ตอนที่ 240 ปีศาจมรสุม
ตอนที่ 240 ปีศาจมรสุม
นักสู้ผู้มีพลังพิเศษมีความแข็งแกร่งแตกต่างจากนักสู้โดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ถึงขนาดมีคนเคยบอกเอาไว้ว่าถ้าหากนักสู้ได้ฝึกฝนพลังพิเศษของตัวเองอย่างแข็งแกร่งมากพอ พวกเขาก็สามารถทำลายดาวเคราะห์ทั้งดวงได้ด้วยกำลังของตัวเอง และถึงแม้ว่าคำกล่าวนี้จะดูเกินจริงไปอยู่บ้าง แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความน่าเกรงขามของพลังพิเศษที่ถูกฝึกฝนจนถึงระดับสูงสุด
โดยปกติการจะดูว่านักสู้คนนั้นเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งหรือไม่ ก็มักที่จะดูที่ระดับความสามารถของพวกเขา และถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเกณฑ์วัดความแข็งแกร่งที่ค่อนข้างดี แต่บางทีมันก็มีข้อยกเว้นด้วยเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น พลังพิเศษสายความเร็วของเซี่ยเฟยที่ถึงแม้ว่ามันจะเป็น 1 ใน 2 พลังพิเศษที่พบได้บ่อยมากที่สุดในจักรวาล แต่ถ้าหากผู้ฝึกฝนมีความสามารถจนถึงระดับสูง พวกเขาก็จะสามารถแสดงพลังออกมาได้เหนือกว่าคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน
ช่วงเริ่มต้นพลังพิเศษสายความเร็วไม่ใช่พลังที่มีความโดดเด่นมากนัก แต่มันก็เป็นพลังพิเศษที่ชนะทางพลังพิเศษสายความแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นพลังพิเศษที่หาพบได้บ่อยมากที่สุดในจักรวาล
แต่ถ้าหากผู้ใช้ความเร็วได้ฝึกฝนความเร็วมาจนถึงระดับสตาร์ริเวอร์ พวกเขาก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดาย แม้แต่ผู้ใช้พลังพิเศษระดับลีเจนด์ก็อาจจะไม่สามารถต้านทานการจู่โจมของผู้ใช้ความเร็วระดับสตาร์ริเวอร์ได้ มันจึงมีนักสู้เพียงไม่กี่คนที่สามารถหยุดความเร็วปานสายฟ้าของผู้ใช้ความเร็วได้สำเร็จ
ที่สำคัญถึงแม้ผู้มีพลังสายความเร็วจะไม่สามารถต่อกรกับคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้ แต่พวกเขาก็ยังสามารถใช้ความเร็วเพื่อหลบหนีออกไปตั้งหลักได้อย่างง่ายดาย มันจึงกลายเป็นหนึ่งในพลังที่มีประสิทธิภาพสูงมากในจักรวาล
ย้อนกลับไปในตอนที่เซี่ยเฟยต่อสู้กับเฉินตง นักสู้จากดาวโลกก็ได้อาศัยความเร็วร่วมกันกับเทคนิคเล่ห์กายาในการตีเสมอนักรบผู้ใช้พลังพิเศษสายธรรมชาติคนนี้มาได้ แม้ว่าในเวลานั้นเซี่ยเฟยจะมีระดับพลังต่ำกว่าเฉินตงหลายขั้นมากก็ตาม
เซี่ยเฟยสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นที่เริ่มจะควบคุมไม่อยู่ และทุก ๆ เซลล์ภายในร่างกายของเขาก็กำลังสะสมพลังอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากเห็นข้อมูลเขาก็ตั้งตารอที่จะได้เห็นการต่อสู้ของฟางหยวน ซึ่งในความเป็นจริงเขาก็อยากจะลงสนามรบไปต่อสู้กับชายหนุ่มคนนี้ด้วยตัวเองด้วยซ้ำ
มีนักสู้บางคนที่สามารถทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่นและฟางหยวนก็เป็นหนึ่งในนั้นโดยไม่ต้องสงสัย นั่นก็เพราะว่าเขาได้ครอบครองพลังพิเศษที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งมันเป็นพลังพิเศษที่มีชื่อว่าปีศาจมรสุม
เซี่ยเฟยเคยอ่านเรื่องพลังพิเศษในตำนานพลังนี้มาจากในหนังสือ ซึ่งเขาก็จำได้ว่ามันเป็นหนึ่งในพลังพิเศษเพียงแค่ไม่กี่พลังที่มีความเร็วเทียบเท่ากับความเร็วของผู้มีพลังพิเศษสายความเร็วได้
