ตอนที่ 1126 อะไร? คุณหลิน เป็นนักเปียโนด้วยหรือ?
เกรกอรี ถามทันทีว่า : “หญิงงามหัวเซี่ย คุณมีความคิดดีๆ อะไร คุณช่วยบอกฉันมาหน่อยได้ไหม?”
หลิว เหมิงเจี๋ย กล่าวว่า : “คุณเกรกอรี สามารถหาคนมาแสดงบนเวทีแทนคุณได้ เพื่อฆ่าเวลาที่รอคอยสำหรับผู้ชม แค่นี้ผู้ชมก็จะไม่เบื่อ แถมยังสามารถรับชมการแสดงเพิ่มเติมได้มากขึ้นด้วยค่ะ”
เกรกอรี ก็ได้หัวเราะออกมาทันที : “หญิงงามหัวเซี่ย ความคิดของคุณดีมากจริงๆ พอดีเลย ฉันเองก็อยากเห็นการแสดงของนักเปียโนหัวเซี่ยด้วย ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นถึงจุดประสงค์ของการสื่อสารได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉันรู้ว่าหัวเซี่ยก็มีนักเปียโนที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน อย่างเช่น คุณหลางหล่าง เพียงแต่น่าเสียดายที่ไม่ได้พบกับ คุณหลางหล่าง ในคืนนี้ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมี เพื่อนรักของฉันอย่าง คุณโจว ที่ก็เก่งมากเช่นกัน.. เพียงแต่ว่า การขอให้พวกคุณขึ้นไปแสดงแทนฉัน มันก็ต้องได้รับความยินยอมจากพวกคุณ”
นักเปียโนแซ่โจว ได้ยิ้ม แล้วพูดว่า : “คุณเกรกอรี เป็นปรมาจารย์เปียโนระดับโลก การได้เล่นเปียโนต่อหน้าคุณ มันก็เป็นได้แค่ การกวัดแกว่งขวานด้ามใหญ่หน้าบ้านของหลู่ป้าน(1) เท่านั้น ทั้งนี้ความกดดันมันก็เยอะมากจริงๆ ฮ่าฮ่า... ปกติผมก็ไม่กล้าตอบตกลง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตอนนี้ ผมเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้ งั้นได้.. ผมจะเป็นคนแรกที่จะขึ้นไปโชว์ความน่าเกลียดของตัวเอง!”
นักเปียโนแซ่โจว ได้อาสาเป็นคนแรก
เกรกอรี ได้ยิ้ม และพูดว่า : “ขอบคุณ คุณโจว เพื่อนรักของฉัน คุณดีจริงๆ!”
นักเปียโนแซ่โจว กล่าวว่า : “มันแค่ครึ่งชั่วโมงเอง ผมคนเดียวก็ดูจืดชืดไปหน่อย ทุกคนที่อยู่ที่นี่ พวกคุณคิดเห็นอย่างไร?”
คนไม่กี่คนที่นักเปียโนแซ่โจว ..พามา ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักดนตรีที่ดีในประเทศ พวกเขาทั้งหมดกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับโอกาสในการแสดงต่อหน้า เกรกอรี แต่ก็มีความคาดหวังว่าหากพวกเขาจะได้รับคําแนะนําจาก เกรกอรี แน่นอนว่าด้วยสิ่งนี้ ..พวกเขาจะได้รับผลประโยชน์นี้ ไปตลอดชีวิต
ดังนั้น หลังจากลังเลอยู่เล็กน้อย พวกเขาทั้งหมดก็แสดงความเต็มใจที่จะแสดง
หลี่ ตี๋ กลับดูเป็นคนที่กระตือรือร้นที่สุด หลังจากนักเปียโนแซ่โจว ก็เป็นเขาเองที่ได้รีบแสดงความคิดเห็นได้เร็วที่สุด : “คุณเกรกอรี ผมเองก็ยินดีที่จะขึ้นไปแสดงบนเวทีด้วย!”
