ตอนที่ 263 บทลงโทษ
ตอนที่ 263 บทลงโทษ
กู่เฟิงจู่หยุดไปชั่วคราวราวกับว่าเธอกำลังคิดว่าจะบอกความจริงกับเซี่ยเฟยดีไหม เพราะท้ายที่สุดชายหนุ่มก็เป็นคนพานักวิทยาศาสตร์คนนี้เข้ามาในบริษัท และทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
“แฮร์ริสเป็นเพียงหนึ่งในพนักงานของบริษัทเท่านั้น และในฐานะที่คุณคอยดูแลที่นี่อยู่คุณก็ควรบอกความจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งคุณก็ไม่ต้องห่วงว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบกับคุณทีหลัง” เซี่ยเฟยกล่าวหลังจากได้เห็นความลังเลในแววตาของกู่เฟิงจู่
“ในเรื่องวิชาการแฮร์ริสมีความเก่งกาจอย่างไร้ที่ติ แต่อารมณ์ของเขามีปัญหา เพราะเขามักจะทุบตีเพื่อนร่วมงานเมื่อมีคนทำไม่ถูกใจเขา การปฎิบัติตัวต่อเพื่อนร่วมงานของแฮร์ริสไม่ต่างไปจากเจ้านายกับทาสในทีวี ทำให้มีพนักงานหลายคนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป นี่ถ้าหากไม่ใช่เพราะพวกเขาติดสัญญากับบริษัทที่จะต้องจ่ายเงินค่ายกเลิกสัญญาจำนวน 100 ล้านแอลไลคอยน์ ฉันก็เกรงว่าพนักงานหลายคนคงจะลาออกไปตั้งนานแล้ว”
“ความเป็นจริงพนักงานคนอื่น ๆ ไม่ได้คาดหวังอะไรจากเขามากนัก เพราะท้ายที่สุดทุกคนก็รู้ดีว่าแฮร์ริสมีความรู้มากแค่ไหน แค่พวกเขาได้ทำงานใกล้ชิดกับคนที่มีความรู้แบบนี้กับรายได้ที่บริษัทจ่ายให้มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกพึงพอใจมากแล้ว ขอแค่ช่วยให้แฮร์ริสปรับนิสัยเรื่องอารมณ์ร้อนลงนิดหน่อยก็พอ”
“ฉันเกรงว่าถ้าหากความสัมพันธ์ของพนักงานในฐานยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป สักวันหนึ่งมันก็คงจะมีคนทนไม่ได้และก่อให้เกิดการจลาจลภายในฐานนี้ขึ้นมา” กู่เฟิงจู่กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ ซึ่งมันก็ดูเหมือนกับว่าแม้แต่เธอก็ถูกนิสัยของแฮร์ริสเล่นงานด้วยเช่นกัน
‘ทำเหมือนกับเพื่อนร่วมงานเป็นทาส?’
เซี่ยเฟยค่อนข้างคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก เพราะในความเป็นจริงแฮร์ริสคือทาสของเขา แต่เขากลับรับบทเป็นเจ้านายในขณะที่เขาอยู่ในสถาบันวิจัย
เรื่องนี้ถือว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของเซี่ยเฟยด้วยเช่นกัน เพราะตอนแรกเขาก็พอจะคาดเดาได้แล้วว่าแฮร์ริสมีนิสัยแปลก ๆ เพียงแต่ตอนที่อยู่กับเขาชายชราคนนี้ทำตัวเรียบร้อย แต่เมื่อแฮร์ริสได้มาอยู่กับคนธรรมดาเขาก็ได้เปิดเผยนิสัยดั้งเดิมของเขาออกมา
แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเซี่ยเฟยก็มีวิธีที่จะควบคุมแฮร์ริสอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ใส่ใจเรื่องนี้มากนักแต่เลือกที่จะถามในเรื่องอื่นแทน
“ในฐานอัลฟ่ามีพนักงานประจำอยู่กี่คน?” เซี่ยเฟยถาม
กู่เฟิงจู่แอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อได้เห็นเซี่ยเฟยเปลี่ยนประเด็น และเธอก็คิดว่าชายหนุ่มคนนี้คงจะเห็นแก่ความสามารถของชายชราจึงไม่คิดจะเอาผิดแฮร์ริสที่ทำตัวนิสัยไม่ดี
“ภายในฐานมีทีมวิจัยทั้งหมด 3 ทีม โดยแต่ละทีมมีพนักงานทั้งหมด 12 คน, ฝ่ายรักษาความปลอดภัยมีพนักงานประจำอยู่ 163 คน และฝ่ายบริหารมีพนักงานประจำอยู่ 32 คนรวมเป็น 231 คน ซึ่งทุกคนต่างก็เซ็นสัญญาระยะยาว” กู่เฟิงจู่รายงานขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่หดหู่เล็กน้อย
