ตอนที่ 94 หลังจากนั้น
เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?
เขาไม่รู้หรอก
หลังจากนั้นเขาก็ได้ออกไปพร้อมกับมิกะและชิอากิ
โดยมีโฮชิยืนอยู่ด้านหลัง
ตอนนี้ก็เลิกเรียนแล้ว เซจิจึงต้องอยู่ช้าเพราะต้องเขียนรายงานเป็นบทลงโทษ เพราะการโดดเรียนโดยไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด
มิกะและชิอากิมาตามเขามาเหมือนปกติ เพราะทั้งสองคนก็ถูกลงโทษแบบเดียวกัน
ในระหว่างที่เขียน ผู้หญิงทั้งสองได้แอบไปมองที่เซจิ และพบว่าเขาเอาแต่จ้องออกไปนอกหน้าต่างด้วยความยุ่งเหยิงขณะที่ปากกาของเขาในมือไม่ขยับ
ฉากที่น่าจดจำขณะที่กำลังเหม่อลอยออกไป ของหนุ่มหล่อ... ช่างมันเถอะ! แค่ถ่ายรูปไว้ก็พอ!
"ชิอากิ!" มิกะตำหนิเพื่อนของเธอ เมื่อเธอเห็นชิอากิหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อถ่ายรูป
"ขอโทษ มันเป็นฉากที่สวยจริงๆนี้น่า ฉันเลยอดไม่ได้... " ชิอากิเกาศีรษะของเธอ "เธอเองก็ชอบไม่ใช่หรือไง?"
ใบหน้าของมิกะแดงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่เธอพยักหน้า
"เธอคิดว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่?" มิกะถามหลังจากที่เธอได้รับภาพที่ก็อปปี้มาแล้ว
"เขาอาจจะกำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ได้"
"อืม ฉันเองก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน ตั้งแต่ที่... เซจิเป็นคนอ่อนโยน"
"อืม ใช่แล้ว" ตาของชิอากิเป็นประกาย เมื่อเธอหันไปมองที่ชายหนุ่มกับมิกะ "เธอไม่เข้าใจอะไรที่เกิดขึ้นในห้องโดโจบ้างไหม?"
มิกะกระพริบตา ขณะที่เธอแสดงท่าทางย่างรอบคอบ " ฉันเองก็ไม่เข้าใจหรอก... แต่ฉันรู้สึกเหมือนทุกอย่างที่เซจิทำก็เพื่อพวกเธอ... "
"ฉันรู้ว่าเธอไม่เข้าใจ ดังนั้นให้ฉันอธิบายให้เธอฟังเอง คุณอุเอะฮาระ!" ชิอากิแกล้งทำเป็นไอ และทำตัวเหมือนกับว่าเธอเป็นครูสอนบรรยาย "สิ่งที่เธอควรสนใจที่สุดก็คือฉากที่สองในฉากสุดท้าย ซึ่งเซจิที่ดูเหมือนจะกลายเป็นคนที่ชั่วร้ายมาก"
"เซจิดูน่ากลัวมากจริงๆ แต่คิดดูแล้ว เขาก็ค่อนข้างดูเท่เหมือนกัน~" ชิอากิเลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้น "และจงเรียกเขาว่า 'ดาร์กเซจิ!' "
"ทำไมเธอถึงทำเหมือนมันเป็นชื่อเล่นพิเศษได้ล่ะ!?" มิกะถามตอบกลับทันที "ตอนที่เขาเป็นแบบนั้น... ฉันแคร์กับเรื่องนี้มาก เพราะฉันไม่ชอบแบบนั้น แต่... คงจำเป็น ใช่มั้ย?"
"เซจิต้องคิดว่ามันจำเป็นแน่ และฉันคิดว่าเขาคงไม่ได้ทำผิดพลาดอะไร เพราะฉันคิดอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว" ชิอากิอธิบาย "ในความเห็นของฉัน เซจิที่ได้เปลี่ยนเป็น 'ดาร์กเซจิ' ต้องมีจุดประสงค์อยู่สามอย่างแน่!"
