980 - ไล่ล่าด้วยความบ้าคลั่ง
980 - ไล่ล่าด้วยความบ้าคลั่ง
“ตำนานเป็นความจริงจริงๆ ผมเส้นเดียวของเซียนโบราณสามารถฆ่าทหารได้นับพัน และเลือดเพียงหยดเดียวก็สามารถฆ่าปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ได้!”
มีผู้คนมากมายถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมร่างกายและวิญญาณของพวกเขาถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดไม่เหลือเลือดแม้สักหยด
หัวใจของผู้คนกำลังเต้นกระหน่ำ พลังเสียงคำรามของเซียนนั้นน่ากลัวมาก ไม่มีใครรู้ว่าชายชราผู้บ้าคลั่งต้องการทำอะไร แต่ไม่มีใครกล้าหยุดการกระทำของเขาอย่างแน่นอน
.......
ชายชราผู้บ้าคลั่งตะโกนอีกครั้ง ผมสีขาวของเขายุ่งเหยิงราวกับหญ้าแห้ง เขาสูญเสียความเป็นตัวเอง กลิ่นอายแห่งความบ้าคลั่งของเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย
สถานที่ฝึกฝนของจักรพรรดิโบราณไท่หยินพังทลายลงอย่างสมบูรณ์ และไม่เหลืออะไรเลย มีเพียงค่ายกลที่ริบหรี่เท่านั้นที่ป้องกันไม่ให้กลิ่นอายของความชั่วร้ายนี้รั่วไหลออกไปข้างนอก
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของชายชราผู้บ้าคลั่ง!” เย่ฟ่านตกใจและเป็นกังวลอย่างมาก
จักรพรรดิโบราณไท่หยินพิสูจน์เต๋าในยุคโบราณ ว่ากันว่านี่คือหนึ่งในจักรพรรดิโบราณที่แข็งแกร่งที่สุด เขาคือผู้คิดค้นทักษะบ่มเพาะจันทราซึ่งเคียงคู่กันกับคัมภีร์สุริยันซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสองคัมภีร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแห่งการบ่มเพาะ
ท่านดับศูนย์ไปนานแล้ว แต่ผู้คนยังเกรงขามและบูชาท่านเหมือนเทพ แต่บัดนี้สถานที่บ่มเพาะของท่านได้ถูกทำลายอย่างราบคาบ
“บูม”
ในขณะนั้นพระจันทร์สีดำทรงกลมปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของชายชราผู้บ้าคลั่ง มันน่ากลัวและทะลุทะลวงเข้าสู่จิตใจของผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ครั้งนี้
“นั่นคือพลังศักดิ์สิทธิ์ของไท่หยิน!”
“เซียนผู้นี้ทรงพลังมาก เขาควบแน่นตราประทับของไท่หยินขึ้นมาได้สำเร็จ เป็นไปได้ไหมว่าเขาฝึกฝนคัมภีร์ไท่หยินจนบรรลุความรู้แจ้งแล้ว?!”
“สิ่งนี้จะเป็นไปตามเส้นทางของจักรพรรดิโบราณ น่าเสียดายที่ในชีวิตของพวกเราไม่มีโอกาสได้เห็นผู้ที่บ่มเพาะคัมภีร์สุริยัน?!”
