บทที่ 227: เตรียมของขวัญไว้ให้พวกเขา
หูเจียวเจียวก้มลงมองสิ่งของในมือแล้วเห็นว่ามันเป็นขวดหินขนาดเท่าฝ่ามือที่มีหนังสัตว์บาง ๆ ประกบอยู่ระหว่างฝาและตัวขวด ซึ่งดูแล้วข้างในน่าจะเต็มไปด้วยน้ำร้อน พอมันมาอยู่ในมือหญิงสาวก็ทำให้มือของเธออุ่นมาก
เนื่องจากตรงปากขวดมีหนังสัตว์อยู่ น้ำข้างในจึงไม่รั่วซึมออกมา
“เจ้าทำมันขึ้นมาเองหรือ?” จิ้งจอกสาวรู้สึกประหลาดใจ
ขวดหินขนาดเล็กนี้มีโครงสร้างแบบเดียวกับไหหินที่เธอใช้ใส่เหล้าผลไม้ โดยที่ส่วนฝาถูกขัดอย่างประณีตจนเป็นรอยคล้ายเกลียวน็อต
แต่เนื่องด้วยมันเป็นงานฝีมือ ฝาหินจึงปิดได้ไม่ค่อยพอดีนัก น้ำจึงยังรั่วซึมได้เล็กน้อย เขาจึงคิดหาวิธีปิดมันด้วยหนังสัตว์ที่กันน้ำได้ เพื่อป้องกันน้ำรั่ว
หูเจียวเจียวสันนิษฐานว่าหลงโม่แอบทำมันขึ้นหลังจากที่ทำไหหินเสร็จ
“อืม” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเอื้อมมือไปจับมือภรรยาสาวก่อนจะสอดเข้าไปใต้เสื้อหนังสัตว์ตรงหน้าอกของเขา
“มือเจ้าแดงเพราะอากาศหนาว ข้าจะอุ่นให้”
เสียงนุ่มทุ้มแฝงไปด้วยความกังวล
“มันไม่หนาวขนาดนั้น แค่มีขวดให้อุ่นมือก็พอแล้ว” จิ้งจอกสาวขมวดคิ้ว ขณะที่พูดน้ำเสียงของเธอแผ่วเบาลง และเธออยากจะดึงมือออกมา แต่มังกรหนุ่มกลับรั้งข้อมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อย
“เจ้าหนาว” เขาไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะหนาวหรือไม่ ขอเพียงแค่เขาได้กุมมือบอบบางนี้ไว้ในอ้อมอกตนก็พอ
หูเจียวเจียวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อฟัง และในไม่ช้ามือที่เย็นเฉียบของเธอก็อุ่นขึ้น
ส่วนหลงจงที่เดินอยู่ข้าง ๆ ถูมือเข้าด้วยกัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ท่านพ่อ มือของข้าก็เย็นเหมือนกัน…”
“มีเตาถ่านอยู่ในห้อง เจ้าไปอุ่นมือเอาเอง” พ่อมังกรตอบโดยไม่หันไปมองลูกชาย
พวกเด็ก ๆ ได้ยินดังนั้นจึงก้มหน้าถอนหายใจพลางมองดูฝ่ามือของตัวเองแล้ววิ่งเข้าไปในบ้าน
ส่วนหูเจียวเจียวกับหลงโม่เดินตามมาข้างหลังเพื่อปิดประตูบ้าน
ในตอนค่ำหลังจากครอบครัวทั้ง 8 คนทานอาหารเสร็จ หูเจียวเจียวก็พาลูก ๆ กลับไปที่ห้องนอน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ประตูบ้านเปิดออกเงียบ ๆ และมีร่างสูงเดินออกไปข้างนอก
ภายใต้แสงจันทร์ ใบหน้าอันเย็นชาของหลงโม่เต็มไปด้วยความเข้มงวด
เขาเดินเข้าไปในลานบ้านพลางกวาดตามองดูตุ๊กตาหิมะตัวสวยหลายตัว จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปที่ตุ๊กตาหิมะหน้าตาน่าเกลียดที่เป็นตัวแทนของเขา ก่อนที่เขาจะแก้ไขหน้าตาของตุ๊กตาหิมะให้ดูดีขึ้น
ในขณะที่ชายหนุ่มยุ่งกับตุ๊กตาหิมะ เขาก็หันหน้าไปมองข้างหลังเพื่อระวังไม่ให้คนในบ้านมาพบเห็นตนเป็นระยะ ๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลงโม่ปัดมือลวก ๆ ขณะมองดูตุ๊กตาหิมะตัวสูงที่มีหน้าตาหล่อเหลาเหมือนเจ้าตัวด้วยสีหน้าพึงพอใจ