"อย่างแรกเพื่อต้องการให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงกับฝาแฝด! อย่างที่สองทำหน้าที่เป็นตัวร้ายเพื่อปลุกจิตสำนึกที่แท้จริงของโฮชิ อะมามิ! สองอย่างแรกนั้นค่อนข้างเข้าใจได้ง่าย แต่สำหรับอย่างที่สาม... ฉันพนันได้เลยว่าเธอคิดมันไม่ออกแน่" ชิอากิหัวเราะอย่างสนุกสนาน
"เธอจะบอกว่าฉันโง่สินะ... " มิคะเบ้ปาก
"เธอเพียงแค่ไม่ได้คิดลึกมากเกินไปเท่านั้น เธออาจจะรู้ก็ได้ถ้าคิดมันอีกสักนิด" ชิอากิแกล้งทำเป็นทุบโต๊ะก่อนที่เธอจะพูดต่อ "เป้าหมายที่สามของเขา อาจจะมีจุดประสงค์คือการทำให้สมาชิกชมรมคาราเต้รู้สึกสงสารฝาแฝดนั้น และปล่อยให้พวกเขารู้สึกสงสารอย่างลึกซึ้ง หากสมาชิกชมรมคิดว่าฝาแฝดพวกนั้นเป็นคนที่น่าสงสาร พวกเขาคงไม่ค่อยอย่างจะกลั่นแกล้งหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นแน่"
"เพราะเหตุผลที่พวกเธอสูญเสียข้อมูลที่จะใช้แบล็กเมล์ไป ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าจะมีหลายๆคนที่พยายามจะแก้แค้นและกลั่นแกล้งพวกเธออยู่แน่ ถึงอย่างนั้นหลังจากผลงานของเซจิ ความเป็นไปได้นี้ก็ลดลงอย่างมาก"
"โอ้ ... " มิกะพยักหน้าแบบเห็นด้วย "ฟังดู... จะใช่นะ"
"ตอนนี้ถ้าฝาแฝดพวกนั้นยังเรียนอยู่ที่นี้อย่างน้อย... พวกเขาก็คงจะไม่อะไรแย่ๆ เท่าที่พวกเขาจะทำได้"
"เซจิคิดถึงขนาดนั้นเลยเหรอ ... "
"อืม แต่สุดท้าย เป้าหมายอย่างที่สามของเขาก็โยงไปถึงเป้าหมายอย่างแรกและอย่างที่สองของเขา ซึ่งคือการทำให้พวกเธอต้องตกอยู่ในส่วนลึกของความสิ้นหวัง ก่อนที่จะปล่อยให้โฮชิ คนที่แคร์พวกเธอมากที่สุดออกมา และช่วยพวกเธอไว้ " ชิอากิแกล้งทำเป็นทุบโต๊ะอีกครั้ง "นี้เป็นวิธีที่ร้ายกาจที่สุดในการจัดการของเซจิ และถูกบังคับให้ใช้หลังจากที่ฝาแฝดนั้นไม่ยอมทำตามข้อตกลงของพวกเธอ"
มิกะพยักหน้าด้วยความเข้าใจอีกครั้ง "ฉันคิดว่า... บางทีเขาอาจจะทำสำเร็จก็ได้ หรือบางทีเซจิอาจจะทำไม่สำเร็จก็ได้เหมือนกัน"
"และการแสดงเป็นคนที่ชั่วร้ายแบบนั้น... บางทีเขาอาจจะรู้สึกแย่ก็ได้เกี่ยวกับมัน"
"อืม แต่เขาก็ยังคงทำมันเพราะเขาเป็นเจ้าโง่จอมอ่อนโยนไงล่ะ" ชิอากิยิ้มอย่างอ่อนโยน
ในขณะที่พวกผู้หญิงกำลังพูดถึงความคิดของพวกเธอกันอยู่ ผู้ชายคนที่พวกเธอกำลังพูดถึงกันอยู่ก็ได้กำลังขบคิดเรื่องที่ตัวเองนั้นได้ทำลงไปอยู่
'เฮอ ฉันเกือบทำไม่ได้แล้ว... ให้ตายเถอะ ฉันทำได้แค่ทำเรื่องน่าอับอายออกมานานๆได้เท่านั้น' เซจิถอนหายใจ 'ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะเล่นได้ตามบทเหมือนนายทั้งหมด ลูลูช วี บริททาเนีย!'
