ตอนที่ 1121 โอ้.. สวรรค์ นี่เขาเป็นเจ้าของบ้านของ เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์?
เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ไม่ได้สนใจ หลี่ ตี๋ เลย เพราะเธอแค่อยากหา หลินฟาน ให้เจอ และในที่สุด เมื่อเธอได้พบ หลินฟาน เธอก็ได้รีบวิ่งเข้าไปหาในทันที
หลินฟาน ที่กําลังกินอยู่ในเวลานี้ แต่เพราะความหล่อเกินไปของเขา ก็ได้ทําให้ผู้หญิงหลายคนแอบมองเข้ามา หญิงสาวหลายๆ คนดูกระสับกระส่ายอยากที่จะเข้ามาทำความรู้จักกับ หลินฟาน ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่หล่ออย่างน่าประหลาดใจเท่านั้น แต่ชุดสูทที่เขาสวมใส่ยังมีมูลค่านับล้าน เห็นได้ชัดว่าเขา ..เป็นคนรวย
แม้ว่า หลินฟาน จะรู้สึกหิวอยู่เล็กน้อย ตัวเขาเองก็รู้สึกว่าตัวเองที่ได้ยืนกินเช่นนี้ก็คงดูไม่ค่อยดีนัก แต่ในมุมมองของฝ่ายหญิง การกินของเขานั้นกลับดูน่ารักมาก..
“อา.. ให้ตายสิ เขามีเสน่ห์แม้กระทั่งตอนกิน!”
“เขาเป็นใครกันแน่ เป็นบุตรหลานจากตระกูลไหน?”
“หัวใจฉันเต้นแรงมาก อยากเข้าไปทำความรู้จักกับเขาจัง…”
ขณะที่พวกผู้หญิงกําลังจ้องมองเขาอย่างดุเดือดอยู่นั้น ก็ได้เห็น เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ที่ได้วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เข้ามาหา หลินฟาน และได้ร้องเรียก หลินฟาน ว่า : “พี่ชายเจ้าของบ้าน!”
หลินฟาน เองก็ได้กลืนน้องไก่ลงไป หยิบกระดาษทิชชู่ที่อยู่ข้างๆ มาเช็ดปากให้สะอาด จากนั้นเขาก็ได้ยิ้มหัวเราะ แล้วพูดไปว่า : “เฉี่ยวเอ๋อร์ คุณมาแล้ว”
เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ได้เหลือบมองไปที่น่องไก่ที่เหลือครึ่งหนึ่งในจานของ หลินฟาน และพูดว่า : “พี่ชายเจ้าของบ้าน อาหารฟาสต์ฟู้ดพวกนี้ ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ วันหลังฉันจะทําปีกไก่ต้มโค้กให้คุณกิน”
คําพูดนี้ได้ไปกระตุ้นความทรงจําแย่ๆ ของ หลินฟาน เขาเองได้ไปเป็นแขกที่บ้านของ เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ครั้งนั้นเป็นครั้งแรก และก็ได้กินปีกไก่ต้มโค้กที่ เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ทําเอง จนต้องท้องเสียไปสองวัน
สาวสวย คุณเข้าใจผิดเกี่ยวกับฝีมือการทําอาหารของคุณหรือเปล่า แล้วคุณคิดเห็นว่า อาหารดำมืดของคุณนั้น มีคุณค่าทางโภชนาการ? แล้วความมั่นใจที่อธิบายไม่ได้นี่ ..คุณไปได้มันมาจากไหน?
หลินฟาน ก็ได้หมดความอยากอาหารไปทันที : “เอ่อ.. ขอบคุณ”
ในเวลานี้ เฉิน ซินอี๋ ก็รีบตามมา และดึงมุมเสื้อของ เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ : “เฉี่ยวเอ๋อร์ เขาคือ…”
เธอไม่อยากเชื่อ ได้ยิน เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ตะโกนเรียกเขาว่า พี่ชายเจ้าของบ้านกับ หลินฟาน และเธอก็ได้คิดไปว่า ..เธอ ได้ยินผิดไป
เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ได้ยิ้ม แล้วพูดว่า : “ให้ฉันแนะนําก่อน นี่คือเจ้าของบ้านของฉันเอง เขาชื่อ หลินฟาน พี่ชายเจ้าของบ้าน เธอคนนี้ชื่อว่า เฉิน ซินอี๋ เป็นผู้เรียบเรียงเพลงร่วมกันกับฉัน”
“สวัสดี คุณเฉิน” หลินฟาน ได้เริ่มกล่าวทักทายก่อน
เฉิน ซินอี๋ ตกตะลึง โอ้.. สวรรค์ นี่เขาเป็นเจ้าของบ้านของ เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ จริงๆ นะเหรอ ทำไมเขาถึงยังหนุ่มขนาดนี้ แล้วก็ หล่อขนาดนี้ได้อย่างไรกัน!
