ความตายมักมาในหลายรูปแบบ 6
หลังจากที่มันปลดอาวุธของตัวเองด้วยความโง่เขลาของมันเอง เจ้ามิมิคจึงถูกเปลี่ยนไปยังตำแหน่งเสียเปรียบทันที
จากเดิมที่มันแทบจะไม่สามารถปัดป้องหอกสามอันด้วยดาบสามเล่มได้ของมันได้
ดังนั้นความคิดที่จะเผชิญหน้ากับหอกสามอันด้วยดาบเพียงสองเล่มจึงยากขึ้นไปอีก
มันถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างไม่มั่นคง เพราะไม่รู้ว่ามันจะทำอย่างไรต่อไปในตอนนี้
มันควรจะหนีไปใช้ชีวิตและกลับมาสู้วันอื่นดีไหม? และนั่นเป็นทางเลือกที่ถูกต้องจริงๆเหรอ?
ถึงวิ่งหนีไปมันจะหาอาหารเจออีกไหม? คนเหล่านี้จะปล่อยให้มันหนีไปตั้งแต่แรกหรือไม่?
ทำไมถึงมีหินที่ดูเหมือนหัวหนูอยู่บนพื้น? ลองคิดดูสิว่าทำไมไม่มีสัตว์ประหลาดตัวอื่นอยู่รอบๆ?
แล้วทำไมจู่ ๆ มันถึงถามคำถามต่างๆเหล่านี้กับตัวเอง? โดยทุกคำถามและความคิดของมันในตอนนี้ไม่มีสิ่งใดที่มันนึกถึงความตายของตัวมันเอง
ตอนนี้ยังคงมีระยะห่างระหว่างมันกับทหารอยู่บ้าง ซึ่งดูเหมือนพวกเขาจะระมัดระวังที่จะเข้าใกล้มัน
เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังรอให้เพื่อนของพวกเขากลับมาต่อสู้อีกครั้ง และดูจากสถานการณ์แล้ว มันจะใช้เวลาไม่นานัก
เจ้ามิมิคจำเป็นต้องต่อสู้กลับ แต่การจะทำอย่างนั้นได้นั้น มันจำเป็นต้องมีอาวุธใหม่
โชคดีที่ใต้เท้ามีศพที่มีอาวุธอยู่สองศพ และคนตายก็ใจกว้างมาเกี่ยวกับการแบ่งบนสิ่งของของพวกเขา มันเอื้อมหนวดที่ว่างของมันลงมาและพันรอบหอกอันหนึ่ง ซึ่งที่เท้าของมันยังเหลือหอกอีกอันหนึ่ง ถ้าลอง 'ท่าไม้ตาย' อีกครั้ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?
ความพยายามครั้งแรกที่มันพลาด อาจเป็นเรื่องบังเอิญ! นอกจากนี้ หอกดูเหมือนลูกศรขนาดใหญ่ และลูกศรจะพุ่งออกไปได้ดีมาก สิ่งนี้สัตว์ประหลาดตัวนี้เรียนรู้ด้วยร่างกายของมันเอง เมื่อมันล้มเหลวในการซุ่มโจมตีนักธนูคนหนึ่งเมื่อประมาณหนึ่งเดือนก่อน
ไม่กี่วิต่อมาจากได้อาวุธมาใหม่ เจ้ามิมิคก็ขว้างมันไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลัง หอกไม่เหมือนกับดาบ ซึ่งเป็นอาวุธที่สามารถขว้างได้ มันตัดผ่านอากาศด้วยความเร็วที่สายตามนุษย์ตรวจจับได้ยาก โดยเฉพาะในที่แสงสลัวเช่นนี้ แต่ก็เหมือนกับความพยายามครั้งแรกของมัน มันพลาดอีกครั้ง! มันเล็งทหารทั้งสอง แต่หอกบินผ่านพวกเขาโดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
