978 - พบกันในต่างแดน
978 - พบกันในต่างแดน
อัญมณีที่กระจ่างใสและรวงข้าวสีเงินส่องประกายพร่างพรายตกลงมาจากฟากฟ้าไกล มันส่องแสงสว่างสดใสเป็นประกายอย่างยิ่ง
เย่ฟ่านรู้สึกกดดันอย่างมาก ราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับท้องฟ้าที่พังทลาย ร่างกายทั้งหมดของเขากำลังจะแตกออก เหมือนกับภูเขาไท่กดลงมาที่ด้านบน
“นี่มัน...”
เขาแปลกใจเป็นอย่างมาก ผู้ควบคุมสมบัติชิ้นนี้ตายไปแล้วแต่มันก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง พลังของมันเพียงพอจะหมดขยี้ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลให้แหลกสลายได้อย่างแน่นอน
“นี่คือครึ่งก้าวอาวุธเต๋าสุดขั้วหรือไม่?”
เย่ฟ่านใช้หม้อปราณปัฐพีต้นกำเนิดกลืนพลังแห่งสวรรค์พิภพ และเริ่มใช้พลังของตัวเขาเพื่อควบคุมวัตถุนี้ให้กลายมาเป็นสมบัติของเขาเอง!
“แดง”
แสงสีเงินสาดส่องเหมือนใบมีด หม้อปราณปัฐพีต้นกำเนิดสั่นอย่างรุนแรง ถ้าไม่ใช่เพราะวัสดุพิเศษ มันอาจจะกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว
โดยธรรมชาติแล้วเย่ฟ่านจะไม่ใช้หม้อปราณปัฐพีต้นกำเนิดเพื่อควบคุมสมบัติที่เขาไม่รู้จัก แน่นอนว่าเขาเพียงใช้มันในการควบคุมความเร็วของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ตรงหน้าไม่ให้หลุดรอดไปได้
แสงสีเงินยิงออกมาทีละครั้ง ราวกับกระบี่สวรรค์ เคลื่อนไปทั่วทุกหนทุกแห่ง และลำแสงนับพันพุ่งทะลุผ่านความว่างเปล่า ราวกับจะทำลายเขาให้สิ้นซาก
“ปัง!”
ในระยะไกล หยินเทียนจื่อใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับจากโลหิตเฟิ่งหวงในการฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากเถ้าถ่านอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามร่างกายส่วนใหญ่ของเขายังคงถูกเปลวไฟเก้าสีเผาผลาญอย่างรวดเร็ว และในท้ายที่สุดการเชื่อมต่อของเขากับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองชิ้นก็พังทลายลงทันที
เย่ฟ่านรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับสมบัติศักดิ์สิทธิ์มาโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมาก
“...”
หยินเทียนจื่อตะโกนออกมาเป็นครั้งสุดท้าย ราวกับเฟิ่งหวงศักดิ์สิทธิ์ที่ลุกเป็นไฟ ท่ามกลางเพลิงเก้าสีเขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาถึงสามครั้งแต่ก็ไม่สามารถหลบหนีจากเปลวไฟอันร้อนแรงได้
“บูม”
ภายใต้เสียงระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวเศษเสี้ยววิญญาณของเขาได้ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดและกลายเป็นเพียงฝุ่นผงที่ล่องลอยไปทั่วจักรวาล
“นี่คือวัตถุศักดิ์สิทธิ์!”