เกรกอรี กล่าวว่า : “ขอบคุณ คุณหลี่”
หลี่ ตี๋ มีความรู้สึกปีติยินดีภายในหัวใจของเขา เขากําลังกังวลว่าจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับ เกรกอรี และนี่ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยม เขามีความมั่นใจในตัวเองมาก และคิดว่าการแสดงครั้งนี้จะได้รับความโปรดปรานจาก เกรกอรี ได้อย่างแน่นอน หากสามารถใช้โอกาสนี้ได้ และกลายเป็นที่จับตามองของ เกรกอรี และเมื่อเขาได้ยอมรับเขาเป็นศิษย์ และด้วยชื่อเสียงของ เกรกอรี เอง เขาเองก็สามารถสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ได้อย่างรวดเร็ว…
เมื่อคิดเรื่องนี้ หลี่ ตี๋ ก็เกือบจะหัวเราะออกมา และถ้าเขาได้กลายเป็นศิษย์ของ เกรกอรี จริงๆ ล่ะก็.. เขาคงจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม ทั้งยามตื่น และยามหลับฝัน
ชั่วขณะหนึ่ง หลี่ ตี๋ ก็ได้ถูมือไปมา และรอขึ้นเวทีเพื่อไปทํางานหนักแล้ว..
ในเวลานี้ หลินฟาน ก็ได้จัดยาเอาไว้แล้ว และก็ได้มอบให้กับผู้ช่วยของ เกรกอรี แล้วพูดว่า : “เตรียมน้ำต้มเดือดหนึ่งแก้ว พร้อมกับแค่ป้อนยานี้ให้เขากินก็พอ”
ผู้ช่วยได้ทําตามที่เขาแนะนำ เกรกอรี ก็ได้กินยาลงไป หลังจากนั้นเขาก็ได้กล่าวขอบคุณไปว่า : “ขอบคุณ คุณหลิน, ฉันเองได้มองเห็นทูตสวรรค์ในความฝัน แต่กลายเป็นว่าคุณเป็น ทูตสวรรค์!”
จะเห็นได้ว่า เกรกอรี รู้สึกขอบคุณ หลินฟาน มากจริงๆ ในฐานะผู้ช่วยชีวิตเขา หลินฟาน ก็สามารถเรียกร้องขออะไรจาก เกรกอรี ได้อย่างแน่นอน
แต่ หลินฟาน กลับไม่ได้ทําเช่นนี้ เพราะสําหรับ หลินฟาน แล้ว นั้นมัน.. ไม่มีความจําเป็นเลย
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลี่ ตี๋ ที่อยู่ข้างๆ ก็เกิดความอิจฉา หลินฟาน ..คนนี้ เขาเองไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมีทักษะทางการแพทย์ และกลายมาเป็นผู้ช่วยชีวิต เกรกอรี ถ้า หลินฟาน ต้องการขอเป็นศิษย์ของ เกรกอรี มันจะต้องเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก!
อย่ามองดูว่า หลินฟาน ไม่มีท่าทางจะหวังผลตอบแทน หลี่ ตี๋ ไม่เชื่อว่า หลินฟาน ไม่ได้วาดฝันไว้ ผู้ชายคนนี้ แน่นอนว่าจะต้องคิดคว้าจับมันเอาไว้แน่ๆ
หลังจากนั้น หลี่ ตี๋ ก็ได้มีความคิดหนึ่ง และเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะทําลายภาพลักษณ์ของ หลินฟาน ในใจของ เกรกอรี ความคิดนี้เลวร้ายมาก แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ หลี่ ตี๋ จะทํามันอย่างแน่นอน
“ใช่แล้ว อาจารย์หลิน คุณจะไม่ขึ้นแสดงบนเวทีเหรอ?” หลี่ ตี๋ ได้พูดขึ้นอย่างกระทันหัน พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ทั้งนี้มันก็แทบมองไม่เห็นน้ำที่ไม่ดีภายในท้องของเขา ..แม้แต่น้อย
ไม่รอให้ หลินฟาน พูด หลี่ ตี๋ ก็ได้มองไปที่ เกรกอรี : “คุณเกรกอรี ..คุณอาจจะไม่รู้ อาจารย์หลิน ก็เป็นนักเปียโนเช่นกัน เหมือนกับผม เขาเองได้สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยดนตรี เพียงแต่ผมเป็นอาจารย์อย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนอาจารย์หลิน เป็นเพียงอาจารย์ชั่วคราว”
เกรกอรี ได้ฟังคำแปลจาก ล่าม และเขาก็ได้รู้สึกประหลาดใจมาก : “อะไร? คุณหลิน เป็นนักเปียโนด้วยหรือ? จริงหรือเปล่า? ฉันก็นึกคิดไปว่า คุณหลิน เป็นแพทย์เสียอีก? ที่ไหนได้.. นี่มันช่างน่าประหลาดใจจริงๆ!”
