ความตายมักมาในหลายรูปแบบ 4
ภายในดันเจี้ยน คุณจะได้ยินเสียงทุบตีเป็นจังหวะดังก้องไปทั่ว มันเป็นเสียงของไม้กระแทกกับหิน ซึ่งสาเหตุของความวุ่นวายนี้คือหีบไม้งี่เง่าที่เพิ่งตระหนักถึงความผิดพลาดของมัน
มิมิคแกว่งขาเล็กๆของมันอย่างเกรี้ยวกราด และทุบมันเข้ากับกำแพงหินเป็นจังหวะที่แรงขึ้น
คุณได้รับบาดเจ็บจากบาดแผลเล็กน้อย HP -2
ข้อความที่คุ้นเคยเกิดขึ้นซ้ำๆ เป็นระยะๆ ในช่วงสิบนาทีที่ผ่านมา เจ้ามิมิคที่งี่เง่าตัวนี้ มันกำลังลงโทษตัวเองที่กระตือรือร้นมากเกินไป
เมื่อทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี มันก็ปล่อยให้โอกาสที่น่าอัศจรรย์หลุดลอยไป แน่นอนว่าแม้แต่ทักษะหรืออาชีพเนโครแมนเซอร์เพียงอย่างเดียวก็จะเพิ่มพลังมหาศาลให้กับมัน!
“คิช่าาาาาา!” มันตะโกนและกระแทกตัวเองเข้ากับกำแพงด้วยแรงมากขึ้น
คุณได้รับบาดเจ็บจากบาดแผลเล็กน้อย HP -5
มันเริ่มหยุดลงหลังสังเกต HP ของมันลดลงมากขึ้น มันตะหนักว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นไปแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ และมันกำลังเสีย HP ที่มีค่าไป
มันเริ่มสงบลงและเริ่มทำความสะอาดหลักฐานโดยรอบตามปกติของมัน แต่มันก็ไม่ได้สนใจซากศพหนูยักษ์จำนวนมากรอบๆตัวมัน เพราะว่าพวกมันแหลกสลายเป็นผุยผงไปแล้วและอีกไม่กี่นาทีพวกเขาจะกลับไปที่ดันเจี้ยนที่สร้างพวกมันอย่างสมบูรณ์
หลังจากที่รังของมันได้กลับคืนสู่ความรุ่งเรืองเหมือนเดิมแล้ว มันก็รีบกลับมาที่เดิมและปลอมตัวเป็นหีบสมบัติ 'บาดเจ็บ' อีกครั้ง และมันก็รอคอยเหยื่อคนต่อไป
จากชั่วโมงกลายเป็นวัน และวันกลายเป็นสัปดาห์ มิมิคยังรออยู่ที่เดิมอย่างอดทนโดยไม่ขยับกล้ามเนื้อแม้แต่น้อย มันไม่ได้สนใจเวลาเลยจริงๆ มันเหมือนกับว่ามันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ เกิดมาเพื่อนั่งเฉยๆ แต่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีขีดจำกัดว่าจะนั่งเฉยๆ ได้นานเท่าไรและโดยที่ไม่ทำอะไรเลย
คุณกำลังหิวโซ การฟื้นฟู HP และ MP อัตโนมัติลดลงครึ่งหนึ่งแล้ว
บางสิ่งในตัวมิมิคคำราม ท้องที่ไร้ก้นบึ้งของมันว่างเปล่า ความต้องการเบื้องต้นที่สุดในการกินและเอาชีวิตรอดขัดแย้งกับสัญชาตญาณการล่าตามธรรมชาติของมิมิค มันต้องเลือกระหว่าง มันควรปฏิบัติตามปรัชญาของมันในการซ่อนตัวหรือทำตามแรงกระตุ้นเพื่อค้นหาเหยื่อในทันที
นี่เป็นการตัดสินใจที่สำคัญสำหรับสิ่งมีชีวิตนี้ เพราะว่าตั้งแต่เกิดมามันไม่เคยออกห่างจากที่อยู่ของมันเลยสักครั้ง
เมื่อมันตัดสินใจได้แล้ว มันก็งอกขาเล็กๆจำนวนมากและยกตัวขึ้นจากพื้น อย่างที่บอกข้าวกลางวันไม่น่าจะมาเอง
มันเลยไปหาข้าวกลางวันแทน มันวิ่งไปด้านข้างไปยังทิศทางที่เหยื่อส่วนใหญ่เข้ามา
อย่างไรก็ตาม มันหยุดชั่วคราวเมื่อมาถึงสุดทางเดินของพื้นดินที่ราบเรียบอย่างผิดธรรมชาติซึ่งพบได้รอบๆบ้านเกิดของมัน
