ตอนที่ 28 ปลาแห่งชีวิต
“ระบบ ฉันสามารถฝึกอย่างอื่นนอกจากพวกสัตว์ได้ไหม?”
มู่เหลียงยังจำได้ว่าระบบได้ระบุไว้ว่าสิ่งที่ฝึกได้คือสัตว์อสูรและสิ่งมีชีวิต ซึ่งพืชผักก็อยู่ในหมวดนั้น
-สามารถฝึกฝนได้-
“บ้าไปแล้ว!! จริงหรอเนี้ย งั้นก็มาลองกัน”
มู่เหลียงมองไปยังพืชที่ไม่รู้จักและดูเหี่ยวเฉาและใกล้จะตายแล้วสองสามต้น
“แต่ก่อนอื่น….เราต้องหาสิ่งที่จะช่วยให้ฝึกพวกมันได้ก่อน”
มู่เหลียงลดความสนใจพืชผักพวกนี้ และตามหาผลึกสัตว์อสูรแทน
เวลานี้หากกิ้งก่าสามสีและแมงมุมผีแดงถูกเพิ่มระดับอีกครั้ง มันจะช่วยเขาได้หลายอย่าง
มู่เหลียงมองไปรอบๆ และเห็นว่ามันมีอีกห้องหนึ่งที่ประตูปิดอยู่
แอ๊ด…..
เพียงแค่ผลักเบาๆ ประตูก็เปิดออกทันที
“ขอให้มีของดีๆ ในนี้ด้วยเถอะ”
มู่เหลียงย่องเข้าไปในห้อง อย่างระมัดระวัง
เขาเห็นเตียงขนาดใหญ่ และเขาก็มั่นใจได้ทันทีว่านี้น่าจะเป็นเตียงของหัวหน้ากลุ่มเคราโลหิต
มู่เหลียงลื้อลิ้นชักข้างเตียงนอน เห็นเจอเข้ากับถุงผ้าที่โป่งพองผิดปกติ และเมื่อเปิดมันออกมาข้างในนั้นเต็มไปด้วยผลึกสัตว์อสูร
มู่เหลียงถึงกับหุบยิ้มไม่ได้ และพูดออกมาเบาๆ
“หัวหน้าโจรคงจะมั่นใจมากๆ ถึงกับเก็บของแบบนี้ไว้ใกล้ตัว”
ไม่แปลกที่เซียฮูผู้เป็นหัวหน้าของกลุ่มเคราโลหิตที่มีนิสัยหวาดระแวงจะมั่นใจเก็บของล้ำค่าไว้กับตัวโดยไม่ซ่อน
นั้นเพราะคงไม่มีใครกล้าลองดีเข้ามาในห้องนอนเขาเด็ดขาด
มู่เหลียงลองสอดมือเข้าไปในถุงผ้า และพูดอย่างมีความสุข
“ระบบทำการดูดซับผลึกทั้งหมด”
-ทำการเปลี่ยนผลึกอสูรเป็นแต้มฝึกฝน ได้รับแต้มฝึกฝน 3,866 แต้ม-
“บ้าเอ๊ย!! นี้มันหนูตกถังข้าวสารชัดๆ”
มู่เหลียงเปิดหน้าสถานะดูและเห็นแต้มฝึกฝนที่มากถึง 3,800 แต้มกับตา ทำให้มุมปากของเขายกสูงขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ
ด้วยแต้มมากขนาดนี้ เขาสามารถที่จะเพิ่มระดับสัตว์อสูรฝึกเลี้ยงของเขาได้ตามเป้าหมาย
มู่เหลียงสติหลุดไปกับความสุขอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะสงบสติอารมณ์ลง และค้นของในห้องอีกครั้ง
เขาเจอกล่องที่อยู่ข้างเตียงและในนั้นมีเมล็ดพืชและเพชรพลอยจำนวนหนึ่ง
“นี้ก็อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่คาดฝันอีกแล้ว”
ข้างในกล่องมีเมล็ดพืชอยู่ 7 ถึง 8 ชนิด และถูกเก็บอยู่ในถุงอย่างดี
มู่เหลียงเอาเม็ดพืชใส่กระเป๋าไปทันที และเอาอีกอย่างกลับไปด้วย
“พวกผลึกอัญมณีพวกนี้ เก็บเอาไปให้มินโฮดีกว่า”
มู่เหลียงเก็บเพชรพลอยอัญมณีไปด้วย ก่อนที่จะมองไปยังทางตู้เสื้อผ้า
ในตู้เสื้อผ้านั้นนอกจากเสื้อผ้าแล้วยังมีผ้าดิบที่เป็นม้วนอีกด้วย
“คนที่โลกนี้เป็นอะไรกัน…ชอบเก็บผ้าดิบม้วนไว้ในตู้?”