แต่ถ้าหากพลังพิเศษนี้มีดีเพียงแค่ความเร็วเพียงอย่างเดียว มันก็คงจะเป็นพลังพิเศษที่ไม่ต่างไปจากพลังพิเศษสายความเร็วมากนัก ซึ่งในความเป็นจริงพลังพิเศษปีศาจมรสุมก็ยังมีความเร็วด้อยกว่าผู้ใช้พลังสายความเร็วแท้ ๆ อยู่เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้พลังพิเศษนี้กลายเป็นพลังพิเศษที่น่ากลัว นั่นก็เพราะว่ามันไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความเร็วให้กับผู้ใช้พลังเท่านั้น แต่มันยังมีความสามารถในการทำให้ผู้ใช้พลังกลายร่างเป็นปีศาจได้ด้วยนั่นเอง
การแปลงร่างเป็นปีศาจหมายถึงพลังทุกด้านของคนคนนั้นจะถูกขยายออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถทางด้านกำลัง, ความสามารถในด้านความเร็ว, ความสามารถในการบินและความสามารถในการซ่อนเร้น
ด้วยพลังพิเศษที่โดดเด่นเช่นนี้เองมันจึงทำให้พลังพิเศษปีศาจมรสุมเหมือนกับการรวมพลังพิเศษ 2 พลังเข้าด้วยกัน ทำให้พลังที่พวกเขาแสดงออกมาสูงมากขึ้นเกินกว่ามาตรฐานตามไปด้วย
ความสามารถของพลังพิเศษนี้มีความคล้ายคลึงกับพลังพิเศษของเซี่ยเฟย และในตอนที่เซี่ยเฟยได้รับพลังพิเศษชนิดที่ 2 มา อันธก็ประมาณการว่าพลังการต่อสู้ของเขาได้เพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างน้อย 4 เท่า
ตัวเลขนี้ถือได้ว่าเป็นตัวเลขที่อัศจรรย์อย่างแท้จริงทั้ง ๆ ที่ตามปกติ 1 + 1 ควรจะเท่ากับ 2 แต่เนื่องจากพลังพิเศษดั้งเดิมของเซี่ยเฟยคือความเร็ว มันจึงทำให้ผลลัพธ์ที่แสดงออกมาถูกเพิ่มขึ้นอย่างเท่าทวีคูณ
แม้พลังพิเศษสายความเร็วจะไม่ได้ดูฉูดฉาดเหมือนกับพลังจิต แต่มันก็เป็นหนึ่งในพลังสายสนับสนุนที่ดีที่สุดในจักรวาล เพราะทุกทีมในจักรวาลที่ประสบความสำเร็จต่างก็ล้วนแล้วแต่ประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นผู้ใช้พลังสายความเร็วระดับสูง
การที่เซี่ยเฟยได้ครอบครองพลังพิเศษถึงสองแบบ มันก็เหมือนกับเขาสามารถสร้างทีมเล็ก ๆ ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งไม่เพียงแต่เขาจะมีความสามารถในการสอดแนมเท่านั้น แต่เขายังมีการโจมตีและการป้องกันที่ดีอีกด้วย
โดยปกติแม้แต่ทีมขนาดเล็กก็ยังต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยเป็นเวลาหลายปี เว้นแต่ว่าพวกเขาจะเป็นแฝดสามเหมือนพี่น้องตระกูลหลิงที่เติบโตขึ้นมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก
แต่เซี่ยเฟยไม่จำเป็นจะต้องทำความคุ้นเคยกับใครเลย เพราะพลังพิเศษถึงสองแบบอยู่ภายในร่างของเขาเพียงแค่คนเดียว ด้วยเหตุนี้การประสานงานกันระหว่างพลังพิเศษทั้งสองจึงเป็นเหมือนการประสานกันระหว่างมือซ้ายกับมือขวา ซึ่งมันเป็นการประสานงานกันที่ดีกว่าฝาแฝดอย่างพี่น้องตระกูลหลิงเสียอีก
ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่ได้กล่าวเอาไว้นี่เองมันจึงทำให้พลังจิตสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ของเซี่ยเฟยได้ถึง 4 เท่า
ขณะเดียวกันชายอ้วนที่มีชื่อว่าฟางหยวนคนนี้ก็มีความคล้ายคลึงกับเซี่ยเฟยมาก เพราะเขาได้ครอบครองทั้งความเร็วและพลังโจมตีในคนคนเดียวกัน มันจึงทำให้เขาน่าจะมีความแข็งแกร่งกว่าคนปกติในระดับเดียวกันถึงสี่เท่าเมื่ออ้างอิงจากผลลัพธ์ที่ได้เกิดขึ้นกับเซี่ยเฟย
ยิ่งไปกว่านั้นระดับของชายอ้วนคนนี้ยังสูงกว่าเซี่ยเฟยถึง 2 ขั้น มันจึงทำให้เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่ตึงมือชายหนุ่มมากพอสมควร และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้เขาตื่นเต้นจนตัวสั่น เพราะเขาได้เจอกับคนที่มีพลังพิเศษคล้ายคลึงกันที่มีความแตกต่างกันเพียงแค่นิดเดียว
คนคนหนึ่งมี 2 พลังพิเศษในคนเดียวกัน ส่วนอีกคนหนึ่งมีหนึ่งพลังแต่มีลักษณะเหมือน 2 พลังในคนเดียว!
