ตอนที่แล้วตอนที่ 1105 สงครามชิงคนงั้นเหรอ? คําพูดนี้ฟังดูแล้วก็น่าสนใจดีนะครับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1107 ขอโทษ คุณไม่สมควรได้รับมัน!

ตอนที่ 1106 กลับตาลปัตร!


“อะไรนะ เมื่อกี้ คุณหลิน พูดอะไรนะ นี่เขาไม่มีความเห็นอะไรเลยจริงๆ เหรอ?”

“ฮ่าฮ่า คําพูดนี้คลาสสิกมาก.. แต่ที่เขาพูดไปนั้น ก็เพียงแค่ต้องการรักษาศักดิ์ศรี!”

“ใช่ ดูเหมือนว่า คุณหลิน จะไม่เป็นไรจริงๆ และถึงแม้เขาจะล้มเหลว แต่ก็ยังคิดเก็บรักษาเกียรติตัวเองไว้ เลยไม่มีอะไรจะพูดมากกว่า”

“อืมม.. ฉันรู้สึกได้ว่า เรื่องไม่ได้ง่ายขนาดนี้ ตอนนี้ก็ฟังสิ่งที่ คุณหลิน จะพูดต่อไปเถอะ!”

“นี่ก็คือการรักษาเกียรติไม่ใช่หรือไง แต่การถูกคนอื่นแย่งชิงคนไปหมด เขาจะไปพูดอะไรได้อีก? ไป.. แยกย้ายกันไปเถอะ ….”

ในวงการธุรกิจ ผู้คนที่ดูการถ่ายทอดสดต่างก็กําลังวิพากษ์วิจารณ์กัน

เมื่อเผชิญหน้ากับคําถามของนักข่าว หลินฟาน ก็ทําท่าทางอีกครั้ง เพื่อส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบลง แล้วเขาได้พูดไปว่า : “ทุกคนไม่ต้องรีบ.. ผมจะอธิบายให้ทุกคนได้ฟัง ต่อไปผมเองต้องการอยากจะเชิญใครสักคนออกมาก่อน..”

ตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงช่วงเวลานี้ ก็ล้วนแต่อยู่ในแผนการที่ หลินฟาน ได้คิดตั้งมันเอาไว้ก่อนล่วงหน้าทั้งหมด คนที่เขาจะเชิญให้ออกมาตอนนี้ ก็ย่อมที่จะต้องเป็น อู๋ อีลี่..

วงการธุรกิจมีคํากล่าวว่า หลินฟาน เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการโฆษณา ในโลกธุรกิจเอง ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการซื้อขาย และแน่นอนว่าการซื้อขาย.. มันก็ต้องเกี่ยวข้องกับการตลาด หากไม่มีการตลาด จะไปขายสินค้าได้อย่างไร การตลาดเองก็เป็นศาสตร์ความรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่เราเองก็หามันได้จากในมหาวิทยาลัย

หลินฟาน ไม่ได้อวดรู้ และเขาก็รู้สึกว่า เขา.. เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด เขาแค่เลือกสิ่งที่เขาคิดว่ามันถูกต้อง บางครั้งเขาก็ไม่ได้คิดสร้างปัญหา แต่เมื่อมีคนมายั่วยุเขา เขาก็ต้องเข้าแก้ไขปัญหา

และมัน.. ก็มีเพียงแค่นั้นเอง

หลินฟาน ต้องการจะเชิญใครสักคนออกมา แล้วนี่.. เขาต้องการจะเชิญใคร?

ทันใดนั้นความสนใจของผู้คนทั้งปวงก็ถูกตรึงไว้ และทุกคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอ

และก็เห็นเพียงผู้หญิงในชุดเดรสสีเขียว เดินออกมาจากข้างใน เธอมีท่าทางที่อ่อนโยน และดูใจดี มันก็กลับเหมือนเป็นหญิงสาวที่เดินออกมาจากในละครทีวี

“นั่นเธอ!”

วั่นกู่ กรุ๊ป, เว่ย เทียนเฉิง, เว่ย เจี้ยนเซิง สองพูดลูกตระกูลเว่ย ต่างก็ได้โพล่งเสียงออกมาแทบจะในเวลาเดียวกัน

แล้ว.. ผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่ใช่ใครอื่น, อู๋ อีลี่!

