ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 668 ผู้เฒ่าแห่งตำหนักราชาดาบ(ฟรี)
จิตสังหารอยู่ๆ ก็ปะทุขึ้นอย่างกระทันหัน แม้แต่ผู้ชำนาญศึกก็ยังไม่สามารถตั้งตัวได้ทันหากเจอกับจิตสังหารแบบนี้
มีเพียงประกายแสงสีทองที่เปล่งออกมาจากแววตาของซู่เสี่ยวไป่ และระบบก็ได้เริ่มตรวจสอบอีกฝ่าย
“-จ้าวภัยพิบัติอี้หวู่ เขตแดนภัยพิบัติขั้น 7 จากสหัสจักรวรรดิ 9 ฟ้าไร้อนัน-”
“โห ไม่คิดว่าสหัสจักรวรรดิ 9 ฟ้าไร้อนันจะส่งยอดฝีมือเข้ามาจัดการเราถึงที่นี่”
ซู่เสี่ยวไป่ ถอยหลังครึ่งก้าว และหลบมีดดาบสีทองที่พุ่งเข้ามาอย่างฉิวเฉียด มีเพียงผมเส้นเดียวเท่านั้นที่ถูกตัดออก
ด้วยวิชาดาบที่ลึกล้ำ ซู่เสี่ยวไป่ไม่สงสัยเลยว่านี้คือนักฆ่าที่มากประสบการณ์
ความเร็วในการโจมตีที่สูง หากเทียบกับขอบเขตพลังเดียวกัน คงไม่มีใครที่จะหลบการโจมตีนี้ได้ และระยะของอาวุธนั้นไกลและกว้างมาก แต่ถึงอย่างงั้นอี้หวู่ก็ต้องตกใจเพราะในเมื่อการโจมตีของเขาสมบูรณ์แบบ แต่กลับไม่โดนตัวซู่เสี่ยวไป่
“นายท่านกำลังตกอยู่ในอันตราย!!”
มังกรเก้ามายาพุ่งเข้าไปปกป้องซู่เสี่ยวไป่ทันที แต่ก็ถูกซู่เสี่ยวไป่มองพร้อมกับปล่อยแรงกดดันที่รุนแรง เหมือนกับพูดว่าห้ามเข้ามายุ่ง
ปลามาติดเบ็ดแล้ว ซู่เสี่ยวไป่ไม่มีทางให้ใครช่วยทั้งนั้น!!
ซู่เสี่ยวไป่เปลี่ยนให้มือของเขาเปรียบเหมือนมีด ก่อนที่จะฟันใส่ร่างของอี้หวู่ ทำให้อี้หวู่ถึงกับส่งเสียงร้องอันโหยหวน และกลิ้งคลานออกไปหลายสิบเมตร และไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายตัวเองได้
จ้าวภัยพิบัติขั้น 7 ถูกจัดการได้ในการโจมตีเดียว!
ซู่เสี่ยวไป่เองก็ไม่ปล่อยให้ศัตรูของเขาได้หยุดพักหายใจ เพียงพริบตาร่างของเขาแสดงพลังเส้นทางสู่สวรรค์ทั้งสามหมื่นเส้นทางออกมาพร้อมกัน ก่อนที่เขาจะบีบอัดทุกอย่างไว้ที่ปลายนิ้ว และยิงพลังออกใส่กลางหน้าผากของอี้หวู่!
พลังที่ปล่อยออกมานั้นอี้หวู่ไม่มีทางที่จะต่อต้านได้เลย ร่างกายของเขาเมื่อถูกลำแสงก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ มันไม่ใช่การระเบิดออกแต่เหมือนกับร่างนี้ถูกมีดที่แหลมคมผ่าร่างออกเป็นชิ้นๆ แม้แต่จิตวิญญาณของอี้หวู่ก็ถูกฉีกกระชากไปด้วย และพยายามที่จะหลบหนีออกจากที่นี่
แต่ซู่เสี่ยวไป่ปิดผนึกพื้นที่เอาไว้หมดแล้ว ไม่มีที่ใดให้อี้หวู่หลบหนีอีก
มังกรพิษผีดิบก้าวออกมา พร้อมกับดูดจิตวิญญาณของอี้หวู่ลงท้องไปปิดผนึก และมองไปยังซู่เสี่ยวไป่เพื่อรอรับคำชม แต่กลายเป็นว่าซู่เสี่ยวไป่กลับใช้สายตาที่ไม่พอใจมองไปยังมังกรพิษผีดิบ ทำให้มันถึงกับหดคอด้วยความกลัว
“พวกแกสองตัว แม้ว่าจะบกพร่องในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เป็นนายก็จริง แต่พวกเจ้าก็ยังออกหน้าปกป้องทันที ถือว่าดีเลวเท่ากัน ความผิดพลาดในครั้งนี้ข้าจะไม่ลงโทษพวกเจ้า”
สีหน้าของมู่เหลียงผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“อย่าให้มีแบบนี้เกิดขึ้นอีก!!”
ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ทำให้จ้าวภัยพิบัติหลายคนนั้นถึงกับพูดไม่ออก
ในหมู่พวกเขาจ้าวภัยพิบัติขั้น 7 นั้นถือว่าทรงพลังมาก และมีเพียงคนเดียว โดยส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นจ้าวภัยพิบัติขั้น 3 4 เท่านั้น มีเล็กน้อยที่เป็นขั้น 5
หากว่าอี้หวู่ไม่ได้เล็งซู่เสี่ยวไป่ และเล็งไปที่กลุ่มของพวกเขาแทนอย่างน้อยๆ การโจมตีเมื่อครู่ก็พรากชีวิตไปได้มากกว่าสิบคน และอาจจะหลายร้อยคนด้วยหากตั้งตัวไม่ทัน
แล้วจิตสังหารที่รุนแรงแบบนั้นต่อให้เป็นพวกโง่เง่าแค่ไหนก็รู้ว่าอี้หวู่นั้นคือจ้าวภัยพิบัติขั้น 7 ที่เชี่ยวชาญในการฆ่าอย่างมาก
อย่างไรก็ตามนักฆ่าที่เก่งกาจแบบนี้ ยังถูกซู่เสี่ยวไป่จัดการอย่างง่ายดาย และทุกกระบวนท่านั้นดูลื่นไหล งดงามราวกับผ้าแพรที่ปลิวไปตามลม
ซู่เสี่ยวไป่ เอาดาบสะเทือนดินแดนที่อี้หวู่ทำตกไว้ขึ้นมา -ก่อนที่จะขยี้ดาบเล่มนี้แหลกคามือ และโยนเศษซากทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
“แค่ปัญหาเล็กน้อย ทุกท่านอย่าได้ใส่ใจ”
ซู่เสี่ยวไป่ต้องสร้างความน่าเชื่อถือกับคนกลุ่มนี้ และทำให้พวกเขายอมจำนนแต่โดยดี
ในช่วงเวลาเดียวกันที่ตำหนักราชาดาบที่ลอยอยู่ในห้วงมิติและอวกาศอันไร้ที่สิ้นสุด อยู่ๆ ประตูของตำหนักก็เปิดออก
มีชายชราที่ตัวมอมแมมไปด้วยเลือด ก่อนที่เขาจะเดินทางผ่านช่องมิติออกมา และเหาะไปทางตำหนักก่อนเสื้อผ้าของเขาจะเปลี่ยนจากชุดเปื้อนเลือดเป็นชุดคลุมยาว และมีภาพลักษณ์ของเทพแห่งสงคราม
ในมือของเขามีดาบใหญ่ ทุกก้าวที่เขาเดินนั้นจะเกิดแรงสั่นสะเทือนเล็กๆ ขึ้น
ชายชราผู้นี้มีนามว่าหวู่เฟิง เป็นจ้าวภัยพิบัติขั้น 9
และทุกคนจากตำหนักราชาดาบก็ได้ส่งคนออกมาต้อนรับหวู่เฟิง
“คาราวะท่านบรรพชน ที่กลับมาจากพิธีกรรมได้อย่างปลอดภัย”
หวู่เฟิงเป็นผู้ก่อตั้งตำหนักราชาดาบแห่งนี้ เมื่อเขาเริ่มออกเดินทางไปบุกยังจักรวรรดิอื่น เขาได้มอบตำหนักแห่งนี้ไว้กับเซียเจียนและฝากฝั่งให้เขาดูแลต่อไป ก่อนที่ตัวเขาเองจะเข้าสู่โลกของการต่อสู้ไร้ที่สิ้นสุด
หวู่เฟิงนั้นมองไปยังกลุ่มคนที่ออกมาต้อนรับ
“เซียเจียนน้อยของข้าอยู๋ไหน ทำไมข้าถึงไม่เห็นเขา?”
