ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 667 ตั้งตนเป็นใหญ่ (ฟรี)
ผู้สร้างความโกลาหลไปทุกดินแดนอย่างซู่เสี่ยวไป่นั้น เวลานี้ได้จ้องมองลงไปยังดินแดนอันกว้างใหญ่ แม้ว่าภายนอกจะดูนิ่งสงบ แต่ภายในใจกลับคิดอะไรหลายสิ่ง เขากำลังบัญชาการเงายักษ์เทพเข้ายึดพื้นที่ต่างๆ มาจากสหัสจักรวรรดิ 9 ฟ้าไรอนัน
มีข่าวดีเข้ามาไม่ขาดสาย เมื่อเงาเริ่มบุกโจมตีเข้าไปในดินแดนข้าศึกเยอะขึ้น ผลลัพธ์ที่เงามอบให้นั้นเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก จ้าวภัยพิบัติของข้าศึกถูกไล่ฆ่า ภูเขาแม่น้ำถูกทำลายไม่เหลือ บ้านเมืองเองก็ถูกถล่มจนกลายเป็นซากปรักหักพัง
ด้วยร่างเงากว่า 80 ล้านร่างที่ต่อสู้ภายใต้การนำของซู่เสี่ยวไป่ ทำให้ซู่เสี่ยวไป่ใกล้จะยึดดินแดนทั้งหมดที่เคยเป็นของจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์คืนกลับมาเกือบหมดแล้ว
ตอนนี้ไม่ว่าเงาจะไปที่ไหน ศัตรูจะวิ่งหนีทันที -แม้จะดูไร้ศักดิ์ศรีแต่พวกเขา-ไม่มีใครกล้าสู้กับเงาพวกนี้!!
เงาพวกนี้ไม่เพียงจะมีการโจมตีที่รุนแรง มันยังระเบิดพลีชีพตัวเองได้ไม่สิ้นสุด
พื้นที่ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียวของซู่เสี่ยวไป่นั้นเติบโตขึ้นมาก และมันได้ไปพัฒนาสติปัญญาของเงาด้วยหลายครั้ง จนทำให้พวกมันฉลาดมาก เงานั้นสามารถคิดแผนการและรู้จักวิธีรับมือสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น มันเริ่มเรียนรู้จากศัตรู และเล็งจุดอ่อน ทำให้จ้าวภัยพิบัติถูกพวกมันฉีกร่างทิ้งไม่ต่างจากกระดาษบางๆ
ในตอนแรกหลายดินแดนและจักรวรรดินั้นมองว่าจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์คงถึงคราวล้มสลายแล้ว
แต่เมื่อซู่เสี่ยวไป่แสดงตัวออกมา ไม่เพียงไม่ปล่อยให้จักรวรรดิระดับสูงบุกยึดดินแดนไปมากกว่านี้ เขายังสามารถตอบโต้กลับไปได้อีกด้วย และค่อยๆ ยึดดินแดนกลับมาที่ละส่วน
ตอนนี้นามไป่หยินได้นำพาความหวังมาสู่ผู้ฝึกตนและทหารทุกคนในจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์
มังกรพิษผีดิบที่อยู่ในร่างของเด็กอ้วนเวลานี้ก็ดูเรียบร้อยอย่างมาก และแสดงออกถึงความจริงใจอย่างที่สุด มันได้รับมอบหมายให้ต้อนรับแขกจ้าวภัยพิบัติจากจักรวรรดิและดินแดนอื่นๆ
“จ้าวภัยพิบัติเปรียบเสมือนหน้าตาของแต่ละจักรวรรดิและดินแดน เราเองไม่สามารถชนะใจคนในดินแดนต่างๆ ด้วยร่างเงาได้….ต้องให้จ้าวภัยพิบัติของดินแดนเหล่านั้นมายอมสวามิภักดิ์ต่อเราแทน”
ซู่เสี่ยวไป่ทอดสายตาออกไป พร้อมกับเล่นมีดสะเทือนดินแดนในมือ ก่อนที่จะหันกลับมามองดูรายชื่อที่มังกรพิษผีดิบเอามาให้ดู
บอกเลยว่าตอนนี้มีหลายคนต้องการที่จะเข้าร่วมกับเขา
ในบรรดาจักรวรรดิทั้งหมดของจักรวรรดิไท่เจียง มีจักรพรรดิล้มตายไป 8 คน ส่วนที่เหลือเองก็ต้องการจะเข้าร่วมกับซู่เสี่ยวไป่ด้วย พวกเขามีกำลังจ้าวภัยพิบัติรวมกัน 1,300 คน