ครั้งหนึ่งมันเคยพยายามเดินให้ไกลขึ้น แต่หินขรุขระและก้อนกรวดก็ทิ่มแทงและครูดกับส่วนล่างที่บอบบางของมัน ซึ่งมันไม่ใช่ความรู้สึกที่น่ายินดี ดังนั้นมันจึงต้องมีการปรับปรุงรูปแบบการเดินทางของมัน
มิมิคใช้ทักษะจำแลง ซึ่งมันสามารถเปลี่ยนโครงสร้างของร่างกายได้ในระดับหนึ่ง แต่สายพันธุ์ของมัน - มิมิค (ระดับล่าง) - ไม่สามารถละทิ้งรูปร่างเหมือนหีบดั้งเดิมของมันได้อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มันทำได้คือเปลี่ยนส่วนอื่นๆของร่างกาย มันนั่งลงบนพื้นและหดแขนขาเล็กๆ
หลังจากนั้นไม่นาน ขาเรียบยาวคล้ายแมงมุมหกขาก็งอกออกมาจากด้านข้างอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่ามันอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนร่างกายได้อย่างอิสระเหมือนกับสไลม์หรือมัดเอเลเมนต์ แต่มันก็มีพรสวรรค์โดยธรรมชาติในการเลียนแบบสิ่งต่างๆ ท้ายที่สุดแล้วมิมิค(TL : มิมิคแปลว่าเลียนแบบ)ก็ต้องเก่งเรื่องเลียนแบบ
และในตอนนี้ มันกำลังเลียนแบบรูปลักษณ์ของแมงมุมตัวเล็กที่ทำรังเหนือบ้านของมัน ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมามันไม่มีอะไรทำ เจ้ามิมิคทำได้เพียงแค่สังเกตเห็นแมงตัวเล็กๆด้วยการรับรู้ทางเวทย์มนตร์ของมัน
การที่ขาหลายข้อต่อของมันปีนขึ้นไปบนกำแพงและเดินไปบนใยแมงมุม มันนั้นช่างดูน่าสนุกสนาน
ดังนั้นมันจึงลงเอยด้วยการจดจำการเคลื่อนไหวเหล่านั้นได้ และตอนนี้เป็นเวลาที่จะนำความรู้นั้นไปใช้
มันพยายามยืนบนขาใหม่ แต่ก็ล้มเหลวอย่างน่าสังเวช ขาที่เหมือนแท่งไม้นั้นอ่อนเกินไปและยาวเกินไปที่จะยกตัวมันขึ้น หลังจากปรับความหนาและความยาวใหม่หลายครั้ง ในที่สุดมันก็พบสมดุลที่เหมาะสมและและสามารถยืนได้
จากนั้นหีบแมงมุมก็ทำการทดลองสองสามก้าว
อย่างไรก็ตาม มันพยายามทำตัวเองไม่ให้ล้มลงเพราะขาของมัน การมีขายื่นออกมาด้านข้างทำให้เจ้ามิมิคไม่มั่นคงอย่างมาก เมื่อใดก็ตามที่มันเดินหน้าหรือถอยหลัง มันจึงต้องเรียนรู้วิธีกระจายน้ำหนักและควบคุมจุดศูนย์ถ่วงเป็นครั้งแรก
ในที่สุดก็พบว่ามันง่ายกว่าที่จะเปลี่ยนตำแหน่งที่ขาออกมา แทนที่จะให้ทั้งหกออกมาจากด้านข้าง มันกระจายออกไปเท่าๆ กัน หนึ่งทางซ้าย หนึ่งทางขวา สองทางด้านหน้า สองทางด้านหลัง ด้วยวิธีนี้ มันสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายในทุกพื้นที่ในดันเจี้ยน
ถ้าหากมันพุ่งตัวตอนนี้ มันอาจทำความเร็วได้ไม่น้อย แต่ทว่าการหยุดหลังจากนั้นโดยที่ไม่ใช้กำแพงหรือพื้นยังคงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับมัน
ระดับความชำนาญเพิ่มขึ้น ตอนนี้ การจำแลง เป็นระดับ 3 แล้ว AGI +1. DEX +1. END +2
*คุรุรุรุ*
มิมิคตอนนี้ไม่มีเวลาเพลิดเพลินไปกับการเพิ่มพลังเล็กน้อยของมัน แต่เวลาของมันกำลังหมด!