แผนการของเขานั้นอาจจะวางไว้เยอะกว่านี้ก็ได้
สิ่งที่เห็นได้ง่ายที่สุดคือตำแหน่งของของที่ใช้แบล็กเมล์ของริออนและโคโตมิ ถ้าพวกเธอเก็บของพวกนั้นไว้ที่อื่นๆนอกห้องล่ะก็... มันก็จะง่ายพอที่จะค้นหาทั้งบ้านของพวกเธอ แต่ถ้ามีการเก็บไว้ในสถานที่ที่พวกเธอรู้เท่านั้นกันล่ะก็ สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้
แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่กรณีนั้น
ฝาแฝดพวกนั้นได้วางใจกับระบบป้องกันห้องที่เล็กน้อยของพวกเธอ... หรือบางทีพวกเธออาจจะรู้สึกไม่ปลอดภัยหากพวกมันอยู่นอกตัว... พวกเธอรู้สึกไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า? มันน่ารำคาญมากเกินไปหรือไง? หรือว่าพวกเธอรู้สึกมั่นใจว่าพวกเธอได้เซฟข้อมูลไว้ในอินเทอร์เน็ตแล้ว ดังนั้นแล้วพวกเธอจึงไม่จำเป็นต้องสนใจกับการทำสำเนาอีกชุดงั้นเหรอ?
หรือพวกเธอในใจของพวกเธอหวังว่าจะมีใครสักคนที่จะ…
ไม่ว่ามันจะเป็นแบบไหน ฝาแฝดพวกนั้นก็ค่อนข้างเด็กเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้... แต่ถ้าพวกเธอไม่ เซจิก็สามารถที่จะควบคุมได้เหมือนเดิม ถึงมันอาจจะลำบากมากขึ้นหน่อยก็เถอะ
โชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้น และไม่มีอะไรที่ทำให้เขาต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น นี้จึงนับเป็นความสำเร็จของเขา
สำหรับผลที่เกิด... มันคงจะดี
เซจิแน่ใจว่าในที่สุดเขาก็ได้เห็นความเสียใจที่แท้จริงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของริออนและโคโตมิแล้ว... นี้คือการแสดงออกของคนที่ได้รู้ถึงความผิดของตัวเองในที่สุด!
ตอนนี้พวกเธอก็คงกำลังจะค่อยๆเปลี่ยนไปแล้ว
ปัญหาตอนนี้คือพ่อ... และแม่ของพวกเธอ
แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือฝาแฝดนั้นยอมรับความผิดอย่างจริงใจกับพ่อแม่ของพวกเธอ และได้รับการอภัยให้ โฮชิก็กลับมามีความสุข และครอบครัวของพวกเธอก็กลับมามีความสุขเหมือนอย่างเคย
แต่นั่นมันเป็นไปไม่ได้
ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวนั้นได้ถูกทำลายลงแล้ว
จะกลับไปเป็นครอบครัวปกติแบบนั้น... มันก็ไม่ได้เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนซะทีเดียว แต่แน่นอนมันจะไม่เกิดขึ้นภายในข้ามคืนแน่ ต้องมีปัจจัยภายนอกเข้ามาช่วยด้วย!
เซจิได้ใช้ไพ่ตายที่ทำให้เขารอดมาได้ถึงตอนนี้
ริกะ อะมามิ- เจ้านายของเขาและโฮชิ และเป็นน้าของฝาแฝด และน้องสาวของพ่อของพวกเธอ!