ส่วนใหญ่เป็นผู้รอดชีวิตจากสงคราม หรือเป็นจ้าวภัยพิบัติที่แพ้ศึกหนีรอดกลับมา พวกเขาล้วนต่างเป็นมือเป็นเท้าให้กับผู้ทรงอำนาจในจักรวรรดิ และพวกเขาเองก็ถือว่าเป็นที่เคารพของผู้คนด้วยเช่นเดียวกัน
เป้าหมายของซู่เสี่ยวไป่ตอนนี้คือรวบรวมทุกจักรวรรดิ และยกระดับดินแดนดวงดาวทางเหนือเป็นจักรวรรดิระดับสูง ในนามของจักรวรรดิสุขาวดี ซึ่งพิธีการก่อตั้งนั้นสำคัญมาก
“นายท่าน…ผู้ขอสวามิภักดิ์ได้มาถึงกันหมดแล้ว ข้าเองก็ได้จัดเตรียมทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย และที่รอบๆ เองก็มีร่างแยกของนายท่านคุ้มกันอยู่ เหลือเพียงท่านปรากฏตัว”
มังกร 9 มายาที่อยู่ในร่างมนุษย์ปรากฏตัวขึ้นในชุดพ่อบ้านที่ดูดี และดูสง่างามอย่างมาก
ซู่เสี่ยวไป่พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องโถง
ตอนนี้ในวังดินแดนดวงดาวทางเหนือมีจ้าวภัยพิบัติจากทั่วจักวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์รวมตัวกันอยู่ และอยู่ภายในการดูแลของมังกรพิษผีดิบ
แม้ว่าทุกอย่างจะดูเรียบร้อยดี แต่มังกรพิษผีดิบนั้นก็ยังทำพลาดหลายอย่าง ซึ่งมันจะต้องฝึกฝนและศึกษาให้มากขึ้นกว่านี้
ในห้องโถงของวังดูมีชีวิตชีวาอย่างมากเต็มไปด้วยแสงไฟที่งดงาม แต่จ้าวภัยพิบัติที่รวมตัวกันอยู่ที่นี่ล้วนผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มา และยังคงหวาดกลัวอยู่จนไม่สามารถสงบสติอารมณ์ในวังแห่งนี้ได้
เมื่อทุกคนสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอที่คุ้นเคยจ้าวภัยพิบัติทุกคนแทบลืมหายใจ และมองไปทางซู่เสี่ยวไป่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“คาราวะท่านไป่หยิน!!!”
“คาราวะ่ท่านไป่หยิน ข้าน้อยรู้สึกทราบซึ้งมากที่ท่านให้ที่พักพิงกับพวกพ้องของข้า ข้าจะไม่ตอบแทนท่านด้วยคำพูด แต่ข้าจะตอบแทนท่านด้วยชีวิตของข้าในภายภาคหน้า”
“ท่านไปหยินเป็นเหมือนกับแสงแห่งความหวังของพวกเรา ที่พวกเรามายืนตรงนี้ได้ก็เพราะความเมตตาของท่านไป่หยิน!”
เมื่อซู่เสี่ยวไป่ปรากฏตัวคำสรรเสริญ และคำเยินยอนั้นได้ดังขึ้นม่หยุด ซึ่งซู่เสี่ยวไป่ก็รู้สึกว่ามันก็ไม่เลว
อย่างน้อยคนพวกนี้ก็รู้ว่าใครคือพี่ใหญ่ตัวจริงของสถานการณ์นี้
ผู้คนส่วนใหญ่ที่มายังดินแดนดวงดาวทั้งเหนือนั้น ล้วนมีความตั้งใจจะเข้าร่วมกับซู่เสี่ยวไป่ และมีตบะบ่มเพาะตั้งแต่จ้าวภัยพิบัติขั้น 3 ขึ้นไป จนไปถึงจ้าวภัยพิบัติขั้น 5
แต่ที่ซู่เสี่ยวไป่แปลกใจ คือในกลุ่มคนพวกนี้มีจ้าวภัยพิบัติขั้น 7 แฝงตัวอยู่ด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีท่าทีเข้าร่วมก็ตาม
แต่โดยรวมแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเรื่องดีสำหรับซู่เสี่ยวไป่ เพราะกลุ่มผู้มีอำนาจเหล่านี้ล้วนต้องการเข้าร่วมกับเขา การจะยกระดับตัวเองเป็นจักรวรรดิระดับสูงได้นั้นทรัพยากรบุคคลที่แข็งแกร่งก็เป็นเรื่องสำคัญ!
