บทที่ 101 จริงหรือเท็จ
บทที่ 101 จริงหรือเท็จ
.
เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นการทำนายอนาคต เพราะเขาไม่คิดว่าหัวจะทรงพลังขนาดนั้น ดังนั้น มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว
ดวงตาของซูฉางซิงเป็นประกาย “นายไม่ได้มาจากโลกนี้ใช่ไหม?”
หัวยิ้มและพูดว่า “ฉันบอกตอนไหนว่าฉันมาจากโลกนี้ ฉันคือผู้รู้ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นไปได้ยังไงที่จะยึดติดกับโลกใบเล็ก”
ซูฉางซิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่และพูดว่า “แต่นายมีเพียงหัว ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน นายคงยังติดอยู่ในห้องนั้น”
หัวพูดอย่างภาคภูมิใจ “แล้วนายคิดว่าฉันออกจากห้องนั้นมาที่นี่ได้อย่างไร?”
ซูฉางซิงกัดฟัน การพูดคุยกับเจ้าหัวนี่มักทำให้เขาโมโห จากนั้นเขาก็ถามว่า “แล้วนายมาจากโลกไหน? โลกเทคโนโลยี? โลกเวทมนตร์? หรืออย่างอื่น?”
หัวกล่าวอย่างลึกลับว่า “ลองเดาดูสิ”
ซูฉางซิงกล่าวว่า “ดูจากรูปลักษณ์ของนาย มันควรเป็นโลกเทคโนโลยี เพราะในโลกที่เต็มไปด้วยพลังพิเศษไม่ควรกลัวซอมบี้ประเภทนี้”
จากนั้นซูฉางซิงก็ยิ้มออกมาและกล่าวยืนยันว่า “พวกนายคงเคยผ่านเรื่องเดียวกับเรา เกมวันโลกาวินาศที่นำเอาผู้คนทั้งโลกมายังอีกโลกหนึ่ง”
หัวเต็มไปด้วยความตกใจ เขาคิดไม่ถึงว่าซูฉางซิงจะเดาความจริงออกได้ง่ายดายขนาดนี้ และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ต้องบอกว่า นายมีศักยภาพที่จะเป็นผู้รู้จริงๆ”
“ก็อาจจะ”
ซูฉางซิงเปิดกล่องข้าวหุงเองที่แช่ไว้ออกมากิน กลิ่นข้าวหอมๆนั้นอร่อยมาก
เป็นธรรมดาที่รสชาติของข้าวกับไข่กวนมะเขือเทศจะเบากว่าข้าวกับเนื้อผักดองมาก แต่ซูฉางซิงคิดว่ามันใช้ได้ แม้จะไม่มีเนื้อสัตว์ก็ตาม อย่างไรก็ตามทั้งสองอย่างราคาเท่ากัน นั่นทำให้เขารู้สึกเหมือนขาดทุน
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมามองผ่านโพสต์ต่างๆ และสังเกตว่ามีหลายโพสต์ประณามเขาอยู่ และขอให้เขามอบวิธีการทำให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดาออกมา
ในบรรดาโพสต์เหล่านั้น มีโพสต์หนึ่งที่มีความนิยมค่อนข้างสูง
เซิงหม่านหม่าน: การกลายเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดากลายเป็นกุญแจสำคัญในการเอาชีวิตรอดจากเกมวันโลกาวินาศนี้ ฉันคิดว่าเถ้าแก่เด็กโชคดีควรประกาศวิธีการกลายเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดาให้ทุกคนรู้ เพราะฉันคิดว่าตอนนี้มันมีความเสี่ยงต่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด
……
กล่องข้อความส่วนตัวของซูฉางซิงก็ท่วมท้นเช่นกัน ผู้คนนับหมื่นถามเขาว่า เขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดาได้อย่างไร ในบรรดาคนเหล่านี้ยังมีสิบอันดับแรกของอันดับผู้นำการฆ่าซอมบี้อยู่ด้วย อย่างเช่น เฮยเจวี๋ย, ช่วงมรสุมของชีวิต, ไหน่ถัง…
ที่น่าอายกว่านั้นก็คือ ซูฉางซิงค่อนข้างคลุมเครือเกี่ยวกับวิธีที่จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดา เพราะเขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดาในสภาพที่แปลกประหลาด
แต่ดูเหมือนจะมีบางคนที่นี่ที่รู้
ทันใดนั้นซูฉางซิงก็ถามขึ้นว่า “หัว นายรู้วิธีที่จะเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดาหรือเงื่อนไขในการเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดาไหม?”
หัวพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ก่อนอื่น ฉันชื่อคาร์ล ไม่ใช่หัว อย่างที่สอง นายเอาฉันออกจากหลังเป้นี่ก่อน”
ไม่มีทางเลือก เรื่องนี้มีความจำเป็นสำหรับคนอื่น ซูฉางซิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยิบหัวออกมาจากหลังกระเป๋าเป้และวางลงข้างๆ “เอาล่ะ บอกฉันเกี่ยวกับหนทางสู่การเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดาได้แล้ว”
หัวแสดงรอยยิ้มเกินจริงอย่างมาก “ฮ่าฮ่า ตอนนี้นายรู้ถึงความสำคัญของความรู้ที่แท้จริงแล้วหรือยัง ความรู้คืออำนาจที่ทรงพลังที่สุด”
ซูฉางซิงรู้สึกทำอะไรไม่ได้ เมื่อมองไปยังหัวที่กำลังเย่อหยิ่งอย่างที่สุด ราวกับทุกอารมณ์ที่อยู่ในหัวนั้นรุนแรงมาก เขาจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “เอาล่ะ ตอนนี้พูดมาได้เลย ผู้รู้ผู้ยิ่งใหญ่”
หัวแสร้งทำเป็นไอแล้วพูดว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดาคือร่างกาย อืม แล้วก็ความสามารถภายนอก โดยทั่วไปแล้วมันยากมากที่จะเปิดเส้นทางสู่การเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดา แต่เกมวันโลกาวินาศจะมีวิธีการทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ซึ่งจะเป็นเครื่องช่วยเปิดทางอันทรงอานุภาพ อย่างไรก็ตามแต่ละโลกมีวิธีการที่แตกต่างกัน”
ซูฉางซิงเข้าใจทันที การปรับปรุงคุณลักษณะที่มีอยู่ในร้านค้าลึกลับ เป็นกุญแจสำคัญในการกลายเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดา ยิ่งเสริมมากครั้งเท่าใด ความน่าจะเป็นที่จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดาก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
ตั้งแต่เริ่มต้นเขาปรับปรุงคุณลักษณะไปแล้ว 8 ครั้ง ดังนั้นจึงค่อนข้างง่ายที่จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดา
ซูฉางซิงถามอีกครั้ง “แล้วผู้ที่ปราศจากพลังเหนือธรรมชาติล่ะ เป็นไปได้ไหมที่จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดา?”
ตอนนี้หัวดูจริงจังมาก และพูดขึ้นเหมือนเป็นศาสตราจารย์ว่า “เป็นไปได้ เพราะความสามารถเป็นเพียงแนวทางไปสู่ตำแหน่ง และจะเป็นไปได้มากหากมีความสามารถที่โดดเด่นอื่นๆ”
ซูฉางซิงตระหนักได้ทันที “ถ้าเช่นนั้น หากไม่มีอะไรที่โดดเด่นผู้มีความสามารถก็จะกลายผู้ไร้ความสามารถ แล้วถ้าความสามารถนั้นทรงพลังมากล่ะ?”
