ตอนที่ 509-510
ตอนที่ 509
พับแขนเสื้อและเริ่มงานทันที
“ใช่แล้ว ฉันแปลกใจมากเลยพอเห็นคุณเจียงนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัว ดูเหมือนว่าจะเปียกโชกไปทั้งตัวด้วยไม่ใช่เหรอ?”
“แปลกจริง ๆ ฉันเดาว่าคุณเจียงอาจมาอยู่ที่นี่เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตก็ได้?”
“ไร้สาระน่า ฉันคิดว่าคุณเจียงอยากสัมผัสชีวิตธรรมดา ๆ ก็เลยเก็บตัว ไม่แปลกใจเลยที่คนมีชื่อเสียงกระหายวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแบบนี้”
...
ในห้องน้ำ เจียงเชิ้งหนานกำลังปรับเครื่องทำน้ำอุ่น เมื่อเห็นว่าไม่มีปัญหา เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า
“คุณป้า เฟยเสวี่ย เครื่องทำน้ำอุ่นพร้อมใช้งานแล้วนะครับ เชิญใช้ได้ตามสบาย”
ทั้งสองพยักหน้าด้วยความงุนงง
วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในห้องเช่าแห่งนี้ พวกเธอแทบไม่อยากเชื่อสายตาเลยด้วยซ้ำ
เจียงเชิ้งหนานเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะมองไปรอบ ๆ
อืม ตู้เย็นก็เก่าเหมือนกัน แถมดูเล็กด้วย ดูเหมือนจะทำความเย็นได้ไม่ดีอีก...
ส่วนทีวีเครื่องนั้นก็เก่ามากไม่ต่างจากของอื่น ๆ หน้าจอก็เล็ก ทีวีก็รับสัญญาณติดๆ ขัด ๆ คงถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว จริง ๆ...
อืม นอกจากนี้ก็ยังขาดเครื่องซักผ้า...
ขณะสังเกตรอบ ๆ ห้อง เจียงเชิ้งหนานครุ่นคิดว่าเขาควรใช้เหตุผลในการเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านี้ยังไงดี... เพื่อไม่ให้เฮอฮุ่ยและซือเฟยเสวี่ยสงสัย
...
ในคืนนั้น
ศูนย์การค้าที่เป็นที่ตั้งของ ‘ร้านบะหมี่ถัง’ และ ‘ร้านบะหมี่ซือ’
คนกลุ่มหนึ่งฉวยโอกาสในตอนกลางคืน แอบย่องเข้ามาอย่างเงียบ ๆ โดยหลีกเลี่ยงการมองเห็นของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้อย่างมืออาชีพ พวกเขาทั้งหมดสวมหมวกแก๊ปและหน้ากากผ้าไหมสีดำ สวมเสื้อเชิ้ตยาวและกางเกงขายาว สวมถุงมือสีดำ เหลือแค่ดวงตาคู่หนึ่งผ่านช่องหน้ากากเท่านั้น
คนแรกในกลุ่มบอกให้ทุกคนหยุดเดินในเงามืด แล้ว ค่อย ๆ เดินไปที่หน้าร้าน
มีป้ายสีสดใสแขวนอยู่บนประตูทางเข้าทั้งสองร้าน
“ร้านบะหมี่ซืออยู่นี่เองพวกเรา นึกว่าจะหายากกว่านี้ รีบจัดการเถอะ”
หลังจากอ่านชื่อร้านบะหมี่แล้ว ชายคนหนึ่งหยิบเครื่องส่งสัญญาณวิทยุออกมา แล้วพูดเบา ๆ กับพวกที่เหลือ
เนื่องจากเป้าหมายหาได้ง่ายอย่างคาดไม่ถึง ทุกคนรู้สึกพร้อมทำงานมาก ๆ ไม่นานพวกเขาก็ย่องไปอยู่ตรงหน้ากระจกของร้าน
“โอเค ลงมือกันเลย”