ถัดมา เขาชำเลืองมองตุ๊กตาหิมะตัวอื่น ๆ และหรี่ตาลง ก่อนจะม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วย้ายตุ๊กตาหิมะทั้ง 6 ที่เป็นตัวแทนของลูกไปด้านข้าง โดยเหลือเพียงตุ๊กตาหิมะของเขาอยู่ข้างตุ๊กตาหิมะของหูเจียวเจียว
หลังจากภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็หันหลังกลับเพื่อเดินเข้าไปในบ้านด้วยฝีเท้าเงียบเชียบ
"หลงโม่ เจ้าไปไหนมา?" เมื่อหูเจียวเจียวกลับมาที่ห้อง เธอพบว่าสามีของตนไม่ได้อยู่ที่นั่น และเธอก็เห็นเขาค่อย ๆ ย่องเข้ามาหลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จ
“ไม่มีอะไร” มังกรหนุ่มตอบโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “ข้าแค่ไปตรวจดูว่าประตูปิดแน่นหรือเปล่า ข้ากลัวว่าลมจะพัดเข้ามาตอนกลางคืน”
“อ๋อ” จิ้งจอกสาวพยักหน้ารับ
ภายใต้การประท้วงที่หนักแน่นของหูเจียวเจียว ในที่สุดค่ำคืนนี้เธอก็ไม่ได้อาบน้ำอีก
…
วันต่อมา
ในตอนเช้า มีเสียงดังขึ้นจากนอกเผ่า ส่งผลให้หูเจียวเจียวสะดุ้งตื่นขึ้น
เธอลืมตามาเห็นว่าหลงโม่ลุกจากเตียงแล้ว ใบหน้าเคร่งขรึมของเขาเปล่งออร่าสง่างามและระแวดระวัง ขณะนี้เขากำลังมองออกไปนอกหน้าต่างในทิศทางที่เป็นทางเข้าของเผ่า
“ภูตหมาป่ากลุ่มนั้นมาหรือเปล่า?”
จิ้งจอกสาวขมวดคิ้วก่อนจะลุกขึ้นไปแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อเสร็จแล้วเธอก็มองออกไปนอกหน้าต่าง
ปัจจุบันท้องฟ้าที่เคยเป็นสีน้ำเงินเข้มเหมือนทะเลลึกไร้ก้นบึงบัดนี้มีหมอกควันสีเทาแดงขนาดเล็กลอยอยู่บนท้องฟ้า
มันคือเปลวไฟที่ปะทุขึ้นมาพร้อมกับเสียงระเบิด
ภาพตรงหน้าทำให้หูเจียวเจียวยิ่งแน่ใจว่ามีภูตเหยียบกับระเบิดที่ตนให้คนในเผ่าไปวางไว้
“น่าจะเป็นอย่างนั้น” หลงโม่ทำหน้าจริงจังก่อนจะหันหน้าไปมองภรรยาสาวด้วยสายตานุ่มนวลและเตือนว่า
“เจ้าอยู่บ้านกับลูก อย่าออกไปไหน ข้าจะไปหาท่านผู้เฒ่า”
เผ่ากำลังถูกโจมตี เหตุการณ์สำคัญเช่นนี้เขาต้องไปบอกข่าวให้หัวหน้าเผ่าทราบ
เนื่องจากมีกับดักวางอยู่นอกเผ่า มันจึงช่วยรั้งไม่ให้ฝ่ายศัตรูเข้ามาข้างในได้ชั่วขณะ อย่างน้อยตอนนี้เผ่าก็ยังปลอดภัยอยู่
“เจ้ารีบไปรีบกลับนะ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเรา” หูเจียวเจียวพยักหน้า เธอช่วยหลงโม่ติดกระดุมเสื้อคลุมของเขาและออกไปส่งเขาหน้าบ้าน
บริเวณชั้นล่าง ลูกที่ได้ยินเสียงต่างก็พากันวิ่งลงมาดูเช่นกัน
แล้วสมาชิกในบ้านทั้งหมดก็มารวมตัวกันในห้องนั่งเล่น
ยามนี้เด็กตระกูลหลง 5 คนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขามองหน้ากันเลิ่กลั่ก มีเพียงหยินชางเท่านั้นที่มีสีหน้าจริงจัง เขากำมือแน่นพร้อมกับที่มีเหงื่อออกเพราะความกังวลใจ
นั่นคือฝูงภูตหมาป่า...
พวกมันตามมาที่นี่อีกแล้ว!
เผ่านี้จะถูกพวกมันทำลายเหมือนครั้งก่อนหรือไม่?