“ฮัค!” มอนสเตอร์ตะโกน
แต่แทนที่จะเป็นเสียงโลหะกระทบหินอย่างไร้ประโยชน์ สิ่งที่ได้ยินต่อมาคือเสียงดังของการเสียดแทง
“อ้าก! อ่าาาาาาาาา! อ๊าาาา!” ทหารคนที่สามตะโกนลั่น สหายทั้งสองของเขาหันศีรษะไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ชายที่บาดเจ็บพยายามลุกขึ้นยืนเมื่อหอกที่เล็งพลาดพุ่งเข้าใส่เขา มันเสียบเข้าที่ขาหนีบของเขาตรงๆใต้ขอบเกราะเหล็กของเขา เขากรีดร้องและดิ้นไปมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวด
มีการดำเนินการพิเศษ LCK +1
ตอนนี้มันไม่มีเวลาสนใจว่าคุณลักษณะที่เพิ่มขึ้น เจ้ามิมิคพุ่งเข้าหาทหารทั้งสองอย่างรวดเร็ว ในตอนที่ความสนใจของพวกเขาเปลี่ยนไปยังสหายที่นอนกรีดร้อง มือของพวกเขาหยุดลง - หากมีโอกาสที่เปลี่ยนสถานะเสียเปรียบของมัน ก็คงจะเป็นตอนนี้แหละ
มันพุ่งเข้าไประหว่างหอกที่เล็งมาที่มันและแทงดาบทั้งสองของมันไปข้างหน้า ทหารยามที่ตกตะลึงหันศีรษะ แต่มันไม่ทันเวลาแล้ว พวกเขาถูกแทงเข้าที่ใบหน้า
คุณได้ทำการโจมตีคริติคอลแล้ว! HP เป้าหมาย -78
คุณได้จัดการโจมตีที่รุนแรง เป้าหมายติดสถานะมึนงงเป็นเวลา 5 วินาที
คุณได้ทำการโจมตีคริติคอลแล้ว! HP เป้าหมาย -79
คุณได้โจมตีที่รุนแรง เป้าหมายติดสถานะมึนงงเป็นเวลา 5 วินาที
ระดับความชำนาญเพิ่มขึ้น ตอนนี้ความชำนาญดาบอยู่ที่ระดับ 5 STR +2. DEX +2.
ตอนนี้คือการรุกฆาต ไม่มีสิ่งที่เรียกว่ากลยุทธ์หรือการวางแผนเกี่ยวกับการกระทำนี้ มันเป็นเพียงการอาศัยจังหวะและเวลาเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ชายทั้งสองไม่ตายในจุดนั้นหลังจากเจาะหลังคอจนสะอาดหมดจด มิมิคดึงดาบของเขาออกทันทีและฟันไปที่ใบหน้าของพวกเขาอีกครั้ง และบรรลุสิ่งที่เรียกกันทั่วไปว่า 'ดับเบิ้ลคิล' จากนั้นมันก็เคลื่อนตัวเข้าหาทหารคนสุดท้ายและจัดการเขาในขณะที่เขายังนอนร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้น
“สกิ๊สสส…!”