“พนักงานของเรายังมีน้อยเกินไป โดยเฉพาะนักวิจัยที่ควรจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 เท่า เพราะเมื่อบริษัทพัฒนามากยิ่งขึ้นงานในสถาบันวิจัยก็จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เอาล่ะเราไปดูตัวปัญหาของที่นี่กันดีกว่า” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
กู่เฟิงจู่พยักหน้าก่อนที่จะเดินนำเซี่ยเฟยไปยังชั้นใต้ดินชั้นที่ 17
ฐานอัลฟ่ามีชั้นใต้ดินทั้งหมด 18 ชั้น ซึ่งชั้นล่างสุดมีเอาไว้สำหรับการทดลองที่เป็นอันตราย ด้วยเหตุนี้โครงสร้างของชั้นที่ 18 จึงเป็นโครงสร้างของห้องที่ปิดสนิท
ก่อนเข้าประตูเซี่ยเฟยก็ได้ยินเสียงของแฮร์ริสด่ากราดดังมาแต่ไกล และถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าคำด่าพวกนั้นหมายถึงอะไร แต่มันคงไม่ใช่คำที่มีความหมายดีแน่ ๆ
เซี่ยเฟยขมวดคิ้วก่อนที่จะเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องทดลอง โดยเขาก็ได้พบว่าบนพื้นห้องเต็มไปด้วยเศษแก้วจำนวนนับไม่ถ้วน และมีของเหลวหลากสีเปรอะเปื้อนอยู่ทั่วทุกมุมห้อง ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อสารเคมีเหล่านี้ได้ผสมเข้าด้วยกัน พวกมันก็เริ่มส่งกลิ่นฉุนขึ้นมาในอากาศจนทำให้เขารู้สึกแสบจมูก
สิ่งที่เกิดขึ้นคือฝีมือของแฮร์ริสอย่างแน่นอน และตรงหน้าของชายชราคือพนักงานหนุ่มที่ใช้มือข้างหนึ่งกุมดวงตาที่มีเลือดไหล จนทำให้ชุดทำงานสีขาวเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดเลือดสีแดง
แฮร์ริสกำลังจะระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง แต่เมื่อเขาได้เห็นเซี่ยเฟยปรากฏตัวขึ้นมาเขาก็รีบเปลี่ยนสีหน้าของตัวเองในทันที ท้ายที่สุดเขาก็รู้จักนิสัยของชายหนุ่มเป็นอย่างดี และตราบใดก็ตามที่ชายหนุ่มคนนี้รู้สึกโกรธมันย่อมไม่เป็นผลดีสำหรับตัวเขาเอง
“ไอ้พวกนี้มันโง่มาก! พวกมันยังไม่เคยเรียนรู้เรขาคณิตแบบประยุกต์หลายตัวแปรด้วยซ้ำ ถ้าพวกมันมีความรู้แค่นี้พวกมันควรกลับไปเลี้ยงหมูมากกว่ามาทำงานวิจัย” แฮร์ริสก้มหน้าพร้อมกับรายงานความผิดของเพื่อนร่วมงานออกมา
เซี่ยเฟยจ้องไปที่แฮร์ริสด้วยแววตาที่แข็งกร้าวจนทำให้ชายชราตัวสั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็น ๆ ที่กำลังไหลผ่านผิวหนังราวกับว่ามันมีใครเอาน้ำเย็นมาสาดใส่เขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
เซี่ยเฟยเลือกที่จะไม่สนใจแฮร์ริส ก่อนที่เขาจะเดินไปหาชายหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บ
“ไปโรงพยาบาลแล้วพักฟื้นให้เรียบร้อย เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกว่าหายดีค่อยกลับมาทำงานอีกครั้ง”
“เอาล่ะ ผมจะให้วันหยุดทุกคน 3 วันต่อสัปดาห์และโบนัสสิ้นปีจะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า ตอนนี้ขอเชิญทุกคนแยกย้ายกลับไปพักผ่อนก่อน”
พนักงานภายในค่ายมองมาที่เซี่ยเฟยด้วยความไม่เข้าใจ เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่รู้จักประธานบริษัทของตัวเอง ดังนั้นกู่เฟิงจู่จึงรีบก้าวเท้ามาข้างหน้าพร้อมกับแนะนำตัวเซี่ยเฟยขึ้นมาว่า
“นี่คือประธานเซี่ยเฟย เขาคือประธานบริษัทควอนตัม ทุกคนกลับไปพักผ่อนได้”