มู่เหลียงบ่นอย่างสงสัย
เขาจัดการทุกอย่างไม่ช้าและไม่เร็วเกินไป จนในที่สุดเขาก็ขนเสื้อผ้าทั้งหมดออกมาวางไว้นอกตู้
มีม้วนผ้ารวม 50 ม้วนและมี 8 สี
“พวกเขาคงชอบเก็บผ้าพวกนี้ไว้จริงๆ และไม่คิดจะใช้มันทำชุดสวมใส่”
มู่เหลียงถึงกับแสดงสีหน้าสงสัย และบ่นออกมาอย่างหนักใจ
“สงสัยฉันต้องสอนวิธีการแต่งตัวให้พวกเขาหน่อยแล้วมั้ง?”
นอกจากม้วนผ้าแล้ว ยังมีอาวุธอีกเป็นโหล ทั้งดาบ ทั้งหอก
“เอาอาวุธพวกนี้กลับไปด้วย เดี๋ยวฉันจะหลอมพวกมันขึ้นมาใหม่”
มู่เหลียงมัดทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วเขาก็ยังค้นของในห้องต่อไป
จนเขาเจอกับผนังห้องที่ดูผิดสังเกตอย่างชัดเจน
ปึง ปึง ปัง….
เสียงมันดูกลวงราวกับไม่ใช่กำแพงเดียวกัน
“ดูเหมือนว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่อีก”
มู่เหลียงห่างคิ้วยกสูงขึ้น ก่อนที่เขาจะหาทางเปิดช่องทางลับนี้ได้
ข้างหลังผนังนั้นมีอีกห้องอยู่ ในนั้นเต็มไปด้วยหนังสือ และชั้นวางของรวมไปถึงโต๊ะเก้าอี้ จัดเรียงอย่างเรียบง่าย
มู่เหลียงเดินเข้าไป และพบว่าที่บนโต๊ะมีหนังสัตว์วางอยู่
เมื่อลองผลิกหนังแผ่นนั้นดูแล้วพบว่ามันคือบันทึกที่เกี่ยวกับพืชพันธ์ต่างๆ
“นี่มันม้วนบันทึกงั้นหรอ?”
เมื่อมู่เหลียงเห็นว่านอกจากรูปแล้วยังมีข้อความตัวอักษรเขียนอยู่ด้วย มู่เหลียงอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ
“มันดูเหมือนสัญลักษณ์อะไรสักอย่าง”
เขามองไปรอบๆ ก็มีหนังสัตว์แบบนี้อีกหลายแผ่น เขาหยิบพวกมันขึ้นมาดู และพบว่ามันถูกเขียนด้วยตัวอักษรเหมือนกัน และมีรูปวาดของสัตว์และพืชพันธ์ต่างๆ และดูเหมือนบางแผ่นจะเป็นขั้นตอนการทำหรือผสมอะไรสักอย่าง
“ม้วนบันทึกพวกนี้ อักษรของมันเหมือนภาษาอียิบต์โบราณเลย โลกนี้มันยุคสมัยไหนกัน”
“แล้วไหนจะกะหล่ำปลีกับมะเขือเทศอีก”
“ตกลงนี้มันใช่โลกคู่ขนานกับโลกของเราจริงๆ รึป่าว”
“พอๆ หยุดคิดก่อน เอาพวกมันกลับไปด้วยเพื่อจะได้ศึกษามัน”
มู่เหลียงส่ายหัวและสลัดความคิดเหล่านั้นออกไป และเก็บม้วนบันทึกทั้งหมดลงกระเป๋า
อย่างน้อยเขาก็ถือว่าการมาในห้องนี้ก็ได้กำไร เขาได้บันทึกและรู้ว่าโลกนี้มีตัวอักษรเขียน
มู่เหลียงมองไปรอบๆ ห้อง แต่เขาไม่พบของน่าสนใจอีกแล้ว เขาจึงออกจากห้องนี้ไปและกลับไปที่ห้องนอน
และไปยังอีกห้องที่ดูมืดๆ
ในห้องนอนนี้เชื่อมกับอีกสามห้อง ห้องแรกคือห้องที่มีม้วนบันทึก อีกห้องคือห้องมืด และอีกห้องที่ดูปกติ
ที่เรียกห้องมืดเพราะมันอยู่ในมุมมืดของห้องนอน ซึ่งยากมากที่จะมองเห็นในเวลากลางคืน
แอ๊ด
ประตูนั้นไม่ได้ล็อคเช่นเดิม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเซียฮูนั้นมั่นใจขนาดไหนว่าจะไม่มีใครเข้ามาในห้องของเขา
“นี้มันเหมือนห้องเก็บของเลย”
ในห้องนี้เหมือนกับห้องเก็บอะไรสักอย่าง -ในนี้มีถังไม้ขนาดใหญ่เต็มไปหมด -หลายร้อยถัง
เมื่อลองเขย่าดูมู่เหลียงรู้ได้ทันทีว่าในถังพวกนี้คือน้ำ
ที่กลางห้องมีถังไม้ขนาดใหญ่อีกถังที่สูงถึง 1.5 เมตร โดยที่ถังอื่นๆ สูงแค่เมตรเดียว
“ถังใหญ่นี้ก็เก็บน้ำเหมือนกันสินะ”
มู่เหลียงก้าวไปข้างๆ และเห็นว่าบนถังนั้นมีหินหลายก้อนทับฝาถังอยู่
เขายกหินออก แต่มู่เหลียงยังไม่เปิดฝาทันที เพราะเห็นว่าจุดที่หินทับนั้นมีรอยแตกอยู่
ซูม!!
