ตอนที่ 860 : จับคนร้าย!
ตอนที่ 860 : จับคนร้าย!
ในเวลานี้หลี่ซินโม่ที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆและพิงกระจกรถไฟพร้อมกับเสียบหูฟังอยู่
ก็อดไม่ได้เช่นกันที่จะหันศีรษะมามองดูเล็กน้อย
แม้ว่าการเคลื่อนไหวของหลี่ซินโม่จะเล็กน้อยมาก แต่เจียงเฉินก็จับพวกมันได้
เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ หลี่ซินโม่กำลังแสร้งทำเป็นฟังเพลง หลี่ซินโม่สามารถได้ยินคำพูดของจางฉ่วยและคำพูดของเขาอย่างชัดเจน
แน่นอน เจียงเฉินไม่ต้องการสนใจเรื่องแบบนี้และเขาไม่สนใจว่าหลี่ซินโม่คิดอะไรอยู่
ในเวลานี้จางฉ่วยรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากกับออร่าของเจียงเฉิน เขาไม่กล้าพูดเรื่องไร้สาระอีกต่อไป เขาทำได้เพียงเงียบและหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาและแสร้งทำเป็นเล่น
ในที่สุดเมื่อไม่มีการพูดคุยของจางฉ่วยทุกอย่างที่นี่ก็เงียบลง
เจียงเฉินและคนอื่นๆก็สบายหูเช่นกัน
แม้ว่าในรถไฟคนอื่นๆจะยังคงพูดคุยหรือหลับอยู่
แต่มันก็ส่งผลต่อเจียงเฉินไม่มาก
เสียงส่วนใหญ่ในตอนนี้ก็มีเพียงเสียงรถไฟที่ดังกึกก้องบนรางจากการที่มันวิ่งด้วยความเร็วสูง
ในยุคปัจจุบัน รถไฟความเร็วสูงเป็นวิธีการเดินทางที่ดีมาก
ในบางครั้ง การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงกลับบ้านนั้นพบปัญหาได้น้อยกว่าการบินมาก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ถ้าคุณบินกลับ คุณก็ยังต้องไปสนามบิน ต้องรอขึ้นเครื่องและต้องเสี่ยงกับการดีเลย์ของเครื่อง
แต่หากคุณใช้รถไฟความเร็วสูงมันอาจจะง่ายกว่ามาก เพราะโดยปกติแล้วรถไฟความเร็วสูงจะไม่มีความล่าช้าใดๆและตรงเวลาเสมอ
รถไฟความเร็วสูงยังคงแล่นไปข้างหน้าและคนส่วนใหญ่ในขบวนรถไฟก็ดูเหมือนจะเหนื่อยเล็กน้อย บางคนเริ่มหลับหรือไม่ก็มองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อคลายความเมื่อยล้า
เจียงอันหรันซึ่งนั่งถัดจากเจียงเฉินก็เหนื่อยเช่นกัน เธอเอนศีรษะของเธอลงบนร่างของเจียงเฉินและหลับไปช้าๆ
เมื่อเจียงเฉินอยู่เคียงข้างเธอ เจียงอันหรันก็กล้าที่จะนอนหลับสนิทโดยไม่ต้องกังวลกับสิ่งเลวร้ายที่จะเกิดขึ้น
เพราะท้ายที่สุดแล้ว พี่ชายของเธอก็คือผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอ
…
บนรถไฟเจียงอันหรันหลับไปและหลี่ซินโม่ซึ่งนั่งตรงข้ามก็ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากความง่วงนอน เธอค่อยๆหรี่ตาลงพิงหน้าต่างหลับไป
สำหรับเจียงเฉิน เขาไม่ได้นั่งรถไฟความเร็วสูงมานานแล้ว
เขามองไปที่ทิวทัศน์นอกหน้าต่างและหลงอยู่ในความคิดของเขา
ด้านนอกมีแม่น้ำและภูเขาที่ยิ่งใหญ่ ทิวทัศน์ของแม่น้ำและภูเขานั้นสวยงาม มันกว้างใหญ่มากจริงๆทำให้เขาเกิดความรู้สึกชื่นชมได้ไม่ยากเลยจริงๆ