หลังจากออกจากเรื่องพวกนั้นแล้ว เขาก็ได้ยืมโทรศัพท์มือถือของชิอากิเพื่อโทรหาริกะและอธิบายง่ายๆเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้เขายังส่งข้อความไปยังโทรศัพท์ของโฮชิ และบอกให้เขาไปหาน้าของเขาและขอความช่วยเหลือจากเธอ รวมทั้งบอกให้เธอรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วย
นี้คือทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้
เซจิไม่ได้รู้ว่าครอบครัวอะมามิจะเป็นยังไงในคืนนี้และไม่รู้ด้วยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
เขาเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจในไพ่ตายของเขา... ขอโทษด้วยนะครับ ริกะ อะมามิ เจ้านายที่แสนเข้มงวดของเขา
อ่า... เขารู้สึกเหมือนถูกกดดัน เซจิถูกครอบงำด้วยความรู้สึกไม่สบายใจทันที
ข้างๆเขา มิกะและชิอากิก็ดูเหมือนจะพูดคุยอะไรบางอย่างกันอยู่
‘พวกเธออาจจะรู้สึกว่าฉันทำไม่ได้เรื่องจริงๆก็ได้ แม้ว่าพวกเธอจะต้องการพูดคุยเรื่องพวกนี้ พวกเธอก็ดีพอที่จะพูดด้วยเสียงต่ำเพื่อที่จะไม่ให้กระทบถึงความรู้สึกของฉัน ... พวกเธอช่างมีน้ำใจมากจริงๆ’
เซจิรู้สึกประทับใจกับสิ่งที่เขามองว่ามันเป็นความอ่อนโยนของผู้หญิง
...
ในคืนนั้น
เซจิเดินออกมาคนเดียวที่ถนนย่านการค้าและเดินเข้าไปในบาร์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม
ข้างในถูกตกแต่งไปด้วยของเฟอร์นิเจอร์แบบทั้งดั้งเดิม และสมัยใหม่ ทำให้บาร์นี้ดูเหมือนจะเป็นบาร์ระดับค่อนข้างสูง และมีพนักงานออฟฟิตจำนวนมากทั้งชายและหญิง ดื่มและพูดคุยอย่างมีความสุข
เซจิเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง และมองไปที่คนๆหนึ่ง และเดินเข้าไปนั่งที่ข้างหน้าต่าง
"ไง ฮาราโนะคุง!" คนๆนั้นโบกมือให้กับเขา
คนๆนั้นคือ ฮิซาชิ จูมอนจิ
เป็นลูกชายของเจ้าพ่อมาเฟีย มิจิโร่ จูมอนจิ และเป็นโอตาคุด้วย
เขาสวมเสื้อคอตตอนและกางเกงยาว ผมของเขายังคงยุ่งเหยิงอยู่เหมือนเดิมและยังคงมีรอยคล้ำอยู่ใต้ดวงตาของเขาที่แสดงให้เห็นว่าเขายังคงอดหลับอดนอนอยู่เสมอ เหมือนอย่างเคย รูปร่างหน้าตาของเขาช่างเลวร้ายมาก
ถ้าตัดสินจากรูปลักษณ์ของเขา มันก็คงจะเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนที่คิดว่าเขาเป็นนักลงทุนที่มีความสามารถสูงและเป็นแฮ็กเกอร์ และเขาเองก็มีความสามารถสูงในทั้งสองด้าน เขาอาจจะขึ้นไปถึงตำแหน่งระดับผู้บริหารในระดับสูงของบริษัท ใหญ่ๆได้ไม่ยาก
เซจิยิ้มกลับให้ ขณะนั่งลงตรงข้ามกับฮิซาชิ
"นายค่อนข้างมาเร็วนะ จูมอนจิคุง"
"ฉันไม่มีได้มีอะไรจะทำ ดังนั้นฉันมาก่อนอย่างที่เห็นไงล่ะ" ฮิซาชิยื่นมือออกมาและวางเมนูไว้ที่ข้างหน้าเซจิ
เซจิมองไปที่เมนู และถามฮิซาชิว่าเขาสั่งอะไรบ้างและเลือกอาหารทานเล่น 2 อย่างและน้ำผลไม้
"ขอขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือทั้งหมดของนายในครั้งนี้"
หลังจากที่เซิร์ฟเวอร์ไดให้รับออเดอร์จากเขา เซจิก็แสดงความขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง
"ฉันยังบอกนายไปแล้วว่ามันไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันแบบนี้ก็ได้... แต่ฉันจะยอมรับมันก็ได้" ฮิซาชิยิ้มให้ "ฉันแสดงทางโทรศัพท์ได้ดีใช่ไหม?"
