ตอนที่ 268 อาณาเขตตรวจจับขนาดใหญ่
ตอนที่ 268 อาณาเขตตรวจจับขนาดใหญ่
ณ ห้องทดลองชั้นใต้ดินชั้นที่ 18
เซี่ยเฟยหยิบผลเนตรนาคาออกมาจากแหวนมิติส่งให้แฮร์ริส 2 ผลและหยิบผลเนตรนาคาออกมากินเองอีกสองผล เพื่อฟื้นฟูพลังงานที่พวกเขาได้ใช้ไปในระหว่างการวิจัย
“ตอนนี้พวกเราก็รู้แล้วว่าคลื่นความถี่ชนิดที่ 2 ได้ส่งข้อมูลไปยังเครื่องรับสัญญาณลึกลับในจักรวาล พวกเรามาค้นหาความจริงกันเถอะว่ากระดิ่งนรกส่งสัญญาณไปให้ใครกันแน่?” เซี่ยเฟยกล่าว
“จากการวิเคราะห์ของผมมีความเป็นไปได้อยู่ 2 อย่าง หนึ่งคือผู้ผลิตกระดิ่งนรกจงใจเพิ่มคลื่นความถี่ชนิดที่ 2 ขึ้นมาเพื่อเก็บข้อมูลของผู้ใช้งาน แต่ความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ค่อนข้างต่ำมาก เพราะถ้าหากผู้ใช้รู้ว่าผู้ผลิตกำลังสอดแนมพวกเขาอยู่ มันก็จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของผู้ผลิตเอง”
“ความเป็นไปได้อย่างที่ 2 คือคลื่นความถี่ชนิดที่ 2 นี้มีเอาไว้เพื่อให้กระดิ่งนรกสามารถค้นหาอุปกรณ์สื่อสารเครื่องอื่นได้ เพื่อที่มันจะได้ทำการรับส่งข้อมูลกันได้อย่างแม่นยำ”
“การพยายามหาเครื่องสื่อสารขนาดเล็กในจักรวาลอันกว้างใหญ่เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก ผมจึงคาดเดาว่าอารยธรรมที่สร้างกระดิ่งนรกขึ้นมา จำเป็นจะต้องสร้างอาณาเขตตรวจจับขนาดใหญ่ขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อให้เครื่องสื่อสารแต่ละเครื่องสามารถระบุตำแหน่งของกันและกันได้ ซึ่งมันก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมกระดิ่งนรกถึงสามารถส่งสัญญาณหากันได้ทั้ง ๆ ที่มันมีขนาดเล็กเพียงแค่นี้”
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่จะปรับกำลังขยายวงจรภายในของกระดิ่งนรกให้ซูมเข้าไปเป็นพันเท่า
“สิ่งที่นายวิเคราะห์มาสมเหตุสมผลมาก และถ้าหากว่าอารยธรรมปริศนานั้นสามารถสร้างเครื่องตรวจจับขนาดใหญ่ไปทั่วทั้งจักรวาลได้จริง ๆ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องก็จะต้องอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจก็คือถ้าหากระบบตรวจจับพวกนี้มีอยู่จริง ทำไมอารยธรรมปริศนานั้นถึงไม่ใช้พวกมันในการส่งสัญญาณโดยตรงแต่ใช้เป็นเพียงแค่ระบบนำทาง?” เซี่ยเฟยใช้มือแตะคางด้วยความสงสัย
“จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ก็คาดเดาได้ไม่ยาก เพราะถ้าหากสัญญาณทั้งหมดถูกรับส่งจากตัวกลาง มันก็จะมีข้อสงสัยว่าผู้ผลิตจะแอบสอดแนมผู้ใช้สินค้าหรือเปล่า คนออกแบบกระดิ่งนรกจึงได้แยก ระบบสื่อสารออกจากระบบนำทาง เพื่อให้ความเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะไม่สามารถสอดแนมผู้ใช้เครื่องสื่อสารได้” แฮร์ริสกล่าว
“ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากจะเห็นเครื่องตรวจจับของกระดิ่งนรกจริง ๆ มันจะต้องเป็นเครื่องตรวจจับที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงในการสร้างมันขึ้นมาอย่างแน่นอน นอกจากนี้กระดิ่งนรกยังถูกค้นพบในซากอารยธรรมโบราณ แสดงว่าเครื่องตรวจจับทำงานต่อเนื่องมาได้หลายพันปีโดยไม่ได้มีใครมาคอยดูแล” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ชายหนุ่มก็ส่ายหัวด้วยความเสียดาย เพราะท้ายที่สุดการที่สำนักเงาสังหารค้นพบกระดิ่งนรกในซากอารยธรรมโบราณ มันก็หมายความว่าอารยธรรมที่สร้างกระดิ่งนรกขึ้นมาคงจะพังพินาศไปเรียบร้อยแล้ว
แต่ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็นึกถึงหุ่นยนต์ขึ้นมา เพราะถ้าหากว่าเครื่องตรวจจับสามารถทำงานต่อเนื่องมาได้แม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายพันปี มันก็มีโอกาสที่เครื่องตรวจจับจะถูกบำรุงรักษาโดยพวกหุ่นยนต์
ท้ายที่สุดตราบใดก็ตามที่ยังมีแสงสว่าง พวกหุ่นยนต์ก็สามารถเติมเต็มพลังงานให้กับตัวเองได้ มันจึงมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะมีหุ่นยนต์ได้ซ่อนตัวอยู่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่แห่งนี้จริง ๆ
“ถ้าเราตามสัญญาณพวกนี้ไป พวกเราจะสามารถหาตำแหน่งของเครื่องตรวจจับได้ไหม?” เซี่ยเฟยถาม
“เรื่องเครื่องตรวจจับยังเป็นเพียงแค่การคาดเดา ถ้าคุณตามสัญญาณพวกนี้ไปจริง ๆ มันก็ไม่มีใครรู้ว่าคุณจะได้พบกับอะไร” แฮร์ริสกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ
“เรื่องนั้นฉันรู้ แต่ตอนนี้ฉันสงสัยแค่ว่าพวกเราจะสามารถตามคลื่นสัญญาณพวกนั้นไปได้ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าว
“การพยายามตามสัญญาณในจักรวาลเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เพราะมันมีตัวแปรที่ต้องพิจารณาอย่างมากมาย แต่ถ้าหากเราสร้างเครื่องวิเคราะห์สัญญาณขึ้นมาโดยเฉพาะ มันก็พอจะมีโอกาสตามคลื่นสัญญาณของกระดิ่งนรกไปได้” แฮร์ริสกล่าว
ทุกครั้งที่สัญญาณเคลื่อนที่ไปในจักรวาล สัญญาณพวกนี้มักจะถูกเบี่ยงเบนด้วยปัจจัยอื่น ๆ เสมอ ดังนั้นการพยายามตามคลื่นสัญญาณจึงสามารถทำได้เพียงแต่ในระยะทางสั้น ๆ เท่านั้น เพราะถ้าหากว่าระยะคลื่นสัญญาณห่างออกไปการติดตามก็จะผิดเพี้ยนไปเรื่อย ๆ
“ถ้าอย่างนั้นเป้าหมายของเราก็ไม่เพียงแต่จะต้องค้นหาเทคโนโลยีเบื้องหลังกระดิ่งนรกเท่านั้น แต่เรายังต้องพยายามพัฒนาระบบถอดรหัสสัญญาณเพื่อตามแหล่งที่มาของสัญญาณคลื่นความถี่ที่ 2 ด้วยสินะ” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างจริงจัง
แฮร์ริสพยักหน้ารับเนื่องมาจากเขาไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเจ้านายคนนี้ได้อยู่แล้ว
“ทำไมนายจะต้องออกไปหาแหล่งกำเนิดสัญญาณด้วย นายอย่าลืมว่าสิ่งที่แฮร์ริสพูดมาเป็นเพียงแค่การคาดเดาเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าถ้านายตามสัญญาณพวกนั้นไปแล้วนายจะได้เจอกับอะไร?” อันธกล่าวขัดขึ้นมา
“นายลองคิดดูสิว่าถ้าหากเราได้ครอบครองอุปกรณ์ตรวจจับที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไปทั่วทั้งจักรวาล หรือถ้าหากว่าเราสามารถทำความเข้าใจเทคโนโลยีนี้ได้ มันจะมีใครสามารถแข่งขันกับบริษัทควอนตัมในเรื่องการสื่อสารได้อีก”