ด้วยความมุ่งมั่น มันจึงก้าวแรกสู่พื้นที่ที่ไม่รู้จักโดยสิ้นเชิง การรับรู้ของมันไม่มีปัญหาในการมองในความมืด แต่ขอบเขตมีจำกัด ดังนั้นมิมิคจึงทำได้เพียงเคลื่อนไหวอย่างช้าๆและเงียบ โดยรักษาตัวตนให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่ขูดส่วนก้นที่บอบบางของมันกับพื้นแข็ง
ตามหลักการแล้วมันน่าจะใช้ทักษะการพรางตัว แต่การเคลื่อนที่ไปมาภายใต้เอฟเฟกต์นั้น จะทำให้ MP หมดอย่างรวดเร็ว นั่นไม่ใช่สิ่งที่มันเต็มใจทำ เมื่อพิจารณาถึงความเร็วในการกู้คืนที่เล็กน้อยของมัน
มันเคลื่อนตัวขึ้นและลงตามอุโมงค์ ผ่านมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ ของมัน พวกเขาทั้งหมดเกิดมาจาก 'ครรภ์' เดียวกัน ดังนั้นจึงมีการเชื่อมต่อทางกระแสจิตเล็กน้อยซึ่งกันและกัน พวกเขาไม่ใช่นักล่าและเหยื่อ แต่เป็นญาติ ดังนั้น แทนที่จะเข้าไปขวางทางกัน สัตว์ประหลาดต่างสายพันธุ์ก็เพียงแค่ทำท่าทางเหมือนทักทายกันสั้นๆ ขณะที่พวกมันเดินผ่านกัน
มิมิคยังคงค้นหาอุโมงค์และค้นหาเหยื่ออย่างแข็งขัน แต่มันก็ไม่เคยเจอเลย
ความเป็นจริง ยิ่งมันเคลื่อนไหวมากเท่าไหร่ สิ่งต่างๆยิ่งแย่ลงเท่านั้น
คุณหิวโซ การกู้คืน HP และ MP อัตโนมัติถูกปิดใช้งานแล้ว
ระหว่างรอการซุ่มโจมตี เจ้ามิมิคมักระงับพลังชีวิตของมัน สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้พวกเขารักษาพลังงานและความแข็งแกร่งได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการปรากฏตัวของพวกเขาที่เบาบางลงด้วย ดังนั้นการกระทำแบบนั้นในการเดินทางแบบกระทันหันจะทำให้มันเหนื่อยโดยไม่ต้องสงสัย เจ้ามิมิคที่หงุดหงิดนั้นสงสัยว่าทำไมมันถึงต้องมาทำขนาดนี้เพื่อที่จะได้กินอาหาร
ในความเป็นจริง การเกิดเหตุการณ์นี้เป็นไปตามธรรมชาติตามปกติ
ทุกดันเจี้ยนมีสิ่งที่เรียกว่าระดับมอนสเตอร์ขั้นต่ำ สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพและปริมาณของมานาที่ซึมผ่านในอากาศและพื้นดิน สัตว์ประหลาดผุดขึ้นมาตามธรรมชาติในช่วงเวลาดังกล่าว เกิดจากอากาศที่ดูเหมือนเบาบางโดยความเข้มข้นของพลังเวทย์มนตร์ที่สูงผิดปกติ ซึ่งหมายความว่ามานาที่หนาแน่นย่อมให้กำเนิดมอนสเตอร์ที่ทรงพลังกว่า