เมื่อเย่ฟ่านสัมผัสกับเพชรที่ตกลงมาจากท้องฟ้าหัวใจของเขาก็เริ่มเต้นแรง วัสดุที่หายากมาก นี่คือสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ เพียงแต่มันไม่สามารถพัฒนาเป็นอาวุธเต๋าสุดขั้วได้
เย่ฟ่านเพียงกวาดสายตามองเล็กน้อยก็เข้าใจได้ทันที แม้ว่ามันจะไม่ใช่อาวุธเต๋าสุดขั้วแต่ระดับของมันก็เกินกว่าครึ่งก้าวอาวุธเต๋าสุดขั้วทั่วไปอย่างแน่นอน
“พี่ชายของข้าจะล้างแค้นให้ข้าอย่างแน่นอน ไม่ว่าเจ้าจะหนีไปที่ใดสุดท้ายเขาจะตามไปฆ่าเจ้าอยู่ดี”
นี่คือความคิดสุดท้ายของหยินเทียนจื่อก่อนที่วิญญาณของเขาจะดับสูญไปด้วยความแค้น
ในขณะนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งไท่ชิงถูกปิดลงแล้ว และภายในวังไป๋จิงก็ถูกปกคลุมไปด้วยปราณสีม่วง
เย่ฟ่านประเมินสถานการณ์อย่างแจ่มชัดและมั่นใจว่าเขาไม่มีทางฝ่าเข้าไปข้างในได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงได้แต่ออกเดินทางตามหาสถานที่ที่มีผู้คนต่อไป
“คนๆนั้นกำลังตามหาปราณปฐพีต้นกำเนิดเพื่อสร้างเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะอย่างไม่ต้องสงสัย”
เย่ฟ่านมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง อย่างไรก็ตามหากให้เขาต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตอมตะนั้น มันไม่มีทางที่เขาจะได้รับชัยชนะแน่นอน
อัญมณีที่สดใสนั้นเปล่งประกายด้วยแสงอบอุ่น แม้ว่ามันจะถูกเก็บเข้าไปในทะเลแห่งความทุกข์ของเขามันก็ยังปลดปล่อยคลื่นแห่งความศักดิ์สิทธิ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง
หากหยินเทียนจื่อไม่ตาย เย่ฟ่านก็ไม่รู้ว่าจะรับมือวัตถุชิ้นนี้ได้หรือไม่
…
ทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ยนี่คือโลกที่กว้างใหญ่มาก มันทอดยาวหลายพันลี้เย่ฟ่านบินออกจากที่ตั้งของถ้ำเสวียนตูเป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่เขายังคงอยู่ในภูเขาและแม่น้ำที่งดงามโดยไม่เจอมนุษย์แม้แต่คนเดียว
ในท้ายที่สุด เขาเห็นแท่นบูชาโบราณบนภูเขาขนาดใหญ่ หลังจากสังเกตอย่างระมัดระวัง เขาพบว่ามันเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกลแห่งหนึ่ง
“มันจะพาข้าไปที่ไหน”
เย่ฟ่านรู้สึกเบื่อที่ต้องเดินทางเพียงลำพังแบบนี้แล้ว ดังนั้นต่อให้ค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกลนี้ส่งเขาเดินทางออกไปนอกสุดจักรวาล เขาก็ไม่ลังเลที่จะใช้งานมัน
เขากล้าที่จะข้ามจักรวาลที่อ้างว้างและเดินคนเดียวในทุ่งดาวมืดอันเงียบงันเป็นเวลาเจ็ดปี และตอนนี้เขาอยู่บนดาวโบราณไร้สิ่งมีชีวิต ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วเขาจึงไม่กลัวสิ่งใด
แม้ว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณนี้จะเคลื่อนย้ายเขาไปจนสุด ของโลก มันก็ไม่สามารถทำให้เขาเกิดความหวาดกลัวได้
ค่ายกลโบราณที่มีอายุอย่างน้อยหลายหมื่นปี เย่ฟ่านใช้ต้นกำเนิดสวรรค์บรรจุเป็นพลังงานของมัน หลังจากที่ค่ายกลส่องแสงระยิบระยับมันก็พาเขาเดินทางเข้าสู่ความเวิ้งว้างอันเงียบงันอีกครั้ง
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยามเต็ม ในที่สุดเย่ฟ่านก็หลุดออกจากอุโมงค์มิติขนาดใหญ่ การเดินทางครั้งนี้ทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมากเพราะเขารู้ดีว่ามันกินระยะทางกว่าแปดล้านลี้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่สามารถเดินทางออกจากดวงดาวโบราณได้
“โลกนี้กว้างใหญ่จริงๆ ด้วยระยะทางกว่าแปดล้านลี้ข้าสามารถเดินทางรอบโลกใบเดิมได้มากกว่ายี่สิบครั้ง”
ทุ่งดวงดาวโบราณนี้กว้างใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ มันยากจะจินตนาการได้ว่าดวงดาวที่ใหญ่โตขนาดนี้จะมีสิ่งมีชีวิตได้อย่างไร
เย่ฟ่านบินไปไกลหลายหมื่นลี้ เขาออกจากถิ่นทุรกันดารที่ไม่สิ้นสุดจนกระทั่งพบเมืองโบราณขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงหน้า
นี่คือเมืองโบราณสีดำที่มีขนาดใหญ่โตอย่างน่าเหลือเชื่อ มันยิ่งใหญ่และเจริญงดงามยิ่งกว่าเมืองศักดิ์สิทธิ์ในดินแดนรกร้างตะวันออกด้วยซ้ำ
“มันงดงามมาก!”
