ตอนที่ 45

บนพื้นบริเวณใกล้เคียงกับที่อเล็กซ์ยืนอยู่ ปรากฏเงาที่ใต้พื้น แต่กับไม่สามารถมองเห็นเจ้าของร่างกายได้

นี้เป็นความสามารถลอบสังหารที่น่ากลัว แต่โชคดีที่อเล็กซ์ก็เคยมีประสบการณ์มามาก

จึงทำให้พอจะรับมือได้ แม้เขาจะปิดตา เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงจิตคุกคาม และสามารถใช้ร่างกายเบี่ยงหลบตามสัญชาตญาณได้

แต่ถึงอย่างนั้น อเล็กซ์ในเวลานี้มีวิธีรับมือที่ดีกว่านั้น เขาเปิดใช้ดวงตาจักระ แม้ไม่ได้ทำท่าควบคุมจักระ แต่ก็พอมองเห็นอีกฝ่ายเป็นพลังงานจางๆ จึงทำให้ตอบโต้ได้ดีขึ้น

อเล็กซ์ถูกลุมล้อมจากทั้งสองฝั่ง แถมพวกเขามีความรวดเร็วเอามากๆ ซึ่งถือเป็นจุดบอดของตัวอเล็กซ์ในเวลานี้ ทำให้อเล็กซ์ได้แต่ตั้งรับและโจมตีสวนอีกฝ่ายไม่ได้ง่ายๆ

เขาไม่มีคลาสสายต่อสู้ขั้นสองที่แท้จริง ตลอดมาได้ความสามารถ อัจฉริยนักสู้ เพิ่มค่าสถานะร่างกายเสริมมา บวกกับประสบการณ์จึงชนะมาได้ตลอด

แต่ในเวลานี้ เจอผู้เชี่ยวชาญขั้นสองที่เติบโตพัฒนาไปแล้ว ทำให้เรื่องพลังทางกายภาพของอเล็กซ์เกิดเป็นปัญหาขึ้นมา

" เปล้งๆๆๆ "

อเล็กซ์ต้องรับศึกซ้ายขวา โดยใช้ท่อนแขนที่มีเกราะแขนรับมือกับมีดของอีกฝ่าย

แต่อาวุธของเจ้าพวกนี้ไม่ธรรมดา มันสามารถเฉือนผ่านเกราะแขนและสร้างบาดแผลให้เขาได้ มันจึงเริ่มกลายเป็นถูกคุกคามมากขึ้น

แถมพวกมันก็ได้สาดทักษะออกมาจำนวนมาก ทำให้ทุกการโจมตีรุนแรงกว่าปกติมาก

พวกนักฆ่านั้น จะมีข้อเสียในด้านการปะทะซึ่งๆหน้า แต่เมื่อพวกมันร่วมมือกันซ้ายขวา จะถือว่าเร่งอานุภาพการลอบโจมตีของคลาสตัวเอง ให้เพิ่มมากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

อเล็กซ์เริ่มโดนมีดสีแดงปาดจนเลือดไหลท่วมตัว

แต่ในจังหวะต่อมา อเล็กซ์ก็ยกมือขึ้นกลางหน้าอก พร้อมใช้ทักษะ กระสุนน้ำ พ่นออกไปใส่ค้างคาวโลหิตด้านหน้า

ค้างคาวโลหิตก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถแปลกๆแบบนี้ เขาจึงใช้ทักษะ กระโดดถอยหลัง อย่างรวดเร็ว

แต่ถึงอย่างนั้น ก็โดนกระสุนน้ำกระแทกเข้าใส่เต็ม ซึ่งกระสุนน้ำนี้ก็เพียงแค่มีแรงกระแทกหนักแน่นแค่นั้น