"ยอดเยี่ยมสุดๆ!" เซจิยกย่องเขาอย่างไม่เห็นแก่ตัว
ใบหน้าของทั้งสองคนต่างก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มขณะที่ทั้งคู่รู้สึกเหมือนกำลังพูดคุยกับคนที่เข้าใจกันอย่างแท้จริง
"นี้คือข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์กับนายก็ได้" ฮิซาชิหยิบเอาแฟลชไดร์ฟออกมาจากกระเป๋าเสื้อ "นี้เป็นสำเนาเดียวที่ฉันได้ทำไว้และไม่มีการแบล็กอัพข้อมูลใดๆไว้ทั้งสิ้น... ยังไงซะ อาจจะพูดได้ว่าฉันยังไม่ได้ดูเนื้อหาข้างในเลย"
เขาวางแฟลชไดร์ฟไว้บนโต๊ะ
เซจิมองมันหลายวินาที
"นายสามารถเอามันกลับไปและลบข้อมูลทั้งหมดในนั้นได้ มันจะไม่จำเป็น" เขาจ้องมองฮิซาชิขณะที่เขาพูด
"นายแน่ใจเหรอ?" ฮิซาชิปรับแว่นตาของเขา
"เอาจริง ก็ไม่ แต่... ผมไม่อยากใช้อะไรแบบนี้" เซจิยิ้มให้บางๆ
ฮิซาชิใช้เวลามองไปที่เซจิอย่างลึกซึ้งและยาวนาน
"เอาล่ะ งั้นฉันจะเอาพวกนี้กลับไปและลบข้อมูลทั้งหมดทิ้งซะ" เขาดึงแฟลชไดร์ฟกลับ
ทั้งสองคนยังคงเงียบอยู่ช่วงครู่
ฮิซาชิทำลายความเงียบลงไป "ถึงแม้ว่าฉันได้ยินบางสิ่งจากนายแล้ว และฉันเองก็พอเดาส่วนที่เหลือได้ แต่ฉันก็ยังไม่รู้เรื่องอยู่ดี นายช่วยบอกเรื่องทั้งหมดนี้หน่อยได้ไหม"
"แน่นอน" เซจิยิ้มให้ "เมื่อผมบอกนาย... เอาจริงๆไม่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับใครบางคนจากโลกของนาย"
ในตอนนี้ ออเดอร์และเครื่องดื่มที่พวกเขาสั่งก็มาถึงแล้ว
ฮิซาชิยกเบียร์ของเขาขึ้นและพยักหน้าให้เซจิ
เซจิยกน้ำผลไม้ขึ้นและยื่นมือออกไปทางฮิซาชิ พร้อมกับแก้วในมือ
มีเสียง 'กิ๊ง' เล็กน้อย ขณะที่แก้วทั้งสองชนเข้าด้วยกัน
เซจิรู้สึกพอใจขณะที่เขาได้ดื่มน้ำผลไม้อร่อยๆ
จากนั้นเขาก็นึกถึงเรื่องที่จะใช้เริ่มต้นกับเรื่องนี้ "เรื่องพวกนี้... มันเกี่ยวกับพี่สาวฝาแฝดและน้องชายที่โง่เขลา... มันคือเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความงี่เง่า"