ในเวลานี้จางฉ่วยซึ่งนั่งถัดจากหลี่ซินโม่ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางซ้ายและขวา
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครมองอยู่ เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาก่อนจะนำมันไปไว้ใต้โต๊ะและเล็งไปที่ขายาวของหลี่ซินโม่พร้อมที่จะแอบถ่าย
ต้องบอกเลยว่าจางฉ่วยคนนี้น่ารังเกียจจริงๆ
เขาไร้ยางอายมากแล้วแต่แถมยังกล้าแอบถ่ายอีก
พฤติกรรมแบบนี้เรียกได้ว่าเกินขอบเขตศีลธรรมอย่างไร้ยางอายไปแล้ว
เจียงเฉินที่นั่งอยู่ตรงข้าม แม้ว่าเขาจะพิงหน้าต่างและมองดูทิวทัศน์อยู่ แต่เขาก็สามารถเห็นการเคลื่อนไหวของจางฉ่วยได้อย่างชัดเจน
พฤติกรรมที่น่ารังเกียจแบบนี้ เจียงเฉินไม่สามารถชินกับมันได้และไม่สามารถทนต่อมันได้
ดังนั้นเจียงเฉินย่อมไม่นั่งดูเฉยๆ
โดยไม่มีความลังเล เจียงเฉินยกเท้าของเขาและส่งไปข้างหน้าโดยตรงก่อนจะเตะเข้ากับข้อมือของจางฉ่วยก่อนที่จะเหยียบมันซ้ำ
ทันใดนั้น ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็แผ่กระจายไปที่จางฉ่วยและเขาก็กรีดร้องทันที
“อ๊ากกก…เจ็บ เจ็บ!”
จางฉ่วยกัดฟันและร้องไห้ออกมาด้วยความอึดอัดอย่างมาก
แม้ว่าเจียงเฉินจะใช้พละกำลังเพียงครึ่งเดียวในการเตะครั้งนี้ แต่จางฉ่วยกลับรู้สึกว่ากระดูกของเขากำลังจะแตก
จางฉ่วยไม่สามารถทนความเจ็บปวดแบบนี้ได้
เขามองไปที่เจียงเฉินและรีบพูดว่า "ปล่อยเร็วเข้า! ปล่อยเร็วเข้า!"
ในเวลานี้เจียงเฉินไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยมือของเขาเลย
เขาพูดด้วยความเย้ยหยัน "ไอ้สารเลว นายนี่มันน่ารังเกียจดีจริงๆ นายต้องการให้ฉันปล่อยนายไป? นายคิดว่ามันเป็นไปได้ด้วยเหรอ?"
ในเวลานี้เจียงอันหรันและหลี่ซินโม่ที่กำลังหลับอยู่ก็ตื่นขึ้นเช่นกัน
หลี่ซินโม่มองไปที่เท้าของเจียงเฉินที่เหยียบมือของจางฉ่วยและอดไม่ได้ที่จะถามว่า "เจียงเฉินเกิดอะไรขึ้น"
เจียงเฉินไม่ได้พูดไร้สาระเขาพูดตอบไปตรงๆ "คุณหลี่ เมื่อกี้ผู้ชายคนนี้กำลังใช้โทรศัพท์มือถือและต้องการจะแอบถ่ายรูปคุณ แต่ฉันรู้ก่อนและฉันก็เลยเหยียบมือเขาไว้ แค่นั้น"
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมาหลี่ซินโม่ก็ผงะและสีหน้าของเธอก็น่าเกลียดมาก
เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจางฉ่วยจะใช้โอกาสนี้แอบถ่ายรูปเธอ
หลี่ซินโม่ที่โกรธจัดเธอยกมือขึ้นโดยไม่พูดอะไรสักคำและตบหน้าจางฉ่วยอย่างแรง
"เพี๊ยะ!"
การตบครั้งนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
อย่างน้อยครั้งนี้หลี่ซินโม่ก็ทุ่มสุดกำลังทั้งหมดของเธอ
เพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของเธอ ผู้หญิงก็จะมีพละกำลังมากขึ้น!
