CD บทที่ 359 งานเลี้ยงสุขสันต์
จ้าวหยู่พักฟื้นในโรงพยาบาลและมีความสุขกับความเงียบสงบที่เขาไม่ได้พบเจอมาพักใหญ่
ในทุก ๆ วัน เพื่อนร่วมงานและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะผลัดกันไปเยี่ยมเขา คอยส่งอาหารและซื้อผลไม้ให้เขา เหยาเจียซึ่งชื่นชอบจ้าวหยู่ก็ดูแลเขาเป็นอย่างดี ตั้งแต่การดูแลบาดแผลไปจนถึงงานประจำวัน เธอจะทำให้เขาทั้งหมด เป็นผลให้บาดแผลของจ้าวหยู่ฟื้นตัวเร็วมาก
แม้ว่าเหมี่ยวอิงจะยุ่งกับงาน แต่เธอก็หาเวลาไปเยี่ยมจ้าวหยู่ทุกวัน บางครั้งเธอจะคุยกับเขาเกี่ยวกับทีมตำรวจและหารือเกี่ยวกับการสืบสวนคดี หลายครั้งเธอจะคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อาทิเช่น บ้านเกิด รถยนต์ เครื่องเรือน และการต่อสู้ แน่นอนว่ายังมีบางครั้งที่เธอจะโต้เถียงกับจ้าวหยู่ เมื่อพวกเขาเห็นไม่ตรงกัน
เนื่องจากทางโรงพยาบาลได้ควบคุมตัวอาชญากรไว้ จึงไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยม หากจ้าวหยู่ต้องการพูดคุยธุระกับคนภายนอก เขาทำได้เพียงติดต่อผ่านทางมือถือของเขาเท่านั้น
เขาเฝ้าติดตามข่าวจากแม่ของเขา เขากังวลว่าเธอรู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่อเขาโทรหาเธอ เขาก็ผ่อนคลาย เธอยังคงอยู่ที่บ้านของลุงของเขาเพื่อมองหาหนังสือโบราณที่ถูกเขียนด้วยลายมือ
บ้านของสองลุงรกเล็กน้อย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถบอกได้ว่าหนังสือโบราณอยู่ที่ไหน แม่ของเขาจึงควานหาทั่วทั้งบ้าน
แม่ของเขาบอกเขาว่าเธอจะส่งหนังสือให้จ้าวหยู่ทันทีเมื่อพบมัน แน่นอนว่าจ้าวหยู่ไม่กล้าให้เธอมาเยี่ยม ดังนั้นเขาจึงบอกให้เธอส่งรูปถ่ายของหนังสือเมื่อพบมันแทน
ต่อมา เขาได้โทรหาเจียงเสี่ยวเฉิน เนื่องจากต้าเหิงยังอยู่กับเธอ
จ้าวหยู่โกหกโดยบอกว่าเขากำลังเดินทางไปทำภารกิจและบอกให้เด็กสาวดูแลเจ้าหมาต่อไป เนื่องจากเจียงเสี่ยวเฉินสอบกลางภาคเสร็จพอดีและเธอก็ชอบต้าเหิงมาก ดังนั้นเธอจึงตอบตกลงโดยไม่ลังเล
สายต่อมาเป็นโจวยาง โจวหยางได้รายงานสถานการณ์ปัจจุบันของยิมให้เขาฟัง ตอนนี้สถานการณ์ภายในยิมกลับมาเป็นปกติแล้ว ไม่ว่าจะโค้ชหรือลูกค้า ทุกคนต่างรู้สึกมั่นคงและอยากกลับมาใช้บริการตามเดิม
แต่อุปกรณ์บางอย่างในยิมจำเป็นต้องได้รับการอัพเกรด จางปาได้ติดต่อกับชมรมต่อสู้และต้องการให้พวกเขาเข้าร่วมกับยิมปราณก้นเหว ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการการอนุมัติจากจ้าวหยู่
จ้าวหยู่บอกโจวหยางว่า
“ตอนนี้นายเป็นเจ้าของยิมแล้ว หากเรื่องไม่คอขาดบาดตายจริง ๆ นายสามารถจัดการด้วยตัวเงได้เลย ส่วนเงินที่เสียไป นายไม่ต้องกังวล เรื่องนั้นฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง”