แต่มันก็ไม่ได้สร้างความเสียหายเพิ่มเติม

ความรุนแรงของทักษะ คุกน้ำถือได้ว่ารุนแรงกว่าพลังทางกายภาพของอเล็กซ์ในเวลานี้มาก แต่ด้วยคุณสมบัติเป็นน้ำ พลังทำลายล้างมันจึงไม่มากนัก หากเปลี่ยนเป็นไฟอีกฝ่ายคงหายไปในทันที

แต่แล้วทันใดนั้น มวลน้ำที่กระจายไปก็เคลื่อนไหวแปลกๆ มันกลายเป็นโดมน้ำและพยายามขังตัวค้างคาวโลหิตเอาไว้ภายใน

ค้าวคาวโลหิตพยายามฝืนต้านสุดชีวิต แต่ก็ถูกมวลน้ำบีบอัดเข้าใส่จนขยับตัวไม่ได้ ส่วนหนึ่งเพราะค่าสถานะของเขาคือความเร็ว ไม่ใช่พละกำลัง จึงฝืนออกมาลำบากมาก

อเล็กซ์เมื่อทำสำเร็จ เขาก็ปัดการโจมตีจากศัตรูล่องหน และตรงเข้าไปชกหมัดตรงใส่อีกฝ่ายที่อยู่ในน้ำ

แต่จู่ๆ มีดสีเลือดของค้างคาวโลหิตก็เปล่งประกาย พร้อมเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นสีแดงคล้ายเลือด

ทำให้อเล็กซ์สูญเสียการควบคุมน้ำ และมันสามารถหลุดออกมาจากคุกน้ำได้

แต่อเล็กซ์ก็ตามเข้ามาประชิดด้วยทักษะ พุ่งไปด้านหน้า พร้อมใช้ทักษะ หมัดตรง ซัดเข้าใส่หน้าอกอีกฝ่ายเต็มแรง

ค้างคาวโลหิตเห็นว่าหลบการโจมตีนี้ไม่ทันแน่ เขาจึงสวนมีดสีแดงที่เปล่งแสงแทงเข้าใส่ท้องอเล็กซ์ ด้วยสัญชาตญาณของนักฆ่าที่โชกโชน

" อุ๊ก "

หมัดที่รุนแรงซัดเข้าใส่กระดูกหน้าอกจนเกือบแตกร้าวและสะเทือนไปถึงอวัยวะภายใน

คลาสนักฆ่ามีจุดเด่นด้านความเร็วและพลังลอบโจมตีเร้นกาย แต่ไม่มีความสามารถต้านทานนัก

แม้อเล็กซ์จะไม่มีทักษะ คลาสขั้นสองปรมาจารย์นักสู้  แต่ทักษะที่เขามีก็ไม่ธรรมดา

แถมในเวลานี้ หมัดตรง ( ทะลวง )  ก็เพิ่มความชำนาญมาถึงระดับเชี่ยวชาญแล้ว

ทักษะ หมัดตรง ( ทะลวง ) ( เชี่ยวชาญ )

คำอธิบาย : เพิ่มประสิทธิภาพหมัดตรง + 155% , ( เพิ่มพลังโจมตีทะลวงโดยไม่สนพลังป้องกัน 45% )

ทำให้หมัดตรงนี้ เพิ่มอานุภาพไปเกือบ 30% ค้างคาวโลหิตจึงบาดเจ็บสาหัสในทันที

แถมด้วยความสามารถใหม่ นักสู้ผู้ผดุงธรรม ทำให้หมัดมีความรุนแรงกับพวกคลาส อาชญากรเพิ่มขึ้น 20%

ส่วนทางด้านอเล็กซ์ เขาก็ถูกมีดแทงเข้าที่สีข้าง แต่ก็พลาดจุดอันตรายไปได้ค่อนข้างไกล

แต่จังหวะนั้น เงาล่องหนก็มาถึงข้างหลังอเล็กซ์ พร้อมใช้ทักษะโจมตี ฟาดคมมีดเล็งเข้าที่คออเล็กซ์อย่างรวดเร็ว ซึ่งมันถือเป็นจุดตายที่ร้ายแรงมาก