ทันใดนั้นแววตาของทุกคนก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะท้ายที่สุดชื่อเสียงของเซี่ยเฟยก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกมาเป็นเวลานานแล้ว และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกับบุคคลในตำนาน เพียงแต่ตัวจริงของเซี่ยเฟยค่อนข้างเด็กเมื่อเทียบกับเซี่ยเฟยในจินตนาการของพวกเขา
“อีก 1 ชั่วโมงรวมกันที่ห้องประชุม ผมมีเรื่องสำคัญจะประกาศให้ทุกคนทราบ” เซี่ยเฟยกล่าว
หลังจากนั้นพนักงานทุกคนก็ทยอยออกจากห้องวิจัยทีละคนโดยเฉพาะกู่เฟิงจู่ที่เหลือบสายตามองไปยังเซี่ยเฟยเป็นครั้งคราว ก่อนที่เธอจะเดินออกจากประตูด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ
ในที่สุดภายในห้องก็หลงเหลือเพียงแต่เซี่ยเฟยกับแฮร์ริส ชายหนุ่มจึงหันไปพูดกับชายชราด้วยรอยยิ้มอันเย็นยะเยือก
“หึ ๆ ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่านายจะทำตัวเป็นเจ้าเหนือหัวของสถาบันวิจัย นี่ถ้าฉันไม่มาเห็นกับตาตัวเองฉันก็คงไม่รู้เลยว่าท่านแฮร์ริสกำลังทำอะไรอยู่”
ทั้งคำพูดและสายตาของเซี่ยเฟยทำให้แฮร์ริสรู้สึกกลัวจนตัวสั่น และถึงแม้ว่าเขาจะอยากอธิบายอะไรออกไป แต่คำพูดทุกคำกลับติดอยู่ในลำคอราวกับว่าชายหนุ่มออกคำสั่งไม่ให้เขาพูดแก้ตัว
‘ชิบหายแล้ว! นี่ฉันไม่มีสิทธิ์จะอธิบายเลยด้วยซ้ำ’ แฮร์ริสร้องคร่ำครวญภายในใจ
—
“ผู้ชายคนเมื่อกี้คือคุณเซี่ยเฟยจริง ๆ เหรอ?” ชายหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บกล่าวถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“ใช่ เขาคือคุณเซี่ยเฟยจริง ๆ แต่ตอนนี้คุณควรจะต้องไปโรงพยาบาลก่อน” กู่เฟิงจู่กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเขาจะลงโทษแฮร์ริสยังไง แต่พวกเราทุกคนก็ทนกันมานานมากพอแล้ว” ชายหนุ่มคนนั้นพูดขึ้นมาด้วยความขมขื่น
“อย่าไปคาดหวังอะไรนักเลย ถึงแม้แฮร์ริสจะอารมณ์ร้ายแต่ความรู้ของเขาก็มีประโยชน์กับบริษัทมาก เต็มที่คุณเซี่ยเฟยก็คงจะตำหนิเขาเล็กน้อยเท่านั้น น่าเสียดายโอกาสของพวกเราจริง ๆ ตอนแรกที่ฉันได้เซ็นสัญญาฉันคิดว่าฉันจะมีโอกาสได้แสดงความสามารถของตัวเอง แต่ความจริงกลับกลายเป็นว่าฉันถูกใช้ให้ไปทำนู่นทำนี่แล้วถูกดุด่าเหมือนกับเป็นหมูเป็นหมา เป็นไปได้ฉันก็อยากจะให้สัญญาบ้า ๆ นี่จบลงเร็ว ๆ พวกเราจะได้หนีไปจากนรกที่นี่เสียที” นักวิจัยข้าง ๆ กล่าวขึ้นมาด้วยความคับแค้นใจ
หลังจากนั้นพนักงานแต่ละคนก็ระบายความอัดอั้นตันใจของพวกเขาออกมา ซึ่งกู่เฟิงจู่ต้องคอยพูดปลอบใจพนักงานแต่ละคน
อันที่จริงเธอก็ไม่รู้ว่าเธอควรจะต้องปลอบใจยังไง และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่วันคืนที่เลวร้ายจะผ่านพ้นไปเสียที ท้ายที่สุดเธอก็ไม่กล้ารับประกันการตัดสินใจของเซี่ยเฟยเช่นกัน เพราะประธานบริษัทส่วนใหญ่ก็มักที่จะใช้เงินอุดปากลูกน้องมากกว่าจะลงโทษพนักงานที่มีผลประโยชน์กับบริษัท
—
1 ชั่วโมงต่อมา ณ ห้องประชุมใต้ดินชั้น 3
เจ้าหน้าที่ของฐานอัลฟ่าเดินเข้ามาภายในห้องประชุมทีละคน ก่อนที่จะได้เห็นเซี่ยเฟยกับแฮร์ริสนั่งอยู่ด้วยกันที่บริเวณหัวโต๊ะ โดยชายชราใช้มือกุมไปตรงบริเวณซี่โครงพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างน่าเกลียด
หลังจากนั้นไม่นานพนักงานทุกคนที่นอกเหนือจากพนักงานรักษาความปลอดภัยก็เข้ามาในห้องประชุมจนครบ
“ในเมื่อทุกคนมากันพร้อมแล้ว ผมขอเริ่มประชุมเลยนะครับ ก่อนอื่นผมชื่อว่าเซี่ยเฟยจะเข้ามาทำงานในสถาบันวิจัยสักระยะหนึ่งและผมก็หวังที่จะได้รับความร่วมมือจากทุกคน”
