บทที่ 104 สถานที่ชุมนุม
บทที่ 104 สถานที่ชุมนุม
.
“รีดจนไม่เหลือสักหยดแล้ว”
ซูฉางซิงเดินออกจากตรอกด้วยสีหน้าสบายใจและถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก และรู้สึกว่าแค่มีบุหรี่สักมวนทุกอย่างก็จะสมบูรณ์
แม้ว่าเขาจะไม่สูบบุหรี่ก็ตาม
เป็นเวลาเกือบชั่วโมงที่สองคนที่นอนหลับไม่สามารถมอบความลึกลับให้อีกต่อไป
ซูฉางซิงได้รับความลึกลับมาทั้งหมด 41 คะแนน ทำให้มีความลึกลับรวมทั้งหมด 363 คะแนน ไม่ไกลจาก 400 คะแนนแล้ว
หัวที่อยู่เงียบๆ พูดขึ้นว่า “ฉันท่องไปในโลกมากมาย แต่นิสัยแบบนายนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันเคยเห็น”
ซูฉางซิงคิดอยู่ชั่วครู่แล้วพูดว่า “นี่เรียกว่าการช่วยเหลือผู้อื่น”
หัว: “…”
เก้ากิโลเมตรไม่ใช่ระยะทางที่ยาวไกล ระหว่างทางไม่เห็นมนุษย์คนอื่นเลย แต่มีร่องรอยของกิจกรรมของมนุษย์อยู่มากมาย ทั้งเลือดสดๆ, ศพซอมบี้ และแผงประตูรถที่เพิ่งถูกถอดออก
ซูฉางซิงวิ่งเหยาะๆ ไปจนถึงตำแหน่งที่หวงเปียวทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่
ที่นี่เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ พืชพรรณที่อยู่ด้านในเขียวชอุ่มมาก แต่เพราะไม่มีใครดูแลมานาน จึงมีวัชพืชปกคลุมอยู่บนถนน ต้นไม้สูงใหญ่ปกคลุมบ้านจนกลายเป็นป่าขนาดย่อม
แต่สถานที่ชุมนุมของพวกหวงเปียวอยู่เหนือป่า
ครั้งนี้หวงเปียวได้เรียนรู้จากบทเรียน สถานที่ชุมนุมที่มองหาจึงค่อนข้างหลบสายตา ทำให้ซูฉางซิงไม่พบในทันที แต่ด้วยข้อมูลที่ได้จาก ‘ความรู้ที่แท้จริง’ ทำให้เขาพบสถานที่นี้อย่างรวดเร็ว
[อาคาร: อาคารที่ถูกทิ้งร้างมานาน อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเมื่อเร็วๆนี้ จะมีใครบางคนเข้ามาใช้งาน พวกเขาอาจพร้อมที่จะตั้งถิ่นฐานแล้ว]
ซูฉางซิงมองไปรอบๆ และพบว่ามีซอมบี้อยู่ค่อนข้างน้อย ดูเหมือนว่าจะมีการทำความสะอาดมาก่อน
หัวพูดขึ้นว่า “มีคนอยู่ที่ชั้นสี่”
บันไดทางเดินค่อนข้างสะอาด ซูฉางซิงได้ยินเสียงตะโกนและสบถด่าดังมาจากชั้นบนอย่างคลุมเครือ
“หวงเทา ฉันเคยบอกแล้วไงว่า อย่าทำอะไรโดยพลการ ถึงตอนนี้จะไม่เป็นไร ตัวแกอาจไม่ตาย แต่แกกลับทำให้คนอื่นตาย”
ซูฉางซิงได้ยินเสียงสบถด่าอันเกรี้ยวกราดของหวงเปียวจากอีกฟากของพื้นอย่างชัดเจน
พอขึ้นไปถึงชั้นสี่ ก็เห็นว่ามีผู้คนมากมายกำลังมุงดูอยู่
เขาเห็นหวงเปียวชกหวงเทาอย่างแรงจนล้มลงบนพื้น เลือดบางส่วนกระเด็นออกจากจมูกของหวงเทาตกลงพื้น
แม้หมัดจะหนักหน่วง แต่ก็ยังเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหวงเปียวยั้งมือไว้ ด้วยความแข็งแกร่งของเขา คนธรรมดาไม่สามารถต้านทานได้อย่างแน่นอน
หวงเทายังคงกล่าวอย่างดื้อรั้น “เรื่องนี้ผมขอรับผิดชอบเอง แต่ผมไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติกับแนวทางของผม ผมแค่โชคไม่ดีเท่านั้น”
“เกิดอะไรขึ้น?”
มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ทางเดิน และซูฉางซิงก็เดินเข้ามา
หวงเปียวพูดด้วยความโกรธ “ไอ้เด็กนี่นำคนออกไปค้นหาเสบียง แล้วไปยั่วยุจนทำให้เกิดคลื่นซอมบี้ ยกเว้นไอ้เด็กนี่ คนอื่นๆที่ออกไปด้วยกันไม่บาดเจ็บก็ล้มตาย เสียชีวิตไป 4 รายเป็นมือดีทั้งหมด”
ซูฉางซิงมองไปที่หวงเทา คิดอยู่ชั่วครู่แล้วพูดว่า “ทำต่อไปได้เลย ผมจะไม่รบกวนคุณ”
ซูฉางซิงเดินเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“อาจารย์ ฮ่าฮ่า หนูก็คิดว่าอีกไม่นานคุณจะมาที่นี่ แต่หนูไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้”
จูซินเสวี่ยถือไม้สั้นๆ เดินมาหาเขาและกล่าวอย่างตื่นเต้น
ซูฉางซิงมองไปที่ใบหน้าบอบบางของเธอและถามด้วยความงุนงง “เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?”
จูซินเสวี่ยพูดซ้ำอย่างเชื่อฟัง “ก็เรียกว่าอาจารย์ไง?”
ซูฉางซิงจ้องมองอย่างว่างเปล่าและพูดว่า “ฉันรู้จักเธอด้วยเหรอ?”
จูซินเสวี่ยเดินไปที่ข้างๆซูฉางซิง และกล่าวอย่างกระตือรือร้น “อาจารย์ ไม่ต้องทำไขสือ ทำยังกับคุณไม่เคยรู้จักกับพี่ชายของหนูงั้นแหละ เขาคือคนที่คิดว่าคุณเป็นฆาตกร ดังนั้นไม่ว่าคุณจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม คุณคืออาจารย์ของหนู แน่นอนว่าจะดีกว่าถ้าคุณยอมรับ”
ซูฉางซิงพูดอย่างไม่พอใจ “เธอเรียนรู้ทฤษฎีไร้สาระนี้มาจากไหน?”
จูซินเสวี่ยกระพริบตาและตอบว่า “พี่ชายของหนูสอน”
ซูฉางซิงพูดอย่างใจเย็น “คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ?”
จูซินเสวี่ยพูดต่อไปว่า “อาจารย์ คุณทรงพลังเหลือเกิน สามารถเข้าออกในสถานที่ที่เต็มไปด้วยซอมบี้ได้ ราวกับมือกระบี่ที่เก่งกาจในนิยายที่สามารถตัดหัวแม่ทัพท่ามกลางกองทหารนับพันได้”
จากมุมมองของซูฉางซิง ผู้คนในห้องโถงต่างก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดี และบางคนก็เคยเห็นหน้ากันมาก่อน
พวกเขาทั้งหมดได้รับบาดเจ็บและมีผ้าพันแผล และมีหนึ่งคนที่นอนอยู่บนพื้นไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
ซูฉางซิงนั่งลงบนเก้าอี้ มองไปยังจูซินเสวี่ยที่อยู่ข้างๆ “ต่อให้เธอชมฉันแบบนั้น มันก็ไร้ประโยชน์ เมื่อวานนี้มันเกิดอะไรขึ้นถึงได้มีผู้บาดเจ็บมากมายแบบนี้?”