ตัวอย่างเช่น ดันเจี้ยนระดับสีดำที่เรียกว่า “บันไดสู่สวรรค์” เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายที่เลเวลเกิน 100 อากาศบนภูเขานั้นมีมานาหนามากจนเป็นอันตรายถึงตายได้ ถ้าใครหรืออะไรก็ตามที่มีเลเวลต่ำกว่า 70 พยายามท้าทายมัน พวกเขาก็จะสำลักและจมน้ำตายราวกับว่าพวกเขาอยู่ใต้น้ำ
อย่างไรก็ตาม สารลึกลับนั้นไม่ได้ให้กำเนิดมอนสเตอร์ในระดับหนึ่งเท่านั้น มันยังเลี้ยงดู 'ลูก' ของมัน ทำให้พวกมันไม่สนใจความต้องการขั้นพื้นฐาน เช่น อาหาร น้ำ หรือในบางกรณีที่ร้ายแรง การนอนหลับ และสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะเติบโตขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อพวกมันขับไล่ผู้รุกราน ถ้าพวกเขามีพลังมากเกินไป บ้านของพวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูพวกเขาได้อีกต่อไป และพวกเขาจะต้องออกจากดันเจี้ยนหรือไม่ก็อดตาย นั่นคือสิ่งที่กำหนดระดับสูงสุดของมอนสเตอร์ในดันเจี้ยน
และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้ามิมิคตัวนี้ แม้ว่ามันเกิดมาในฐานะมอนเตอเลเวล 1 แต่เติบโตขึ้นเป็นเลเวล 15 ในกรีนโซน ของ ดันเจี้ยนเขาวงกต ลิติก้า มีเลเวลมอนสเตอร์สูงสุดที่ 6
ซึ่งหมายความว่าเจ้ามิมิคนั้นเติบโตเต็มเกินกว่าที่จะอยู่อาศัยมานานแล้ว สถานะที่สงบนิ่งและปริมาณเลือดและเนื้อของมันที่สม่ำเสมอได้ขจัดความหิวโหยของมันมาจนถึงตอนนี้ แต่ตอนนี้มีบางอย่างเปลี่ยนไป อาหารของมันหยุดมาโดยสิ้นเชิง และในไม่ช้าการสำรวจของมิมิคก็เผยให้เห็นคำตอบว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
“ฮัก!” มันสาปแช่ง ส่วนหนึ่งของดันเจี้ยนถูกปิดตาย เหล็กเส้นแนวตั้งและแนวนอนถูกเชื่อมเพื่อสร้างตะแกรงที่น่าเกรงขาม มันปิดกั้นอุโมงค์ทรงกลมสูง 2 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ใครก็ตามที่จะเข้ามาผ่านทางนี้เข้ามาได้
หลังจากการหายตัวไปอย่างลึกลับของวาเลเรีย เมืองใกล้เคียงก็ตัดสินใจที่จะปิดล้อมพื้นที่อันตรายสูงและปล่อยให้ธรรมชาติเข้าจัดการ สิ่งใดก็ตามที่สามารถกำจัดนักผจญภัยเลเวล 20 ได้นั้นเลเวลสูงกว่าเลเวลสูงสุดของดันเจี้ยนอย่างชัดเจน
และแน่นอนมันจะต้องอดตาย แม้แต่วิธีการเช่นการกินสัตว์ประหลาดด้วยกันก็ช่วยมันไม่ได้ – ร่างกายของพวกมันจะหายไปเป็นมานาดิบก่อนที่พวกมันจะถูกย่อยเสียอีก
