ตอนที่แล้วบทที่ 656 เปิดพิธี เทศนาของราชามังกร!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 658 การเข้ายึดครองของกองกำลังต่างชาติ?

ตอนที่ 657 (ตอนฟรี) 


ตอนที่ 657 (ตอนฟรี)

"สมาชิกแห่งวังมังกร และเพื่อนพ้องแห่งเผ่าพันธุ์ใต้มหาสมุทร หลายร้อยล้านชีวิต วันนี้ เราราชามังกร จ้าวแห่งวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ จะทำการเทศนา เกี่ยวกับการรู้แจ้งแห่งการเปิดภูมิปัญญา เพื่อนำพาพี่น้องแห่งใต้ท้องทะเล ก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการวิวัฒนาการ!"

เสียงอันสุขุมนุ่มลึกและเย็นฉ่ำแต่เต็มไปด้วยพลังอำนาจที่สิ่งมีชีวิตทุกตัวที่ได้ยินเสียงไม่อาจสามารถต้านทานกระแสเสียงแห่งอำนาจนี้ได้ !

กล่าวให้ถูกต้องนั่นก็คือในตอนนี้หวังเสียงใช้พลังอำนาจพิเศษที่อยู่ในสายเลือดแห่งจักรพรรดิมังกรบรรพกาล ซึ่งเคยเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง ไฮโปรตอล (Hi Protoss) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตระดับชั้นบนสุดแห่งห้วงจักรวาล สิ่งมีชีวิตระดับไฮโปรตอลเหล่านี้ จะอยู่เหนือกว่าเหล่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเช่นชนชั้นเซราฟิม (ชั้นแห่งเทพเซราฟ Seraphim)

แต่มันไม่ใช่เป็นพลังอำนาจอันแท้จริง ในระดับของหวังเสียนอาจกล่าวได้ว่าสามารถใช้เพียงแต่คลื่นกระแสเสียงถ่ายทอดส่งผ่านเป็นคำพูดเท่านั้น

มังกรเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ และโดยปกติแล้ว เผ่าพันธุ์มังกรจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเผ่าพันธุ์ที่อยู่ในน้ำเป็นอย่างมากอยู่แล้ว ฉะนั้นหลากหลายเผ่าพันธุ์ที่อยู่ใต้มหาสมุทรที่ได้ยินเสียงของหวังเสียน สามารถเข้าใจได้ทุกคำพูด ซึ่งเปรียบเสมือนการส่งผ่านความคิดเข้าสู่จิตใจและจิตวิญญาณของพวกมันโดยตรง

นี่คือหนึ่งในความสามารถอันทรงพลังของตระกูลมังกร! และเป็นหนึ่งในพลังอันน่ากลัวของจ้าวผู้ปกครองแห่งผืนน้ำและมหาสมุทร

ในเวลานี้รัศมีหลายสิบกิโลเมตรรอบๆวังมังกรเต็มไปด้วยสัตว์น้ำหลายร้อยล้านชีวิต ร่างกายของพวกมันสั่นสะท้าน และมองไปที่หวังเสียนในร่างมังกร ด้วยความกลัวและความเคารพที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ!

หวังเสียนยืนอยู่บนส่วนหัวของเสี่ยวหลาน วาฬคุนเผิงขนาด 70 เมตร ที่ลอยตัวอยู่สูงเหนือวังมังกร รองรับร่างกายมังกรของหวังเสียนยินยอมเป็นพาหนะโดยไม่ขยับเขยื้อนด้วยความเคารพอย่างสูง

ภาพนี้ทำให้สัตว์น้ำจำนวนนับไม่ถ้วนรู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น!

"จิตสับสนตามสัญชาตญาณ มิอาจตั้งมั่น ก็มิอาจบรรลุมรรคผลภูมิปัญญา เพียงสงบจิตส่องดูภายในของตน ดูดซับพลังงานแห่งสวรรค์และพิภพ เร่งบำเพ็ญตบะ หากมิก้าวผ่านประตูมังกร แต่หากจิตมุ่งมั่นเชื่อแน่ว่า มิเกินร้อยปี ต้องได้ญาณ พุ่งทะยานกลายเป็นมังกร!"