คนๆ หนึ่ง เป็นนักเปียโน ..ในเวลาเดียวกัน ก็มีทักษะทางการแพทย์ที่น่ามหัศจรรย์เช่นนี้ได้ ซึ่งคนๆ นี้ เขาก็ยอดเยี่ยมเกินไปจริงๆ!
หลี่ ตี๋ กล่าวว่า : “นี่เป็นเรื่องจริง คุณเกรกอรี ผมได้ยินว่า อาจารย์หลิน เล่นเปียโนได้ดีมาก ผมเองได้ยินมาจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเดียวกันพูดถึง และก็อาจารย์ท่านนั้นยังบอกด้วยว่า อาจารย์หลิน เก่งกว่า หลางหล่าง ผมเองก็ไม่เคยได้เห็นมาก่อน และผมเองก็อยากเห็นมันเหมือนกัน”
หลี่ ตี๋ พูดพลางก็แอบหัวเราะในใจไปพลาง เขาเก่งกว่า หลางหล่าง ซึ่งนี่คือสิ่งที่เขาได้ยินมาจาก อาจารย์เฉิน ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกันพูดถึง แต่ อาจารย์เฉิน คนนี้ ก็เป็นแฟนคลับของ หลินฟาน.. ก็ต้องพูดเกินจริงอย่างแน่นอนอยู่แล้ว แต่.. ในความเป็นจริง หลินฟาน ก็เป็นแค่คนรวยรุ่นสอง ที่ไม่ได้มีความสามารถอะไรจริงๆ และก็เป็นได้แค่คนที่โง่เขลา เท่านั้น!
หลี่ ตี๋ ได้ยุยงให้ หลินฟาน ขึ้นไปบนเวทีเพื่อแสดง โดยมีเป้าหมายเดียว เขาต้องการให้ หลินฟาน ทำหน้าอัปลักษณ์ต่อหน้าสาธารณชน!
ในเวลานี้ เขาต้องกล่าวเสริมยกยอหน่อย และเดี๋ยวเมื่อ หลินฟาน ทําขายหน้าบนเวที เขาก็จะยิ่งรู้สึกเสียหน้ามากขึ้นเท่านั้น..
แล้วเมื่อเห็นการแสดงที่ไม่ดีของ หลินฟาน ความรู้สึกที่ดีของ เกรกอรี ที่มีต่อ หลินฟาน ก็จะต้องลดลงอย่างแน่นอน!
ยอดเยี่ยมมาก!
หลี่ ตี๋ คิดว่ามันยอดเยี่ยมมากที่เขาอยู่ที่นี่ ทั้งยังสามารถล่องหนไปฆ่าอีกฝ่ายได้!
เมื่อ หลี่ ตี๋ บอกว่า หลินฟาน เก่งกว่า หลางหล่าง เมื่อนั้นความอยากรู้อยากเห็นของ เกรกอรี ก็แทบจะระเบิดขึ้นมาจริงๆ : “ฉันเองโชคดี.. ทั้งรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เห็นการแสดงสดของ คุณหลางหล่าง ในครั้งนั้นฉันได้รู้สึกประทับใจมากจริงๆ คุณหลิน ในด้านเปียโน คุณก็เก่งไม่แพ้ คุณหลางหล่าง หรือ? งั้นได้โปรดเถอะ คุณหลิน คุณได้โปรดขึ้นแสดงบนเวที แสดงให้ฉันได้เห็น ในตอนนี้.. ฉันบอกตรงๆ ฉันได้ตั้งตารอดูการแสดงของ คุณหลิน มาก”
เกรกอรี จะคิดได้อย่างไรว่าตัวเขาเอง ได้กระโดดลงไปในหลุมที่ถูกขุด โดย หลี่ ตี๋
หลี่ ตี๋ ก็ได้แอบดีใจอย่างลับๆ เกรกอรี ได้กระโดดลงไปในหลุม แถมยังพา หลินฟาน ตกลงไปในหลุมด้วย ถ้าเขาปฏิเสธ มันก็แสดงให้เห็นว่าเขา ..ไม่มีจิตสำนึกของผิดชอบชั่วดี!
