ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 678 ภัยรอบตัว (ฟรี)
ซู่เสี่ยวไป่นั้นมีลางสังหรณ์บางอย่างที่แรงกล้ามาก เขารู้สึกได้เลยว่าหากฝึกฝนตั๋นไท่ไป่เฮ่าอย่างดี เธออาจจะโตมาเป็นยอดอัจฉริยะที่ไม่อาจจะมีใครเทียบเคียงได้อีกแล้ว และอาจจะช่วยเหลือเขาได้ในเวลาที่เขาต้องการ
เด็กน้อยนั้นอยู่กับแม่ของเธอมานาน และมีความปรารถนาที่อยากจะแข็งแกร่งอย่างชัดเจน แต่เด็กน้อยก็ไม่ได้มีความหยิ่งยะโสแต่อย่างใด เธอกลับเป็นเด็กที่เรียบร้อย และสุขุม ซึ่งทำให้ซู่เสี่ยวไป่คิดถึงทุกครั้งที่มีเวลา
“ลูกไป่ ในตัวของลูกมีพลังที่หาได้ยาก มันทั้งทรงพลังแต่ก็อันตรายมากๆ ลูกต้องเรียนรู้ที่จะใช้มัน และสัญญากับพ่อว่าลูกจะใช้มันเพื่อปกป้องแม่ของลูก เข้าใจไหม”
“อืม!”
ตั๋นไท่ไป่เฮ่าพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เพราะเธอนั้นเชิดชูและบูชาพ่อของเธออย่างสุดหัวใจอยู่แล้ว
เมื่อเทียบกับทั้งสองแม่ลูกแล้ว ซุ่หลิงเกอเองก็ได้ทะลวงเขตแดนจ้าวภัยพิบัติด้วย เวลานี้เธอดูโตขึ้นและนิ่งสงบราวกับทะเลสาบในฤดูใบไม้ร่วง เธอไม่ได้ปล่อยตัวให้หลงไหลไปกับพลัง และมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงเธอ
นี่คือสิ่งที่ซู่เสี่ยวไป่นั้นชอบในตัวซู่หลิงเกอ หญิงสาวเป็นคนที่ใจเย็นและมีเหตุผลมาก ไม่ว่าจะมั่งคั่งหรือทรงอำนาจแค่ไหน เธอก็ยังคงมีความต้องการที่เหมือนเดิมและไม่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นอะไรที่หาได้ยากมากสำหรับผู้ฝึกตน
“เขตแดนภัยพิบัติต่างจากเขตแดนโบราณอย่างมาก ตอนนี้ชีวิตของทุกคนได้เชื่อมเข้ากับจักรวาลทวีปใหญ่แล้ว ตราบใดที่จักรวาลไม่ล่มสลาย ก็จะไม่มีใครตาย”
ซู่เสี่ยวไป่อธิบายให้กับทุกคนฟัง
ซู่หลิงเกอพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่จะยิ้มน้อยๆออกมา
“แค่ได้อยู่กับพี่ไป่ก็พอแล้ว จักรวาลแห่งนี้กว้างใหญ่ไพรศาล พลังนี้ยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับน้อง และน้องเองก็คงไม่กล้าใช้มันด้วย ขอแค่ได้ดูแลต้นไม้ดอกไม้ในสวนบ้านก็พอแล้วสำหรับน้อง”
มันยากมากที่จะเข้าใจพลังของเขตแดนภัยพิบัติในตอนนี้ แต่จริงๆ แล้วซู่หลิงเกอแทบไม่จำเป็นต้องใช้พลังเหล่านี้เลย แต่การที่ซู่เสี่ยวไป่ให้ตบะกับเธอนั้นเพื่อยืดอายุขัยของเธอออกไป
ซู่เสี่ยวไป่แม้ว่าจะต้องการตัดขาด แต่เขาจะไม่ทำแบบเดียวกับอาณาจักรคลื่นโบราณ เขาจะไม่ตัดขาดโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง และไม่เอาทั้งจักรวาลมาแขวนอยู่บนเส้นด้าย
การตัดขาดสำหรับเขาแล้ว คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำ และไม่มีใครรู้ว่าซู่เสี่ยวไป่จะทำมันตอนไหน
ที่จักรวรรดิสุขาวดีนั้น มังกรพิษผีดิบกำลังควบคุมลูกบาศก์ปริศนาขนาดใหญ่ ทำให้มันสามารถมองเห็นตำแหน่งดวงดาวบนท้องฟ้าได้ เพื่อระบุตำแหน่งที่อยู่ของจ้าวภัยพิบัติขั้น 10
เพราะด้วยขอบเขตพลังที่ต่ำกว่าทำให้ยากมากต่อการติดตาม เพราะงั้นถึงจำเป็นต้องใช้วิธีการพิเศษในการตามหา
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการลงทุน หลังจากที่ล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดมังกรพิษผีดิบก็สามารถระบุตำแหน่งหนึ่งในจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ได้ และอยู่ไม่ไกลจากร่างจริงซู่เสี่ยวไป่!