นี่มันแตกต่างจากในจินตนาการของเธอไปมาก คุณลุงที่ร่ำรวยที่พุ่งพรวดเข้ามาในจินตนาการของเธอ ที่เขาใส่รองเท้าแตะ สวมเสื้อกั๊ก ไปไหนแล้ว?
แต่เมื่อเธอได้สังเกตเห็นชุดสูทของ หลินฟาน เธอก็รู้สึกว่ามัน ..สมเหตุสมผลขึ้นมาทันที เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ เช่าอยู่ที่ ทอมสัน ยี่ผิน ซึ่งหมายความว่า พี่ชายเจ้าของบ้านของ เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ คนนี้ เป็นเจ้าของ ทอมสัน ยี่ผิน เขาคงรวยมากจริงๆ ทั้ง หลินฟาน ที่ได้สวมใส่สูทตัวนี้ มันก็ราวกับว่าเขาได้สลักตัวอักษรขนาดใหญ่ สามคําว่า “คนรวย (有钱人)” เอาไว้บนร่างกาย..
ทันใดนั้นเธอก็ได้นึกไปถึงคนคนหนึ่ง และเมื่อนั้นใบหน้าของเธอก็ดูตกใจมาก โอ้.. สวรรค์ หรือว่าเขาจะเป็น…
“พี่สาวซินอี๋ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ทําไมสีหน้าถึงได้ดู.. งงๆ แบบนั้น” เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ได้พูดถามแปลกๆ ออกมา
เฉิน ซินอี๋ ก็ได้รู้สึกตัว และใบหน้าของเธอก็ได้แดงทันที เธอได้ยกยิ้มทันทีแล้วพูดว่า : “สวัสดีคะ คุณหลิน”
เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ถาม หลินฟาน ไปว่า : “พี่ชายเจ้าของบ้าน ตัวอย่างเพลงใหม่ที่ฉันส่งไปให้คุณ คุณได้ฟังหรือยัง?”
หลินฟาน ได้พยักหน้า : “ฟังจบแล้ว”
เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ได้พูดด้วยสีหน้าคาดหวัง : “คุณรู้สึกยังไงบ้าง?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “อืมม.. อยากฟังความจริงไหม?”
เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ กล่าวว่า : “แน่นอน.. ฉันเองแค่กําลังหวังว่า พี่ชายเจ้าของบ้าน จะช่วยฉันชี้ถึงปัญหาได้..”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมเองคิดว่าเพลงเหล่านี้ค่อนข้างดี คุณมีความสามารถมาก ระดับการเรียบเรียงเพลงก็สูงมาก เรียกได้ว่าเป็นน้ำตาลไอซิ่งบนชิ้นเค้ก ได้แล้ว โดยรวมแล้ว นี่จะเป็นอัลบั้มที่ยอดเยี่ยม ในฐานะที่เป็นหน้าใหม่ อัลบั้มที่มีคุณภาพสูงเช่นนี้ ..ก็นับว่าหาได้ยากมาก”
เมื่อพอได้รับคำชมจาก หลินฟาน เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ก็มีความสุขมาก ทําให้อัจฉริยะทางด้านดนตรีอย่าง หลินฟาน ให้คะแนนสูงขนาดนี้ได้ ก็ถือว่าหาได้ยากมากแล้ว
แม้ว่า เฉิน ซินอี๋ จะถูกยกย่องเช่นกัน แต่เธอก็มีความคิดเห็นที่แตกต่าง ก่อนอื่นเลยเธอไม่รู้ถึงความสามารถทางด้านดนตรีของ หลินฟาน ในความเห็นของเธอ หลินฟาน คนนี้ ก็แค่พูดอย่างสุภาพก็เท่านั้น ราวกับว่าเขาได้พบเจอกับลูกบ้านในลิฟต์ และก็ต้องเอ่ยชมสักสองสามคำ
“เพียงแต่…”
น้ำเสียง และคําพูดของ หลินฟาน ได้เปลี่ยนไป : “มีเพลงหนึ่งในนั้นที่มีปัญหานิดหน่อย”
ห๊ะ!
เฉิน ซินอี๋ ได้ตกตะลึงจริงๆ หลินฟาน ยังเห็นว่ามีปัญหาอยู่?