“นอกจากนี้ฉันยังมีลางสังหรณ์ว่าเครื่องตรวจจับปริศนากับระบบซุปเปอร์เรดาร์ของไททันอาจจะมีความเกี่ยวข้องกัน เพียงแต่ระบบซุปเปอร์เรดาร์ของไททันมีไว้สำหรับการส่งสัญญาณในระยะไกล ขณะที่ระบบของกระดิ่งนรกมีไว้สำหรับการตัดคลื่นสัญญาณรบกวน”
“ถ้าหากพวกเราสามารถรวมเทคโนโลยีทั้งสองชนิดนี้เข้าด้วยกันได้ พวกเราก็จะสามารถผลิตสินค้าชนิดใหม่ที่จะไม่มีใครสามารถตามเทคโนโลยีของพวกเราได้ทันเป็นเวลาหลายร้อยปี”
—
เมื่อเวลาผ่านไปเซี่ยเฟยกับแฮร์ริสก็ได้ถอดรหัสเทคโนโลยีเบื้องหลังกระดิ่งนรกมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่การพยายามรวมเทคโนโลยีของกระดิ่งนรกเข้ากับระบบซุปเปอร์เรดาร์หรือระบบเรดาร์ในปัจจุบันยังคงเป็นปัญหาที่พวกเขาจะต้องหาทางแก้
เซี่ยเฟยไม่คาดคิดมาก่อนว่ากระดิ่งนรกจะใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างจากระบบเรดาร์ธรรมดาอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นการนำเทคโนโลยีทั้งสองชนิดนี้มารวมเข้าด้วยกันจึงไม่ต่างไปจากการพยายามรวมน้ำเข้ากับน้ำมันที่มีการแบ่งชั้นออกจากกันอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกันหลังจากที่แฮร์ริสได้รู้ถึงวิธีการสื่อสารของกระดิ่งนรก เขาก็เริ่มหันความสนใจไปยังสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวมากยิ่งขึ้น
เซี่ยเฟยไม่รู้ว่าทำไมแฮร์ริสถึงสนใจสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวพวกนี้มาก เพราะชายชราได้เฝ้าสังเกตพวกมันด้วยกล้องจุลทรรศน์ทุกวัน และบันทึกกระบวนการเติบโตของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวอย่างละเอียด
ชายหนุ่มรู้ดีว่าแฮร์ริสไม่สามารถล้มเลิกการวิจัยเกี่ยวกับพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ได้ เซี่ยเฟยจึงคิดว่าในระหว่างที่แฮร์ริสได้ไปสั่งสอนลูกศิษย์ชุดใหม่ของเขา ชายชราคนนี้คงจะได้แรงบันดาลใจอะไรมาบางอย่าง เขาจึงเริ่มหันมาติดตามการพัฒนาของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
ขณะเดียวกันแผนการที่เซี่ยเฟยได้วางเอาไว้ในก่อนหน้านี้ก็ใกล้เข้ามาแล้ว โบเดนจึงออกเดินทางไปเป็นตัวแทนของบริษัทในการแข่งขันรายการต่าง ๆ ขณะที่เซี่ยเฟยนั้นจะเตรียมการแข่งขันโกลเดนฟิงเกอร์ในอีกสองเดือน
ระหว่างนี้ชายหนุ่มรู้ดีว่าแอวริลกำลังรอเขาอยู่ เขาจึงออกเดินทางไปยังกลุ่มดาวนครหลวงอีกครั้ง และเนื่องมาจากว่าตอนนี้การวิจัยได้เข้าสู่สภาวะคอขวดแล้ว มันจึงถือว่าเป็นความคิดที่ดีที่เขาจะเปลี่ยนสถานที่เพื่อหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ บ้าง
เมื่อทราบข่าวว่าเซี่ยเฟยกำลังเดินทางมาหาแอวริลก็เริ่มวางแผนด้วยความดีใจ และถึงแม้ว่าพวกเธอจะไม่ค่อยมีโอกาสเจอกันมากนัก แต่เธอก็ตั้งใจจะใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่ามากที่สุด
***************