ตอนที่ 1110 ทุกอย่างราบรื่นอยู่ ..ใช่ไหม?
บาร์ที่ชื่อ ‘เยี่ยเซ่อ’ ในเวลานี้ก็ได้คึกคักเป็นอย่างมาก เพียงมองไปรอบๆ ก็ได้เห็นวัยรุ่นชายหญิงมากมาย บางคนจับกลุ่มรวมตัวกันเพื่อดื่มเหล้า บางคนก็กําลังเต้นบิดตัวไปมาตามจังหวะดนตรี ดนตรีในบาร์ก็เสียงดังมาก จนหูแทบระเบิด..
หลินฟาน ไม่ค่อยมาที่บาร์ เขาเองจำได้ว่าเขาเคยมาที่บาร์แค่สองสามครั้ง ตัวเขาเองไม่เคยมาคนเดียว ตอนที่มาก็เป็นเพราะปาร์ตี้ของเพื่อนร่วมงาน แต่ หลินฟาน เองก็ไม่ได้ชอบสถานที่ที่มีเสียงดังเช่นนี้ แต่หลังจากนั้นพอได้มีปาร์ตี้แบบนี้ขึ้นอีก เขาก็ได้ปฏิเสธไปอย่างอ้อมค้อม
นับตั้งแต่ หลินฟาน ถูกบริษัทไล่ออก และออกไปวิ่งส่งอาหารเดลิเวอรี่ ค่าตอบแทนที่ได้ก็ถูกกดมากขึ้น หลินฟาน จึงจําเป็นที่ต้องวิ่งมาที่บาร์มากขึ้น
ตอนนี้ หลินฟาน และหลัว หลี่ ก็ได้เดินเข้าไปในบาร์ พอเมื่อนั้นพวกเขาก็ยิ่งได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมในบาร์ หลินฟาน เองก็ยังไม่ค่อยรู้สึกชอบ
ตอนนี้การแสดงยังไม่เริ่ม นักร้องแย่ๆ คนนั้น ก็ยังไม่ได้ปรากฏตัวบนเวที
หลัว หลี่ ได้พูดกับ หลินฟาน ไปว่า : “คุณหาที่นั่งก่อน ฉันจะไปพูดคุยกับทางร้าน ให้พวกเขายกเลิกการแสดง ก็น่าจะจบแล้ว”
“อืม..” หลินฟาน ได้พยักหน้า
ระหว่างทางมาที่นี่ เขาเองก็ได้รู้เรื่องราวของนักร้องแย่ๆ คนนี้ จากปากของ หลัว หลี่, นักร้องแย่ๆ คนนี้ ถูกจับเข้าคุก และถูกลงโทษไปเป็นเวลาหลายปี เพราะเขาได้กระทำความผิด เพราะเขาได้ไปแตะต้องในสิ่งที่ไม่ควรแตะต้อง
เดิมทีนักร้องคนนี้มีชื่อเสียงเล็กน้อย และปล่อยเพลงที่ได้รับการตอบรับดีออกไปไม่กี่เพลง เขาเองมีอนาคตที่สดใส แต่เพราะความผิดพลาดแค่ครั้งเดียว.. กลับกลายเป็นความเกลียดชังไปชั่วนิรันดร์ และทําลายอนาคตของเขา
ความคิดเห็นของสาธารณชนได้ตําหนิเขาอย่างรุนแรงมาก อาจกล่าวได้ว่าเขาได้ไปทําให้ประชาชนโกรธเคืองก็ว่าได้..
