ตอนที่ 284 การต่อสู้อันดุเดือด
ตอนที่ 284 การต่อสู้อันดุเดือด
ผางชิงกับทูรามมองตามไปยังจุดที่ฉินหมางกำลังชี้ในหน้าจอด้วยความสงสัย โดยบริเวณนั้นคือพื้นโลหะผสมที่ผิดรูปเนื่องจากการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างเซี่ยเฟยกับบุชเชอร์ แต่เนื่องจากโลหะผสมชนิดนี้มีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา มันจึงยังไม่แตกแยกออกจากกัน
“ทำไมอยู่ ๆ เซี่ยเฟยถึงได้มาต่อสู้ในลักษณะนี้ล่ะ?” ทูรามถาม
“ถ้าสังเกตให้ดี ๆ ทั้งคู่พยายามโจมตีพื้นอย่างเต็มที่ และถึงแม้ว่าการโจมตีทุกครั้งจะดูเหมือนมุ่งเป้าไปที่ชีวิตของอีกฝ่าย แต่พวกนายเคยคิดบ้างไหมว่าทำไมหลังจากต่อสู้มาครึ่งชั่วโมง มันถึงยังไม่มีใครได้รับอันตรายในระหว่างการต่อสู้เลย” ฉินหมางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เซี่ยเฟยเป็นนักสู้ที่มีพลังสายความเร็ว ดังนั้นเขาจึงเคลื่อนไหวได้เร็วมาก และถึงแม้ว่าหลาย ๆ ครั้งมันอาจจะดูเหมือนเขาสามารถหลบหลีกการโจมตีได้อย่างฉิวเฉียด แต่ความจริงแล้วการโจมตีพวกนั้นก็ไม่สามารถที่จะคุกคามเขาได้เลย”
“ขณะเดียวกันถึงแม้ว่าบุชเชอร์จะตัวใหญ่แต่เขาก็สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไว มันจึงทำให้เซี่ยเฟยไม่สามารถใช้ดาบเล่มใหญ่เล่มนั้นในการทำร้ายศัตรูได้เช่นกัน” ผางชิงพยายามอธิบายสถานการณ์ในสังเวียน
“สิ่งที่นายอธิบายเป็นเพียงเหตุการณ์ที่พวกเขาต้องการจะให้คนอื่นเห็นเท่านั้น อย่าลืมว่าพลังพิเศษของบุชเชอร์คือลาวา ขณะที่เซี่ยเฟยก็ยังมีพลังจิตนอกเหนือจากความเร็ว แต่หลังจากที่พวกเขาต่อสู้มานานกว่าครึ่งชั่วโมง ทำไมพวกเขาถึงไม่ใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองออกมาล่ะ?” ฉินหมางกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“คู่ต่อสู้ในครั้งนี้แข็งแกร่งมาก บางทีพวกเขาอาจจะต้องการเก็บซ่อนไพ่ตายของตัวเองเอาไว้ก็ได้ ท้ายที่สุดนักสู้ที่ดีก็มักที่จะเก็บไพ่ตายเอาไว้ในช่วงเวลาที่สำคัญ เพราะหากศัตรูได้เจอการโจมตีที่เหนือความคาดหมาย มันก็จะทำให้พวกเขามีโอกาสได้รับชัยชนะมากยิ่งขึ้น” ทูรามกล่าวแสดงความเห็น
ผางชิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วยและถึงแม้ว่าระดับความสามารถของเขาจะต่ำกว่าฉินหมางและทูราม แต่เขาก็ยังเข้าใจหลักการต่อสู้พื้นฐานในเรื่องนี้ดี
“สิ่งที่นายพูดมาก็ถูก แต่นายไม่สังเกตเลยเหรอว่าเซี่ยเฟยกับบุชเชอร์ต่อสู้ในพื้นที่รัศมีเพียงแค่ไม่กี่ร้อยตารางเมตร ทั้ง ๆ ที่สนามต่อสู้กว้างมากตั้งขนาดนั้น” ฉินหมางกล่าวพร้อมกับส่ายหัวอีกครั้ง
“เรื่องนี้มันก็ทำความเข้าใจได้ไม่ใช่เหรอ เพราะปกติการต่อสู้ไม่ได้วัดกันเพียงแค่ทักษะในการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรักษาโมเมนตัมในระหว่างการต่อสู้ด้วย ทั้งคู่เลยพยายามรักษาพื้นที่ของตัวเองเอาไว้ไม่ยอมถอยห่างออกไป เพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น” ทูรามกล่าว
ฉินหมางดูพอใจกับคำตอบของทูรามมาก เขาจึงเอามือมาเท้าคางเอาไว้พร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
เหตุการณ์นี้ทำให้ทูรามรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะในตอนแรกฉินหมางรู้สึกโมโหกับสถานการณ์ของเซี่ยเฟยเป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่เขาได้รับชมการต่อสู้มาครึ่งชั่วโมงใบหน้าของชายชราคนนี้กลับเปลี่ยนไปอย่างผ่อนคลาย ราวกับว่าเขาได้ค้นพบอะไรบางอย่างที่คนอื่นมองไม่เห็น
“เซี่ยเฟยทำได้ดีจริง ๆ บางทีสิ่งที่เขากำลังพยายามทำก็คือทำให้ทุกคนคิดเหมือนนาย” ฉินหมางกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกายจนทำให้ทูรามกับผางชิงรู้สึกสับสนมากขึ้นกว่าเดิม
พวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังตกอยู่ในเมฆหมอกที่มองไม่เห็นความจริง และฉินหมางก็ยังไม่ยอมพูดออกมาสักทีว่าเซี่ยเฟยกำลังพยายามจะทำอะไรกันแน่
“คอยดูกันต่อไปเถอะ ฉันหวังว่าเซี่ยเฟยจะไม่ทำให้ฉันรู้สึกผิดหวัง แต่เขาก็จำเป็นจะต้องพึ่งพาโชคอีกเล็กน้อย” ฉินหมางกล่าว
—
การต่อสู้ยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือดและการโจมตีของพวกเขาทุกครั้งก็เหมือนกับพยายามจะเอาชีวิตของเป้าหมาย
ตูม!
