MDB ตอนที่ 300 เมืองฟานมุ่งหน้าแก้แค้น
“ท่านเจ้าเมือง บางทีเราอาจจะคิดมากเกินไป ลองคิดดูสิหลินจินไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา เขามีอาจารย์ที่มีชื่อว่า 'ภัณฑารักษ์' และสัตว์วิเศษระดับสี่ เพียงแค่นี้ก็ทำให้เขาควรค่าแก่การทำความรู้จักแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ทักษะการประเมินของหลินจินก็น่าเหลือเชื่อมาก แม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ในระดับสาม แต่อย่างน้อย ๆ ก็ใกล้เคียง บางทีจักรพรรดิทรงเล็งเห้นถึงสามารถของเขา ดังนั้นการให้ข้อยกเว้นแก่เขาจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยขอรับ”
เมื่อได้ยินการคาดคะเนของจั่วเหวินถัง ไป่เจิ้นคงก็รู้สึกว่าความคิดนี้ดูสมเหตุสมผล
ตอนนี้ไป่เจิ้นคงให้ความสนใจในหลินจินอย่างมาก ถึงเขาจะไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมจักรพรรดิทรงให้ความสำคัญกับหลินจินมากขนาดนี้ แต่ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าเขาต้องผูกมิตรกับหลินจินและห้ามตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาอย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม หลายชั่วโมงต่อมา ไป่เจิ้นคงได้รับจดหมายส่วนตัวจากเจ้าเมืองฟาน
เนื่องจากเมืองเมเปิ้ลและเมืองฟานเป็นดั่งเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน ไป่เจิ้นคงและเจ้าเมืองฟานจึงค่อนข้างสนิทมสนมกันดี เมื่อได้รับจดหมาย เขาก็เปิดอ่าน แต่หลังจากอ่านจบ ไป่เจิ้นคงก็เผยสีหน้าแปลก ๆ ออกมา
จั่วเหวินถังไม่รู้เนื้อหาของจดหมาย แต่หลังจากรับใช้ไป่เจิ้นคงมาหลายปี เขาก็รู้ว่าเจ้านายของเขาเก็บอารมณ์เก่งแค้ไหน แม้แต่ในที่ส่วนตัว ไป่เจิ้นคงก็ไม่เปิดเผยสีหน้าของเขาออกมาอย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม แค่เพียงอ่านจดหมายที่ได้รับมาว่า เขาก็เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายรู้สึกตกใจและกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก
ในสถานการณ์เช่นนี้ จั่วเหวินถังรู้ดีว่าควรจะวางตัวอย่างไร แต่ถึงอย่างนั้น เนื้อหาในจดหมายต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล ถ้าเขาถามอย่างไม่สมเหตุสมผล เจ้าเมืองคงไม่รู้จะหาคำตอบไหนมาตอบเขา
อย่างไรก็ดี ไป่เจิ้นคงไม่ได้วางแผนที่จะซ่อนสิ่งนี้จากพ่อบ้านของเขา
“เหวินถัง เจ้าเมืองของเมืองฟานได้เขียนถึงข้าโดยขอให้ข้าตามหาคนให้เขา เจ้าช่วยบอกข้าที ข้าควรจะช่วยเขาดีหรือไม่?”
หลังจากพูดอย่างนั้น ไป่เจิ้นคงก็ยื่นจดหมายให้จั่วเหวินถัง โดยบอกว่าเขาสามารถอ่านมันได้เช่นกัน
คนหลังรับและอ่านอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเข้าใจความหมายของเจ้าเมืองไป่
“อืม… คนที่เจ้าเมืองฟานกำลังมองหาคือหลินจินใช่หรือไม่ขอรับ? หลินจินที่เพิ่งกลับมาจากเมืองหลวง ดังนั้นเขาจึงต้องผ่านเขตแดนของเมืองฟาน
นอกจากนี้ จดหมายฉบับนี้ระบุว่าหลินจินกำลังเลี้ยงสัตว์ปีศาจและปล่อยให้มันทำร้ายลูกชายของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการคำอธิบายจากหลินจิน”
ด้วยความเป็นคนฉลาด จั่วเหวินถังรู้ว่าเจ้าเมืองฟานเขียนจดหมายฉบับนี้เพราะเขาแน่ใจว่าหลินจินเป็นฝ่ายผิด อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะเคลื่อนไหว เขาแค่ต้องการแจ้งให้ไป่เจิ้นคงทราบก่อน