ผู้คนต่างตกตะลึงและพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้น สำหรับความตายของผู้คนมากมายก่อนหน้านี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา และคนที่ชมเหตุการณ์จำนวนมากต่างก็ไม่ได้แยกย้ายกันหลบหนีไปที่ใด
ชายชราบ้าคลั่งยิ่งขึ้น หมอกสีดำปกคลุมร่างของเขาอย่างสมบูรณ์ และดวงจันทร์สีดำระหว่างคิ้วของเขาก็น่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ
เสียงคำรามของเขาดังขึ้น และผมสีขาวที่ยุ่งเหยิงของเขาก็เริ่มโบกสะบัดอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
“บูม”
ในที่สุดร่างของชายชราผู้บ้าคลั่งก็ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น ในขณะเดียวกันก็มีชายหนุ่มอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปีเดินออกมาจากร่างของเขาท่ามกลางสายตาตกตะลึงของผู้คนมากมาย
นัยน์ตาของชายหนุ่มเปรียบเสมือนกระบี่แห่งสวรรค์สองเล่ม มันคมกริบจนผู้คนไม่สามารถมองได้ นี่คืชายหนุ่มที่ทรงพลังและน่ามีความแข็งแกร่งในขอบเขตผู้อมตะอย่างแน่นอน
“เป็นไปได้อย่างไร!” เย่ฟ่านอยู่ในความงุนงง
นี่คือชายหนุ่มผู้บ้าคลั่ง ในขณะนั้นชายหนุ่มหันกลับไปทางด้านหลัง เขาอ้าปากขึ้นและกลืนชายชราผู้บ้าคลั่งลงไปในคำเดียว
ทุกคนตกตะลึง นี่มันสัตว์ประหลาดแบบไหนกัน พระจันทร์สีดำตราตรึงที่คิ้ว ฟื้นคืนชีพแล้วดูดซับตัวตนดั้งเดิม ลบร่องรอยของเวลา และเกิดใหม่ขึ้นมาในฐานะคนหนุ่มผู้หนึ่ง
แม้ว่ารูปลักษณ์ของชายชราผู้บ้าคลั่งจะเปลี่ยนไปแต่ความบ้าคลั่งในตอนนี้ไม่ได้ลดลง เขายังคงอยู่ในสภาวะที่ลุ่มหลง และเจตนาฆ่าในสายตาของเขาก็ไม่มีที่สิ้นสุด!
ด้วยเสียงคำรามสุดท้าย พื้นดินที่ราบเรียบจมลง และเหวที่ไร้ก้นบึ้งก็ปรากฏขึ้น เขาโบกมือและทำลายค่ายกลที่ปิดกั้นกลิ่นอายของเขาให้พังทลายลงทันที
จากนั้น เขาเริ่มขีดข่วนบนพื้นเพื่อสร้างเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกลขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง
เย่ฟ่านไม่รู้ว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกลนี้จะส่งชายชราผู้บ้าคลั่งไปที่ใด แต่มันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่านี่คือค่ายกลคนเคลื่อนย้ายทางไกลของจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าอย่างแน่นอน
“ราชาบรรพชนโบราณหลายสิบคน เทพอสูรพันมือ ตลอดจนสามผู้อมตะที่แข็งแกร่งที่สุดล้วนมาที่ทุ่งดาวโบราณจื่อเวยเพื่อชำระล้างชีวิตของผู้คนหลายร้อยล้าน ข้าจะฆ่าพวกเจ้าเพื่อพิสูจน์เต๋ากลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เอง!”
เสียงของชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งมีความคลุ้มคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ
“ข้าไม่เพียงจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมดเท่านั้น ยังจะฆ่าลูกหลานและบรรพบุรุษของพวกเจ้าทั้งหมดอีกด้วย!”
ทันทีที่ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งกล่าวเช่นนี้ก็มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นจากเบื้องบน ราวกับว่าการกระทำของเขาทำให้สวรรค์พิโรธก็ไม่ปาน
ในความว่างเปล่าผมสีดำของเขาโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาของเขาน่ากลัวและเต็มไปด้วยความมืดมน
หัวใจของเย่ฟ่านตกตะลึง ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขามีพลังและน่ากลัวเกินไป
ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งเป็นเหมือนเจ้าแห่งปีศาจ น่ากลัวและทรงพลังทั้งยังเต็มไปด้วยความคุ้มคลั่ง
ไม่มีเทพหรือปีศาจอยู่ในสายตาของเขา กลิ่นอายที่ทรงพลังกวาดออกไปรอบทิศทางและทำให้ผู้คนเกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด!
เย่ฟ่านตกตะลึงราวกับว่าเขาไม่รู้จักคนๆ นี้ อารมณ์ของชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ได้นิ่งสงบและใจเย็นเหมือนเดิมอีกต่อไป
ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งประทับค่ายกลในความว่างเปล่าก่อนจะเริ่มสอดส่ายสายตาไปทั่วโลกคล้ายกับกำลังตามหาบางสิ่งบางอย่างในจักรวาลอันกว้างใหญ่
นี่เป็นการตัดสินใจที่บ้าบิ่นอย่างแท้จริง หากคนๆ หนึ่งต้องการต่อสู้กับราชาโบราณจำนวนมากด้วยตัวคนเดียว มันย่อมเป็นการรนหาที่ตายอย่างแน่นอน!