และตั้งแต่เขาออกจากคุก เขาก็ได้เงียบหายไปหลายปี เขาเองก็ได้พยายามกลับเข้ามาอยู่หลายครั้ง แต่ก็โดนชาวเน็ตพากันด่ายับ จนเขาได้แต่ยืนเฉยๆ และเลือกที่จะยอมแพ้ไป
อีกทั้งตามกฏแล้ว ดาราที่ถูกขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปินที่ไม่ดี โอกาสที่มีก็ยากจะคัมแบ็กกลับเข้ามาได้อีก ..หรือกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเคยไปสร้างผลร้ายให้กับสาธารณชน การอยากที่จะกลับมาเป็นบุคคลสาธารณะอีกครั้งนั้น ..ก็คงไม่ได้รับอนุญาตง่ายๆ หรือให้พูดตรงๆ ก็คือ ถูกปิดกั้นด้วยข้อเท็จจริงดังกล่าว
การแสดงในที่สาธารณะอย่างคืนนี้ต้องได้รับการอนุมัติ หรือได้รับอนุญาตจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงจะได้ มิฉะนั้นจะถือว่า ผิดกฎหมาย
หลังจากได้รับรายงาน ตํารวจก็ได้พบว่าการแสดงในครั้งนี้ไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นจุดประสงค์ของ หลัว หลี่ ในครั้งนี้ก็คือ เพื่อหยุดการแสดงนี้
หลินฟาน มาที่บาร์ และได้หาที่นั่งว่างๆ เพื่อนั่งลง
บริกรได้เดินเข้ามาทักทายว่า “คุณครับ, อยากดื่มอะไรหน่อยไหม?”
หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดว่า : “ไม่ล่ะ ขอบคุณ ผมแค่มานั่งรอ”
“โอเค” บริกรได้พูด จากนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจ หลินฟาน และกลับไปยุ่งกับงานของตัวเอง..
หลินฟาน ได้นั่งรอ หลัว หลี่ ในขณะเดียวกันเขาก็ได้นั่งฟังคนรอบข้างที่ได้พูดคุยกัน
“พวกคุณรู้ไหมว่าคืนนี้ เย่ตง จะมาร้องเพลง ฉันเองได้ตั้งตารอมาก ฉันเป็นแฟนคลับของเขา” สาวๆ หลายคนกําลังคุยกันอยู่ สาวผอมสูงคนหนึ่งก็ได้พูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
เย่ตง นั่นก็คือชื่อของนักร้องที่ไม่ดี คนที่ หลัว หลี่ ต้องการจะหยุดเขาในคืนนี้
“เย่ตง? เขาได้ถูกแบนเพราะอะไรนั่นไม่ใช่เหรอ?” หญิงสาวหน้าเมล็ดแตงโมคนหนึ่งได้ตั้งคําถามว่า : “นี่.. เขายังสามารถออกมาแสดงได้อีก?”
สาวผอมสูง ก็ได้พูดว่า : “เขาออกมาแล้ว และต้องได้แน่นอน ฉันชอบเขามาก”
“แต่... เขาเป็นศิลปินที่ไม่ดีนะ!” หญิงสาวหน้าเมล็ดแตงโม ได้พูดออกมา และก็เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ค่อยเข้าใจ สาวผอมสูง คนนี้เท่าไหร่ ศิลปินที่ไม่ดี ศิลปินที่แย่ๆ คนหนึ่ง ก็ยังไปชอบได้อยู่ เธอควรเลิกเป็นแฟนคลับของเขาไม่ใช่หรือไง?
สาวผอมสูง กล่าวว่า : “เขากลับตัวแล้ว คนเราทําผิดพลาดได้ เขาทำผิด และก็ได้ถูกลงโทษแล้ว ตอนนี้เขาก็แก้ไขได้แล้ว และก็ไม่ใช่ว่ามีปัญหาอะไร?”
“นี่…” หญิงสาวหน้าเมล็ดแตงโม ไม่สามารถโต้แย้งได้ชั่วขณะ
หลินฟาน ขมวดคิ้ว คําพูดของ สาวผอมสูง ..คนนี้ ดูเหมือนจะสมเหตุสมผลมาก และอันที่จริงแล้ว ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาด และการรู้ว่าผิดแล้วสามารถปรับปรุงได้นั้น คําพูดเหล่านี้ก็ถือได้ว่าถูกต้องมาก..
แต่เขารู้สึกเสมอว่า ..มันมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“หนุ่มหล่อ มาคนเดียวงั้นเหรอ?”