อู๋ อีลี่ ได้เดินมาหยุดอยู่ข้างๆ หลินฟาน เธอดูเขินอายเล็กน้อย และมันก็ทำให้เธอดูมีใบหน้าที่แดงขึ้นมาเล็กน้อย แต่ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก เธอเป็นสถาปนิก และมีนิสัยที่สงบ แต่นี่มันก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเห็นฉากอะไรแบบนี้..

หลินฟาน ได้ยกยิ้ม แล้วพูดว่า : “ขอแนะนําให้ทุกคนได้รู้จักกับ คุณอู๋ อีลี่ สถาปนิกที่ หยงจิ่ว กรุ๊ป ของเราได้จ้างมาใหม่ และเป็นสถาปนิกที่ผมอยากที่จะจ้างมาตั้งแต่แรกเริ่ม และผมก็ดีใจมากที่ผมสามารถเชิญ คุณอู๋ ได้สําเร็จ”

อู๋ อีลี่?

ผู้ชมทั้งหมดเอง.. ก็ได้พากันเงียบไปทั้งหมด

คําพูดของ หลินฟาน นี่.. มันหมายความว่ายังไง?

“คุณหลิน คุณหมายความว่า คนที่คุณต้องการเชิญในตอนแรกๆ ไม่ใช่ เฉิน ซื่อหง แต่เป็น คุณอู๋ อีลี่ คนนี้งั้นเหรอคะ?” นักข่าวคนหนึ่งได้ถาม

หลินฟาน ได้พยักหน้า แล้วพูดว่า : “ถูกต้องครับ และจริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็น คุณเฉิน ซื่อหง หรือคุณอู๋ อีลี่ ผมเองก็เป็นคนได้สัมภาษณ์พวกเขาด้วยตัวเอง คุณอู๋ อีลี่ เป็นตัวเลือกแรกๆ ของผม และคุณเฉิน ซื่อหง ก็อยู่ในตัวเลือกของผม”

“คุณหลิน ในเมื่อ คุณอู๋ อีลี่ เป็นตัวเลือกแรกๆ ของคุณ แล้วเพราะเหตุใดเมื่อวานนี้ คุณถึงได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า คุณเฉิน ซื่อหง เป็นสถาปนิกของคุณ?” นักข่าวคนหนึ่ง ได้ถาม

หลินฟาน กล่าวว่า : “นั่นก็เพราะ.. เมื่อผมต้องการเลือก คุณอู๋ เมื่อนั้นผมก็รู้ว่า คุณอู๋ อีลี่ ได้ตกลงที่จะร่วมมือกับ วั่นกู่ กรุ๊ป ไปแล้ว และก็ใช่.. ถูกต้อง พวกคุณไม่ได้ฟังผิดไปหรอกนะครับ ผมเองได้ถูก วั่นกู่ กรุ๊ป ชิงตัดหน้า ในเรื่องนี้เองผมก็ไม่รู้ว่า วั่นกู่ กรุ๊ป ไปได้ยินมาจากไหนที่ว่าผมต้องการจะเชิญ คุณอู๋ อีลี่ จึงได้รีบใช้วิธีการชิงตัดหน้า คุณอู๋ ไปก่อนล่วงหน้า ซึ่งนี้ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นการแข่งขันที่มุ่งร้าย ส่วนสำหรับที่ว่า คุณเว่ย เทียนเฉิง ได้ใช้วิธีการใดนั้น ผมเองเชื่อว่า คุณเว่ย เองก็กำลังดูการถ่ายทอดสดในครั้งนี้อยู่ในตอนนี้ ตัวเขาเองคงรู้อยู่แก่ใจ แต่ผมเองก็จะเลือกที่จะไว้หน้าเขา แล้วจะไม่ขอพูดอะไรออกไป..”

พูดพลาง หลินฟาน ก็ได้ยกยิ้มไปให้กับกล้องเล็กน้อย..

รอยยิ้มนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาได้ส่งรอยยิ้มนี้.. ไปให้กับ เว่ย เทียนเฉิง

วั่นกู่ กรุ๊ป…

เว่ย เทียนเฉิง ที่ได้อยู่หน้าทีวี ในเวลานี้.. ใบหน้าของเขาก็ได้เขียวช้ำไปหมด

มันห่าอะไรกัน?

เดิมที.. หลินฟาน ต้องการจะเชิญ อู๋ อีลี่?