“นายท่าน! ห่างออกไปจากที่นายท่านอยู่ไปสามพันปีแสง มีจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 อยู่ หากพิจารณาจากตำแหน่งแล้วน่าจะเป็นผู้ปกครองสูงสุดแห่งจักรวรรดิหวู่ดา”
ซู่เสี่ยวไป่เมื่อได้กระแสจิตติดต่อมาก็ถึงกับขมวดคิ้ว
ที่จริงแล้ว พลังจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งมาก ไม่คิดว่าจะมีศัตรูเข้ามาใกล้เขาได้ถึงขนาดนี้ โดยที่เขาไม่รู้ตัว
มีความเป็นไปได้สองอย่าง
หนึ่งคือการระบุตำแหน่งของมังกรพิษผีดิบผิดพลาดและไม่มีใครอยู่ตรงนั้น
สองคือศัตรูเป็นถึงจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ซึ่งแข็งแกร่งกว่าซู่เสี่ยวไป่มากจนเขาไม่สามารถสัมผัสได้
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ซู่เสี่ยวไป่ก็ไม่อยากจะเสี่ยงเอาร่างจริงไปอยู่ใกล้ตัวตนอันตราย เขารีบแทนที่กับเงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ทันที และถอยกลับไปยังแนวรับของดินแดนดวงดาวทางเหนือ
ไม่นานกระแสพลังที่รุนแรงก็ซัดเข้ามา ปกคลุมไปทั่วจุดที่เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่
ตอนนั้นเองที่ดาบขนาดใหญ่พุ่งลงมาจากท้องฟ้าด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ ในพริบตานั้นเงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนทันที
ดาบนี้เป็นดาบเลื่องชื่อ มันไม่เพียงจะสร้างบาดแผลให้กับร่างกายอย่างเดียว มันยังปิดเส้นกาลเวลาและมิตินับหมื่น จนสามารถมองเห็นได้ถึงความบิดเบี้ยวของทุกสิ่ง
เห็นได้ชัดเลยว่าผู้ปกครองสูงสุดของจักรวรรดิหวู่ดานั้นใช้พลังแห่งกาลเวลาฟันผ่านมิติ และทุกครั้งที่มันข้ามผ่านหนึ่งมิติพลังจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น และมันไม่ได้ผ่านมาแค่มิติเดียว แต่เป็นหมื่นๆ มิติ!
เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ที่แตกสลายไปแล้วก็ฟื้นคืนกลับขึ้นมาใหม่ ก่อนที่จะจางหายไป
ผู้ปกครองสูงสุดของจักรวรรดิหวู่ดาถึงกับคิ้วขมวด
“หูตาไวดี!! แป๊บเดียวก็หนีไปจากเงื้อมมือของข้าแล้ว”
ผู้ปกครองสูงสุดของจักรวรรดิหวู่ดานั้นเข้าใกล้จุดสูงสุดของมิติและกาลเวลา ทำให้เขาสามารถสร้างการโจมตีที่มาจากอนาคตได้ และสามารถคำนวนที่อยู่และจุดที่เป้าหมายจะไปได้ก่อน ซึ่งยากมากที่จะหลบเลี่ยง ต่อให้เป็นเขตแดนเดียวกันก็ตาม
และยังเสริมความเร็วในการโจมตีอีก ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะตอบสนองได้ทัน กล่าวเลยก็คือหากว่าซู่เสี่ยวไป่ถอยออกจากตรงจุดนั้นช้าเพียงนิดเดียว เขาคงได้สิ้นชื่อไปแล้ว
สิ่งที่โดนการโจมตีเป็นเพียงแค่ร่างเงาเท่านั้น
ในจักรวรรดิสุขาวดี ซู่เสี่ยวไป่เดินเข้าไปหามังกรพิษผีดิบด้วยอาการหวาดกลัว
“ซื่อหลิง! แกทำได้ดีมาก! การระบุตำแหน่งของแกแม่นยำจริงๆ ขอให้ครั้งต่อไปยังเชื่อถือแบบนี้ได้อีก ไม่งั้นข้าคงไม่อาจจะหลบเลี่ยงการต่อสู้กับจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ได้ และอาจจะเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่!!”