โจวหยางได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกตื้นตันใจ เขาบอกว่าเขาจะไม่บ่นเรื่องใด ๆ แม้แต่ชีวิตของเขาเอง เขาจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการบริหารยิมจนถึงวันสุดท้ายของเขา
หลังจากจัดการเรื่องส่วนตัวของเขาแล้ว จ้าวหยู่ก็รู้สึกสบายใจ แต่การพักผ่อนในทุก ๆ วันค่อนข้างน่าเบื่อ ดังนั้นเขาจึงมักเดินไปดูตามที่ต่าง ๆ อยู่เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลอัปเดตจากเจ้าหน้าที่แถวนั้น
เขาได้ยินว่าคดีนี้ใช้คนจำนวนมาก ดังนั้นตำรวจระดับสูงในกองกำลังตำรวจฉินชานจึงให้ความสนใจอย่างมากกับเรื่องนี้ หลาย ๆ คนลือกันหนาหูว่ามีการส่งหมายจับไปที่สำนักงานจังหวัดด้วย
นับตั้งแต่พวกเขาดำเนินการจับกุมเสร็จสิ้น หัวหน้าสำนักเหลียวได้ตั้งปฏิบัติการพิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะ เขาเรียกมันว่าปฏิบัติการเฉือนคม
ในปฏิบัติการครั้งนี้ พวกเขาเกือบจะจับกุมคนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับหยู่ฟู่เซิงได้ พวกเขาพยายามที่จะถอดรากถอนโคนเครือข่ายที่หยู่ฟู่เซิงได้วางเอาไว้ทั้งหมด
สิ่งที่น่าผิดหวังเพียงอย่างเดียวคือพวกเขาไม่สามารถจับกุมตัวตัวการใหญ่อย่างหยู่ฟู่เซิงได้ ตามแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้รายงานว่า เขาหลบหนีไปต่างประเทศแล้ว
แต่ตำรวจได้ติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศแล้ว แม้ว่าเขาจะหนีไปต่างประเทศ แต่พวกเขาก็ยืนยันที่จะจับกุมหยู่ฟู่เซิงมาดำเนินคดีให้ได้
ในที่สุดความจริงของคดีฆาตกรรมคูปิงก็ถูกเปิดเผย นักสืบในแผนกสืบสวนหรงหยางได้ตัดสินใจจัดพิธีรำลึกถึงหัวหน้าทีมคูปิง และใช้รายงานคดีเป็นเครื่องปลอบประโลมดวงวิญญาณของเธอในสรวงสวรรค์
ในวันพิธีรำลึก จ้าวหยู่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล แต่เขายังคงเข้าร่วมในพิธีแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บก็ตาม
ตรงหน้าหลุมฝังศพของคูปิง จ้าวหยู่วางช่อดอกไม้ไว้หน้าหลุมฝังศพของเธอ เขาโค้งคำนับด้วยความเคารพในขณะที่เขาพึมพำว่า
“หัวหน้าทีมคู ฉัน จ้าวหยู่ได้ทำตามสัญญาของฉันแล้ว ฉันจับอาชญากรทุกคนที่ทำร้ายคุณได้แล้ว! ฉันหวังว่าคุณจะได้พักผ่อนอย่างสงบบนสวรรค์!”
“ทำความเคารพ!”
ตามคำสั่งของโฆษก นักสืบทุกคนทำความเคารพหัวหน้าทีมคูปิงอย่างพร้องเพรียงกัน
เมื่อมองไปที่รูปภาพของคูปิงบนหลุมฝังศพของเธอ จ้าวหยู่ก็คิดถึงคืนที่ฝนตกในฤดูใบไม้ผลิ ในตอนนั้นคูปิงพูดคุยกับเขาอย่างเคร่งขรึมในห้องทำงานว่า
“จ้าวหยู่ ฉันเป็นตัดสินคนจากการกระทำไม่ใช่คำพูด!”
“จ้าวหยู่ ถึงฉันจะไม่ชอบคุณเป็นการส่วนตัว แต่ฉันก็ไม่ปฏิเสธความสามารถของคุณ!”