จูซินเสวี่ยนั่งลงข้างๆ และพูดว่า “ระหว่างการย้ายถิ่นฐานเมื่อวาน เราพบกับคลื่นซอมบี้ หลายคนเสียชีวิต จูเหวินหวู่ก็ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน”
ซูฉางซิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนที่หวงเปียวและคนอื่นๆเคลื่อนไหวเมื่อวานนี้ก็เกือบค่ำแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบกับคลื่นซอมบี้
เขาสังเกตจูซินเสวี่ยอยู่สักพัก และพูดว่า “เธอเก่งมาก ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย”
จูซินเสวี่ยลังเลอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็ยักไหล่และพูดว่า “ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง พี่ชายได้รับบาดเจ็บเพราะเขาปกป้องหนู หนูคิดว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วเขาคงตายเพราะปกป้องหนู”
ในขณะกำลังจะพูดต่อ หวงเปียวก็เดินเข้ามาหาและตะโกนทักทายซูฉางซิง: “น้องชาย ยังดีที่คุณยังไม่ตาย คุณแอบออกมาจากใต้จมูกเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้จริงๆ”
ซูฉางซิงสังเกตเห็นว่ามีรูขนาดใหญ่บนเสื้อตรงหน้าท้องของหวงเปียว และมีผ้าพันแผลเปื้อนเลือดพันอยู่ด้านใน เมื่อเห็นหวงเปียวเดินกะเผลกเข้ามาหา ซูฉางซิงก็พูดว่า:
“โชคดีไม่เลว…ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นคนอื่นคงตายไปแล้ว”
ความสามารถของหวงเปียวค่อนข้างคล้ายกับมู่ชิง เพียงแต่อ่อนแอกว่ามาก
หวงเปียวยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและพูดว่า “ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ พรุ่งนี้ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรแล้ว”
ซูฉางซิงไม่รู้ว่าสิ่งที่หวงเปียวพูดว่าไม่มีปัญหาจะจริงหรือเท็จ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม หวงเปียวจำเป็นต้องอยู่ในสถานะที่ดีที่สุดตลอดเวลา
หวงเปียวโบกมือและพูดว่า “มาคุยกัน”
จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องด้านหลัง
ซูฉางซิงลุกขึ้นและเดินตามไป ส่วนจูซินเสวี่ยก็ทำท่าทางเหมือนจะตามไปด้วย
ซูฉางซิงยื่นมือไปจับศีรษะของเธอและพูดว่า “ไม่ต้องตามมา”
จูซินเสวี่ยทำปากพองโดยไม่พูดอะไร
ซูฉางซิงเดินตามไป จากนั้นก็ปิดประตู
ภายในห้องมีโต๊ะไม้กระดำกระด่างตัวยาว ข้างๆวางไว้ด้วยตะเกียงน้ำมันก๊าดขึ้นสนิม มีชั้นหนังสือ 2 แถวอยู่ข้างผนัง และมีหนังสือกองอยู่บนพื้นมากมาย
ที่นี่เคยเป็นห้องหนังสือมาก่อน
หวงเปียวหายใจเข้าลึกๆ ในขณะที่นั่งบนโต๊ะและใช้มือข้างหนึ่งช่วยยันตัว แล้วพูดว่า “ซูฉางซิง เมื่อวานนี้ผมเกือบตาย ผมถูกซอมบี้จู่โจมจนล้มลงกับพื้น เนื้อบนหน้าท้องถูกกัดออกไปชิ้นใหญ่ โชคดีที่เหล่าฉินช่วยลากออกมาได้”
ซูฉางซิงคิดอยู่ชั่วครู่แล้วพูดว่า “นั่นเป็นเพราะคุณชอบวิ่งปิดท้ายคนเดียว อา… ผมไม่รู้สึกว่าคุณเหมือนนักเลงข้างถนน แต่คุณดูเหมือนทหารมากกว่า”
หวงเปียวระลึกถึงความหลัง “บอกตามตรงผมเคยเป็นทหารมาก่อน ในระหว่างการต่อสู้ ผมถูกยิงสามนัดและคิดว่าตัวเองต้องตายอย่างแน่นอน แต่ก็รอดมาได้ หลังจากนั้นผมก็ถูกปลดประจำการ”
ซูฉางซิงอึ้งไป และพูดต่อไปว่า “คราวนี้คุณโชคดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะรอดได้ทุกครั้ง”