เพราะท้ายที่สุด มันเป็นเรื่องหยาบคายที่จะโจมตีใครบางคนในอาณาเขตของผู้อื่นโดยไม่แจ้งให้เจ้าเมืองทราบ
“เจ้าเมืองฟานเป็นคนรักลูกชายยิ่งกว่าสิ่งใด เขามีลูกสาว 4 คน แต่มีลูกชายเพียงแค่คนเดียว ตอนนี้ลูกชายของเขาได้รับบาดเจ็บจากสัตว์ปีศาจ แน่นอนว่าเขาต้องการทวงคืนความยุติธรรมให้กับลูกชายของเขา ข้าคิดว่ายอดฝีมือใต้สังกัดของเจ้าเมืองฟานน่าจะอยู่ในเมืองเมเปิ้ลของเราแล้วตอนนี้”
ไป่เจิ้นคงพูดทันทีในขณะที่เขายังคงครุ่นคิด
จั่วเหวินถังมีความคิดหนึ่งเข้ามาและเขารีบตอบกลับไปว่า
“ท่านเจ้าเมือง เราปล่อยให้เรื่องเลยเถิดไม่ได้ ลืมเรื่องหลินจินกำลังเลี้ยงสัตว์ปีศาจไปได้เลย แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่เขาก็ไม่สามารถถูกทำร้ายได้
ด้วยตัวตนของเขาในฐานะผู้พิทักษ์ของประเทศเพียงอย่างเดียว เขาไม่ใช่คนที่เจ้าเมืองจะสามารถยั่วยุได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าหลินจินได้รับความสนใจจากจักรพรรดิ การยั่วยุเขามีแต่จะแค่สร้างปัญหาขอรับ”
ไป่เจิ้นคงถอนหายใจเบา ๆ “ข้ารู้เรื่องนั้นดี แต่ด้วยนิสัยของเจ้าเมืองฟานที่ข้ารู้จักดี เขาอาจจะไม่รอคำตอบของข้า เขาต้องคิดว่าการแจ้งข้าด้วยจดหมายนี้น่าจะเพียงพอแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น…” ตอนนี้จั่วเหวินถังรู้แล้วว่าเจ้าเมืองฟานต้องเริ่มดำเนินการแล้ว ความกังวลของไป่เจิ้นคงในตอนนี้คือวิธีที่เขาควรจะตอบสนองในฐานะตัวแทนของเมืองเมเปิ้ล
จั่วเหวินถังโค้งคำนับโดยไม่ลังเลและพูดว่า “เจ้าเมืองฟานกำลังสร้างปัญหาให้กับตัวเอง ท่านเจ้าเมือง ในฐานะเจ้าเมืองแห่งเมืองเมเปิ้ล ท่านเป็นเหมือนพ่อแม่ของพลเมืองที่รักของเรา ท่านคงไม่สามารถดูคนของเราถูกรังแกได้ใช่ไหมขอรับ?”
มันเป็นคำขอร้องเล็กน้อย แต่คนอย่างไป่เจิ้นคงเข้าใจความหมายของจั่วเหวินถังอย่างชัดเจน
“ข้าก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เหวินถัง เจ้าช่วยจัดการเรื่องนี้ทีและทำอย่างเงียบ ๆ ด้วย” ไป่เจิ้นกงสั่ง
จั่วเหวินถังรับคำสั่งของเขาและจากไป หลังจากที่เขาจากไป ไป่เจิ้นคงก็ยกจดหมายอีกครั้งและส่ายหัว
“เฒ่าฟาน ข้าเพิ่งช่วยเจ้าไปมากโขเลย มาดูกันว่าเจ้าจะขอบคุณข้าอย่างไรในภายหลัง”
ด้านนอกสมาคมประเมินสัตว์วิเศษของเมืองเมเปิ้ลมีชายที่ดูเป็นศัตรูสองสามกลุ่มยืนอยู่กับสัตว์วิเศษของพวกเขา
คนพวกนี้รูปร่างสูงใหญ่ กล้ามเนื้อของพวกเขาได้รับการขัดเกลาและลมหายใจของพวกเขาก็สม่ำเสมอ คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ แม้แต่สัตว์เลี้ยงของพวกเขาก็ยังมีกลิ่นอายของความดุร้าย
พวกเขาเป็นยอดฝีมือของเมืองฟาน
มีคนมากกว่า 20 คนและมีสัตว์วิเศษระดับสามกว่า 10 ตัว
นอกจากจะเป็นยอดฝีมือแล้ว พวกเขายังนำ 'สิ่งประดิษฐ์' ที่ทรงพลังจำนวนมากมาด้วย พวกเขาเตรียมตัวกันอย่างเต็มที่ ด้วยสิ่งนี้ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน พวกเขาก็สามารถโค่นชายคนนั้นได้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้คนเหล่านี้กำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่รอบนอกสมาคมประเมินสัตว์วิเศษแห่งเมืองเมเปิ้ล บางคนก็สำรวจโดยรอบ บางคนก็เข้าไปข้างในเพื่อรวบรวมข้อมูลและรักษาความปลอดภัยตำแหน่งของเป้าหมาย
“เจ้าพบเขาแล้วหรือยัง?”