“แต่จุดประสงค์หลักของการประชุมในวันนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะเข้ามาทำงาน แต่เป็นเพราะมีพนักงานคนหนึ่งไม่เคารพเพื่อนร่วมงานจนส่งผลกระทบต่อความสามัคคีภายในฐานอย่างจริงจัง และพนักงานคนนั้นก็คือแฮร์ริสหัวหน้านักวิจัยคนปัจจุบันของฐานอัลฟ่า”
เมื่อเซี่ยเฟยพูดมาจนถึงจุดนี้มันก็เริ่มมีเสียงฮือฮาขึ้นมาในกลุ่มพนักงาน เพราะพวกเขาไม่มีใครเคยคิดว่าเซี่ยเฟยจะเอ่ยชื่อแฮร์ริสขึ้นมาตรง ๆ แบบนี้
เซี่ยเฟยรอพนักงานพูดคุยอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะเริ่มกล่าวต่อว่า
“ผมไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง แต่หลังจากวันนี้เป็นต้นไปผมจะไม่ยอมให้มีใครทำพฤติกรรมแบบนี้อย่างเด็ดขาด กฎระเบียบทุกอย่างของบริษัทได้ถูกบัญญัติเอาไว้แล้วและไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นคนละเมิดกฎคนคนนั้นก็จะต้องถูกลงโทษ!”
“ผมขอประกาศให้ทุกคนได้ทราบโดยทั่วกันว่าหัวหน้านักวิจัยแฮร์ริสจะถูกลดระดับกลายเป็นเพียงนักวิจัยฝึกหัด และถูกลดเงินเดือนโบนัสเป็นเวลา 3 ปี หลังจากนี้เขาจะถูกลงโทษให้คอยทำความสะอาดสถาบันวิจัยทั้ง 17 ชั้น”
คำประกาศของเซี่ยเฟยทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึง เพราะแฮร์ริสผู้ซึ่งเป็นนักวิจัยพรสวรรค์กลับถูกลดระดับกลายเป็นเพียงนักวิจัยฝึกหัด, ถูกลดเงินเดือนและโบนัส ยิ่งไปกว่านั้นชายชราคนนี้ยังถูกลงโทษให้คอยทำความสะอาดแม้กระทั่งห้องน้ำ!
มันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
ในความเป็นจริงพวกเขาไม่รู้เลยว่าแฮร์ริสไม่ได้รับเงินเดือนเหมือนที่เซี่ยเฟยได้กล่าวอ้าง เพราะท้ายที่สุดชายชราคนนี้ก็เป็นเพียงแค่ทาสที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของชายหนุ่มเท่านั้น
ต่อมาภาพที่ไม่น่าเชื่อก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เพราะแฮร์ริสได้ลุกยืนขึ้นและเดินไปขอโทษพวกเขาทีละคน จนทำให้พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าทำไมชายชราถึงเชื่อฟังคำสั่งเซี่ยเฟยอย่างเคร่งครัดแบบนี้
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์จากการประชุมก็ทำให้พวกเขามีความสุข เพราะตราบใดก็ตามที่พวกเขาไม่ถูกรังแกพวกเขาก็ยังคงเต็มใจที่จะทำงานให้กับบริษัทควอนตัม ผู้ซึ่งเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสหพันธ์โลก และผลตอบแทนจากบริษัทนี้ก็สูงกว่าบริษัทอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด
แผนภายในใจของเซี่ยเฟยคือพัฒนาบริษัทควอนตัมโดยเร็วที่สุด ดังนั้นการพัฒนาสถาบันวิจัยจึงเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่เขาจะต้องเร่งทำ
เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของทุกคน เซี่ยเฟยก็รู้ว่ามันถึงเวลาที่เขาจะต้องโยนเหยื่อของเขาออกไปแล้ว
“เอาล่ะ ทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่าบริษัทควอนตัมไม่เพียงแต่จะให้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า แต่พวกเรายังจะมอบโอกาสในการพัฒนาความรู้ให้กับทุกคนอีกด้วย!”
เมื่อได้ยินคำว่าโอกาสในการพัฒนาพนักงานทุกคนก็เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ
***************