จนกระทั่งเหล่าเด็กน้อยเห็นหลงโม่ออกไปข้างนอกด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดี ลูกทั้ง 5 ก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“ท่านแม่ ข้างนอกเกิดอะไรขึ้น?” หลงหลิงเอ๋อคว้าเสื้อผ้าของแม่จิ้งจอกมาถามด้วยเสียงกังวล
พวกหลงอวี้เองก็มองไปที่หูเจียวเจียวอย่างเคร่งเครียด
พวกเขาเคยมีประสบการณ์ที่เผ่าถูกโจมตีมาก่อน ทำให้เสบียงของเผ่าเกือบจะถูกปล้นหลายครั้ง แต่ท่านผู้เฒ่าและอิงหยวนก็เป็นผู้ขับไล่กลุ่มภูตที่ต้องการเข้ามาปล้นเสบียงไป
นอกจากหลงเหยาแล้ว ลูก ๆ ทุกคนจำเรื่องที่เคยเกิดขึ้นได้ชัดเจน
น้องเล็กของบ้านเป็นคนเดียวที่ยังไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น เขาขยี้ตา คว้าชายเสื้อของหูเจียวเจียวที่อยู่อีกด้านหนึ่งด้วยดวงตาที่ยังตื่นไม่เต็มที่ และถามเสียงอู้อี้
“ท่านแม่ เมื่อกี้เสียงอะไร ทำไมหนวกหูจัง...”
“ข้างนอกมีภูตกลุ่มหนึ่งอยากเข้ามาในเผ่าของเรา พวกเขาเพิ่งทำเสียงแจ้งให้เราทราบ” แม่จิ้งจอกลูบหัวหลงเหยาพลางพยายามทำเสียงให้นุ่มนวลเพื่อไม่ให้เด็ก ๆ ตกใจ
ทว่าเด็กหลายคนขมวดคิ้วฉับในเวลาเดียวกัน
ท่านแม่คิดว่ากำลังหลอกเด็ก 3 ขวบอยู่หรือไง!
“มีแขกจากต่างเผ่าหรือ?” หลงเหยากะพริบตามองผู้เป็นแม่อย่างสงสัย “ถ้าอย่างนั้นเราควรออกไปต้อนรับแขกดีไหม?”
“ไม่ แม่กับคนอื่นในเผ่าได้เตรียมของขวัญไว้ให้พวกเขาแล้ว” หูเจียวเจียวตอบอย่างอ่อนโยน
“ของขวัญ?” ลูก ๆ มองหน้ากันและตระหนักว่าคำพูดของท่านแม่ดูเหมือนจะมีนัยอะไรบางอย่าง
...
อีกด้านหนึ่ง
ภูตหมาป่ากลุ่มหนึ่งที่อยู่นอกเผ่าหยุดอยู่ที่ชายป่า
“หัวหน้า เผ่านั้นอยู่ข้างหน้าเรา” ภูตหมาป่าชี้ไปทางเป้าหมายและพูดกับผู้เป็นนายแบบนอบน้อม
หลางซัวที่สวมชุดหนังสัตว์หนานั่งอยู่บนเสลี่ยงที่ทำจากวัสดุที่ไม่รู้จักโดยมีภูต 4 คนแบกเอาไว้ ในขณะที่เขาเท้าคางอย่างเกียจคร้านอยู่บนที่นั่ง
พอชายหนุ่มฟังรายงานจบ เขาก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่ลูกน้องชี้ไป ก่อนจะสั่งด้วยเสียงแผ่วเบา
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะมัวรีรออะไรอยู่ รีบไปจัดการเผ่านี้ให้ข้าสิ”
หลางเมี่ยยิ้มอย่างมีเลศนัย “หัวหน้า เผ่านี้ไม่มีความรู้เรื่องการป้องกันเลยสักนิด เราคงสามารถจัดการพวกมันได้ในอีกสักครู่ ดังนั้นข้าขออาสาพากองกำลังไปที่นั่นเอง”
เผ่าเล็กกระจ้อยร่อยแบบนี้เขาจัดการได้อยู่แล้ว!
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอูหลิวถึงให้ความสำคัญกับมันมากขนาดนั้น
ต่อมา หลางซัวเชิดคางขึ้นและบอกให้อีกฝ่ายไปจัดการ
จากนั้นหลางเมี่ยหัวเราะเบา ๆ เขาหันกลับมามองตรงไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ พร้อมกับเรียกเหล่าลิ่วล้อให้ตามตนมา
“พวกเจ้า 2 กลุ่มไปกับข้า”
เพื่อจัดการกับเผ่าเล็ก ๆ เช่นนี้เขาคงไม่จำเป็นต้องส่งภูตทั้งหมดเข้าไปหรอก
ทันทีที่หลางเมี่ยออกคำสั่ง หมาป่าสีเทากลุ่มหนึ่งก็ลุกขึ้นแล้วพุ่งเข้าหาเผ่าอย่างดุดัน
แต่ไม่กี่อึดใจต่อมา…
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
หมาป่าที่ย่างเท้าเข้าไปในหิมะตรงหน้าทางเข้าเผ่าก็ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา แล้วล้มลงไปบนหิมะ
ทันใดนั้น คราบเลือดจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นบนหิมะสีขาว ราวกับดอกกุหลาบที่บานสะพรั่ง!
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: สงครามเริ่มขึ้นแล้วววว เผ่าของเจียวเจียวจะต้านศัตรูไว้ได้ไหมนะ