“คาราวะท่านบรรพชน ตอนนี้นายน้อยเซียเจียนนั้นได้รับบาดเจ็บร้ายแรงและกำลังรักษาตัวอยู่”
หวู่เฟิงเค้นเสียงออกมาด้วยความเจ็บแค้น
“ว่าไงนะ!! ใครมันกล้าทำร้ายเซียเจียนน้อย!! บอกข้ามาว่าหมาที่ไหนมันกล้าลงมือกับเซียเจียน ข้าจะทำลายพวกมันทั้งจักรวรรดิ”
บรรพชนหวู่เฟิงแสดงท่าทีที่โกรธเหมือนกับเด็กๆ จนลืมตัวไปว่าเขานั้นอายุมากแล้ว
เพราะเซียเจียนนั้นเป็นหลานรักของเขา ทำให้หวู่เฟิงยอมไม่ได้ที่ใครจะมาทำร้ายหลานของเขา
แต่เมื่อรู้ว่าใครคือผู้ลงมือก็ทำให้หวู่เฟิงนิ่งเฉยราวกับคิดอะไรบางอย่างอยู่
ก่อนหน้านี้เขารู้มาว่าสหัสจักรวรรดิยึดจักรวรรดิผิงเจียนได้แล้ว
แต่ไม่คิดว่าเวลาเพียงสิบปีสถานการณ์ทุกอย่างจะกลับกันหมดแบบนี้ กลายเป็นจักรวรรดิระดับสูงที่ต้องล่าถอยออกมาจากแนวรบ จนเขานั้นมึนงงจนทำตัวไม่ถูก
และเรื่องของตัวตนที่อ่อนแอที่สามารถข้ามขอบเขตพลังจากบรรพชนสู่เขตแดนภัยพิบัตขั้น 8 ได้นั้นไม่เรียกว่าบ้าบอ แล้วจะให้เรียกว่าอะไรอีก
อย่างหลานรักของเขาเซียเจียน ที่มากไปด้วยพรสวรรค์เมื่อบรรลุเขตแดนภัยพิบัติขั้น 7 แล้ว ใช้เวลาหลายยุคก็ยังทะลวงเขตแดนภัยพิบัติขั้น 8 ไม่ได้
แม้แต่ตาเฒ่าเช่นเขาก็ยังไม่เคยเจอใครที่เพิ่มเขตแดนตัวเองได้รวดเร็วเท่านี้มาก่อน
“ตัวตนนั้น มีดาราจักรชีวิตที่ 12 ด้วยงั้นหรอ ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีตัวตนที่มีดาราจักรชีวิตแบบนี้อยู่”
หวู่เฟิงนั้นเริ่มดูสุขุมขึ้น จิตสังหารที่รุนแรงของเขาเริ่มลดลง
ความคิดของผู้แข็งแกร่งไม่ได้คิดแต่จะสู้กันให้ตายกันไปข้าง แต่มันต้องมีผลประโยชน์อยู่ด้วย
ซู่เสี่ยวไป่เองก็สอดคล้องกับผลประโยชน์ของตระกูลชนชั้นสูงอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้ซู่เสี่ยวไป่มีทั้งอำนาจ และเจตนาที่ต้องการจะขยายดินแดนของตัวเอง
หากว่าตัวตนนี้ได้ร่วมมือกับตำหนักราชาดาบ และให้ตำหนักราชาดาบได้เข้าร่วมสงครามด้วย ทำให้ทางตำหนักราชาดาบสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้
“บอกว่าต่อจากนนี้ตำหนักราชาดาบจะไม่บุกจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป นำคนของเรากลับมาจากแนวรบทั้งหมด ข้าจะไปยังดินแดนดวงดาวทางเหนือ!”
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนในตำหนักราชาดาบนั้นตกตะลึง นอกจากบรรพชนจะไม่ออกไปพื้นที่ภายนอกมาเป็นหมื่นยุค แต่ครั้งนี้บรรพชนกลับตัดสินใจไปยังดินแดนดวงดาวทางเหนือด้วยตัวเอง
อย่างที่รู้กันว่าแท้จริงแล้วหวู่เฟิงนั้นมีแผนการที่ใหญ่กว่านั้น
เช่นเดียวกับซู่เสี่ยวไป่ เขาอยากจะครอบครองจักรวรรดิระดับสูงอื่นๆ มานานแล้ว แต่เนื่องจากการฝึกฝนของเขาไม่คืบหน้าทำให้ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว
แต่ตอนนี้หากว่าเขายอมคบหากับคนที่บ้าระห่ำอย่างซู่เสี่ยวไป่ และให้ผลประโยชน์ร่วมกัน ซู่เสี่ยวไป่ต้องยอมร่วมมือกับเขาแน่!