ใบหน้าของจางฉ่วยสั่นไหวทันที เขามองไปที่หลี่ซินโม่และพูดว่า "คนสวย อย่าเข้าใจฉันผิด ฉันแค่อยากชื่นชมความงามของเธอเอง รูปร่างของเธอด้วย อย่าเข้าใจฉันผิดนะ"
จางฉ่วยรู้ว่ามีความลับมากมายในโทรศัพท์มือถือของเขา
หากหลี่ซินโม่ตรวจสอบมัน ความลับของเขาก็จะถูกเปิดเผย
เมื่อสิ่งนั้นหลุดออกไป จางฉ่วยจะต้องอนาถแน่!
ดังนั้นในเวลานี้ เขาจึงทำได้เพียงร้องขอความเมตตา!
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลี่ซินโม่ก็เข้าใจทันทีว่าผู้ชายคนนี้ต้องพยายามแอบถ่ายรูปตัวเองแน่นอน
เธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที
เธอยื่นมือออกไปและพูดว่า "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน!"
จางฉ่วยดูโศกเศร้า "คนสวย! ให้โอกาสฉันสักครั้งเถอะ ฉันไม่กล้าอีกแล้ว จริงๆนะไม่กล้าอีกแล้ว"
ขณะที่เขาพูดนั้น จางฉ่วยรู้สึกเหมือนกำลังร้องไห้
เจียงเฉินยืนอยู่ด้านข้างก็ก้าวไปหาจางฉ่วยไม่ใส่ใจที่จะพูดเรื่องไร้สาระอะไรทั้งนั้นแล้ว คว้าโทรศัพท์จากมือของจางฉ่วยหยิบมันขึ้นมาดู
และเขาก็เห็นว่ามีรูปมากมายในมือถือของผู้ชายคนนี้และทุกรูปก็เป็นรูปที่สกปรกมาก ซึ่งทั้งหมดเป็นการแอบถ่ายสาวงาม
คนแบบนี้ก็เป็นขยะในสังคมเหมือนกัน น่ารังเกียจ!
ดังนั้น เจียงเฉินจึงถือโทรศัพท์ส่งให้หลี่ซินโม่และพูดว่า "ลบรูปของคุณทั้งหมด ไม่อย่างนั้นมันอาจจะแพร่กระจายออกไปได้"
เมื่อหลี่ซินโม่ได้ยินแบบนั้น เธอก็ตื่นตระหนกและหน้าแดง
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของจางฉ่วยอย่างรวดเร็ว ดำเนินการลบรูปภาพทั้งหมดของเธอ
อย่างไรก็ตาม หลี่ซินโม่พบว่าในโทรศัพท์ของ จางฉ่วยยังมีรูปถ่ายที่เป็นของผู้หญิงคนอื่นอยู่มากมาย
เมื่อเห็นภาพเหล่านี้การแสดงออกของ หลี่ซินโม่ไม่พอใจอย่างมาก
เธอมองไปที่เจียงเฉินและพูดว่า "เจียงเฉินดูสิ มีรูปถ่ายมากมายในโทรศัพท์ของผู้ชายคนนี้ทั้งหมดเป็นของผู้หญิงและพวกเธอทั้งหมดถูกแอบถ่าย บอกฉันที ฉันควรทำยังไงกับเขาดี"
หลี่ซินโม่ในวันนี้มีความชื่นชมในตัวเจียงเฉินอยู่แล้ว
เธอรู้สึกว่าเจียงเฉินนั้นลึกลับมาก เต็มไปด้วยออร่าและทรงพลังและสามารถแก้ปัญหาต่างๆได้
เมื่อเธอลังเล เธอก็สามารถถามเจียงเฉินได้
บางทีเจียงเฉินอาจมีวิธีที่ดีในการสอนบทเรียนแก่จางฉ่วย