หลินฟาน ไม่ได้วางแผนที่จะขึ้นไปแสดงบนเวทีจริงๆ เขาไม่เหมือน หลี่ ตี๋ ที่อยากเป็นศิษย์ของ เกรกอรี เขาเองไม่ได้มีความคิดนี้เลย และเขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบอวด และก็หลายครั้งแล้ว ที่เขา ..ทำตัวต่ำต้อย
แต่เมื่อเห็นสายตาที่คาดหวังของ เกรกอรี หลินฟาน ก็ได้พยักหน้า และพูดว่า : “โอเค”
หลี่ ตี๋ ไม่คิดว่า หลินฟาน จะตอบตกลงอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ เมื่อนั้นเขาก็ได้ยกยิ้มอย่างเย็นชาในใจ แต่พอได้เห็นความมั่นใจอย่างลึกลับของผู้ชายคนนี้ ทั้งนี้โดยปกติแล้ว เขาเองก็ได้ยินคําชมจอมปลอมมาเยอะแล้ว และตอนนี้อีกฝ่ายก็คงคิดว่าตัวเองเก่งมากแค่ไหนละมั้ง? เฮ้.. เฮ้, เบาหน่อยก็ดี เพราะอีกสักพัก นายมันก็จะได้ขายหน้าแล้ว ฉันเอง.. แค่ต้องการให้นายมีสติ และก็จงตื่นขึ้นมาจากความฝัน เสียที!
แผนฉุกเฉิน ก็ได้ถูกกําหนดเช่นนี้ ก่อนที่ เกรกอรี จะฟื้นตัว โดยจะมีทั้งนักเปียโนแซ่โจว หลี่ ตี๋ หลินฟาน และคนอื่นๆ ตามลำดับ ผลัดกันขึ้นไปแสดงบนเวทีให้นานกว่าครึ่งชั่วโมง..
จากนั้น กำหนดเวลาการแสดงเดิม ก็มาถึง.. ในสถานที่จัดงาน ผู้ชมได้เข้ามานั่งลงแล้ว และได้ตั้งตารอการปรากฏตัวของ เกรกอรี
อย่างไรก็ตาม ..ผู้ช่วยกลับขึ้นไปบนเวทีในเวลานี้ และกล่าวขอโทษผู้ชม โดยกล่าวว่า คุณเกรกอรี จําเป็นต้องปรากฏตัวช้ากว่ากำหนด เนื่องจากเหตุผลทางร่างกาย และก่อนที่ คุณเกรกอรี จะขึ้นแสดง นักดนตรีชาวจีนหลายคนจะขึ้นมาทำการแสดง…..
ผู้ชมยังคงเข้าใจ และพอได้ยินว่า เกรกอรี มีเหตุผลทางร่างกาย พวกเขาทุกคนต่างก็ได้แสดงความเข้าใจ
ดังนั้น ด้วยเหตุนี้ ..นักดนตรีชาวจีนหลายคน จึงกําลังจะขึ้นแสดงบนเวที
หลังเวที หลี่ ตี๋ ก็ได้ถูมือไปมาแล้ว เขาเองอยากจะทําให้ดีที่สุด เขาเองได้ตะโกนในใจของเขาไปว่าวันนี้เป็นวันฉลองปีใหม่ (过年, วันฉลองตรุษจีน) จริงๆ และเขาก็จะต้องได้รับความโปรดปรานจาก เกรกอรี ส่วน หลินฟาน เขาเองก็จะกลายมาเป็นที่ขายหน้าในที่สาธารณะ ในเวลานี้เขาถึงกลับมีสองเรื่องที่น่ายินดีมากๆ!
(1)[การกวัดแกว่งขวานด้ามใหญ่หน้าบ้านของหลู่ป้าน (班门弄斧)] - เป็นการเปรียบเปรยถึงการอวดความสามารถต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญ และการประเมินตนเองสูงเกินไป สำนวนนี้มักใช้เป็นภาคแสดง กริยาวิเศษณ์ และกรรมในประโยค โดยมีความหมายไปในทางเสื่อมเสีย