ทันใดน้ำก็พุ่งออกมาจากรอยแตกนั้น พร้อมกับวัตถุใสๆ
“อะไรวะ!”
มู่เหลียงด้วยความตกใจจึงยิงใยใส่วัตถุที่พุ่งออกมา
ตุบ
และดูเหมือนว่าสิ่งนั้นมันจะดิ้นไปมาราวกับจะเอาตัวรอด
“มันคงไม่ใช่ปลาอัญมณีที่คนในชุดคลุมนั้นพูดถึงหรอกนะ”
มู่เหลียงตรวจสอบดูมันอย่างถี่ถ้วน และเห็นว่าสิ่งที่ติดอยู่ในใยแมงมุมนั้นใสราวกับแก้ว
และใช่…มันมีรูปร่างเหมือนปลา แต่ดูเปื้อนดินเล็กน้อยตอนนี้
ปลาอัญมณี คือชื่อของมัน ปลาตัวนี้ตัวใสเหมือนอัญมณี และมีก้างที่เป็นสีดำใส
“ปลานี้มันสวยจริงๆ ไม่รู้เลยว่ารสชาติของมันจะเป็นยังไง”
มู่เหลียงมองดูปลาตัวนี้ราวกับงานศิลปะชิ้นหนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะคิดถึงรสชาติของมัน
และดูเหมือนว่าเจ้าปลาอัญมณีจะรับรู้ได้ถึงภัยอันตราย มันเลยยิ่งดิ้นหนักขึ้น ก่อนที่จะมีก้อนมวลน้ำก่อตัวขึ้นรอบตัวปลาอย่างรวดเร็ว
เพียงพริบตาเดียวก็มีลูกบอลน้ำขนาดเท่าฟุตบอล โดยมีปลาอัญมณีอยู่ข้างใน
“.....”
มู่เหลียงจ้องมองด้วยความสงสัย ดูเหมือนว่าเมื่อปลาอัญมณีมันรู้สึกไม่ปลอดภัยมันจะสร้างมวลน้ำขึ้นมาครอบตัวมันไว้ทันที
และน้ำพวกนั้นไม่ได้ตกลงตามแรงโน้มถ่วงอีกด้วย
“ปลาอัญมณี…หรือว่ามันคือแหล่งน้ำของกลุ่มเคราโลหิต?!”
มู่เหลียงกระพริบตาหลายครั้งด้วยความประหลาดใจ เขาดึงบอลน้ำที่มีปลาอัญมณีเข้ามาหาตัว และลองเขย่าไปมา น้ำก็ไม่แตกออก มีเพียงหยดน้ำไม่กี่หยดที่ตกลงมาเท่านั้น
เขาได้ยัดปลาอัญมณีลงไปในถังใบเล็ก และเอาแขนหนีบถังนั้นไว้
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมกลุ่มทะเลสาบพระจันทร์ถึงมอบเงินรางวัลมหาศาลให้กับการขโมยปลาอัญมณี
ในโลกที่ไม่เหลืออะไรเช่นนี้ น้ำนั้นถือเป็นของล้ำค่าอย่างมาก ทำให้ปลาอัญมณีกลายเป็นสมบัติอย่างไม่ต้องสงสัย
ปลาตัวนี้ไม่ต่างจากปลาผู้มอบชีวิต