นอกจากนี้ การกักกันยังถูกกว่าการออกภารกิจปราบปรามในท้ายที่สุด แล้วถ้ากรีโซน 20% ถูกปิดล่ะ? มือใหม่ยังสามารถออกล่าได้อย่างสบายๆ ในส่วนที่เหลือของดันเจี้ยน
เจ้ามิมิครู้น้อยมากเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของมัน แต่มันก็รู้ว่ากองโลหะด้านหน้าของมันเป็นที่มาของภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่มันกำลังประสบอยู่ในขณะนี้
แม้ว่ามันจะไม่ตระหนักถึงความผิดปกตินี้ แต่การขาดเหยื่ออย่างกะทันหันก็เชื่อมโยงกัน คำถามคือ - มันทำอะไรได้บ้าง? มันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องผ่านมันไปให้ได้ ดังนั้นมันจึงพยายามหลายอย่างเพื่อหาทางออก
ในตอนแรกมันพยายามผลักตัวมันผ่านช่องว่างของตะแกรง แต่พวกมันเล็กเกินไป แม้ว่ามันจะแปลงร่างได้ แต่ก็ยังเป็น มิมิคระดับล่างที่ไม่สามารถละทิ้งรูปร่างที่เหมือนหีบได้ มีเพียงบางอย่างเช่นสไลม์เท่านั้นที่จะสามารถผ่านสิ่งเหล่านี้ไปได้ แต่โดยร่างกายของมันคงเป็นไม่ได้ที่จะใช้วิธีนี้ มันจึงยอมแพ้และตัดสินใจลองใช้กำลังดุร้าย
มันคายดาบออกมาจากที่เก็บและจับมันด้วยลิ้นสีแดงที่เหมือนหนวด มันเหวี่ยงอาวุธไปที่ตะแกรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า การกระทบกันระหว่างโลหะกับโลหะทำให้เกิดเสียงคล้ายระฆังดังก้องไปทั่วถ้ำ ขณะที่ประกายไฟทะลุผ่านความมืด
แต่ตามที่คาดไว้ แท่งตะแกงเหล็กหลอมไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆแล้ว มันเป็นดาบเหล็กที่โค้งงอจนเสียรูปทรงแทน
หลังจากนั้นไม่นานมันก็ยอมแพ้ การสูญเสียความแข็งแกร่งเช่นนี้เป็นตอกย้ำการใช้พลังงานของมันให้เร็วขึ้น ถ้ามันกินสิ่งกีดขวางนี้ได้ มันก็เท่ากับฆ่าก็อบลินสองตัวด้วยลูกไฟลูกเดียว
แต่เนื่องจากมันไม่สามารถแม้แต่จะกัดกินชุดเกราะเหล็กแข็งและอาวุธในคลังของมันได้ บางอย่างเช่นตะแกงเหล็กหลอมจึงอยู่นอกเหนือการจัดการของมัน มันโยนใบมีดที่บิ่นเล็กน้อยไปในอากาศแล้วกลืนใบมีดกลับไป กลับไปที่-----
กลืน?
จนถึงตอนนี้ มันสามารถ 'กลืน' อะไรก็ได้ที่มันกินไม่ได้ สิ่งกีดขวางก่อนหน้าคือของกินไม่ได้ ดังนั้นทำไมไม่ลอง 'กลืน' แทนล่ะ
มีการดำเนินการพิเศษ WIS +1
ตอนนี้มีแนวโน้มที่จะสำเร็จ! ตั้งแต่ค่าสถานะ WIS เพิ่มขึ้น นี่จึงเป็น 'การดำเนินการพิเศษ' อย่างไม่ต้องสงสัยในการได้รับแนวคิดที่ยอดเยี่ยม!