เสียงกรีดร้องแห่งชัยชนะดังก้องไปทั่วดันเจี้ยน เจ้ามิมิคตื่นเต้นจากการชนะการต่อสู้ที่หนักหน่วงเป็นครั้งแรกในชีวิต
แม้ว่ามันจะล้มเหลวในการซุ่มโจมตีเหยื่อในตอนแรก และการต่อสู้ที่ตามมาสร้างความรำคาญให้กับเจ้ามิมิคเล็กน้อยก็ตาม หากมีเวลาใดที่จะแสดงความสุขแห่งชัยชนะผ่านการเต้นรำ มันคงเป็นตอนนี้
ถึงแม้ว่า มันจะไม่ได้ใช้ทักษะหรือสิ่งที่เรียกว่ากลยุทธ์ที่ทำให้มันชนะในวันนี้ แต่มันคือโชคที่โง่เขลาของมัน และพฤติกรรมที่คาดเดาไม่ได้ที่แสดงออกมาทำให้ศัตรูประหลาดใจมากกว่าหนึ่งครั้งในการต่อสู้
สิ่งมีชีวิตเพียงแค่ต้องรู้จักโอกาสเพื่อลงมือทำและคว้ามันไว้ แม้ว่ามันอาจจะคิดไม่เก่งนัก แต่จิตใจของมิมิคเก่งอยู่แล้วในเรื่องที่ต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆ ในช่วงเวลาที่ของการต่อสู้
เล่ห์เหลี่ยม? ขี้ขลาด? ศักศรีดิ์? พวกนั้นคืออะไร? มันไม่รู้เรื่องดังกล่าวและไม่เข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดพวกนั้นเลย ถ้าจะให้พูดตามตรงมันรู้คำศัพท์น้อยมาก
แต่ถึงแม้มันจะรู้เรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่า มันก็คงยังเพิกเฉยต่อมัน เนื่องจากแนวคิดพวกนั้นจะไม่ทำให้มันอิ่มท้อง และการเติมท้องของมันก็เป็นสิ่งที่ควรทำในตอนนี้ ดังนั้นโดยไม่ต้องกังวลอีกต่อไป มันเริ่มกัดกินศพทั้งห้าที่อยู่ข้างหน้ามัน
มันเริ่มต้นด้วยคนสุดท้ายที่ถูกมันฆ่า - คนที่โดนมันเอาหอกปาเสียบเข้าที่ขาด้วยโชคของมัน
มันดึงหอกออกมาและเริ่มกินเท้าของศพก่อน มันกัดขาของศพแล้วพ่นสนับโลหะออกมาแล้วกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อย มันทำซ้ำขั้นตอนกับแขนและศีรษะ มันทิ้งชุดเกราะที่กินไม่ได้ไป ไปไว้ข้างทาง แต่ในส่วนของลำตัวนั้นแข็งมาก เพราะมันยังคงถูกห่อหุ้มด้วยเกราะเหล็กอยู่
ดังนั้นการกินส่วนตัวลำตัวนั้นยังเป็นไปไม่ได้ เพราะฟันของมันเจาะเหล็กไม่ได้ในตอนนี้
มันทิ้งร่างที่ยังคงสวมเกราะและปกคลุมไปด้วยเลือดไว้ก่อน และเคลื่อนตัวไปยังศพอื่นๆ โดยมุ่งความสนใจไปที่แขนขาและศีรษะในลักษณะเดียวกัน
ความหิวของคุณได้รับการเยียวยา การฟื้นฟู HP และ MP อัตโนมัติจะกลับสู่ปกติ
เมื่อมันยุ่งกับการการกลืนกินชิ้นส่วนร่างกายจากศพที่ห้า ในที่สุดมันก็ได้รับการยืนยันว่ามันไม่หิวโหยอีกต่อไป
มันรู้สึกโล่งใจ ซึ่งตอนแรกมันไม่แน่ใจว่าต้องกินมากแค่ไหนก่อนที่สถานะความหิวจะหายไป
ถึงกระนั้น การทิ้งเนื้อตัวฉ่ำๆไปจะเป็นการเสียเปล่า แม้ว่ามันจะไม่จู้จี้จุกจิกเป็นพิเศษเกี่ยวกับอาหารของมัน แต่เจ้ามิมิคก็ยังมีความชอบ มันพบว่าลำไส้เป็นส่วนที่อร่อยที่สุดของร่างกายมนุษย์ หัวเป็นรองลงมา การกินสมองทำให้รู้สึกนุ่มนิ่มและกะโหลกก็ส่งเสียงกรุบกริบ เมื่อฟันของมันจมลงไป แค่คิดว่ามันกำลังเคี้ยวก็สนุกแล้ว หัวใจเป็นอันดับสามในลิสของมันเพราะมันนุ่มอย่างน่าอัศจรรย์ เนื้อตะโพกและเนื้อน่องที่ชุ่มฉ่ำก็ดีเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล บางอันก็แข็งและหนาในขณะที่บางอันก็อ่อนและนิ่มมาก