มือขวาของเซี่ยเฟยที่กำลังคีบบุหรี่กำลังสั่นขึ้นมาเล็กน้อย ขณะที่รูม่านตาของเขากำลังขยายออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งความตื่นเต้นที่กำลังเกิดขึ้นกับชายคนนี้ก็ไม่อาจพ้นสายตาของอันธที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กับเขาไปได้
“นายอยากสู้กับฟางหยวนคนนั้นงั้นเหรอ?” อันธถาม
เซี่ยเฟยพยักหน้าโดยไม่ปฏิเสธพร้อมกับกล่าวออกไปว่า
“ใช่ พลังพิเศษของเขามีความคล้ายคลึงกับพลังพิเศษทั้งสองของฉันมาก ถ้าฉันสามารถต่อสู้กับเขาได้มันจะต้องเป็นประสบการณ์ที่ดีแน่ ๆ”
“พลังพิเศษสายปีศาจค่อนข้างหายากและระดับพลังของเขาก็สูงกว่านาย แต่นายมีพลังพิเศษถึงสองอย่าง มันน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับนายจริง ๆ นะแหละ” อันธกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
พลังพิเศษปีศาจมรสุมของฟางหยวนเป็นพลังในกลุ่มพลังพิเศษสายปีศาจที่ได้มีการจดบันทึกเอาไว้ ซึ่งพลังพิเศษภายในกลุ่มจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันคือมีพลังสามารถแปลงร่างเป็นปีศาจได้พร้อมกับมีลักษณะพิเศษอีกประการหนึ่งซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของปีศาจ
ตำนานเล่าขานว่าผู้สืบทอดพลังพิเศษสายปีศาจทุกคนต่างก็แล้วแต่ได้ครอบครองสายเลือดที่พิเศษ ซึ่งในสมัยโบราณมีปีศาจเผ่าพันธุ์หนึ่งได้อาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ เพียงแต่พวกเขามีลักษณะคล้ายกับมนุษย์ทุกประการ โดยพวกเขาได้เรียกตัวเองว่าตระกูลดวงตาอสูรแต่มนุษย์ได้เรียกพวกเขาว่าตระกูลปีศาจ
ต่อมามนุษย์ได้พัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตระกูลดวงตาอสูรจึงพยายามแต่งงานกับมนุษย์เพื่อรักษาสายเลือดของตัวเองต่อไป ทำให้เกิดลูกผสมระหว่างมนุษย์กับตระกูลดวงตาอสูรขึ้นมาในจักรวาล
ลักษณะของเด็กลูกครึ่งมีความเหมือนกับมนุษย์ทุกประการ เพียงแต่พลังพิเศษของเด็กพวกนี้จะเป็นพลังพิเศษสายปีศาจ ซึ่งมนุษย์ธรรมดาไม่มีทางได้ครอบครองพลังพิเศษในกลุ่มนี้เลย
เซี่ยเฟยใช้วิชาเนตรมนตราอ่อน ๆ ก่อนที่จะมองไปทางฟางหยวนด้วยเปลวไฟแห่งการต่อสู้ที่ลุกโชน
ขณะเดียวกันมันก็อาจจะเป็นเพราะชายอ้วนคนนั้นสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของเซี่ยเฟย เขาจึงได้จ้องมองกลับมาด้วยแววตาที่หยิ่งยโส และเนื่องจากการแต่งตัวของเซี่ยเฟยโดดเด่นมากจนเกินไป มันจึงสามารถดึงดูดความสนใจของชายอ้วนไปได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็นบลีดดิ้งก็อดหรือดาบอีวีสเซอเรทที่เซี่ยเฟยวางเอาไว้ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีลักษณะที่โดดเด่น และแม้แต่คนที่มีสายตาไม่ดีก็ยังสามารถบอกได้ว่าอุปกรณ์พวกนี้อยู่ในระดับที่ไม่ธรรมดา