ชายที่เป็นผู้นำสั่งการเบา ๆ
จากนั้นใครคนหนึ่งก็หยิบเครื่องมือออกมา แล้วงัดหน้าต่างทั้งสี่มุม ในที่สุดกระจกทั้งแผ่นก็ถูกงัดออกโดยไม่มีเสียง โดยมีมือของหลายคนช่วยประคองมันให้วางลงบนพื้นอย่าง เงียบ ๆ กระบวนการทั้งหมดเงียบงันมาก แทบไม่มีเสียงเลย
“หัวหน้า เรียบร้อยแล้ว” ชายที่ทำหน้าที่งัดหน้าต่างรายงาน
ชายที่คนอื่น ๆ ในกลุ่มเรียกว่าหัวหน้าส่งสัญญาณให้ลูกน้องปีนเข้าไปทางหน้าต่าง
“ฉันไม่คิดว่างานจะราบรื่นขนาดนี้นะเนี่ย งานนี้ได้กำไรดีจริง ๆ” ชายคนหนึ่งพึมพำ
อีกหลายคนเห็นด้วยกับความคิดนี้จึงเสริมขึ้นมาว่า
“ถูกต้อง พวกเราทำงานหนักมานาน ในที่สุดก็ได้งาน ง่าย ๆ และเงินดีแบบนี้ซะที”
“จะว่าไป ที่นี่มีกล้องวงจรปิดไม่กี่ตัวเองนะ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่ามีกี่ตัวที่ใช้งานได้จริง พวกเรานี่มาได้ถูกที่ถูกเวลาจริง ๆ”
“ต่อให้กล้องจับภาพได้ก็ไม่สำคัญ เห็นพวกเราสวมใส่ชุดที่รัดกุมแบบนี้ ยังไงอีกฝ่ายก็สืบรู้ตัวจริงเราไม่ได้อยู่ดี” ชายคนหนึ่งอธิบายอย่างตั้งใจ
“แหงล่ะ เพราะเรารอบคอบถึงได้ทำงานในสายงานนี้ได้นาน”
ขณะที่กำลังคุยโม้กันอยู่นั้น พวกเขาก็ปีนเข้ามาในร้านอย่างเงียบ ๆ ผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่
มองไปรอบๆ จะเห็นโต๊ะอาหาร หม้อ กระทะ และของ อื่น ๆ ในร้านเต็มไปหมด
“หัวหน้า เราจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี?”
ก่อนเริ่มงาน ลูกน้องต้องขอคำแนะนำจากผู้นำเสมอ
ชายที่ทุกคนเรียกว่า ‘หัวหน้า’ ออกคำสั่งอย่างใจเย็น
“อย่าส่งเสียงดังเกินไป เอาล่ะทุกคน เห็นอะไรก็ทำลายให้หมด”
แน่นอนว่านี่คือคำสั่งที่ทุกคนรอคอย
คนกลุ่มหนึ่งจึงพับแขนเสื้อขึ้นและเริ่มทำงานทันที
ตอนที่ 510
ความหายนะที่ไม่มีที่สิ้นสุด
พวกเขารู้ดีว่างานนี้ไม่สามารถส่งเสียงดังได้ คนกลุ่มนี้จึงแยกย้ายกันไปอย่างเงียบ ๆ อาศัยแสงสลัวรางจากทางเดินที่ส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง พวกเขาก็เห็นเป้าหมายแล้ว
อืม? ผ้าปูโต๊ะสีขาวนี่เห็นแล้วแสบตาจริง ๆ สงสัยต้องใช้มีดกรีดสักหน่อย
เสียง “แคว่กๆ” ดังขึ้น ผ้าปูโต๊ะถูกมีดกรีดจนขาดเป็น ริ้ว ๆ จนไม่เหลือความสวยงามเลย
“อื้อหือ เสียงนี้เพราะจริง ๆ ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกดี สะใจว่ะ!”
ชายคนหนึ่งที่ใช้มีดกรีดผ้าปูโต๊ะพึมพำเบา ๆ ขึ้นมาขณะกรีด
“ไม่เด็ดเท่าของฉันหรอกน่า ดูนี่สิ”
ชายอีกคนหนึ่งเล็งมีดไปที่เก้าอี้แล้วแทงลงไป ก่อนกรีดเป็นรอยยาว แล้วควักไส้ในออกมาจนเกือบหมด
“ดูผลงานอันวิจิตรของฉันสิพวก!”