มันถอยออกจากตะแกรง หันกลับมาและอ้าปาก เหวสีม่วงที่หมุนวนปรากฏขึ้นข้างในและเริ่มพ่นสิ่งของออกมานับสิบรายการ ทีละรายการ มันกำลังจะกลืนก้อนเหล็กกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตรเข้าไป ดังนั้นมันจึงต้องการพื้นที่พิเศษในคลังของมัน เมื่อเสร็จสิ้นเจ้ามิมิคได้สร้างกองโลหะที่เปื้อนเลือดซึ่งสูงเกือบเท่ามัน สิ่งที่เหลืออยู่ในมิติกระเป๋าของมันคือดาบสามเล่มและกริชหนึ่งเล่ม
มันหันไปทางตะแกรงอีกครั้งและกระดกขาที่เหมือนแมงมุมของมันไปข้างหน้า มันเปิดปากของมันออกแล้วเอาฟันทั้งชุดล่างและชุดบนขึ้นชิดแท่งเหล็ก ราวกับว่ามันพยายามจะกัดมัน มันรวบรวม MP บางส่วนที่เหลืออยู่และเปิดพอร์ทัลคลังเพื่อให้มันซ้อนทับกับแท่งโลหะ แต่พยายามเท่าไร รูมิติก็ไม่ยอมโตเกิน 40 เซนติเมตร
“ฮัก!” มันสาปแช่งอีกครั้งในขณะที่ยังคงเกาะอยู่บนท่อนโลหะที่โกรธเกรี้ยว แม้มันจะโง่แค่ไหน มันก็ไม่น่าพลาดเรื่องนี้ คือมันพลาดที่ไม่สามารถตระหนักถึงความแตกต่างที่ชัดเจนของขนาดได้ระหว่างสิ่งของและรูมิติได้
ด้วยความผิดหวัง มันดึงตัวเองออกจากกรงที่ลำบาก ทำให้พอร์ทัลพื้นที่เก็บของพังลงอย่างกะทันหัน
จากนั้นความเจ็บปวดก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างของมอนเตอร์ตัวนี้ มิมิคส่งเสียงขู่ฟ่อและกรีดร้องด้วยเสียงหอนสูงขณะที่มันฟาดฟันด้วยความเจ็บปวด ทุกส่วนของโครงไม้เทียมทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าบิดงออย่างรุนแรง ราวกับว่ามันกำลังพยายามฉีกตัวเองออกจากกัน
คาถาพื้นที่คลังของคุณมีผลย้อนกลับเนื่องจากการใช้งานที่ไม่เหมาะสม ร่างกายของคุณทนทุกข์ทรมานจากผลย้อนกลับ HP -100
เวทย์มนต์ไม่ใช่ของเล่น การใช้อย่างไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดผลร้ายแรงและบางครั้งถึงตายได้ และบางอย่างเช่นการฉีกช่องว่างในความเป็นจริงก็ไม่มีข้อยกเว้น
มันเป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคาถาจัดการพื้นที่อย่างคลังเก็บของ สิ่งที่มิมิคทำโดยไม่ได้ตั้งใจในตอนนี้เทียบเท่ากับการพยายามปิดประตูโดยเอาการเอาเท้ามาขวางไว้ หากสิ่งนี้เกิดขึ้นกับเวทมนตร์เชิงพื้นที่ที่ทรงพลังกว่า เช่น คาถาเทเลพอร์ตหรือเกท มันคงกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปแล้ว
มันไม่เหมือนกับว่าเจ้ามิมิคที่โง่เขลาตัวนี้จะเข้าใจหลักการพื้นฐานของเวทมนตร์
มันยอมรับเพียงว่าพอร์ทัลคลังที่เปิดอยู่ภายในปากของมัน 'และเกิดขึ้นเมื่อมันต้องการ'
“เฮ้.. ฮี่ๆ ฮี่ๆ ฮิฮิ” มันหอบ มิมิคทรุดตัวลงข้างกองอาวุธและชุดเกราะที่ถูกทิ้งไว้ และยังคงสั่นเทาจากความเจ็บปวดที่เกือบจะทนไม่ได้ จากนั้นเจ้ามิมิคก็รู้สึกโกรธ ทำไมของโคตรจะแข็งแบบนี้ต้องมาขวางทางมันด้วย!?