ในเวลานี้ ทันใดนั้นก็ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาข้างๆ หลินฟาน และได้ริเริ่มที่จะพูดคุยกับ หลินฟาน
ก่อนที่ หลินฟาน จะได้เห็นผู้หญิงคนนี้ เขาก็ได้กลิ่นน้ำหอม เขาเองได้เงยหน้าขึ้นไปมอง และก็ได้เห็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณสามสิบปี แต่งตัวสีฉูดฉาดอยู่ตรงหน้าเขา เธอได้โปะแป้งมาหนามาก ดูแล้วมันหนายิ่งกว่าผนังกำแพงเสียอีก
“สุดหล่อ คุณจะถือสาอะไรไหม ถ้าฉันจะขอให้คุณช่วยเลี้ยงเหล้าฉันสักแก้ว?” ผู้หญิงคนนี้ได้ยิ้มหวานออกไปพร้อมกับหัวเราะเบาๆ พยายามแสดงท่าทางที่น่าดึงดูดที่สุดของตัวเอง
หลินฟาน มองออกได้อย่างรวดเร็ว ..ถึงสิ่งที่เธอต้องการ
โดยไม่ต้องพูดอะไรอีกต่อไป หลินฟาน ได้หันไปพูดกับบริกรว่า : “ขอเหล้าให้สาวสวยคนนี้สักแก้ว คุณอยากดื่มอะไร?”
“วิสกี้แค่แก้วเดียว.. ขอบคุณ”
ผู้หญิงคนนั้นได้พูดออกมา และพอเห็น หลินฟาน พูดง่ายขนาดนี้ เธอก็รู้สึกดีใจมาก : “สุดหล่อ นี่คุณไม่ดื่มเหล้าเหรอ?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ไม่ดื่มครับ พอดีคืนนี้ผมยังต้องขับรถอีก”
ผู้หญิงคนนั้นได้เข้ามาใกล้ๆ ยกยิ้มหัวเราะ แล้วพูดไปว่า : “คืนนี้คุณอยากจะขับรถอะไร?”
หลินฟาน : “......”
“สุดหล่อ ฉันคิดว่าพวกเราคงถูกลิขิตเอาไว้แล้ว คุณคงจะรู้สึกว่าที่นี่ดูจะเสียงดังไปหน่อย เราเองไปเปลี่ยนที่คุยกันดีกว่าไหม?” ดวงตาที่อ่อนโยน มีเสน่ห์ แต่แฝงไปด้วยความเร่าร้อนของผู้หญิงคนนั้นที่ได้จ้องมองมาที่ หลินฟาน
หลินฟาน ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า : “การพูดคุยกับคุณ.. ผมเองคงจะต้องถูกเก็บเงินด้วยใช่ไหม?”
หลินฟาน รู้ว่ามีงานประเภทที่ต้องคุยกับคนอื่น แล้วคิดค่าบริการตามระยะเวลาที่คุยกัน ผู้หญิงคนนี้ เขาดูออกว่าเธอทำอาชีพนี้ และการที่เธอเดินเข้ามาคุย จริงๆ แล้วเธอก็แค่มองหาลูกค้า
“นี่…” ผู้หญิงคนนี้ ได้อึ้งไปอยู่พักหนึ่ง แต่เดิมเรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจกันโดยปริยายอยู่แล้ว แต่ หลินฟาน กลับไม่เล่นไปตามกิจวัตรปกติ พอเขาพูดจี้จุดตรงๆ แบบนี้แล้ว เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะไปต่ออย่างไรแล้ว
หลินฟาน กล่าวว่า : “เปลี่ยนที่คุยกัน.. เรื่องนี้ก็ช่างเถอะ แฟนของผมมาแล้ว เธอเป็นตํารวจ คุณลองไปถามเธอว่า คุณจะขอพาผมไปเปลี่ยนที่พูดคุยกับคุณได้ไหม?”
หลัว หลี่ ได้เดินเข้ามาจริงๆ และเธอก็ได้เดินเข้ามาหา หลินฟาน และพูดอย่างสนิทสนมว่า : “เรียบร้อยแล้ว เราไปกันได้แล้ว, นี่เธอคือ?”