ทุกครั้งที่พวกเขาปะทะกันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอย่างรุนแรง และเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันมันก็ให้ความรู้สึกราวกับว่ามีเปลวไฟในแววตาถูกส่งออกมาปะทะกันตลอดเวลา
“ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” บุชเชอร์พูดขึ้นมาด้วยเสียงกระซิบเพื่อให้พวกเขาได้ยินกันเพียงแค่สองคนเท่านั้น
“ฉันยังหาไม่เจอ มันอาจจะต้องใช้เวลาอีกหน่อย” เซี่ยเฟยกล่าวตอบกลับไป
“ฉันให้เวลาอีก 5 นาที หลังจากนี้ข้อตกลงทุกอย่างจะถือว่าเป็นโมฆะ”
“ได้” เซี่ยเฟยตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
หลังจบบทสนทนาลับสั้น ๆ ระหว่างคนทั้งสอง เซี่ยเฟยก็ถ่มน้ำลายใส่อีกฝ่ายในระยะใกล้จนทำให้ดวงตาบุชเชอร์รู้สึกระคายเคือง
“ไอ้สารเลว! วันนี้ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้!!” บุชเชอร์ร้องคำรามขึ้นมาด้วยความโกรธ แต่ภายในใจของเขาก็กำลังคิดว่าเซี่ยเฟยเล่นละครเหมือนจริงมากเกินไปแล้ว
“ถ้ามีปัญญาก็มาเอาชีวิตของฉันไป” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างห้าวหาญพร้อมกับชูนิ้วกลางให้บุชเชอร์
“ตายซะ!!” บุชเชอร์ร้องคำรามพร้อมกับยกขวานขนาดใหญ่ขึ้นไปบนท้องฟ้าและฟาดฟันลงมาด้วยความรุนแรง
ตูม!
การจู่โจมในครั้งนี้ทั้งรวดเร็วและรุนแรงเป็นอย่างมาก จนทำให้เซี่ยเฟยสามารถหลบหนีออกไปได้อย่างฉิวเฉียดเพียงเท่านั้น
เมื่อผู้ชมได้เห็นเซี่ยเฟยเกือบได้รับอันตราย พวกเขาก็ยิ่งร้องตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการต่อสู้หลังจากนั้นก็ทำให้พวกเขารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
“ไปลงนรกซะ!” หลังจากหลบการโจมตีเซี่ยเฟยก็ทำการโต้ตอบกลับไป ซึ่งบุชเชอร์ก็รีบกระโดดหลบออกไปด้านข้างจนทำให้การโจมตีของเซี่ยเฟยไปกระทบลงบนพื้น
ตูม!
ในที่สุดแผ่นโลหะผสมบนพื้นก็ไม่สามารถทนรับแรงปะทะได้อีกต่อไป จนทำให้เกิดรอยแยกเผยให้เห็นช่องว่างที่มีหินแกรนิตเป็นฐานด้านล่างอีกชั้นหนึ่ง
“นายท่านพวกเราหยุดการแข่งขันเอาไว้แค่นี้ก่อนดีไหมครับ? พวกเขาโจมตีรุนแรงมากเกินไปจนทำให้พื้นสนามได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงแล้ว” หนึ่งในลูกน้องของฮุกรีบรายงานสถานการณ์อย่างเร่งด่วน
“อย่าพึ่งมากวน! ฉันกำลังมัน!! ความเสียหายแค่นั้นเป็นเพียงแค่ความเสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ นายรู้ไหมว่าการแข่งขันครั้งนี้ทำเงินได้เท่าไหร่แล้ว อยู่ ๆ จะให้มาหยุดการแข่งขันไปได้ยังไง นายออกไปได้แล้ว” ฮุกกล่าวพร้อมกับโบกมืออย่างเฉยเมย
เมื่อได้ยินเจ้านายสั่งการมาแบบนั้นลูกน้องของฮุกก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องล่าถอยไป
—
ขณะเดียวกันเซียวรั่วหยูที่รับชมการต่อสู้อยู่บนอัฒจันทร์ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ทั้งความเศร้า, ความกลัวและความคิดถึงที่ปะทุขึ้นมาในใจของหญิงสาวคนนี้
หญิงอ้วนที่อยู่ข้าง ๆ เซียวรั่วหยูคอยดุเธออยู่ตลอดเวลาว่าเธอจะต้องผ่านเหตุการณ์นี้ไปให้ได้ แต่ถึงกระนั้นเซียวรั่วหยูก็ยังไม่สามารถทำใจให้สงบได้อยู่ดี
“ไปกันเถอะ” ทันใดนั้นหญิงสาวผู้ที่สวยงามราวกับนางฟ้าและมีความโดดเด่นที่สุดในกลุ่มก็พูดขึ้นมา ก่อนที่เธอหันหลังนำทุกคนออกไป
“ไม่!!” เซียวรั่วหยูตะโกนขัดด้วยความตื่นตระหนก
***************
น้องจะไปแล้วนะพี่เฟยยยยย