เสียงของหวังเสียน ดังเข้าไปในความคิดและจิตใจของสัตว์น้ำทุกตัวอีกครั้ง

สัตว์น้ำจำนวนหลายร้อยล้านตัว ที่เกินกว่สครึ่งและไม่ได้เปิดภูมิปัญญาไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ หวังเสียนกำลังพูดถึง มีแต่ความคิดที่คลุมเครือไม่ประติดประต่อ คล้ายกับทารกที่สับสนคำพูดของพ่อแม่ที่เป็นประโยคยาวๆ

ในสถานการณ์เช่นนี้ หวังเสียนเองก็ทำอะไรไม่ได้ และไม่สามารถช่วยอะไรได้  เขาเพียงแต่ต้องการเพาะเมล็ดพันธุ์ แห่งจิตใจ และต่อไปภายหน้าหากพวกมันเหล่านี้ยังไม่ตาย มันก็มีหวังมากกว่าสัตว์น้ำตัวอื่นๆ ที่ไม่มีเมล็ดพันธุ์แห่งการบ่มเพาะ

เมื่อเมล็ดพันธุ์เหล่านี้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ก็จะหยั่งรากและแตกหน่อ และจะผลิดอกออกผลในที่สุด!

หวังเสียนสอนวิธีที่ชัดเจนที่สุดในการดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณในเทคนิคการฝึกฝนและบ่มเพาะปลูกของสายพันธุ์สัตว์น้ำโดยเฉพาะ

ดูดซับกลิ่นอายของสวรรค์และโลก กลั่นกลิ่นอายของสวรรค์และโลกนำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงความแข็งแกร่งของตน ภายในออกสู่ภายนอก!

หวังเสียนสอนเพียงสองวิธีนี้ ถ้าสัตว์น้พเหล่านี้ต้องการประสบความสำเร็จ เขาต้องสอนมากขึ้น และใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว และสัตว์น้ำเหล่านี้ยังไม่ได้มีสติปัญญาเลยแม้แต่น้อย พวกมันจึงไม่สามารถจดจำคำสอนที่ยาวและเข้าใจยากเกินไปได้!

ดังนั้นเขาพูดช้าๆ และเมื่อต้องสอนการการเคลื่อนที่ของพลังลมปราณภายในร่างให้หมุนวนไปตามทิศทางต่างๆ เขาก็จะกำหนดภาพเหล่านั่นขึ้นมาในจิตใจ และภาพก็จะปรากฏขึ้นในจิตใจของสัตว์น้ำเหล่านั้นด้วยเช่นเดียวกัน!

สัตว์น้ำหลายร้อยล้านตัวตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ และสัตว์น้ำบางตัวก็หลับตาลง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับโลมาและวาฬเพชฌฆาตที่มีสติปัญญาสูงกว่า

"จบการเทศนาเพื่อการรู้แจ้งแต่เพียงเท่านี้ รอให้วังมังกรศักดิ์สิทธิ์ ปรับเปลี่ยนขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เราราชามังกรจะทำพิธีเทศนาปลุกปัญญาของพวกเจ้าอีกครั้ง สุดท้ายนี้หากพวกเจ้าต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นก็จงตั้งใจ บากบั่น มุมานะและบำเพ็ญเพียรตามวิถีทางแห่งเผ่าพันธุ์ใต้น้ำที่เราได้ชี้แจงและสั่งสอนให้มากขึ้น แล้วพวกเจ้าจะประสบความสำเร็จดังที่ใจหวัง!"

หวังเสียนส่งคำพูดประโยคสุดท้ายดังก้องกังวาลไปทั่ว "ขอให้พวกเจ้าจงเดินทางโดยสวัสดิภาพ และแยกย้ายกันไปด้วยความสงบเรียบร้อย!"

หลังจากนั้น สัตว์น้ำหลากหลายเผ่าพันธุ์ก็ค่อยๆ แสดงความเคารพมาทางวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะเคลื่อนตัวแยกย้ายกันออกไป

สัตว์น้ำหลากหลายเผ่าพันธุ์ที่เคยเป็นศัตรูกัน เพียงแค่ชำเลืองมองกันเล็กน้อยและแยกย้ายกันจากไป พวกมันไม่คิดจะต่อสู้กันที่นี่ ถึงแม้ว่าพวกมันจะยังไม่ได้เปิดภูมิปัญญาก็ตาม แต่สัญชาตญาณความเคารพต่อผู้ที่เหนือกว่านั้นมีอยู่ในสายเลือดของพวกมันอย่างชัดเจน

“สัตว์น้ำหลายร้อยล้านตัว ข้าไม่รู้ว่ามีกี่ตัวที่แต่มันรู้และกลายเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งได้ ยิ่งหากพวกมันสามารถกระโดดข้ามผ่านประตูมังกรได้เร็วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อวังมังกรมากขึ้นเท่านั้น!”