เมื่อแววตาที่ดูดุร้ายประกอบกับอุปกรณ์ที่ไม่ธรรมดา และผมสั้นสีเทาที่ไม่เข้ากับอายุพร้อมกับลักษณะท่าทางที่สุขุมเยือกเย็น ฟางหยวนจึงแอบตัดสินว่าเซี่ยเฟยคือคู่ต่อสู้ที่น่าสนใจสำหรับเขา
ชายอ้วนเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายขึ้นมาบนใบหน้า ก่อนจะใช้นิ้วชี้ยื่นไปทางเซี่ยเฟยแล้วพลิกฝ่ามือและกดปลายนิ้วโป้งให้ชี้ลงไปที่พื้นดิน
แน่นอนว่าเซี่ยเฟยย่อมเข้าใจภาษามือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วทั้งจักรวาล ทำให้ภายในจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความพลุกพล่านและเผลอจับด้ามมีดด้วยมือซ้ายโดยไม่รู้ตัว
ประมาณ 1 วินาทีต่อมาชายหนุ่มก็ปล่อยมือออกจากด้ามมีดโดยไม่เต็มใจ ก่อนที่จะนั่งอยู่ตรงนั้นเฉย ๆ เหมือนกับว่าการประลองในครั้งนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเขา
“นายเป็นอะไรไป?” อันธถาม
“ฉันเกือบลืมตัวไปแล้วว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องภายในสำนักของนาย มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“นายลืมอะไรไปหรือเปล่า? ตอนนี้นายเป็นตัวแทนของสำนักนะ เรื่องนี้มันก็คือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายเหมือนกันนั่นแหละ” อันธกล่าวพร้อมกับเบะริมฝีปาก
เซี่ยเฟยยังคงความเงียบเอาไว้และสบสายตากับฟางหยวนอย่างไม่เกรงกลัว
อย่างไรก็ตามเนื่องมาจากว่าชายหนุ่มนั่งอยู่ท่ามกลางคนนับพัน มันจึงแทบจะไม่มีใครสังเกตเห็นการกระทำของเขาเลย แต่การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มคนนี้ยังคงอยู่ภายใต้สายตาของเงากระเรียนตลอดเวลา
เงากระเรียนเคยอ่านข้อมูลที่เงารัตติกาลส่งเข้ามาในระบบแล้ว เขาจึงได้ข้อสรุปว่าเซี่ยเฟยน่าจะเป็นผู้ใช้พลังพิเศษสองพลังที่หาตัวได้ยาก และมีระดับความสามารถอยู่ใกล้เคียงกับระดับสตาร์ริเวอร์แล้ว นอกจากนี้เทคนิคการโจมตีที่ชายหนุ่มได้ใช้ในการจู่โจมเข้าใส่งูยักษ์ยังเป็นเทคนิคที่เขาไม่เข้าใจ ซึ่งเงากระเรียนก็คาดเดาว่ามันน่าจะเป็นเทคนิคพิเศษที่มีความแข็งแกร่งมาก
เงากระเรียนส่ายหัวสะบัดความคิดไร้สาระของตัวเองออกไป เพราะถึงยังไงเซี่ยเฟยก็ไม่ใช่ศิษย์ภายในของสำนัก มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาคนนอกเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องภายในของสำนักแบบนี้
สนามประลองมีผู้คนเข้ามารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่มันไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่ามันกำลังมีดวงตาสีขาวแอบมองสถานการณ์ทุกอย่างผ่านทางหน้าต่างบานเล็ก ๆ และเจ้าของดวงตาดวงนี้นั่นก็คือเงาสูญผู้ซึ่งเป็นศิษย์พี่ของเงากระเรียนนั่นเอง
สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือเงาสูญเป็นคนตาบอด แล้วดวงตาสีขาวคู่นี้จะสามารถสังเกตการณ์อะไรได้?
***************