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่เย่ฟ่านส่งต่อให้เขานั้นเกิดขึ้นจริง และเรือรบทองแดงก็ถูกตราเครื่องหมายไว้แล้ว ในขณะนี้ชายชราผู้บ้าคลั่งกำลังติดตามเรือลำนั้นอย่างแน่นอน
“เจ้าอยู่ที่นี่จริงๆ ตาย!”
ชายหนุ่มที่ดูเหมือนเทพอสูรกล่าวอย่างเย็นชา เย่ฟ่านเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง ตอนนี้ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งต้องการไล่ล่าเรือทองแดงลำนั้นและหมายจะสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่บนเรือ!
ช่างเย่อหยิ่งอะไรเช่นนี้ ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งดูเหมือนจะไม่มีความยับยั้งชั่งใจอีกต่อไป เขาส่งเสียงคำรามให้สั่นสะเทือนสวรรค์พิภพก่อนจะโบกมือขึ้นไปในท้องฟ้าและทำให้ประตูมิติอันกว้างใหญ่เปิดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นกับเซียนคนนี้?กลิ่นอายนี้น่ากลัวเกินไป เขาจะทำอะไร!”
ในระยะไกล คนอื่นๆ สั่นสะท้านไปทั่ว ภายใต้ลมหายใจของเซียนโบราณ แม้แต่บุคคลระดับผู้นำก็ยังหวาดกลัว
“ปัง!”
ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งก้าวไปข้างหน้า และลวดลายอักขระนับพันก็ระเบิดออกมาบนพื้น ก่อตัวเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่
ด้วยการสัมผัสมือของเขา ช่องว่างมิติก็ปรากฏขึ้นทันที พร้อมกับแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีที่ส่องประกายระยิบระยับ เห็นได้ชัดว่าเส้นสู่เรือรบโบราณถูกเปิดขึ้นแล้ว
ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งก้าวเข้าไปข้างในโดยไม่ลังเล เบื้องหน้าของเขาคือจักรวาลอันมืดมิด ในขณะนี้สายตาของเขาสอดสายไปมาและต้องการค้นหาร่องรอยของเรือโบราณให้ได้
หากเรือรบทองแดงเดินทางมาถึงทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ยจริงๆ ภายใต้อำนาจของสิ่งมีชีวิตอมตะเหล่านั้น ผู้คนในโลกใบนี้จะถูกกวาดล้างออกไปทั้งหมด จะไม่มีมนุษย์แม้แต่คนเดียวที่สามารถรอดชีวิตได้
อาจกล่าวได้ว่านี่จะเป็นหายนะครั้งใหญ่ที่สุด เย่ฟ่านไม่รู้ว่าเหตุใดราชาโบราณเหล่านั้นจึงต้องการกวาดล้างผู้คนในโลกใบนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าชายชราผู้บ้าคลั่งมาที่นี่ก็เพื่อขัดขวางความเคลื่อนไหวของพวกเขา!
หากไม่มีชายชราผู้บ้าคลั่งจะไม่มีผู้ใดในโลกสามารถปกป้องภัยพิบัติครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน!
ชายชราผู้บ้าคลั่งกำลังจะฆ่าราชาโบราณหลายสิบคนและเซียนผู้ยิ่งใหญ่สามคนรวมทั้งเทพอสูรพันมือที่นั่งอยู่บนเรือ
หากเป็นช่วงเวลาปกติเย่ฟ่านเชื่อมั่นว่าชายชราผู้บ้าคลั่งจะต้องถูกฆ่าตายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
แต่ด้วยเรือโบราณที่ล่องลอยอยู่ในจักรวาลมาหลายแสนปีแล้ว พลังชีวิตของผู้อมตะเหล่านั้นแทบจะถูกทำลายจนหมดสิ้น ดังนั้นแม้ว่าจำนวนของฝ่ายตรงข้ามจะมีมากกว่า แต่ชายชราผู้บ้าคลั่งก็ยังมีโอกาสอยู่
ในขณะนี้ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งเดินออกไปอย่างแข็งกร้าวโดยไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมหาที่เปรียบมิได้ นี่คือวีรบุรุษที่มาเพื่อกอบกู้โลกอย่างแท้จริง!
หัวใจของเย่ฟ่านเต้นแรงมาก ชายชราผู้บ้าคลั่งเดินทางเข้าสู่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และเขาจะกลับมาได้หรือไม่?
…..