แถมในจังหวะนั้น ค้างคาวโลหิตก็ฝืนตัวเอง ขว้างมีดบินออกมา เพื่อให้อเล็กซ์เกิดการสับสนด้านการรับมือ

แต่น่าแปลก อเล็กซ์เลือกที่จะเมินทุกการโจมตี พร้อมต่อยสวนการโจมตีใส่ร่างเงาล่องหนแทนที่จะหลบหรือป้องกัน

ทั้งๆที่ คมมีดอีกฝ่ายทั้งรวดเร็วและถึงคออเล็กซ์ได้ก่อนอย่างแน่นอน แถมด้วยมีดบินด้านหลังอีก การกระทำนี้มันดูแปลกจริงๆ

' ไอโง่ ตายซะ '

แต่ในจังหวะที่คมมีดปะทะกับคอของอเล็กซ์ มันก็เกิดภาพประหลาดขึ้น

คมมีดตัดผ่านคออเล็กซ์ไปโดยไร้แรงต้าน ซึ่งร่างล่องหนไม่รู้สึกเหมือนตัวเองตัดผ่านเนื้อคน

แต่เหมือนตัดผ่านบางอย่างที่ดูเหลว และภาพคออเล็กซ์ที่ถูกเฉือนก็กลายเป็นของเหลวขึ้นมาจริงๆ

พร้อมมีดบินที่ค้างคาวโลหิต ก็ทะลุร่างของอเล็กซ์ที่กลายเป็นน้ำ และพุ่งผ่านร่างกายไป

ซึ่งอเล็กซ์พึ่งใช้ทักษะ ที่พึ่งได้รับมาเมื่อไม่กี่วันมานี้

ทักษะ : แปลงกายวารี ( พื้นฐาน )

คำอธิบาย : แปลงร่างกายให้กลายเป็นมวลน้ำ เมินการโจมตีทางกายภาพ 100%

[ แต่แพ้การโจมตีประเภทไฟ และสายฟ้าอย่างรุนแรง ]

แถมทักษะนี้ อเล็กซ์สามารถคงสภาพมันได้เพียง 2 วินาทีเท่านั้น

แต่มันก็มากพอให้เขาหลบทุกการโจมตี และสวนกลับไปในจังหวะที่สวยงาม

' บัดซบ เจ้านี้มีคลาส นักสู้มนตรา หรือ ? '

ในช่วงสั้นๆ นักฆ่าล่องหนและค้างคาวโลหิตตื่นตระหนก เพราะความสามารถแบบนี้ ดูยังไงมันก็เป็นเวทมนต์ชัดๆ

เมื่อหลบการโจมตีทั้งหมดได้ หมัดตรงก็กระแทกเข้าใส่ร่างล่องหน จนอีกฝ่ายกระเด็นพร้อมอาการบาดเจ็บที่ใบหน้า

แต่อเล็กซ์ก็พุ่งเข้าไปประชิด พร้อมนำมือจับคออีกฝ่าย และใช้ทักษะ ตีเข่า ( กระแทก ) เข้าไปใส่อย่างแรง

แม้ร่างล่องหนจะนำมือมากัน แต่ก็ถูกเข่าส่งแรงกระแทกจนหมดสภาพในทันที

" แฮ๊กๆ "

อเล็กซ์หอบหายใจอย่างหนัก เพราะพลังงานทั้งหมดถูกใช้ไปเยอะมากๆเมื่อซักครู่ โดยเฉพาะทักษะ แปลงกายวารี

แต่เขาก็พยายามฝืนร่างกายตัวเอง เพื่อไปซ้ำร่างล่องหน ที่ในตอนนี้เผยร่างกายเป็นชายวัยกลางคนออกมาแล้ว

" ฟิ้วๆๆๆๆ "