“ไม่ต้องกลัว! ตราบใดที่เราทำงานอย่างหนัก เราจะได้ผลลัพธ์ที่ดีตามมาอย่างแน่นอน…”
‘หัวหน้าทีมคู ขอให้คุณหลับอย่างสบายไม่ต้องกังวลทางนี้’ จ้าวหยู่พูดในใจของเขา ‘ฉันจะจำคำสอนของคุณ ไม่ว่าคดีจะยากแค่ไหนในอนาคต ฉันจะสืบสวนอย่างสุดหัวใจ ฉันจะเติมเต็มความฝันอันยาวนานของคุณให้สำเร็จ และดำเนินต่อไปจนถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต...’
…
วันที่จ้าวหยู่ออกจากโรงพยาบาล ผู้การหลันเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำในนามของสถานีหรงหยางที่โรงแรมระดับไฮคลาสเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง
แม้ว่าจ้าวหยู่จะไม่ได้เปิดใช้งานระบบในวันนี้ แต่เขาก็พบกับความบังเอิญอย่างไม่หยุดหย่อน
ในขณะที่ทุกคนกำลังเดินทางไปที่โรงแรม จ้าวหยู่ก็ได้รับโทรศัพท์จากซูหยาง หัวหน้าใหญ่ซูหยางบอกเขาว่าเขาเพิ่งกลับมาที่ฉินชาน และชวนเขาไปกินหม้อไฟ
จ้าวหยู่บอกอีกฝ่ายว่าเขามีนัดและเชิญเขาเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำแทน ในตอนแรก ซูหยางไม่เต็มใจ แต่หลังจากที่จ้าวหยู่โน้มน้าวเขา เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าร่วม
มันใกล้เคียงกับงานเลี้ยงอาหารค่ำที่หัวหน้าสำนักเทศบาลฮงเป็นเจ้าภาพ หัวหน้าสำนักเหลียวจิงชานก็อยู่ที่นั่นด้วย ทำให้จ้าวหยู่และคนอื่น ๆ เจอพวกเขาโดยบังเอิญ เนื่องจากห้องจัดเลี้ยงของอีกฝ่ายอยู่ใกล้พวกเขามาก
เมื่อพวกเขาบังเอิญเจอหัวหน้าสำนักเทศบาล ผู้การสถานีหรงยางควรจะไปดื่มอวยพร แต่ทันใดนั้น หัวหน้าสำนักฮงก็จำซูหยางได้ และนั่นเองก็ทำให้เรื่องราวดูน่าสนใจมากขึ้น
งานเลี้ยงอาหารค่ำดำเนินไปเพียงชั่วครู่ แต่แล้วหัวหน้าสำนักฮงก็นำพวกระดับสูงจากสำนักเทศบาลมาดื่มอวยพรกับพวกเขา มันทำให้บรรยากาศยุ่งเหยิงไปหมด
เมื่อมองไปที่ซูหยางที่มีตำแหน่งสูงถึงระดับจังหวัดได้พูดหยอกล้อกับจ้าวหยู่และเรียกเขาว่าน้องชาย นั่นทำให้หัวหน้าสำนักฮงมองจ้าวหยู่ในมุมที่ต่างออกไปเป็นครั้งแรก
ในอดีต เขาเคยได้ยินแต่เรื่องจ้าวหยู่ไขคดีใหญ่ ๆ ได้หลายคดี และเขาต่อสู้กับทหารหน่วยสวาตสี่นายเพียงลำพังอย่างกล้าหาญ เขาไม่เคยคาดคิดว่าจ้าวหยู่จะมีเส้นสายที่ลึกซึ้งขนาดนี้
แต่ด้วยความสำเร็จเมื่อเร็ว ๆ นี้ของสถานีหรงหยาง ทางเบื้องบนจะต้องให้การชมเชยแน่นอน นอกจากนี้ พวกเขายังสัญญาว่าจะขอทุนเพิ่มสำหรับสาขาของตนในปีหน้า เพื่อปรับปรุงคุณภาพของการปฏิบัติหน้าที่ สิ่งนี้จะช่วยให้พวกเราสามารถคลี่คลายคดีได้ดียิ่งขึ้น
สรุปแล้ว งานเลี้ยงอาหารค่ำเป็นไปอย่างสนุกสนาน เจ้านายมีความสุข เพื่อนร่วมงานมีความสุข ทุกคนต่างมีความสุข
จ้าวหยู่รู้สึกเศร้าเล็กน้อยที่เขาเปิดใช้งานระบบ ถ้าเขารู้คำทำนาย บางทีเขาอาจจะได้รับรางวัลที่ดีก็เป็นได้
ในวันที่จ้าวหยู่เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ เขาได้รับข่าวสามข่าว แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับเขาโดยตรง แต่ก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้ทราบ
ข่าวแรกคือฆาตกรที่ฆ่าจินหยวนหยวนถูกจับโดยตำรวจจากแผนกสืบสวนสถานีรุ่ยหยาง
คนร้ายที่เป็นคนดูแลอาคาร ในตอนนั้นเขาดื่มไปพอสมควรและความเครียดจากชีวิตการแต่งงานของเขา เป็นผลให้เกิดความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นในใจเมื่อเขาเห็นจินหยวนหยวน
แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะรายงานการชันสูตรพลิกศพหรือคำสารภาพของคนร้ายจะเป็นอย่างไร จินหยวนหยวนก็ไม่ได้ถูกคนร้ายฆ่าโดยตรง เนื่องจากการบังคับขืนใจเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอหัวใจวายตาย!
