(ฟรี) ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 105 ข้าไม่จำเป็นต้องใช้สมุนไพรของข้า
“นักปรุงโอสถขั้นปรมาจารย์!” แม้เฟิงเฉินจะรู้เรื่องศาสตร์ปรุงโอสถเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็เข้าใจดีว่านักปรุงโอสถขั้นปรมาจารย์นั้นหมายความว่าอย่างไร
ผู้ที่อยู่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของนักปรุงโอสถในทวีปเอวาเรีย ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ใด ทุกอาณาจักร ราชวงศ์หรือนิกายก็พร้อมจะอ้าแขนต้อนรับพวกเขา
การที่นิกายกระบี่ล่องนภาได้บันทึกของเขามา นั่นอาจหมายความว่าอาจมีนักปรุงโอสถขั้นเชี่ยวชาญเกิดขึ้นมาในนิกายของพวกเขา!
“เจ้าแน่ใจเหรอหรือ?” เฟิงเฉินสงบสติอารมณ์ หลังจากคิดว่าสิ่งนี้อาจหมายถึงการพัฒนานิกายในอนาคต เฟิงเฉินถามว่านชิวด้วยน้ำเสียงที่ทั้งตื่นเต้นและจริงจังในเวลาเดียวกัน
“เจ้าค่ะ! ข้าเป็นนักปรุงโอสถขั้นชำนาญระดับสมบูรณ์แล้ว เพราะความรู้ของเขาที่เหนือกว่าข้า ดังนั้นข้าจึงรู้ได้ทันที!” ว่านชิวอธิบาย ในขณะที่สมาธิของนางจดจ่อกับบันทึกจ้าวเมืองกุเวร
“แล้วเจ้าคิดว่า ในบันทึกนี้มีวิธีการรักษาโรคระบาดหรือไม่...” เฟิงเฉินยิ้มอย่างมีความสุข แต่ไม่นาน เขาก็ถามว่านชิวด้วยน้ำเสียงที่คาดหวัง
ว่านชิวชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามของเฟิงเฉิน นางเริ่มตรวจสอบบันทึกจ้าวเมืองกุเวรอีกครั้ง
“หืม… ข้าคิดว่าเราน่าจะทำได้ในระยะเวลาหนึ่ง แต่ข้าจะต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสคนอื่น ๆ จากโถงปรุงโอสถเสียก่อน… อย่างไรก็ตาม มันก็ยังดีกว่าที่ไม่ได้ทำสิ่งใดเลย!”
“เจ้าไปเถิด ไม่ต้องกังวลเรื่องผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ของโถงปรุงโอสถ!” เมื่อเฟิงเฉินได้ยิน เขาก็ให้กำลังใจว่านชิว ก่อนที่นางจะเดินเข้าไปในโถงปรุงโอสถ เพื่อหาผู้อาวุโสคนอื่น ๆ
เมื่อเฟิงเฉินเห็นนางเดินจากไป เขาก็ออกจากโถงปรุงโอสถและติดต่อไปยังผู้อาวุโสหลักคนอื่น ๆ ให้มาหาลือเรื่องสาวกเทพเหวินเซินที่ใช้โรคระบาดคุกคามอาณานภาคราม
ในเวลาเดียวกันนั้น ชิงอี้ก็ได้เดินมายังโถงปลุงโอสถพร้อมกับอวี่
“มีเหตุใดเกิดขึ้นหรือ...” เทื่อนางมาถึง นางก็ต้องตกใจกับความโกลาหลในโถงปรุงโอสถ ครั้งสุดท้ายที่นางมาโถงปรุงโอสถ ที่นี่ก็เงียบงันราวกับป่าช้า แต่ในตอนนี้กลับต่างไปโดยสิ้นเชิง...
“เจ้าคงไม่ได้มาที่นี่นานเพราะศิษย์ฝึกหัดเช่นเจ้าไม่มีเหตุผลให้ต้องมา… เหตุผลที่โถงปรุงโอสถเป็นเช่นนี้ เพราะเราได้ทุ่มเททรัพยากรในการรักษาโรคระบาดและผลรับก็อย่างที่เจ้าเห็น” อวี่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะพาชิงอี้ไปยังห้องสมุดของโถงปรุงโอสถ
เมื่อเทียบกับส่วนอื่น ๆ ในโถงปรุงโอสถแล้ว ห้องสมุดนับว่าเป็นสถานที่ที่เงียบสงบที่สุด มีเพียงผู้คนที่เข้ามาอ่านหนังสือที่นี่เพียงไม่กี่คน
“เราต้องเลือกหนักสือที่เป็นประโยชน์ต่อการประลองปรุงโอสถของเจ้า... การประลองส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับความรู้เรื่องสมุนไพร, การปรุงโอสถและโอสถพิษ” ขณะที่เดินในห้องสมุดของโถงปรุงโอสถ อวี่ก็อธิบายเรื่องการประลองให้ชิงอี้ได้ทราบ
“หนังสือที่เราจะเลือกคราวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือที่เน้นเรื่องโอสถ, สูตรโอสถพื้นฐานต่าง ๆ และสารานุกรมสมุนไพรพื้นฐาน- ซ่อนอยู่นี่เองรึ!” เมื่ออวี่เดินมาหยุดตรงชั้นหนังสือ เขาก็หยิบหนังสือมอบให้ชิงอี้
“ข้าต้องอ่านพวกมันและฝึกปรุงโอสถเองหรือ?” ชิงอี้มองไปยังกองหนังสือที่อวี่มองให้ ก่อนจะเงยหน้ามองอวี่
“ไม่ใช่อย่างนั้น! เจ้าต้องมาที่โถงปรุงโอสถเพื่อร่ำเรียนกับผู้อาวุโสของเราสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ด้วยวิธีนี้ เจ้าจะก้าวหน้ามหาศาล!” อวี่อธิบายถึงแผนในการฝึกชิงอี้ให้เข้าร่วมการประลองปรุงโอสถ
“เมื่ออาจารย์ของข้ากลับมา ข้าจะลองอ้อนวอนเขา... ถึงอย่างไร ข้าก็ค่อนข้างว่างอยู่แล้ว!” เมื่อชิงอี้ได้ยินว่าตนสามารถเรียนกับผู้อาวุโสในโถงปรุงโอสถสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง นางก็ดีใจอย่างมาก เมื่อเซวียนห่าวกลับมาเมื่อใด นางก็จะขอร้องเขาให้อนุญาต
ชิงอี้รู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้เรียนศาสตร์ปรุงโอสถกับผู้อาวุโสในโถงปรุงโอสถ
ด้วยเหตุนี้ นางก็จะไม่ต้องใช้สมุนไพรของตนอีกต่อไป!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็กระโดดโลดเต้นโดยมีกองหนังสือที่อวี่มอบให้ข้าง ๆ