แต่ทันใดนั้น ก็มีลูกธนูจำนวนมากพุ่งเข้าใส่อเล็กซ์ พร้อมด้วยเสียงฝีเท้าอีกจำนวนหนึ่ง

ทำให้อเล็กซ์ม้วนตัวหลบและเริ่มพยายามหลบหนีออกไปทันที เขาใช้พลังงานไปมาก ถ้าฝืนอยู่ต่ออาจจะเป็นอันตราย การต่อสู้นี้เขาทำได้ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องฝืนอีก สำหรับเรื่องลอบโจมตีนี้ ค่อยจัดการทีหลัง

ทันใดนั้นก็มีพวกโจรปรากฏตัวออกมา พร้อมด้วยดาบยาวในมือ

พวกเขารีบวิ่งไปดูอาการนักฆ่าทั้งสอง พร้อมส่วนหนึ่งที่ไล่ล่าอเล็กซ์….

….

อเล็กซ์เดินทางอย่างรวดเร็วและมาถึงกำแพงเมือง ทำให้พวกศัตรูไม่กล้าตามเข้ามา

' เรายังอ่อนแอเกินไปจริงๆ คลาสนินชู ไม่เหมาะกับการต่อสู้ยาวนาน '

อเล็กซ์มีเพียงคลาส นักสู้ ที่เหมาะสมกับการต่อสู้ ส่วนคลาสนินชู มันยังพัฒนาไม่เต็มที่ แถมมีเงื่อนไขด้านพลังทางกายภาพ ที่สู้พวกคลาสสายต่อสู้ที่เสริมพลังกายจริงๆไม่ได้

แม้เขาจะรอดมาได้ แต่ในสถานการณ์แบบนั้น ถ้ามีบุคคลอันตรายโผล่มาอีก เขาอาจจะบาดเจ็บหนักกว่านี้ก็ได้

' เราควรต้องรีบพัฒนาในด้านความสามารถ คลาส นินชู อีก '

คลาสนินชูของอเล็กซ์ ยังมีประสิทธิภาพน้อยอยู่ในเวลานี้

ถ้าอีกฝ่ายมาสู้กับเขาใต้น้ำ อเล็กซ์จะได้เปรียบและชนะอย่างง่ายดาย แต่ถ้าเป็นบนบก เขาก็ยังไม่ถือว่าแข็งแกร่งนัก

แถมเขายังขาดพวกอุปกรณ์ หรือสิ่งของช่วยเสริมความสามารถ

อเล็กซ์ก็ไม่ได้ซีเรียส เรื่องที่จะต้องใช้เพียงพลังและความสามารถของตัวเองเป็นหลัก แต่เขาสามารถใช้สิ่งของหรือสิ่งต่างๆโดยรอบเพื่อมาเสริมประสิทธิภาพให้ตัวเองได้

ในเวลานี้เขาก็เริ่มมีเงินแล้ว จึงอยากที่จะวางแผนสร้างอุปกรณ์ดีๆขึ้นมาซักอัน

' ด้วยกำลังทรัพย์เรา ก็ได้สมควรถึงแผนขั้นต่อไปแล้ว '

อเล็กซ์มีแผนอีกมาก ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ เพราะเขาเน้นพัฒนาคลาสของตัวเองเป็นหลักก่อน แต่ในเมื่อตอนนี้เริ่มถูกคุกคามขึ้น เขาก็ต้องเริ่มพัฒนาด้านอื่นๆบ้าง

…..