เจียงเฉินไม่ได้คิดมากและพูดตรงๆว่า "ฉันจะทำอะไรได้อีก แต่มันจะไม่มีตำรวจโดยสารบนรถไฟขบวนนี้เลยเหรอ? ไปตามหาพวกเขาและมอบจางฉ่วยให้พวกเขาแล้วให้พวกเขาจัดการต่อดีกว่า"
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา จางฉ่วยก็รู้สึกหวาดกลัว
ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็ลุกลี้ลุกลนแสดงความกลัวอย่างสุดขีด
“ไม่ ไม่...ไม่ พวกคุณสองคนเป็นคนดี ปล่อยฉันไปเถอะ ปฏิบัติกับฉันเป็นเหมือนลมตดเถอะนะ ปล่อยฉันไป ตกลงไหม” จางฉ่วยร้องขอความเมตตาทันทีโดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของเขา
ก่อนหน้านี้เขายังคงแสร้งทำเป็นโอ้อวดต่อหน้าหลี่ซินโม่และเจียงอันหรัน
แต่ตอนนี้จางฉ่วยถูกเจียงเฉินและหลี่ซินโม่จับได้ เขาก็กลายเป็นเหมือนหนูข้างถนน
เพื่อเห็นแก่หน้าและเพื่อไม่ให้ถูกส่งตัวไปหาตำรวจ จางฉ่วยไม่สนใจอะไรอีกและเอาแต่ร้องขอความเมตตาจากหลี่ซินโม่และเจียงเฉิน
โดยไม่รอให้เจียงเฉินพูด หลี่ซินโม่เย้ยหยันและพูดว่า "ไอ้สารเลว แกมันเลวทรามและน่ารังเกียจ แกยังต้องการร้องขอความเมตตางั้นเหรอ ไม่มีทาง..."
หลังจากพูดจบ หลี่ซินโม่ก็มองไปที่ผู้โดยสารรอบๆและพูดว่า "ทุกคน เราจับคนร้ายที่แอบถ่ายรูปคนอื่นได้ ช่วยไปตามตำรวจมาให้หน่อยค่ะ"
ทันทีที่พูดออกไป ชายหนุ่มคนหนึ่งก็อาสาไปหาพนักงานรถไฟทันที
สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือผู้ชายแบบนี้ที่แอบถ่ายรูปสาวๆ
เขาไม่มีความเมตตาสำหรับคนเช่นนี้
ในไม่ช้า ก็มีตำรวจรถไฟสองคนพร้อมกับพนักงานรถไฟเดินเข้ามา
หลังจากการพูดคุยกันเจียงเฉินและหลี่ซินโม่ก็ได้มอบจางฉ่วยให้กับพวกเขาจัดการต่อ
หลังจากที่พวกเขาได้ทำการตรวจสอบแล้วพวกเขาก็พบกับข้อมูลที่คาดไม่ถึง จริงๆแล้วจางฉ่วยคนนี้เป็นผู้บงการเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์และกำลังถูกตามตัวอยู่พอดี
ในท้ายที่สุด เมื่อจางฉ่วยกำลังจะถูกพาตัวไป ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธและเมื่อเขามองไปที่เจียงเฉินและหลี่ซินโม่ เขาก็โกรธยิ่งกว่าเดิม!
ไม่ว่าเขาจะโกรธแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์เพราะเขากำลังถูกพาตัวไปแล้วและชะตากรรมของเขาคงจะต้องอยู่ในคุกไปอีกสองสามปีเป็นอย่างน้อย!