หลินฟาน กล่าวต่อไปว่า “ในอัลบั้มนี้มีอยู่สามเพลงที่มีศักยภาพพอ และมีแววว่าจะดังได้ หรือกล่าวว่ามันจะได้รับความนิยมมากพอตัวเลยก็ได้ เพลงหนึ่งคือ ‘เผาความกังวล (烧愁)’, อีกเพลงหนึ่งคือ ‘ฉันเป็นคนอย่างไร (我是怎么样的人)’ แล้วก็มีเพลง ‘ยืมฉัน (借我)’ ที่มีปัญหาก็คือเพลงสุดท้าย ‘ยืมฉัน’ นี่แหละ”
หูของ เฉิน ซินอี๋ ก็ได้ตั้งขึ้นทันที มีบางอย่าง พี่ชายเจ้าของบ้าน ..คนนี้ มีบางอย่างจริงๆ และเธอก็ได้รู้สึกประทับใจขึ้นมาในทันทีเช่นกัน
เพราะสิ่งที่เธอโต้เถียงกับ เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ไม่หยุด ก็คือเพลง “ยืมฉัน” แล้วนี่.. หลินฟาน ที่ได้ฟัง ก็รู้ถึงปัญหาได้แล้ว? นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถหลอกได้ มีเพียงคนที่มีความสามารถจริงๆ เท่านั้น ที่จะสามารถค้นพบปัญหานี้ได้
เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ กล่าวว่า : “พี่ชายเจ้าของบ้าน คุณพูดถูกมากๆ เราเองได้ทะเลาะกันเรื่องคําถามนี้แล้ว สิ่งที่ฉันให้คุณไปฟังคือเวอร์ชันเรียบเรียงของ พี่สาวซินอี๋ แต่ฉันมักจะรู้สึกว่ามันเกือบจะน่าสนใจ ฉันอยากเพิ่มผีผา (琵琶, เครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง) เข้าไปตัวหนึ่ง แต่ พี่สาวซินอี๋ กลับบอกว่า ฉันวาดงูเติมขา(1)..”
เฉิน ซินอี๋ กล่าวว่า : “เรานะวาดงูเติมขามาเพียงพอแล้วจริงๆ ทั้งมันยังไม่เข้ากับการเรียบเรียงของฉันเลย เราเองนะเพิ่งเข้ามาในวง ทั้งคนที่อยู่ในวงการมานานอย่างฉันก็มองเห็นได้อย่างทะลุปรุโปร่งมากกว่า(2)”
เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ กล่าวว่า : “แต่แล้วฉันก็ยังคิดว่าเพลงที่คุณเรียบเรียงมา ..ก็เกือบจะน่าสนใจแล้วจริงๆ …”
เฉิน ซินอี๋ กล่าวว่า : “ไม่, ยังไงก็ใส่ผีผาไม่ได้…”
ทั้งสองดูเหมือนจะทะเลาะกันอีกครั้งแล้ว
เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ได้มองไปที่ หลินฟาน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มอย่างขมขื่นไปว่า : “พี่ชายเจ้าของบ้าน ได้โปรดช่วยฉันหน่อยเถอะ ฉันไม่สามารถโน้มน้าวเธอได้อีกแล้ว”
หลินฟาน ยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า : “เพลงนี้พร้อมทุกอย่าง มีเพียงลมตะวันออกเท่านั้น(3) ขาดปัจจัยที่ฉีดเข้าไปเพิ่มจิตวิญญาณ ซึ่งหากหมายความตาม เฉี่ยวเอ๋อร์ มันก็จะเกือบที่จะหมายความว่า ถ้าเจอสิ่งที่จะฉีดเข้าไปในจิตวิญญาณนี้ได้ เพลงนี้ไม่ดังก็ถือได้ว่ายากแล้ว คุณเฉิน จริงๆ แล้ว คุณเองก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ถูกต้องใช่ไหม แต่คุณแค่.. ยังหาคําตอบไม่เจอ ก็เท่านั้น”
เฉิน ซินอี๋ รู้สึกประหลาดใจในใจ ถูก ..หลินฟาน พูดถูกอย่างสิ้นเชิง และเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามกลับไปว่า : “คุณหลิน แล้วเราควรทําอย่างไรดี?”
หลินฟาน ได้พูดอย่างใจเย็นไปว่า : “ลองใช้ หม่าโถวฉิน (马头琴, ซอหัวม้า) ดู”
หม่าโถวฉิน เป็นเครื่องสายชนิดหนึ่งของชาวมองโกลที่มีลักษณะประจําชาติ และเสียงซอหัวม้า ก็ไพเราะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังขี่ม้าอยู่ในทุ่งหญ้า ในขณะเดียวกันก็แสดงถึงอารมณ์ที่อ้างว้าง เศร้าหมอง..
หลินฟาน มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรี เขารู้จักดนตรีของโลกนี้เป็นอย่างดี ..ในเพลงนี้ ถ้าสามารถเพิ่มเสียงซอหัวม้าเข้าไปได้ ..ละก็ มันจะเป็นจุดจบที่ลงตัวได้อย่างแน่นอน
“อ่า?”