ไม่ว่าสาเหตุการตายของจินหยวนหยวนจะเป็นเช่นไร คนร้ายก็ต้องชดใช้และได้รับโทษที่เขาสมควรได้รับ
ข่าวดีถัดมาคือโฮ่วเมิง เขาออกจากเรือนจำแล้ว เมื่อหวู่ซวงและคนอื่น ๆ ถูกจับกุม เขาก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าโฮ่วเมิงถูกใส่ร้ายและสามารถออกจากเรือนจำได้!
มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่าหลังจากที่โฮ่วเมิงออกจากคุกแล้ว เขาก็ได้ตระหนักถึงความผิดของเขา เขาสาบานว่าเขาจะเป็นคนดีกว่านี้และจะไม่ทำเรื่องผิดกฎหมายอีก
ข่าวชิ้นที่สามเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมของคูปิง มันเกี่ยวข้องกับผู้การโจวที่ถูกใส่ร้ายก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาได้พ้นทุกข้อกล่าวหาแล้ว ทางเบื้องบนตัดสินใจที่จะคืนตำแหน่งของเขาและทำให้เขากลับมาเป็นหัวหน้าของสถานีหรงหยางตามเดิม
แต่เนื่องจากผลงานที่โดดเด่นของผู้การหลัน ทางเบื้องบนจึงตัดสินใจส่งโจวอันดงที่สำนักงานเทศบาลเพื่อรับผิดชอบแผนกสอบสวนทางเศรษฐกิจ นั่นหมายความว่าเขาได้รับเลื่อนขั้น และตอนนี้มีอำนาจที่แท้จริง ดังคำกล่าวที่ว่า ‘ผู้ที่รอดพ้นจากหายนะครั้งใหญ่จะโชคดีเสมอ’
ปัจจุบัน หลิวชางฮูเป็นหัวหน้าของแผนกสอบสวนทางเศรษฐกิจของสำนักงานเทศบาล ในขณะที่โจวอันดงเป็นรองหัวหน้าสำนักงาน คนจากสถานีหรงหยาง ตอนนี้ได้กลายเป็นเพื่อนร่วมงานอีกครั้งในสำนักงานเทศบาล
แน่นอนว่าการจัดการบุคลากรพวกนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับจ้าวหยู่ ถ้าให้จะเกี่ยวก็มีแค่เรื่องเดียว นั่นก็คือเรื่องที่เขาพร้อมที่จะกลับมาทำงาน
เมื่อจ้าวหยู่พักรักษาจนหายเป็นปกติ เหมาเว่ยก็หายจากอาการบาดเจ็บในเวลาไล่เลี่ยกัน นั่นหมายความว่าหัวหน้าทีมทั้งสองของแผนกสืบสวนสถานีหรงหยางพร้อมกลับมาทำงานอีกครั้ง!
ตอนนี้แผนกสืบสวนที่นำโดยผู้กองเหมี่ยวได้กลับมาอย่างรูปแบบแล้ว ไม่ว่าคดีที่จะเข้ามาจะซับซ้อนเพียงใด พวกเขาก็พร้อมที่จะคลี่คลายเพื่อเอาคนผิดมาลงโทษและนำความยุติธรรมกลับคืนมาที่เหยื่อ