(ฟรี)ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 80 หากโค้นล้มราชวงศ์
แม้ว่าอาณาจักรนภาสวรรค์จะส่งยอดฝีมือจากสี่นิกายมายังพรมแดน พวกเขาก็ยังมียอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดน้อยกว่าอาณาจักรนภาครามอยู่มาก…
เพราะอาณาจักรนภาครามได้ยืดครองดินแดนอื่นที่อยู่รอบเคียงทำให้พวกเขาแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีข่าวลือว่าบรรพชนของพวกเขาก็อยู่ขอบเขตราชันครึ่งก้าวเช่นกัน
แม้นี่จะไม่ใช่ข่าวลือที่น่าตื่นตระหนกนัก เพราะอย่างไรหลาย ๆ อาณาจักรโดยรอบก็มีบรรพชนที่อยู่ขอบเขตราชันครึ่งก้าวเช่นกัน
เพราะเหตุนี้ เขาจึงเข้ายืดครองอาณาจักรเล็กอาณาจักรน้อยที่มีบรรพชนอยู่เพียงขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้นสมบูรณ์ได้โดยง่าย
ขณะนี้ หวังหลันและยอดฝีมืออีกสามนิกายก็อยู่ตรงหน้ากระโจมที่มีผู้ฝึกตนขอบเขตควบแน่นแก่นแท้สองคนเฝ้าอยู่ข้างหน้า
“พวกเจ้าทั้งสี่นิกายตกลงกันแล้วรึ ว่าจะส่งคนมาช่วยพวกเราเท่าใด” เมื่อเข้าไปในนั้น ชายวัยกลางคนก็เอ่ยถามเขา เขาผู้นั้นเอ่ยขึ้นโดยไม่แม้แต่จะชายตามามองที่ทั้งสี่
“พวกเราจะส่งคนมาเพิ่มอีกสี่คน” ก่อนที่หวังหลันจะทันได้โวยวายเกี่ยวกับท่าทีที่หยาบคายของชายผู้นี้ ชายชราจากนิกายสัตตะชะตาก็ตอบกลับไปในทันที เขากันไม่ให้ทั้งสามคนที่เหลือเอ่ยสิ่งใดต่อ
“หากเป็นเช่นนั้น พวกเจ้าก็ไปเสียเถิด หากเกิดเหตุใดขึ้น พวกเราจะเรียกเจ้าอีกรอบ” ชายผู้นั้นโบกมือสั่งให้ทั้งสี่ออกไป ก่อนที่จะหันกลับไปมองยังแผนที่อีกครั้ง
“เจ้าสารเลวนั่น... เหตุใดพวกราชวงศ์จึงเลวร้ายเสียเพียงนี้!” คนที่เดือดดาลทันที่ที่ออกจากกระโจมไม่ใช่ทั้งหวังหลันหรือผู้อาวุโสจากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำแต่อย่างใด ผู้นั้นคือสัตตะบุปผาจากนิกายวสันตบุปผา!
ทั้งหวังหลันและผู้อาวุโสจากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำมองหน้ากันโดยไม่ได้พูดสิ่งใด แม้พวกเขาจะเดือดดาลเช่นกัน แต่พวกเขาก็ไม่คาดว่าหญิงจากนิกายวสันตบุปผาจะเป็นถึงเพียงนี้
“ฮ่าฮ่า ใจเย็นเสียก่อน เจ้าบุปผาน้อย อาณาจักรนภาสวรรค์ในตอนนี้กำลังอ่อนแออย่างมาก พวกเขาเพียงแค่กลัวว่าพวกเราจะร่วมมือกันโค่นล้มพวกเขา สำหรับตอนนี้ พวกเจ้าอดทนไว้เสียก่อน พวกเขาจะไม่กล้าทำสิ่งใดกับเราโดยที่มีภัยจากอาณาจักรนภาครามจ่อถึงหน้าประตูเช่นนี้” ชายชราจากนิกายสัตตะชะตากล่าวอธิบายถึงสถานการณ์ของอาณาจักรนภาสวรรค์
“อันที่จริง พวกเราแข็งแกร่งเกินกว่าที่อาณาจักรนภาสวรรค์จะควบคุมได้ นิกายทั้งสี่ของเราได้ควบคุมทั้งสี่ทิศของอาณาจักรนภาสวรรค์ไปแล้ว ดินแดนที่พวกเขาควบคุมมีเพียงจุดกลางของอาณาจักรและจุดยุทธศาสตร์สองสามแห่งเพียงเท่านั้น” หวังหลันเริ่มครุ่นคิดเกี่ยวกับพลังของพวกราชวงศ์
เมื่อเทียบกับราชวงศ์อาณาจักรนภาครามที่สามารถควบคุมดินแดนและนิกายทั้งหมดแล้ว ราชวงศ์อาณาจักรนภาสวรรค์ควบคุมเพียงหนึ่งในห้าของดินแดนทั้งหมดเพียงเท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นอยู่ภายใต้สี่นิกายที่ทรงอำนาจและนิกายอื่น ๆ
เหตุผลเดียวที่ราชวงศ์อาณาจักรนภาสวรรค์ยังคงอ้างว่าพวกเขาเป็นผู้ปกครองอาณาจักรได้นั้นเป็นเพราะบรรพชนของพวกเขาเพียงเท่านั้น หากยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดของทั้งสี่อาณาจักรร่วมมือกันได้ อย่างน้อยขุมพลังจากยอดฝีขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดของพวกเขาก็จะลดลงอย่างมาก
ดังนั้นพวกเขาจึงยังปล่อยให้นิกายทั้งสี่เป็นอิสระอยู่ต่อไป
ทั่วทั้งทวีปเอวาเรียนั้นมักถูกปกครองด้วยราชวงศ์ต่าง ๆ และนิกายที่อยู่ในอาณาเขตของพวกเขาก็ล้วนเป็นเพียงบริวารของพวกเขาเพียงเท่านั้น
มีไม่มากนักที่จะมีนิกายที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับพวกราชวงศ์
“ในยามนี้ เราทำได้เพียงบ่มเพาะต่อไปเท่านั้น... หากมีโอกาสในคราวหน้า เราก็อาจพลิกวิกฤตของพวกเราได้เช่นกัน!” หลังจากที่ชายชราจากนิกายสัตตะชะตากล่าวจบ เขาก็เข้าไปในกระโจมของตนเพื่อบ่มเพาะต่อ
สัตตะบุปผา, หวังหลันและผู้อาวุโสจากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำต่างก็นิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปยังกระโจมของตนเพื่อบ่มเพาะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พวกเขารู้ดีว่าสถานะของพวกเขาเป็นเช่นไร แต่พวกเขาก็ไม่สามารถแก้ไขมันได้ในขณะนี้
แม้ว่าพวกเขาจะโค้นล้มราชวงศ์อาณาจักรนภาสวรรค์ได้ พวกเขาก็ยังต้องเผชิญกับจักรวรรดินภาผู้อยู่เบื้องหลังอาณาจักรนภาสวรรค์อีกเช่นกัน
ยอดฝีมือจากทวีปเอวาเรียส่วนใหญ่ล้วนมาจากราชวงศ์เพียงเท่านั้น เนื่องจากพวกเขาได้รวบรวมทรัพยากรเป็นจำนวนมาก หากนิกายใด ๆ ต้องการโค้นล้มราชวงศ์ พวกเขาก็ต้องแข็งแกร่งเสียก่อน