ผ่านไป 2 วัน

อเล็กซ์ซื้อโลหะเลเวล 25 ที่ผ่านกระบวนการเล่นแร่แปรธาตุ ด้วยราคา 100 เหรียญทอง เพื่อเพิ่มคุณสมบัติความทนทานให้เพิ่มลงไปในตัวโลหะ

และอเล็กซ์ก็จ้างช่างตีเหล็ก หลอมสร้างเกราะแขนสีม่วงออกมาได้สำเร็จ

ซึ่งอเล็กซ์นั้นมีเงินมากพอที่จะสร้างอุปกรณ์ป้องกันทั้งตัว แต่สำหรับอเล็กซ์ เขาไม่ชื่นชอบการใส่อุปกรณ์ป้องกันทั้งตัว เพราะมันจะทำให้ตัวเขามีประสาทสัมผัสรับรู้อันตรายที่ด้อยลง

แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่และเกี่ยวพันธ์กับภารกิจบางอย่าง อเล็กซ์ก็อาจจะใช้พวกอุปกรณ์เสริมเข้าช่วยได้อย่างไม่ลังเล แต่โดยปกติแล้วใช้เพียงแค่ปลอกแขนก็พอ….

แต่ถึงแม้จะได้เกราะแขนมาแล้ว แต่มันก็ยังไม่มีประสิทธิภาพสูงสุด อเล็กซ์ในเวลานี้จึงมาที่สมาคมนักปรุงยา

เขาเขียนสูตรยาประหลาดแบบไม่สมบูรณ์ขึ้นมา และมอบให้กับพนักงานสมาคม และจ้างให้ปรุงยาชนิดนี้ขึ้นมา

ซึ่งส่วนประกอบ ล้วนเต็มไปด้วยเลือดของสัตว์อสูร ซึ่งมันเป็นยาที่เป็นส่วนประกอบในการทำน้ำยาลงอักขระรูน

อเล็กซ์มีความรู้มากกว่าคนทั่วไป เขาพอเข้าใจสูตรยาลับ และเพิ่มประสิทธิภาพในการลงอักขระรูน

อเล็กซ์เสียเงินไปอีก 50 เหรียญทองและได้ยาสีน้ำเงินเข้มมา

แต่เขาก็ยังมีขั้นตอนสุดท้าย คือนำสมุนไพรและส่วนผสมพิเศษมาเพิ่มในตัวยาในภายหลัง เพราะเขาอยากจะเก็บสูตรยาขั้นสุดท้ายไว้เป็นความลับ

เมื่อทำยาเสร็จสิ้น อเล็กซ์จึงเดินทางมาสถานที่สุดท้าย คือสมาคมนักลงอักขระรูน พร้อมติดต่อกับพนักงาน

ว่าต้องการนักลงอักขระรูนที่มีระดับกลางๆ และอเล็กซ์ก็ได้เข้ามาในห้องส่วนตัวของนักลงอักขระคนหนึ่ง

นักลงอักขระรูนส่วนใหญ่เป็นชายชรา ซึ่งชายชรานักลงอักขระคนนี้ชื่อ มอเรียส

" ท่านต้องการลงอักขระรูปแบบไหน อักขระพลัง อักขระป้องกัน ? "

มอเรียสได้รับคำขอร้องเกี่ยวกับการลงอักขระมามาก เมื่อเห็นเกราะแขนสีม่วงของอเล็กซ์จึงถามในทันที

" ไม่ ข้าไม่ต้องการลงอักขระรูนตรงๆแบบนั้น ว่าแต่ท่านพอรู้เรื่องอักขระรูนแค่ไหน ? "

" เจ้าหมายความว่ายังไง เจ้ามาขอร้องให้ข้าลงอักขระให้ แต่กลับมาสงสัยความสามารถข้าหรือ ? "

มอเรียสรู้สึกโมโหเล็กน้อย อาชีพนักปรุงยา นักเล่นแร่แปรธาตุ รวมถึงนักลงอักขระรูน

พวกเขาล้วนมีความภาคภูมิใจในตัวเองที่สูงมากๆ การที่อเล็กซ์ตั้งคำถามเชิงสงสัยความสามารถกันแบบนี้ เขาจึงไม่พอใจ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