ประเด็นคือ 2 ใน 3 ชิ้นโปรดของมันอยู่ที่ลำตัว มันอยากจะพุ่งเข้าใส่แล้วกินพวกมันจริงๆ
แต่ตอนนี้มันไม่รีบร้อนอีกต่อไปแล้ว มันจึงลองพยายามกินพวกมันอีกครั้ง อันดับแรก มันดึงดาบออกมาจากศพ จากนั้นมันก็เข้าไปใกล้หนึ่งในลำตัวที่ขาดวิ่นและใช้ใบมีดแหย่และแยงไปที่ชุดเกราะ หลังจากมันลองแทงจากหลายมุม ก็พบว่ามันสามารถตัดสายหนังบางส่วนที่ด้านข้าง ตรงสิ่งที่ดูเหมือนเคยเป็นใต้แขนของคน
เมื่อทำเช่นนั้น แผ่นเกราะทั้งด้านหน้าและด้านหลังดูเหมือนจะแยกออกจากกัน จากนั้นมิมิคก็ยกแผ่นเหล็กขึ้นเพื่อเผยให้เห็นเนื้อฉ่ำและกระดูกกรุบกรอบที่มันโหยหา สิ่งนี้มันเกือบจะเหมือนกับการเปิดหอยนึ่ง
*ขบเคี้ยว เคี้ยว เคี้ยว*
มีภาพน่าสยองขวัญปรากฎขึ้น ภายในเสียงกัดฟันและเสียงบดเคี้ยวที่น่าสยดสยอง มีเสียงกระจกแตกที่แทบจะไม่ได้ยิน และของเหลวลึกลับก็ไหลออกมาและลงบนลิ้นที่บอบบางของสัตว์ประหลาด
คุณได้ใช้ยารักษา พลังชีวิต +40
รสชาติของมันเหมือนเชอร์รี่ แต่ถึงจะพูดแบบนั้น สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ไม่เคยลิ้มรสเชอร์รี่มาก่อน ของเหลวเวทย์มนตร์สลายไปและปิดบาดแผลของมิมิกทันที พูดในแง่แดกดันผู้ที่สร้างบาดแผลเหล่านั้นให้มันกลับเป็นผู้จ่ายยาเพื่อรักษามันเอง
*เรอ เรอ*
แต่ถึงกระนั้นมันไม่ใช่สิ่งเจ้ามิมิคสนใจจริงๆ มันแทบไม่ได้สังเกตว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวมัน ขณะที่มันหมกมุ่นอยู่กับการกินจนอิ่ม
ไม่ นี่มันเกินกว่าจะเรียกว่าอิ่มแล้ว? ความหิวโหยของมันอิ่มไปชั่วคราว แต่มันอาจจะกลับมาอีกในภายหลัง หรือมันจะไม่กลับมา?
แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ดีที่จะเก็บ 'ตัวหอยนางรม' ที่เหลืออยู่ในคลังของมันแทนที่จะกินมันในตอนนี้ จริงไหม?
แต่มันไม่รู้ว่าศพจะเก็บไว้ได้นานเท่าไร แต่ก็คุ้มค่าที่จะลองดู ดังนั้นเจ้ามิมิคจึงวางแผนล่วงหน้าเป็นครั้งแรกในชีวิตและมันเก็บลำตัวที่เปื้อนเลือดอีกสองตัวที่เหลือไว้กินในภายหลัง
ถึงมันจะเก็บร่างกายได้สี่ร่าง แต่มันก็กินเข้าไปอีกสองร่าง ในก่อนที่มันจะตัดสินใจได้ เป็นเรื่องมหัศจรรย์จริงๆที่มันได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วว่าควรเก็บอาหารของมันไว้
ดังนั้นแม้ว่าความฉลาดของมันยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังมีการปรับปรุงความสามารถทางความคิดอย่างต่อเนื่อง
เมื่อมันจัดการธุระในอุโมงค์ที่โชกไปด้วยเลือดเสร็จแล้ว เจ้ามิมิคก็ย้ายไปยังจุดที่ญาติของมันเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ ศพของมันได้หายไปแล้ว มันกลับเข้าสู่การไหลของมานาจากที่ที่มันมา
มิมิคนั่งลงในบริเวณใกล้เคียงและเข้าสู่สถานะสงบนิ่ง มันยังบาดเจ็บหนักอยู่ ดังนั้นมันจึงต้องรอจนกว่าการฟื้นฟู HP อัตโนมัติของมันจะทำให้มันกลับมามีสุขภาพที่ดี