ชายที่กรีดเบาะเก้าอี้แล้วควักไส้ในออกมา เขาปั้นไส้ในเป็นก้อน ๆ แล้วโยนกระจัดกระจายไปทั่วห้อง
“เห็นกันไหม นี่แหละ ผลงานที่จะทำลายความรู้สึกเจ้าของร้านที่นี่”
โรยก้อนสำลีเสร็จ ชายอีกคนก็ไม่ลืมสังเกตของบนโต๊ะ
“โอ้โห มีแจกันสวย ๆ อยู่บนโต๊ะซะด้วย น่าเสียดายที่เล็กไปหน่อย บีบนิดเดียวก็แตกแล้ว”
เขาหยิบแจกันขึ้นมาแล้วทุบลงบนพื้นเบา ๆ ก่อนหยิบแจกันอีกอันมาบีบจนแตกคามือ
“จุ๊ๆๆ สมบูรณ์แบบที่สุด ฉันนี่เป็นคนมีพรสวรรค์จริง ๆ เห็นกันรึยังว่ามือฉันทรงพลังขนาดไหน? ของพวกนี้ไม่คณามือฉันหรอก แต่อยากรู้จริง ๆ ว่าเจ้าของร้านมีรสนิยมแบบไหนถึงแต่งร้านได้ห่วยชะมัด”
คนหนึ่งในกลุ่มมองซ้ายมองขวา ก่อนเงยหน้าขึ้นมองโคมระย้าที่ห้อยลงมาจากเพดาน
“อ๊ะๆๆ ดูสิพวกนาย เห็นโคมระย้านั่นไหม ดูแพงนะเนี่ย เหมือนจะเป็นที่นิยมในหมู่คนรวยด้วยไม่ใช่เหรอ? ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นมันในที่แบบนี้”
หลังจากพูดจบเขาก็กระโดดขึ้นบนโต๊ะ แล้วโยนมีดขึ้นไปตัดสายยึดบนโคมระย้าอย่างรวดเร็ว
ยังไม่พอ เขายังเหยียบหลอดไฟของโคมระย้าซ้ำอีกจนแตกละเอียด
เมื่อเห็นว่าโคมระย้าถูกเหยียบย่ำเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ชายคนนั้นก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“เท่านี้ผลงานของฉันก็เสร็จแล้ว”
มีบางคนในกลุ่มแอบเข้าไปในห้องครัว เนื่องจากห้องครัวอยู่ด้านในสุด เขาจึงเปิดไฟฉายขึ้นมาส่องดู
“เฮ้ มีของในตู้เย็นเพียบเลย อยากลองกินกันไหมพวก?”
ชายคนหนึ่งเปิดตู้เย็น แล้วพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าในนั้นเต็มไปด้วยส่วนผสมของอาหารรสเลิศต่าง ๆ
“กิน... ในเวลาแบบนี้ยังมาสนใจเรื่องกินอีกเหรอ?”
ชายคนหนึ่งที่เดินตามเข้ามา ก่อนโผล่หัวมาดู แล้ววิจารณ์ร้านนี้ขึ้นมาว่า
“ร้านนี้ขายของดีขนาดนี้เลยเหรอ? ต้องมีเงินเยอะแค่ไหนนะถึงซื้อของพวกนี้ตุนไว้ได้”
หลังจากดูของอีกครั้ง ชายคนนั้นก็เริ่มให้ความสนใจเช่นกัน
“ฉันว่า เราเลือกของอร่อย ๆ ไปให้หมดเลยดีกว่า แล้วกลับไปทำมื้อใหญ่หลังเสร็จงานกัน”
เมื่อตกลงกันได้ ทั้งสองเผอิญพบถุงพลาสติกใบใหญ่สองถึงสามใบพอดี จึงนำวัตถุดิบแสนอร่อยทั้งหมดยัดลงในถุงทีละใบจนเต็มทุกถุง
“พวกเรา ตั้งใจทำงานนะ หลังเลิกงานมีมื้อใหญ่รอทุกคนอยู่!”
ทั้งสองเดินออกมาแล้วตะโกน คนอื่น ๆ ที่ได้ยินก็กระตือรือร้นกันมากขึ้น
เนื่องจากห้องครัวตั้งอยู่ด้านในสุด จึงยากที่เสียงจะดังเล็ดลอดออกไปถึงด้านนอก กลุ่มคนที่อยู่ด้านในจึงปิดประตูและก่อความหายนะโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
หม้อ กระทะ และจานชามทั้งหมดถูกโยนทิ้งลงบนพื้น เสียงดัง “เพล้งๆๆ” จนแสบแก้วหู
ของในตู้เย็นที่ไม่ได้เก็บออกไป ถูกโยนทิ้งกระจัดกระจาย จนกลิ่นของคาวหลายอย่างปะปนกันไปหมด
ข้างนอกก็ยุ่งเหยิงไม่ต่างกัน โต๊ะและเก้าอี้ทั้งหมดถูกพังจนหักเป็นหลายท่อน หลอดไฟของโคมระย้าแตกละเอียด พื้นร้านเต็มไปด้วยก้อนสำลี สิ่งของขนาดเล็กถูกทุบจนแตกกระจายไปทั่วห้อง
บนเคาน์เตอร์ เครื่องดื่มและของที่ระลึกถูกขโมยไปเกือบหมด
“จุ๊ๆๆ รู้สึกว่างานในวันนี้ไม่เลวเลยจริง ๆ”
มีคนในกลุ่มบังเอิญค้นตู้จนเจอไวน์ขวดหนึ่ง เขาตื่นเต้นมากที่ได้เห็นไวน์ชั้นดี ก็รีบเปิดชิมทันทีอย่างอดใจไม่อยู่
“อย่าลืมสิ ที่นี่ยังมีของดีให้กวาดกลับไปอีกเยอะ”
ไม่นานคนสองคนก็ถือถังสีแดงใบใหญ่เข้ามา หนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า