" ข้าไม่ได้ตั้งใจสงสัยความสามารถท่าน ข้าเพียงอยากได้การลงอักขระที่พิเศษเล็กน้อย ท่านพอจะรู้จัก อักขระรูน แพะ , ภูเขา , ท้องฟ้า , ดิน บ้างไหม ? "

" อักขระธรรมดาพวกนั้น ? มันเป็นเพียงภาษาที่คนธรรมดาไว้ใช้เขียนระบุต่างๆในงานเกษตรไม่ใช่หรือ ? ข้าในฐานะปรมาจารย์ก็ต้องรู้อยู่แล้วสิ "

อักขระรูน ถือเป็นภาษาแห่งธรรมชาติในโลกใบนี้ พวกมันมีกำเนิดมาตั้งแต่ก่อนภาษามนุษย์เสียอีก

ทำให้พอมีอักขระรูน หลุดไปให้คนธรรมดาดัดแปลง และใช้เป็นภาษาเขียนของชาวบ้านทั่วไป

แต่อักขระรูนพวกนั้น มันก็ไม่ได้มีความสามารถอะไรเกี่ยวกับการเพิ่มพลัง มอเรียสจึงงงว่าอเล็กซ์ถามทำไม

แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนที่ตั้งชื่อให้กับอักขระก็คือตัวมนุษย์เอง พวกเขาไม่ได้เข้าใจในความหมายของอักขระรูนจริงๆ หรือคนที่เข้าใจจริงๆก็ไม่ได้มาป่าวประกาศให้คนรับรู้โดยทั่วไป

" งั้นท่านช่วยใช้น้ำยานี้ และสลักอักขระรูน แพะ , ภูเขา , ท้องฟ้า , ดิน ใส่ลงเกราะแขนนี้ที "

" เจ้าบ้าหรือป่าว ? สลักรูนพวกนั้นไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา "

" ข้าเพียงจ้างท่าน หากท่านไม่อยากทำ ข้าก็จะไปจ้างคนอื่น "

" อ๊ะๆๆ โอเค ข้าจะทำให้ แต่ราคามันจะต้องเพิ่มเป็นพิเศษ "

นักลงอักขระ พวกเขาก็ต้องมีค่าพู่กันและพลังความสามารถของตัวเอง การลงอักขระถึง 4 ตัว ก็ใช้พลังไม่ใช่น้อยๆ

เมื่อเห็นว่าอเล็กซ์ตกลงเรื่องราคา มอเรียสจึงได้เริ่มลงมือ ลงอักขระตัวแรก แต่เมื่อลงอักขระเสร็จ มันก็ไม่มีการทำปฏิกิริยาใดๆกับปลอกแขนเลย

ซึ่งถ้าเขาลงอักขระ พละกำลัง ความทนทาน มันอาจจะแสดงผลให้เห็นไปแล้ว

ซึ่งอเล็กซ์ก็ไม่ได้สนใจ เพราะเขารู้ดี มันจะแสดงผลเมื่ออักขระรูนทั้งหมดครบถ้วนเท่านั้น

เวลาผ่านไป มอเรียสเริ่มเหงื่อตก เพราะใช้พลังงานและสมาธิในการลงอักขระไปมาก

จนกระทั่งจรดปลายพู่กันอักขระตัวสุดท้าย ทันใดนั้นแสงสว่างก็ปรากฏที่ตัวอักขระทั้ง 4 ตัว

" บ้าหน่า เกิดอะไรขึ้น ? อย่าบอกนะว่านี้คือสูตรอักขระรูนในตำนาน ? "

มอเรียสเบิกตาพองโต เมื่อเห็นตัวอักขระทำปฏิกิริยากับโลหะที่ปลอกแขนอย่างรุนแรง

ปริมาณพลังงานปะทุ ทำให้มอเรียสสัมผัสได้ถึงคลื่น พลังอักขระอย่างรุนแรงกว่าครั้งไหนๆที่เขาเคยลงอักขระรูนมาตลอดชีวิต