เมื่อจางฉ่วยถูกพาตัวไป ผู้หญิงทุกคนในรถไฟก็ปรบมือให้เจียงเฉินและหลี่ซินโม่อย่างกระตือรือร้น
ผู้หญิงหลายคนคิดว่า เจียงเฉินนั้นหล่อและมีความยุติธรรมเขาเป็นผู้ชายที่คู่ควรที่จะแต่งงานกับพวกเธอ
แม้แต่พนักงานต้อนรับบนรถไฟก็ตามเข้ามาหาและต้องการมอบเกียรติบัตรพลเมืองดีแก่หลี่ซินโม่และเจียงเฉิน
แต่เรื่องนี้ก็ถูกปฏิเสธโดยเจียงเฉิน
เจียงเฉินไม่ต้องการให้คนรู้จักตัวตนของเขามากเกินไป
พายุลูกเล็กๆก็สงบลงภายในเวลาอันสั้น
เจียงเฉินและหลี่ซินโม่ยังคงนั่งลงและพูดคุยกันอยู่ตรงนั้น
หลังจากเหตุการณ์นี้หลี่ซินโม่รู้สึกขอบคุณเจียงเฉินเป็นอย่างมาก
แม้แต่ หลี่ซินโม่ก็มองไปที่เจียงเฉินด้วยความชื่นชมและชื่นชอบ
หลี่ซินโม่มีความสุขเธอพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอกับเจียงเฉินว่า "เจียงเฉินวันนี้ฉันมีความสุขมาก ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฉันหลี่ซินโม่จะมีโอกาสเป็นพลเมืองดีและจับคนนิสัยเสียอย่างกล้าหาญแบบนี้ เสียดายที่นายไม่ได้รับเกียรติบัตรพลเมืองดี ไม่งั้นนายคงได้เอากลับไปอวดใครต่อใครได้"
ในเวลานี้หลี่ซินโม่รู้สึกว่าเธอเป็นเหมือนกับนางเอกในละคร
เมื่อตัวร้ายคือจางฉ่วย เธอนั้นก็เต็มไปด้วยความไร้ปราณี แม้ว่าความจริงแล้วจะเป็นเจียงเฉินที่จับเขาได้ก็ตาม...
เจียงเฉินสงบมากและพูดว่า "คุณหลี่ ในอนาคตคุณจะปลอดภัยกว่านี้ถ้าคุณสวมกางเกงแทนกระโปรง"
เมื่อได้ยินแบบนั้นใบหน้าที่สวยงามของหลี่ซินโม่ก็แดง เจียงเฉินพูดเช่นนั้นเป็นไปได้ไหมว่า...เขาเห็นของฉันทั้งหมดแล้ว?
เธอหน้าแดงและเห่อร้อนเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เจียงเฉิน ขอบคุณที่เตือนฉันนะ โชคดีที่วันนี้นายช่วยฉันไว้ พอฉันกลับไปถึงเมืองอันหัวแล้วฉันจะเลี้ยงอาหารค่ำนายกับน้องสาวของนายอันหรันนะ"
แม้ว่า หลี่ซินโม่จะกระตือรือร้นมากแต่เจียงเฉินก็ไม่สนใจจริงๆ
เขาโบกมือและพูดว่า "เราค่อยพูดเรื่องนี้กันทีหลังดีกว่า หากมีพรหมลิขิตในอนาคตจริง เราก็คงได้พบกันที่เมืองอันหัว"
เจียงอันหรันซึ่งนั่งถัดจากเจียงเฉินมีความสุขมาก การนั่งและพูดคุยกับหลี่ซินโม่ดูเหมือนจะไร้กังวลอย่างยิ่ง
เธอยังชื่นชมพี่ชายของเธอเจียงเฉินและหลี่ซินโม่ที่กล้าหาญพอที่จะต่อสู้กับคนนิสัยเสีย
ท้ายที่สุดแล้วเจียงอันหรันเองก็เป็นเด็กผู้หญิงเช่นกัน
ในฐานะเด็กผู้หญิง เธอจะไม่มีความอดทนต่อพวกนิสัยเสีย
เจียงเฉินเห็นเจียงอันหรันและหลี่ซินโม่คุยกันอย่างมีความสุข เขาก็ไม่ได้รบกวนพวกเธอและนั่งลงคนเดียวก่อนจะหลับตาและพักสมอง
เขารู้ว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ หลี่ซินโม่จะไม่กล้านอนอีกต่อไป
ยิ่งไม่ต้องพูดว่าตอนนี้เจียงอันหรันและหลี่ซินโม่พูดคุยกันเหมือนพี่น้องไปแล้ว
และเจียงเฉินซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างก็พักผ่อนอยู่ที่นั่น
การเดินทางของรถไฟความเร็วสูงใช้เวลาทั้งหมดห้าหรือหกชั่วโมง โดยที่จะหยุดไปตามสถานีและผู้คนบนที่นั่งก็เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า
จนในที่สุด เวลาก็ผ่านไปจนเกือบบ่ายสองโมงเจียงเฉิน หลี่ซินโม่และเจียงอันหรันก็มาถึงสถานีอันหัว
…