หวังเสียนพึมพำเบาๆ หลังจากนั้นเขาก็ขยับร่างกายเปลี่ยนกลับคืนสู่ร่างมนุษย์ แล้วตรงกลับไปที่วังมังกร

หวังเสียน วางแผนจะเปิดการเทศนาเป็นระยะๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและดูสถานะการณ์วิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์ที่มีศักยภาพมากพอที่จะเป็นสมาชิกระดับสูงของวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

"เสี่ยวเสียน! พิธีเปิดการเทศนาแห่งการรู้แจ้งเสร็จสิ้นแล้วอย่างนั้นเหรอ!"

เมื่อหลานชิงเยว่ และคนอื่นๆ เห็นหวังเสียนกลับมายังห้องโถงราชามังกรพวกเธอก็รีบถามกันในทันที

"เสร็จเรียบร้อยแล้ว! เอาล่ะพวกเราก็รีบกลับไปยังประเทศจีนกันเถอะ!"

หวังเสียนพยักหน้าและพูดกับเด็กสาวทั้งหมด

"ตกลง!"

เด็กสาวทั้งห้าพยักหน้าอย่างมีความสุข  และเสี่ยวหยูก็พูดด้วยความตื่นเต้นว่า "ข้าต้องการยึดภูเขาไท่ไปให้เป็นอาณาเขตของสำนักกระบี่พฤกษาขจีของข้า!"

"คารวะท่านเจ้าสำนักหญิงผู้ลือโฉมแห่งสำนักกระบี่พฤกษาขจี!"

หลานชิงเยว่ และคนอื่น ๆ ล้อเลียนเสี่ยวหยูด้วยรอยยิ้ม และหลังจากนั้นทั้งหมดก็บินขึ้นไปสู่ผิวน้ำ

ในครั้งนี้อ๋าวเจี้ยนไม่ได้ติดตามหวังเสียนไปด้วย เนื่องจากทั้งอ๋าวเจี้ยนและอ๋าวฉีเทียนมีภารกิจไปปราบปรามปลาปีศาจในพื้นที่ทะเลแห่งความโกลาหล

หวังเสียนต้องการให้อาณาเขตของวังมังกรครอบคลุมพื้นที่ทะเลแห่งความโกลาหลทั้งหมดอย่างสมบูรณ์

เพราะพื้นที่ทะเลแห่งความโกลาหลนั้นมีพื้นที่ที่เป็นข้อได้เปรียบสำหรับการสร้างแหล่งทรัพยากรในการฝึกฝน

"ไปกันเถอะ! ออกเดินทางได้~"

เสี่ยวหยูตะโกนออกมาเสียงดังคล้ายกับเด็กๆขณะที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือยอร์ชลำใหญ่พร้อมกับหวังเสียนและคนอื่นๆ

ภูเขาไท่ไป๋ แหล่งต้นน้ำระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของจีนตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนกลางของประเทศจีน

นี่คือเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดในจีน และภูเขาไท่ไป๋เป็นหนึ่งในยอดเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีน

ภูเขาไท่ไป๋เป็นพื้นที่ที่มีทิวทัศน์สวยงามมาก

ในเวลานี้ ภูเขาไท่ไป๋ทั้งหมดเป็นเหมือนกับเขตแดนของสรวงสวรรค์

บนท้องฟ้า จากระยะไกล จะสามารถเห็นรัศมีเหมือนน้ำตกที่ตกลงมาจากท้องฟ้า และด้านล่างที่มียอดเขาหลายสิบลูกก็ถูกปกคลุมด้วยออร่าที่เข้มข้นด้วยเช่นเดียวกัน

ในหมู่เทือกเขาทั้งหมดรัศมีของภูเขาลูกที่สูงที่สุดนั้นมีความเข้มข้นและแข็งแกร่งมากที่สุด ซึ่งออร่าของพลังงานจิตวิญญาณนั้นเกือบจะกลั่นรวมตัวกันกลายเป็นหยดน้ำเลยทีเดียว

รอบๆเขตยอดเขาเหล่านี้ มีผู้ฝึกตนนั่งกันอยู่อย่างแน่นๆ และกำลังดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณกันอย่างบ้าคลั่ง

ระดับพลังงานทางจิตวิญญาณที่เข้มข้นสามารถชำระล้างเส้นลมปราณให้เหล่าผู้ฝึกตนให้สามารถฝึกฝนได้ง่ายมากขึ้น และสำหรับผู้ที่บาดเจ็บ ด้วยพลังงานทางจิตวิญญาณในระดับนี้ก็มากพอที่จะสามารถช่วยให้อาการบาดเจ็บทุเลาลง หากควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยาสมุนไพรชั้นดีแล้วอาการบาดเจ็บก็จะหายขาดเป็นปลิดทิ้ง

การฝึกฝนและการดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณสามารถให้เหล่าผู้ฝึกตนทะลวงระดับขั้นได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น นี่คือโอกาสสำหรับชาวยุทธในยุทธภพแห่งประเทศจีน

แต่อย่างไรก็ตามในขณะนี้บนยอดเขาไท่ไป่ผู้คนหลายหมื่นคนกำลังยืนรอบๆและจ้องมองไปทางยอดเขาด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล

ผู้คนเหล่านี้คือเหล่าผู้ฝึกตนในยุทธภพและบางส่วนก็เป็นมหาเศรษฐีผู้ที่มีอำนาจ ลักษณะท่าทางของพวกเขานั้นค่อนข้างที่จะน่าอายมาก

“ไอ้สารเลวพวกนี้ พวกมันครอบครองภูเขาลูกแล้วลูกเล่า และพวกมันไม่ยอมให้พวกเราผ่านไปได้เลย ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่สามารถยึดครองภูเขาได้แต่พวกมันก็ยังปิดกั้นทางของพวกเราอีกด้วย ที่นี่คือประเทศจีนดินแดนของเราแต่พวกมันหยามเกียรติกันมากถึงขนาดนี้ มันช่างน่าโมโหยิ่งนัก!”

"จะให้ทำอย่างไรได้ในตอนนี้กองกำลังของพวกเรานั้นด้อยกว่าของพวกเขามาก!"

"ไม่เพียงแต่ยึดสถานที่ของพวกเราเท่านั้นพวกมันยังไล่ล่าสังหารคนของเราอย่างมากมาย แม้แต่สาวกหญิงสาวบางคนก็ยังถูกพวกฉุดลากไปกระทำย่ำยี คนพวกนี้มันเลวระยำยิ่งกว่าสัตว์นรก!"

เหล่าชาวยุทธของประเทศจีนจำนวนมากต่างแสดงความไม่พอใจและโกรธแค้นที่ถูกกองกำลังต่างประเทศเข้ามายึดครอบครองดินแดน ซ้ำยังไล่ล่าสังหารและกระทำย่ำยีคนภายในประเทศอย่างโหดเหี้ยมอีกด้วย

“เฮ้อ! ช่องว่างระหว่างเรากับพวกเขามันใหญ่เกินไป เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเลย พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป!”

ชายชราในชุดคลุมสีดำจากสำนักเหมากุ่ย ถอนหายใจช้าๆด้วยสีหน้าที่หดหู่

ในปัจจุบันยุทธภพเหลือกลุ่มกองกำลังระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์เพียง 3 กลุ่มเพียงเท่านั้น ตระกูลซุย ตระกูลเซียวและตระกูลกู่ ส่วนตระกูลกง ตระกูลตงฮัว และตระกูลเฉียว ได้ถูกคนของสำนักมังกรกวาดล้างจนหมดสิ้น

ด้วยเหตุนี้ผู้ฝึกตนในยุทธภพบางคนจึงรู้สึกไม่พอใจราชามังกรและสำนักมังกร และแอบสาปแช่งพวกเขาอย่างลับๆ ว่าเป็นกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัวสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนในประเทศ การที่กองกำลังในประเทศอ่อนแอจนไม่สามารถต่อสู้กับกองกำลังต่างประเทศได้นั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากการกระทำของราชามังกรโดยตรง

แต่พวกเขากลับลืมคิดไปว่าคนเหล่านั้นได้บุกไปเพื่อสังหารคนของสำนักมังกรเองถึงที่ก่อน หากคนของสำนักมังกรไม่ตอบโต้แล้วจะให้ทำอย่างไร? ยืนเฉยๆให้คนเหล่านั้นสังหารเล่นอย่างนั้นหรือ?

ในเวลานี้ภายใต้การจ้องมองของกลุ่มกองกำลังต่างชาติ พวกเขาไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ได้จริงๆ และยังไม่กล้าขัดขืนการกระทำของกลุ่มกองกำลังต่างชาติเหล่านั้นอีกด้วย

จะมีเพียงก็แต่ตระกูลซุยและตระกูลเซียวเท่านั้นที่ยังคงต่อสู้และต่อต้านอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านกองกำลังอื่นๆรวมถึงผู้ฝึกตนพเนจรนั้นไม่กล้าแม้แต่จะคิดที่จะเงยหน้าขึ้นมอง ทำให้กองกำลังต่างชาติถึงกับเยาะเย้ยว่าผู้ฝึกตนในประเทศจีนนั้นไม่ต่างจากในอดีตยังคงเป็น ประเทศของคนขี้โรคแห่งเอเชียอยู่อย่างเช่นเดิม!

………….

จบบท

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด