจากกรงได้
เซี่ยเฟยเก็บดาบอีวีสเซอเรทเข้าไปในแหวนมิติ ก่อนที่จะพยายามกวาดตามองไปยังรอบ ๆ บริเวณ และถึงแม้ว่าการสังหารฮุกจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่เวลานี้เขาต้องให้ความสำคัญไปยังเซียวรั่วหยูมากกว่า
หลังจากพลังงานรั่วไหลมันจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักพักก่อนที่กรงเลเซอร์จะหายไป แต่เซี่ยเฟยกลับรู้สึกเหมือนเวลาทุกวินาทีเชื่องช้าราวกับว่าเขาต้องรอมานานนับปี
ไม่กี่นาทีต่อมาแสงเลเซอร์สีแดงก็หายไป ชายหนุ่มจึงรีบกระโดดขึ้นไปบนอัฒจันทร์ที่มีความสูงมากกว่า 20 เมตรเพื่อรีบค้นหาว่าเซียวรั่วหยูอยู่ที่ไหน
“เซี่ยเฟย!” ชายชุดคลุมน้ำเงินคนหนึ่งวิ่งตะโกนเรียกเซี่ยเฟยมาจากด้านหลัง
เมื่อจู่ ๆ มีคนเข้ามาทักชายหนุ่มก็รีบกระโดดหลบออกไปด้านข้างพร้อมกับยกมือขึ้นมาตั้งท่าต่อสู้ แต่เมื่อเขาได้มองใกล้ ๆ เขาก็ได้พบว่าผู้มาใหม่ที่ตะโกนเรียกเขานั้นคือเฉินตง!
“ไอ้บ้าเฉิน?! ทำไมนายถึงมาอยู่นี่?” เซี่ยเฟยตะโกนพร้อมกับหัวเราะออกไปเสียงดัง
“เรื่องมันยาว ตอนนี้นายไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรใช่ไหม?” เฉินตงพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มและเมื่อเขาได้เห็นเซี่ยเฟยรอดพ้นจากอันตราย เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“รีบตามฉันมาก่อนยังไม่ต้องถาม ตอนนี้ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงอันจริงจัง
“อือ!” เฉินตงพยักหน้ารับก่อนที่จะรีบวิ่งตามเซี่ยเฟยออกไปจากสังเวียนเลือด
บนท้องถนนมีคนอยู่เพียงไม่กี่คนซึ่งเซี่ยเฟยก็สันนิษฐานว่าคนส่วนใหญ่น่าจะรู้เรื่องความโกลาหลที่เกิดขึ้นมาในสังเวียนเลือดแล้ว พวกเขาจึงพยายามหลบหนีเข้าไปซ่อนอยู่ภายในบ้านของตัวเอง
“นายรู้ไหมว่าสนามบินอยู่ตรงไหน?” เซี่ยเฟยถามอย่างร้อนรน
“สนามบินมีอยู่ 2 แห่งทางตอนเหนือกับทางตอนใต้ของเมือง” เฉินตงกล่าว
“ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะไปทางใต้ นายช่วยไปทางเหนือให้ที ทำยังไงก็ได้หยุดยานอวกาศทั้งหมดเอาไว้อย่าให้ใครหนีรอดออกไปได้เป็นอันขาด” เซี่ยเฟยพูดสั่งการขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ทำไม?” เฉินตงถามด้วยความสงสัย
“อย่าพึ่งถาม ฉันกำลังมองหาผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ ถ้านายเจออะไรผิดสังเกตให้รีบปล่อยมังกรน้ำแข็งขึ้นบนฟ้าในทันทีแล้วฉันจะรีบวิ่งไปหา” เซี่ยเฟยกล่าว
แต่ก่อนที่เฉินตงจะพูดอะไรเซี่ยเฟยก็รีบวิ่งออกไปพร้อมกับส่งเสียงตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
“จำเอาไว้ว่าเธอชื่อเซียวรั่วหยู!”
—
เพล้ง!
หลี่โม่ขว้างแก้วแชมเปญภายในมือเข้าใส่กำแพงจนทำให้ของเหลวสีทองไหลลงพื้นมาอย่างช้า ๆ
“ไอ้พวกไร้ประโยชน์! พวกมันปล่อยให้เซี่ยเฟยหนีออกมาได้ยังไง” หลี่โม่ตะโกนขึ้นมาอย่างโกรธเกรี้ยว ซึ่งในขณะนี้เขาก็รู้สึกโกรธจนตัวเองจะกลายเป็นบ้า
“หาคนไปฆ่าฮุกเดี๋ยวนี้ ฉันไม่อยากเห็นหน้ามันอีกแล้ว!!”
“นายน้อยผมว่าครั้งนี้เขาคงไม่สามารถหนีรอดออกมาได้ ท้ายที่สุดเขาก็ถูกล้อมรอบด้วยนักสู้ที่หลุดออกมาจากสังเวียนเลือดเป็นจำนวนมาก มันคงไม่ต้องลำบากพวกเราไปจัดการกับเขาหรอกครับ” พ่อบ้านมีหนวดกล่าวขึ้นมาเบา ๆ
“ตอนนั้นแกบอกฉันว่าเซี่ยเฟยจะต้องตายแน่ ๆ ไม่ใช่เหรอ? แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น!” หลี่โม่จ้องมองไปยังพ่อบ้านของตัวเองอย่างดุดัน ซึ่งมันก็ทำให้พ่อบ้านคนนั้นก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว
“ไอ้เซี่ยเฟย! คอยดูเถอะแกไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือฉันไปได้หรอก” หลี่โม่ตะโกนสาปแช่งพร้อมกับทำลายข้าวของทุกอย่างภายในห้อง
***************