แม้แต่เย่ฟ่านก็อดประหลาดใจไม่ได้ กำแพงเมืองสูงหลายร้อยวาและปกคลุมไปด้วยค่ายกลต่างๆ หนาแน่น มองแวบเดียวก็รู้ว่ามันเป็นสถานที่สำคัญของสิ่งมีชีวิตในโลกใบนี้
“เจ้ารู้ไหมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับวังไป๋จิงน้องชายของหยินเทียนเต๋อถูกฆ่าตายแล้ว”
“อะไร ใครกล้าทำเช่นนี้ แม้แต่เจ้าของวังไป๋จิงก็ยังมีคนกล้าตอแย”
“หยินเทียนเต๋อกลายเป็นผู้นำโลกเมื่อสิบปีที่แล้ว ตอนนี้ด้วยเลือดของเฟิ่งหวงเขาจะต้องแข็งแกร่งมากกว่าเดิมหลายเท่า ใครกันที่กล้าสังหารน้องชายของเขา!”
“หยินเทียนจื้อที่ตายแล้วเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก แม้แต่ในขอบเขตปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ก็แทบจะไม่มีคนเอาชนะเขาได้ แล้วใครที่เป็นคนสังหารเขา”
ในเมืองโบราณสีดำมีผู้คนมากมายกำลังสนทนากันอย่างเข้มข้น เย่ฟ่านไม่เข้าใจว่าเขาเดินทางมาเป็นระยะทางกว่าแปดล้านลี้ แต่ข่าวมาถึงที่นี่ก่อนเขาได้อย่างไร
“รีบไปพบท่านเซียนคนนั้นดีกว่า ข้าเชื่อว่าเขาจะต้องรู้อย่างแน่นอนว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้”
เมื่อได้ยินทั้งหมดนี้เย่ฟ่านก็ตกตะลึง โลกนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ เขาเพิ่งมาถึงเมืองที่มีผู้คนไม่นานก็ได้รับข่าวที่เกี่ยวกับเซียนอมตะแล้ว
เย่ฟ่านติดตามผู้คนมากมายเดินทางออกนอกเมืองจนไปถึงสถานที่ที่ค่อนข้างแห้งแล้งแห่งหนึ่ง ทุกพื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยดินสีแดงฉานทำให้จิตใจของผู้คนห่อเหี่ยวเป็นอย่างมาก
ที่นี่ภูเขาหินสูงตระหง่านและมีหินรูปร่างแปลกๆ ปรากฏขึ้นไม่น้อย ไม่มีพืชหรือต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว อย่างไรก็ตามบนภูเขาหินเล็กๆ แห่งหนึ่งกลับมีชายผมเผ้ารุงรังคนหนึ่งนั่งสมาธิอยู่
เย่ฟ่านแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง นี่คือชายร่างกำยำ สูงกว่าคนธรรมดาทั่วไปค่อนข้างมาก แม้ว่าสภาพของเขาจะดูซอมซ่อ แต่ก็มีรัศมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่อาจอธิบายได้
เย่ฟ่านมองไม่เห็นใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามแต่เขาจดจำได้ทันทีว่านี่คือชายชราผู้บ้าคลั่ง!
“เป็นไปได้อย่างไร เขามาที่นี่ได้อย่างไร!” เย่ฟ่านเกิดความงุนงงอย่างหนัก
“เป็นเขาจริงๆ!”
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง เขาเดินทางเพียงลำพังในจักรวาลอันมืดมิดเป็นเวลาถึงเจ็ดปี และการได้พบกับชายชราผู้บ้าคลั่งที่นี่ก็เป็นเหมือนการได้พบเจอญาติสนิทที่ห่างหายกันไปนาน!