ด้วยความเดือดดาล มันจึงแลบลิ้นออกมาและเอาปลายของมันพันรอบโล่กลมเล็กๆ ที่เอาออกมาจากกองขยะที่มันกองไว้ จากนั้นมันก็เหวี่ยงมันเต็มแรงไปที่ลูกกรงเหล็ก โดยไม่สนใจความจริงที่ว่าตัวมันเองเป็นคนผิดเอง
โล่ไม้เสริมเหล็กบินในแนวนอนเหมือนจานร่อนกระแทกเข้ากับตะแกรงเหล็กและตกลงสู่พื้น ทำให้เกิดเสียงกระทบอันน่ากลัว จากนั้นส่วนหนึ่งของตะแกรงดังกล่าวก็ค่อยๆหล่นไปข้างหลังและทำให้เกิดเสียงกระทบพื้นหินเล็กน้อย
มิมิคพูดไม่ออก แต่จะใช่ว่ามันจะสามารถพูดได้อย่างถูกต้องตั้งแต่แรก หลุมที่สร้างขึ้นใหม่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 40 เซนติเมตร แท่งเหล็กดูเหมือนมีใครบางคนฟันพวกเขาด้วยดาบที่สะอาดหมดจด
ความจริงแล้ว พอร์ทัลคลังได้เอาตะแกรงเหล็กหลอมบางส่วนออกไปแล้ว การพังทลายอย่างกะทันหันของประตูมิติทำให้สสารจำนวนเล็กน้อยที่อยู่รอบๆแตกตัวออก และสิ่งนี้ตัดผ่านแท่งโลหะบางส่วน เนื่องจากพื้นที่หนึ่งของการปิดล้อมนั้นไม่ได้ติดอยู่กับส่วนที่เหลือในทางเทคนิคอีกต่อไป มันแค่ต้องกระแทกเล็กน้อยเพื่อพลิกคว่ำ บางสิ่งบางอย่างที่โล่เพลิงแห่งความโกรธของมิมิคขว้างออกมาโดยไม่ตั้งใจทำให้เป็นไปได้
มีการดำเนินการพิเศษ LCK +1.
ถ้ามิมิครู้ถึงแนวคิดเรื่องโชค มันอาจจะเข้าใจว่ามันถูกดูถูกด้วยข้อความนี้ แต่แทนที่จะโกรธ มันกลับมีความสุขทันที แม้ว่าจะอธิบายไม่ได้ก็ตามว่ามันได้รับคุณลักษณะเพิ่มเติมได้อย่างไร มันยกตัวขึ้นจากพื้นและหันตัวไปด้านข้างเพื่อเบียดผ่านช่องว่าง จากนั้นมันก็เดินต่อไปโดยเดินแบบโยกเยงและมีรอยยิ้มบน ... อะไรก็ตามที่มันที่เรียกว่าหน้าของมัน
ข้อมูลทั่วไป |
คุณลักษณะ |
ข้อมูลงาน |
||||||
ชื่อ |
|
ชื่อ |
ค่า |
ชื่อ |
ค่า |
ชื่อ |
ระดับ |
ความคืบหน้า |
สายพันธุ์ |
มิมิค (ระดับล่าง) |
STR |
42 |
LCK |
3 |
มิมิค (+) |
15 |
2% |
เพศ |
ไม่มีข้อมูล |
DEX |
46 |
|||||
อายุ |
2 เดือน |
AGI |
36 |
|||||
กิลด์ |
|
END |
44 |
|||||
HP |
156/256 (+0.0/วินาที) |
INT |
35 |
|||||
MP |
114/170 (+0.0/วินาที) |
WIS |
39 |
รายการทักษะ |
||
ชื่อ |
ระดับ |
ความสามารถ |
การลอบสังหาร |
4 |
5% |
การพรางตัว |
3 |
0% |
พื้นที่จัดเก็บ |
2 |
48% |
การจำแลง |
3 |
18% |
การดูดกลืนซากศพ |
1 |
0% |
ความเชี่ยวชาญด้านดาบ |
4 |
87% |