ผ่านไปประมาณสิบนาที หีบไม้ที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเปลือกนอกก็ค่อยๆงอกกลับคืนสู่สภาพเดิม เมื่อทั้ง HP และ MP เต็มหมดแล้ว เจ้ามิมิคก็ลุกขึ้นยืนและเดินต่อไป
เมื่อถึงจุดหนึ่ง มันก็เชื่อมั่นในตัวเองว่าการออกจากที่แห่งนี้ไปนั้นดีที่สุดแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีประเด็นใดที่จะต้องชะลอการจากไปอีกต่อไป และต้องขอบคุณการเชื่อมต่อกับมานาของดันเจี้ยน มันรู้แล้วว่าทางออกอยู่ทางไหน
หลังจากเดินไปมาหลายนาที ก็พบว่าอุโมงค์ที่คับแคบและอึดอัดนั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ มันรู้สึกได้ถึงลมเย็นที่พัดเข้ามาจากภายนอกอย่างไม่ต้องสงสัย รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มันเร่งฝีเท้าขึ้น ขาเรียวยาวเหมือนแมงมุมพามันไปข้างหน้าอย่างมั่นคง กำแพงกว้างขึ้นและเพดานก็สูงขึ้นและสูงขึ้น
ที่จริงแล้วมันควรไม่สามารถ 'เห็น' อะไรเลยนอกจากพื้นอุโมงค์รอบๆและพื้นผิวอื่นๆทั้งหมดอยู่ในระยะ 10 เมตรของการรับรู้เวทมนตร์ของมัน
นี่เป็นครั้งแรกสำหรับมัน มันเป็นความรู้สึกแปลกๆแบบนี้ มันเดินต่อไป ตราบใดที่มันเชื่อมต่อกับมานาในอากาศ มันก็จะรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน-
คุณออกจาก ดันเจี้ยนเขาวงกตแห่งลิติก้าแล้ว
การเชื่อมต่อของคุณกับดันเจี้ยนถูกตัดขาด
มันถูกแช่แข็ง มีบางสิ่งบางอย่างที่มันรู้สึกผิดปกติไปในทันที บางอย่างในตัวมันถูกตัดขาดไป
จู่ๆมันก็ตระหนักได้ว่ามันหลงทาง หลงทางไปโดยสิ้นเชิง มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันอยู่ที่ไหน หรือควรต้องไปทางไหน มันเดินไปรอบ ๆ อย่างไร้จุดหมายโดยไม่มีทางบอกได้ว่ามันไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ หลังจากไม่กี่นาทีนี้ ดูเหมือนว่ามันจะพบทางกลับ
คุณได้เข้าสู่ ดันเจี้ยนเขาวงกตแห่งลิติก้า
แม้ว่ามันจะกลับมา แต่สายใยล่องหนที่ทำให้มันเป็นพันธมิตรของดันเจี้ยนได้ถูกตัดออกไปอย่างถาวรแล้ว ตอนนี้มันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของที่นี่อีกต่อไป
ในตอนแรกอาจรู้สึกอยากกลับไปแปลกๆ แต่ตอนนี้ความรู้ถึงนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สำหรับมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนนี้ ไม่มีพื้นที่สีเทาที่ซึ่งคุณเคยเป็นศัตรูหรือพันธมิตร และในตอนนี้ มิมิคนี้เป็นศัตรูของที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้มันไม่พบความคิดที่จะกินหนูยักษ์และค้างคาวเหล่านั้นน่ารังเกียจอีกต่อไป มันรู้สึกเหมือนกับว่าสามารถฆ่าญาติของมันได้อย่างง่ายดายโดยไม่สำนึกผิด
สัตว์ประหลาดเข้าใจความหมายเบื้องหลังความหมายเหล่านี้ มันปะติดปะต่อเรื่องราวเร็วมากจนทำให้ตัวเองประหลาดใจ เป็นไปได้ไหมว่ามันเป็นอัจฉริยะมาตลอด?