สิ่งที่เขาต้องระวังไม่ใช่แค่ผู้ปกครองสูงสุดของจักรวรรดิหวู่ดา แต่ยังมีจ้าวภัยพิบัติคนอื่นๆ อีกที่ตอนนี้ได้ร่วมมือกันแล้ว ปกติเรื่องเช่นนี้เกิดได้ยากมากที่จ้าวภัยพิบัติขั้น 10 จะจับมือกันและสามัคคีกันแบบนี้
หากว่าพวกเขาร่วมมือกันดีกว่านี้ ก็ยากที่ซู่เสี่ยวไป่จะหลบหนีได้ทัน
ทุกย่างก้าวของเขานั้นอันตรายไปหมด ถ้าก้าวขาออกไปพลาดเพียงนิดเดียว ไม่รู้เลยว่าราคาที่ต้องจ่ายจะเป็นอะไร
แต่ซู่เสี่ยวไป่ไม่เคยเสียใจที่บุกไปยังดินแดนแม่ของศัตรู แต่รู้สึกเจ็บใจที่เขานั้นแข็งแกร่งไม่พอที่จะต่อกรพวกมันได้ทั้งหมด การเผชิญหน้ากับเขตแดนที่สูงกว่านั้นยากลำบากเกินไปจริงๆ
และมันน่ารำคาญอย่างมากกับซู่เสี่ยวไป่ และซู่เสี่ยวไป่จึงได้แบ่งเงาออกเป็นสองส่วนครึ่งหนึ่งบุกไปยังดินแดนศัตรูอีกครึ่งปกป้องฐานที่มั่นเอาไว้
และคนแรกที่ถูกทำลายเลยคือสหัสจักรวรรดิเก้าฟ้าไร้อนัน แม้ว่าซู่เสี่ยวไป่จะทุบตีจักรวรรดิแห่งนี้ไม่ต่างจากลูก และปะทะกันหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยสั่งให้เงาถอยกลับมา
“ไป่หยิน!! หยุดความบ้าคลั่งนี้เสียที!”
ผู้ปกครองสูงสุดของสหัสจักรวรรดิเก้าฟ้าไร้อนัน พยายามต้านทานการบุกของเงาอย่างสุดกำลังในฐานะจ้าวภัยพิบัติขั้น 9 แม้ว่าจะไม่ใช่จุดสูงสุดของเขตแดน แต่เขาก็ทรงพลังพอจนคู่ควรกับตำแหน่งผู้ปกครองสูงสุด
แต่เขานั้นก็แข็งแกร่งไม่พอ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกองทัพเงาที่ไม่กลัวเจ็บไม่กลัวตาย และพุ่งเข้ามาราวกับห่าฝน เขาเป็นฝ่ายถูกทุบตีอยู่ฝ่ายเดียว และไม่สามารถแตะต้องซู่เสี่ยวไป่ได้เลย
แม้ปากจะพูดว่าจะไม่ให้อภัย แต่หัวใจของเขานั้นกลับหนาวเหน็บไปหมด คู่ต่อสู้ของเขาน่ากลัวเกินไป ไม่ว่าจะใช้วิชาใด หรือเส้นทางสู่สวรรค์ใดก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะหยุดชายผู้นี้ได้เลย
ต่อให้ไม่ใช่เงายักษ์ และเป็นแค่เงารองที่ระดับต่ำก็มีพลังในการหักล้างพลังสวรรค์ได้ทุกอย่างเหมือนกัน
ด้วยความได้เปรียบอย่างท่วมท้นทำให้เงายักษ์เพียงอย่างเดียวซู่เสี่ยวไป่ก็สามารถที่จะบุกเอาทั้งจักรวรรดิไท่เจียงกลับมาเป็นของตนได้ หลังจากที่เห็นว่าอีกฝ่ายไม่อาจจะต้านทานได้อีกแล้ว ซู่เสี่ยวไป่จึงเรียกเงา 40 ล้านร่างมาที่นี่ทันที
“ดูดกลืนเงา!! มาหาข้าเดี๋ยวนี้!”
เงาหลัก 40 ล้านร่างได้รวมตัวกันในร่างของซู่เสี่ยวไป่ จนทำให้ขอบเขตพลังของซู่เสี่ยวไป่ใกล้เคียงครึ่งก้าวสู่เขตแดนภัยพิบัติขั้น 10 ในทันที