หัวพูดด้วยความไม่แน่ใจเล็กน้อย “มันควรเป็นอุปสรรคในการเปิดเส้นทาง แต่ตัวอย่างดังกล่าวหายากมาก ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
ซูฉางครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ และรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องส่งข้อความนี้ออกไป เพราะจะไม่มีเปลี่ยนแปลงมากนักในแง่ผลลัพธ์ แต่จะนำไปสู่การต่อสู้ที่รุนแรงขึ้นด้วย ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติจะดีกว่า
จากนั้นเขาก็ไปปิดประตูห้อง และจับหัวหันหน้าเข้าหาประตู แล้วเข้าไปในถุงนอนและพูดว่า “ถ้ามีอะไรก็ปลุกกันด้วยล่ะ”
หลับ
หลับ
หลับ
“ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด~”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ซูฉางซิงสูดลมหายใจเข้าลึก และค่อยๆลืมตาขึ้น และเหลือบมองโทรศัพท์ ตอนนี้เป็นเวลา 11.40 น.
“วะฮ่าฮ่า ในที่สุดก็ตื่นซะที เบื่อจะตายอยู่แล้ว”
เสียงโห่ร้องดังเข้ามาในหู “เมื่อกี้มีซอมบี้ตัวหนึ่งเข้ามา แต่ฉันก็ทำให้มันหนีไป และช่วยชีวิตนายที่กำลังนอนหลับไว้”
ซูฉางซิงลุกขึ้นนั่ง รู้สึกสับสนเล็กน้อย และคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดว่า “มีประสิทธิภาพเหมือนยาจุดกันยุง”
หัวงุนงงและถามว่า “ยาจุดกันยุงคืออะไร?”
ซูฉางซิงขมวดคิ้ว และตระหนักได้ว่าโลกของหัวไม่มียาจุดกันยุง นี่ควรเป็นสามัญสำนึกของแต่ละโลก
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาตรวจสอบบันทึกเส้นทาง
[คุณเสร็จสิ้นการลอบสังหาร: +5 ความลึกลับ]
[คุณเหนื่อยเกินไปและง่วงนอน: -1 ความลึกลับ]
[คุณเหนื่อยเกินไปและง่วงนอน: -1 ความลึกลับ]
[คุณวางหัวไว้หน้าประตู จุดเทียนอโรมาเพื่อการนอนหลับอันลึกลับ: +20 ความลึกลับ]
[คนช่างฝัน: 323/500]
ทำแบบนี้ก็เพิ่มความลึกลับได้ด้วย?
ซูฉางซิงมองไปยังหัวที่หันหน้าเข้าหาประตูด้วยสายตาแปลกๆ เขาไม่ได้คาดหวังว่ามันจะมีบทบาทเช่นนี้ด้วย
ซูฉางซิงหยิบขวดน้ำข้างตัวขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ให้น้ำเย็นๆไหลลงคอก่อนจะพูดว่า “นายเคยพูดใช่ไหมว่า หลังจากที่เราออกมาจะยกเลิกการแบ่งปันชีวิต”
เขาจำเรื่องนี้ได้ดี แต่ก่อนหน้านี้เขาง่วงมากจนไม่ได้พูดถึงมัน
หัวทำเชิดและพูดว่า “นายก็รู้ว่าฉันโกหกยังจะมาถามทำไมอีก?”
ซูฉางซิงพูดอย่างใจเย็น “มีวิธียกเลิกหรือไม่? หรือว่านายไม่อยากยกเลิก”
หัวพูดอย่างตรงไปตรงมา “ฉันไม่ต้องการยกเลิก และไม่มีวิธียกเลิกด้วย อันที่จริงฉันก็ไม่คิดว่าพิธีกรรมนี้จะสำเร็จมาก่อน เพราะพิธีกรรมการแบ่งปันชีวิตต้องให้จิตวิญญาณของทั้งสองฝ่ายเข้ากันได้ ฉันแค่ลองดู แต่ไม่คิดว่ามันจะประสบความสำเร็จ”
ซูฉางซิงไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งที่หัวพูดนั้นจริงหรือไม่ เขาแค่คิดว่ามันต้องเป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่าที่มีอายุยืนยาวแน่ๆ