หลัว หลี่ ได้มองไปที่ผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้นที่ได้ฟัง หลินฟาน บอกว่า หลัว หลี่ เป็นตํารวจ เธอเองก็ได้รู้สึกกลัวไม่น้อย เธอเองได้ยิ้ม แล้วพูดไปว่า : “ฉันแค่คนที่เดินผ่านไปมา มาขอยืมไฟแช็ค หนุ่มหล่อ ไม่มีก็ช่างเถอะ”
พูดจบวิสกี้แก้วนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่เอาแล้ว เธอเองก็ได้รีบย่องออกไป
ไม่ต้องพูดถึงสถานะตํารวจของ หลัว หลี่ หลินฟาน มีแฟนสาวที่สวยขนาดนี้ ยังจะต้องไปเปลี่ยนที่คุยกับเธออีกไหม?
หลินฟาน ก็ไม่สนใจผู้หญิงคนนี้ เขาเองได้ยกยิ้มให้กับ หลัว หลี่ แล้วพูดไปว่า : “ทุกอย่างราบรื่นอยู่ ..ใช่ไหม?”
หลัว หลี่ กล่าวว่า : “อืมม.. ฉันได้ไปพบผู้จัดการ และเปิดเผยตัวตนกับเขา เขาเองก็ได้กลัวจนเปลี่ยนสีหน้าไปทันที และบอกว่าจะยกเลิกการแสดงของ เย่ตง ทันที”
ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะจัดการได้ค่อนข้างง่ายนะ ยังไงเรื่องนี้ก็คือฝ่ายบาร์ที่ไม่ถูกต้อง ด้วยความคิดที่ว่าอาจจะฟลุ๊ค เลยได้เลือกใช้นักร้องแย่ๆ มาชักชวนแขก พอตํารวจมาถึงก็ตกใจกลัว จนต้องรีบแก้ไข
ชายคนหนึ่งในชุดสูท ที่ได้ทำทรงผมลอนได้เดินขึ้นไปบนเวทีในเวลานี้ และเขาเป็นผู้จัดการของที่นี่
“ทุกท่าน น่าเสียดายที่ต้องประกาศข่าวว่า การแสดงของ คุณเย่ตง ในคืนนี้ ต้องถูกยกเลิกไปด้วยเหตุผลบางประการ” ผู้จัดการ ได้กล่าว
อะไรนะ?
คําพูดนี้ทําให้เกิดปฏิกิริยาที่รุนแรงขึ้นทันที
“อะไรนะ? ฉันมาที่นี่ก็เพื่อฟัง เย่ตง ร้องเพลงในคืนนี้ คุณกลับมาบอกให้แค่ว่า ยกเลิก?”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทําไมต้องยกเลิกด้วย?”
“แล้วอะไรที่เรียกว่าเหตุผลบางประการ ไหนรายละเอียดล่ะ บอกมาเลยว่าทำไม?”
มีเสียงโวยวายออกมาอย่างต่อเนื่อง
“เป็น เย่ตง ป่วยหรือเปล่า หรือเป็นอะไร คุณต้องอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ!” เสียงตะโกนของผู้หญิงคนหนึ่ง หลินฟาน จําได้ว่าเธอก็คือ ผู้หญิงผอมสูงที่เพิ่งพูดว่าเธอเป็นแฟนคลับของ เย่ตง จะเห็นได้ว่าตอนนี้เธอดูมีอารมณ์มาก
ผู้จัดการ กล่าวว่า : “ขอโทษมากที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง และหวังว่าทุกคนจะเข้าใจ”
คําตอบนี้เห็นได้ชัดว่าไม่น่าพอใจ เมื่อนั้นฉากตรงหน้านี้ก็ได้มีเสียงดังไปทั่ว
“เหตุผลก็คือพวกเขาไม่ให้ฉันแสดง!”
ทันใดนั้นพอมีเสียงตะโกนขึ้น และก็เห็นชายอ้วนมากคนหนึ่งได้เดินขึ้นไปบนเวทีด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าเขาได้มาเพื่อซักไซ้เอาความ..(1) เพื่อสอบถามหาความผิด
ชายคนนี้ก็คือ เย่ ตง!
(1)[ซักไซ้เอาความ (兴师问罪)] - หรือ ‘ยกทัพสอบถาม’ หากแปลตรงตัว หมายถึง การระดมกองทัพเพื่อประณามการก่ออาชญากรรมของอีกฝ่าย และยังหมายถึง การส่งเสียงดัง รวบรวมกลุ่มคนมาที่ประตูเพื่อตั้งคำถาม