“อะแฮ่ม…อย่างที่หลายท่านกล่าวมา ทุกคนล้วนมาจากดินแดนที่ห่างไกล และเต็มใจที่จะสวามิภักดิ์กับท่านไป่หยิน เพราะงั้น ข้าเองก็เช่นเดียวกัน หวังว่าท่านไป่หยินจะรับไมตรีจากพวกเรา”
ซู่เสี่ยวไป่พยักหน้า ก่อนที่จะพูดเข้าประเด็นทันที
“เอาหล่ะ ทุกท่านอย่างที่รู้กันว่าตอนนี้จักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์นั้นกำลังตกอยู่ในสภาวะสงครามที่รุนแรง และหมอกควันจากสงครามนี้ก็ได้ปกคลุมพวกเราไปด้วย เพราะงั้นคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงจากสงครามนี้ได้”
“จุดมุ่งหมายที่พวกเรามารวมตัวกันวันนี้ เพื่อจะเปลี่ยนแปลงทุกสรรพสิ่ง….บรรเทาทุกข์บำรุงสุข นำจักรวรรดิกลับคืนสู่ความสงบ แต่ทุกคนคงรู้ว่าสันติมันต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อ”
พิธีในวันนี้สำคัญมากเพราะมีจ้าวภัยพิบัติและผู้ทรงอำนาจรวมตัวกันอยู่ ซู่เสี่ยวไป่ต้องพูดปลุกใจและโน้มน้าวทุกคน
ต้องยอมรับว่าไม่ได้มีเพียงร่างเงาเท่านั้นที่ถูกฆ่า ยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องล้มตายในศึกนี้ด้วย
แต่ซู่เสี่ยวไป่เป็นเหมือนผู้มอบหนทางรอดให้กับทุกคนในจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ หากไม่มีเขา ปานี้พวกเขาคงไม่ได้มายืนรวมตัวกันอยู่ที่นี่ และคงตายไปในสงครามหมดแล้ว
หากมองในมุมนี้ซู่เสี่ยวไป่นั้นถือว่าเป็นผู้มีพระคุณกับทุกคน แต่เขาไม่อยากจะทวงบุณคุณ
แล้วอะไรคือสิ่งที่ซู่เสี่ยวไป่ต้องการที่สุดในเวลานี้
นั้นคือความร่ำรวย วิชา และดินแดน
และกุญแจสู่หนทางนั้นคือชนชั้นผู้นำที่อยู่ที่นี่
ที่ซู่เสี่ยวไป่อยากเป็นผู้นำสูงสุดของจักรวรรดิ ไม่ใช่เพียงแค่ปกครองทุกดินแดน แต่เขาต้องการจะยึดทุกสิ่งทุกอย่างมาเป็นของเขา และเอาสมบัติทั้งหมดมาเก็บไว้ในกระเป๋าตัวเอง
และด้วยความช่วยเหลือจากคนกลุ่มนี้ หนทางสู่จุดมุ่งหมายนั้นจะสั้นลง
ซู่เสี่ยวไป่ไม่ต้องการเป็นวีรบุรุษ เขาต้องการเป็นทรราช
เมื่อได้ยินคำพูดที่ปลุกเร้าเช่นนี้ ทำให้จ้าวภัยพิบัติหลายคนเริ่มที่จะพยักหน้าเห็นด้วย และคิดในใจว่าชายผู้นี้มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่น ไม่ใช่เพียงพลังในการต่อสู้ แต่เขายังเชี่ยวชาญในการบัญชาการศึกอยู่เบื้องหลังด้วย
มังกรพิษผีดิบนั้นก็ได้พูดขัดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม
“ทุกท่านล้วนเป็นบุคคลสำคัณต่อจักรวรรดิ พวกท่านล้วนเป็นผู้ทรงพลัง และมีกำลังรบที่แข็งแกร่ง แม้ว่าท่านไป่หยินจะมากความสามารถ แต่ก็ไม่สามารถปกป้องทุกสิ่งได้ ทุกท่านที่อยู่ในโถงแห่งนี้ต้องร่วมใจกัน เพื่ออนาคตที่เต็มไปด้วยความสงบสุขของจักรวรรดิ”
ซู่เสี่ยวไป่มองไปยังมังกรพิษผีดิบด้วยสายตาที่พอใจ และคิดว่ามังกรตัวนี้มันแสนรู้
ในเวลานี้ซู่เสี่ยวไป่จะต้องปลุกระดมคนให้มากที่สุด เพื่อจะนำกองกำลังมาช่วยสู้รบ และดูแลปกป้องพื้นที่ดินแดนต่างๆ แทนเงาของเขา
และหากเป็นแบบนั้นจะกลายเป็นว่าทุกคนยอมรับซู่เสี่ยวไป่ ทำให้ซู่เสี่ยวไป่เข้าใกล้การเป็นผู้นำสูงสุดที่ทรงอำนาจเท่ากับจักรวรรดิระดับสูง
งานต้อนรับครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับซู่เสี่ยวไป่ เขาชื่นชมมังกรพิษผีดิบที่รู้จักจังหวะพูดที่ดี
อย่างไรก็ตามต่อจากนี้ซู่เสี่ยวไป่วางแผนที่จะเพิ่มแนวรบมากขึ้น
ทันใดก็มีจิตสังหารที่รุนแรงปรากฏขึ้น
“ตายซะ!! ไป่หยิน”
มีจ้าวภัยพิบัติคนหนึ่งแทงกระบี่ที่คมกริบใส่ซู่เสี่ยวไป่ ด้วยความเร็วที่ทุกคนไม่ทันตั้งตัว