เฉิน ซินอี๋ เกือบที่จะตะโกนออกมาแล้ว เธอเองมีความรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตไปทั้งตัว และนี่มันก็คือการตรัสรู้ในตํานานก็ว่าได้!
เธอตระหนักได้ถึงการเสียมารยาทของตัวเอง เมื่อนั้นเธอก็ได้หน้าแดงขึ้นมา แต่อารมณ์ของเธอก็ดูตื่นเต้นอย่างควบคุมไม่ได้ : “ฉันต้องรีบไปแล้ว ขอบคุณ ขอบคุณมากคะ คุณหลิน!”
เธอหันหลังกลับ และรีบจากไปอย่างรีบร้อน หลังจากที่ หลินฟาน ได้ปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมา ทันใดนั้นเธอก็ได้เกิดแรงบันดาลใจขึ้นมา และมันก็แทบทำให้เธอรอไม่ไหวที่จะติดปีก แล้วรีบบินกลับไปที่สตูดิโอเพื่อลอง..
ในตอนนี้ เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ก็ตกตะลึงไปแล้ว และพึมพําออกมาว่า : “ซอหัวม้า ทําไมฉันถึงคิดไม่ออก โอ้.. สวรรค์ นี่มันเยี่ยมมาก ยอดเยี่ยมมากจริงๆ!”
เธอตื่นเต้นจนตัวสั่นไปเล็กน้อย
สักพักความชื่นชมที่เธอมีต่อ หลินฟาน ก็ได้มาถึงจุดสูงสุด พี่ชายเจ้าของบ้าน เก่งมาก เก่งมากๆ จริงๆ เขาเป็นอัจฉริยะทางด้านดนตรีที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกอย่างแน่นอน!
“คุณเนี่ย.. พวกคุณโอเคไหม?”
หลี่ ตี๋ ได้เดินเข้ามาในเวลานี้ และได้ถามด้วยความเป็นกังวลเล็กน้อย
ปรากฎว่าเมื่อกี้ เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ ไม่สนใจเขา และได้รีบวิ่งมาหา หลินฟาน เขาเองก็ไม่พอใจมาก ทั้งยังไม่เต็มใจมาก ดังนั้นเขาจึงได้ให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของพวกเขา ..จากระยะไกล
เป็นผลให้เขาได้เห็น เฉิน ซินอี๋ ที่ได้รีบจากไป และดูเหมือนว่าเธอจะโกรธมากจนหน้าแดงไปหมด เมื่อมองไปที่ เนี่ย เฉี่ยวเอ๋อร์ อีกครั้ง เขาก็ได้เห็นเธอตัวสั่นเหมือนกำลังโกรธอยู่ไม่เบา..
เห็นเช่นนี้ หลี่ ตี๋ ก็ได้มีความสุขมาก หลินฟาน.. เด็กคนนี้ไม่รู้ว่าไปทำอะไร ถึงได้ทําให้สาวสวยทั้งสองคนนี้โกรธขึ้นมาได้แบบนี้ และนั่นก็ได้ทำให้เขารู้สึกว่า ..โอกาสของเขา มันได้มาถึงแล้ว!
(1)[วาดงูเติมขา (画蛇添足)] - เป็นคำอุปมาสำหรับการทำสิ่งที่ฟุ่มเฟือย ซึ่งไม่เพียงแต่ไร้ประโยชน์ แต่ยังไม่เหมาะสมอีกด้วย มักใช้เป็นกรรมในประโยค มีความหมายไปในทางเสื่อมเสีย..
(2)[คนที่อยู่ในเกมส์ หรือในสถานการณ์ต่างหมกมุ่น แต่ผู้ที่เห็นกลับเห็นมันได้อย่างชัดเจน (当局者迷,旁观者清)] - อุปมาอุปไมยว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมักจะคิดมากเรื่องกำไรขาดทุน ความเข้าใจไม่ทั่วถึง แต่ก็ไม่ชัดเจนเท่ากับผู้พบเห็น
(3)[พร้อมทุกอย่าง มีเพียงลมตะวันออกเท่านั้น (万事俱备,只欠东风)] - เดิมมีหมายความว่า จิวยี่ (周瑜) วางแผนที่จะโจมตี โจโฉ ด้วยไฟ และหลังจากเตรียมการพร้อมทั้งหมดแล้ว แต่ทันใดนั้นเขานึกได้ว่า หากเขาไม่มีลมตะวันออก เขาก็ไม่อาจเอาชนะศัตรูได้ ต่อมาก็ใช้เปรียบเปรยว่า เตรียมการทุกอย่างพร้อมแล้ว แต่กลับขาดแต่เงื่อนไขสำคัญข้อสุดท้าย โดยทั่วไปสำนวนนี้จะใช้เป็นประโยคแยกในประโยค..