มีบางอย่างเปลี่ยนไป มันสามารถสร้างกระแสความคิดที่เชื่อมโยงกันเป็นครั้งแรกในชีวิต ราวกับว่าหมอกถูกยกออกจากจิตใจ
ความจริงของเรื่องนี้คือในขณะที่มานากำลังชี้นำและหล่อเลี้ยงมัน มันก็กำลังขโมยเจตจำนงเสรีของมันไปด้วยเช่นกัน
มันถูกบังคับโดยธรรมชาตินั้นให้ออกจากดันเจี้ยน? ไม่ใช่ มันถูกไล่โดยสิ่งที่ให้ชีวิตกับมัน
เหตุผลที่ทำไมมันถึงต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังติดอาวุธแทนที่จะวิ่งหนีเต็มกำลังเมื่อเห็นว่าตัวมันเองเสียเปรียบ? นั่นคือพวกเขาเป็น 'ผู้บุกรุก' และดันเจี้ยนต้องการพวกเขาให้ตาย
'ไม่น่าแปลกใจ' มันคิด แม้ว่าจะรู้ว่าตัวเองเป็นคนงี่เง่า แต่ก็ไม่สามารถหาสาเหตุของการกระทำของมันในตอนนั้นได้
แต่ตอนนี้แตกต่างกัน ตอนนี้มันเป็นอิสระ แม้มันยังรู้สึกกลัวอยู่ในใจเล็กๆของมัน แต่มันก็เป็นอิสระ และมันอ้าแขนรับอิสรภาพนี้ มันตัดสินใจที่จะแสวงหาเส้นทางชีวิตของตัวเองและมันอาจจะกลับมาในภายหลังและแสดงดันเจี้ยนนี้ว่าใครคือบอส!
แต่ก่อนหน้านั้น มันต้องออกไปจากที่นี่ แต่ช่วงของการรับรู้ของมันเป็นปัญหา มันเหมือนกับการหลงทางในทะเลโดยไม่มีจุดสังเกตและไม่มีเข็มทิศ ถ้าปกติแล้วโลกที่เหลือจะกว้างได้ขนาดนี้ มันก็ต้องการวิธีอื่นในการในการสังเกตรอบๆตัวของมันอีกครั้ง
โชคดีที่มันมีความคิดที่ดีอยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร เห็นได้ชัดว่าเหยื่อของมันไม่รับรู้เวทย์มนตร์แบบเดียวกับที่มิมิคมี มิฉะนั้นการลอบโจมตีจะเป็นไปไม่ได้ และผ่านการตะลุมบอนหลายครั้งและการต่อสู้เหล่านั้น มันได้เรียนรู้ถึงความสำคัญและหน้าที่ของอวัยวะคู่หนึ่ง ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือทำซ้ำ สิ่งนั้นและมันก็เก่งมากในเรื่องนี้
มิมิค (TL: แปลว่าเลียนแบบในภาษาอังกฤษครับ ) ต้องเลียนแบบ มันเป็นความจริงของชีวิตของมัน
มันเริ่มสร้างดวงตาที่ด้านนอกของโครงของหีบไม้อย่างรวดเร็ว มันที่กินลูกตาไปเกือบร้อยลูกแล้ว ส่วนใหญ่มันจะกลิ้งไปทั่วลิ้นของมันในบางครั้ง ดังนั้นบางอย่างเช่นการสร้างอวัยวะที่คุ้นเคยอย่างดีขึ้นมาใหม่จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ เช่นเดียวกับขาแมงมุม แม้ว่าจะยังคงต้องปรับเปลี่ยนและปรับโครงสร้างดวงตาใหม่ แต่หลังจากพยายามอยู่ครึ่งชั่วโมงต่อมาก็สำเร็จ
ตอนนี้มันสามารถมองเห็นได้ ในที่สุดมันก็สามารถมองเห็นได้ด้วยตาของมันเอง!
แต่โดยพื้นฐานแล้วมันคือดวงตาของมนุษย์ ดังนั้นมันจึงมองเห็นได้ไม่ดีนักในความมืดนี้ ถึงกระนั้น มันก็มีประโยชน์ทันทีเมื่อมันเห็นกลุ่มแสงพุ่งตรงมาทางมัน เป็นปาร์ตี้ผจญภัยที่มีคน 4 คน ทุกคนคาดโคมที่จุดไฟไว้ที่เอว พวกเขาอยู่ห่างจาก เจ้ามิมิคประมาณ 40 เมตร จากรูปลักษณ์ของสิ่งต่าง ๆ พวกเขากำลังมุ่งหน้าลึกเข้าไปในดันเจี้ยนและกำลังจะเดินผ่านมันไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าสัตว์ประหลาดไม่ได้รู้สึกเร่งรีบหรือตื่นเต้นกับการค้นพบเหยื่อตัวใหม่ มันไม่จำเป็นต้องตามล่าและสังหารผู้คนเพียงเพราะอยู่ในดันเจี้ยนนี้อีกต่อไป มันแค่รู้สึกถึงความเฉยที่เย็นชา มันมองสัตว์จรจัดตรงหน้าที่---อร่อย เต็มไปด้วยเลือด ชุ่มฉ่ำ กรุบกรอบพร้อมเครื่องในที่อร่อย และ-
โอเค มันจะโจมตีและกินพวกนักผญจภัยนี้ก็ได้ แต่ไม่ใช่เพราะการบังคับด้วยเวทย์มนตร์แปลกๆจากดันเจี้ยน! คราวนี้มันเลือกที่จะสังหารคนเหล่านั้นอย่างเลือดเย็นตามความประสงค์ของมันเอง!
แม้ว่ามันยังต้องอิ่มท้องอยู่ แต่แล้วทำไมต้องปฏิเสธอาหารฟรีที่เต็มใจมาเสิร์ฟให้คุณ? ที่จริงทำไมมันต้องรอ? คนเหล่านั้นแต่งตัวเกือบจะเหมือนกับเหยื่อ 40 คนแรก ถ้ามันจัดการทหารทั้งห้าได้ พวกที่อ่อนแอเหล่านี้ก็ไม่คู่ควรกับมันอย่างแน่นอน!
มันงอกขาแมงมุม ติดอาวุธให้หนวดลิ้นทั้งสามของมัน และพุ่งเข้าใส่พวกมันราวกับจุติของเทพแห่งความตาย นี่ไม่ใช่แรงขับโดยสัญชาตญาณในการกินและมีชีวิตอยู่ และไม่ใช่การควบคุมจิตใจของดันเจี้ยน มันจะฆ่าเพราะมันต้องการ โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าและไม่มีเหตุผล ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับมอนสเตอร์ตัวอื่นๆทำกัน
ข้อมูลทั่วไป |
คุณลักษณะ |
ข้อมูลงาน |
||||||
ชื่อ |
|
ชื่อ |
ค่า |
ชื่อ |
ค่า |
ชื่อ |
ระดับ |
ความคืบหน้า |
สายพันธุ์ |
มิมิค (ระดับล่าง) |
STR |
44 |
LCK |
4 |
มิมิค (+) |
15 |
27% |
เพศ |
ไม่มีข้อมูล |
DEX |
48 |
|||||
อายุ |
2 เดือน |
AGI |
36 |
|||||
กิลด์ |
|
END |
44 |
|||||
HP |
264/264 (+0.4/วินาที) |
INT |
35 |
|||||
MP |
170/170 (+0.3/วินาที) |
WIS |
39 |
รายการทักษะ |
||
ชื่อ |
ระดับ |
ความสามารถ |
การลอบสังหาร |
4 |
29% |
การพรางตัว |
3 |
11% |
พื้นที่จัดเก็บ |
2 |
50% |
การจำแลง |
3 |
65% |
การดูดกลืนซากศพ |
1 |
0% |
ความชำนาญด้านดาบ |
5 |
2% |