"เจอแล้ว คน ๆ นี้เป็นหัวหน้าของสมาคมประเมินสัตว์วิเศษ ดังนั้นมันจึงง่ายที่จะหาเขาเจอ”
"หัวหน้า? เฮอะ! แล้วไง ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องจับเขาในข้อหายั่วยุเจ้าเมืองของเราอยู่ดี”
“เตรียมตัวไว้ก่อนดีกว่า จงจำไว้ว่า เราต้องออกเดินทางไปเมืองฟานทันทีหลังจากจับตัวเขาได้ ท่านเจ้าเมืองของเราได้ส่งจอหมายไปยังเจ้าเมืองแห่งเมืองเมเปิ้ลแล้ว ดังนั้นพวกเขาคงจะไม่เข้ามายุ่งกับพวกเรา”
“อย่ากังวลไป เราทุกคนมีประสบการณ์ แม้ว่าเขาจะมีทักษะบางอย่าง แต่ก็ไม่สามารถเทียบได้กับพวกเรา”
"ก็จริง แต่แล้วเราต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาด”
หลังจากกล่าวจบ พวกเขาก็พร้อมที่จะเข้าไป
มีเพียงกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งขวางเส้นทางของพวกเขาอย่างกะทันหัน และนำพวกเขาไปไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก จั่วเหวินถัง
ในฐานะพ่อบ้านคฤหาสน์เจ้าเมือง ความแข็งแกร่งของจั่วเหวินถังไม่ต้องสงสัยเลย สัตว์เลี้ยงของเขาไม่เพียงอยู่ในระดับสามเท่านั้น ระดับการบ่มเพาะพันธสัญญาโลหิตของเขาก็ยังอยู่ในอาณาจักรที่ห้าอีกด้วย
ยอดฝีมือของเมืองฟานอาจไม่รู้จักคนอื่น แต่พวกเขารู้จักคนอย่างจั่วเหวินถังอย่างแน่นอน
“พ่อบ้านจั่ว ท่านมาทำอะไรที่นี่?”
หัวหน้ายอดฝีมืดของเมืองฟานรู้สึกมึนงงดังนั้นเขาจึงถามอย่างไม่แน่ใจว่า
“พ่อบ้านจั่ว ท่านมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเราหรือไม่?”
สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งนี้ดูเหมือนเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นสำหรับพวกเขา
จั่วเหวินถังส่ายหัว “พวกท่านเดินทางจากเมืองฟานตั้งไกล และตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว ทำไมพวกท่านไม่มาดื่มน้ำดื่มท่ากันก่อนล่ะ?”
ยอดฝีมือของเมืองฟานเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังจะสื่อถึงอะไร ถ้าเขามาที่นี่เพื่อช่วย เขาจะเสนอเครื่องดื่มให้พวกเขาได้อย่างไร? เห็นได้ชัดว่าเขามาที่นี่เพื่อหยุดพวกเขา
สีหน้าของพวกเขามืดลงทันที
“พ่อบ้านจั่ว ท่านเจ้าเมืองของเราได้ออกคำสั่งเด็ดขาดและไม่มีใครสามารถแทรกแซงได้ หากพ่อบ้านจั่วไม่ช่วยเราก็ช่วยหลีกทางไป เมื่อภารกิจของเราเสร็จสิ้น เราจะมาขอบคุณท่านในภายหลัง”
"เดี๋ยวก่อน!" จั่วเหวินถังยกมือขึ้นเพื่อหยุดพวกเขา “ข้ามาที่นี่เพื่อหยุดพวกท่าน ข้าทำสิ่งนี้เพื่อพวกท่านและท่านเจ้าเมืองของพวกท่านด้วย ถือซะว่าเห็นแก่ข้า เราไปไปคุยกันที่อื่นกันเถอะ”
เห็นได้ชัดว่ายอดฝีมือของเมืองฟานโกรธและปฏิเสธที่จะฟัง อย่างไรก็ตาม จั่วเหวินถังก็เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว
อีกฝ่ายมีกำลังคนราว ๆ 20 คน แต่เมื่อจั่วเหวินถังปรบมือก็มีนักสู้มากกว่า 100 คน เข้ามาล้อมรอบกลุ่มของพวกเขาทันที นอกจากนี้ แต่ละคนยังดูน่าเกรงขามและมีพละกำลังมากพอที่จะเอาชนะผู้บุกรุกได้