“ไม่! นี่มันต้องปลอมแน่ๆ และนี่มันก็ต้องเป็นเพียงกลอุบายที่ ไอ้ หลินฟาน ตัวน้อยนั่นคิดที่จะเล่นกลับเราแน่ๆ! แต่จริงๆ แล้วมันยังคงรู้สึกอึดอัด.. หลินฟาน แกนี่มัน ..น่ารังเกียจมาก!” เว่ย เจี้ยนเซิง ได้พูดตะโกนเสียงดังออกมา

นักข่าวคนหนึ่ง ได้ถามว่า : “คุณหลิน นี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่ คุณมีหลักฐานอะไรที่จะพิสูจน์ถึงสิ่งที่คุณพูดได้?”

“คุณหลิน นี่ไม่ใช่ระเบิดหลังม้า(1) จริงๆ ใช่ไหมคะ?” นักข่าวอีกคนก็ได้ถาม

“คุณหลิน นี่คงไม่ใช่การพูดหลังจากที่คุณได้เสีย คุณเฉิน ซื่อหง ไปใช่ไหมครับ?” นักข่าวอีกคนได้ถาม

หลินฟาน ได้กล่าวว่า : “คุณอู๋ อีลี่ เธอได้รับการแนะนํามาจาก คุณซ่ง หรงเหมา ประธานหอการค้าหยุนเฉิง ให้ได้มารู้จักกับผม จุดนี้ทุกคนสามารถไปหา เลาซ่ง เพื่อยืนยันด้วยตนเอง หรือจะให้ คุณอู๋ มาพูดบอกด้วยตัวเองก็ได้ครับ”

อู๋ อีลี่ ได้พยักหน้า แล้วพูดว่า : “คะ ทุกคน จริงๆ แล้ว ฉันอยากจะบอกทุกคนว่า ฉันเป็นคนที่ได้ไปหา คุณซ่ง นั่นก็เพราะฉันต้องการที่จะขอให้ คุณซ่ง ได้ช่วยแนะนำฉัน หรือกล่าวอีกได้ว่า ฉันได้ให้ คุณซ่ง ออกหน้าช่วยฉัน นั่นก็เป็นเพราะฉันต้องการอยากที่จะเข้าร่วมงานกับ หยงจิ่ว กรุ๊ป มาตั้งแต่ๆ แรกแล้ว แต่เดิมฉันคิดว่าหากใช้ความสัมพันธ์ของ คุณซ่ง การพบกันของฉัน กับคุณหลิน คงจะเป็นไปได้อย่างราบรื่นมาก แต่ก็ไม่คิดว่า คุณเว่ย จะวิ่งเข้ามาขวางทาง อย่างที่ คุณหลิน พูด คุณเว่ย ได้ใช้วิธีการที่ไม่สดใสบางอย่าง ได้เข้าบังคับฉัน และฉันก็ทำได้แต่ต้องตอบตกลงกับเขา ..เท่านั้น”

เมื่อได้ยินอย่างนี้ ทุกคนก็ต่างตกตะลึง ข่าวนี้ค่อนข้างร้อนแรงจริงๆ นี่ก็คือวงการธุรกิจหรือ? และมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะบอกว่าห้างสรรพสินค้าก็เป็นเหมือนสนามรบ!

หลินฟาน ได้กล่าว พร้อมกับหัวเราะออกไปเล็กน้อยว่า : “ผมเองมีเหตุผลที่จะเชื่อว่า เหตุผลที่ คุณเว่ย แย่งชิงตัว คุณอู๋ ไปนั้น ..ไม่ใช่ว่าเขาคิดว่า คุณอู๋ นั้นดีมาก แต่เขาก็แค่มุ่งเป้ามาที่ผม และต้องการทําให้ผมสะดุด คนที่ผมต้องการเขาก็จะต้องคิดแย่งชิงไป เพื่อที่ผมจะได้อึดอัด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผมก็กลับทำให้ คุณเว่ย ต้องผิดหวังไปเสียแล้ว นั่นก็เพราะผมไม่ได้อึดอัด ทั้งตัวคนผมเองก็ยังได้แย่งชิงกลับมาได้แล้ว..”

“ตอนนี้.. ทุกคนคงเข้าใจความหมายของการโต้กลับของผมแล้ว ใช่ไหมครับ?” หลินฟาน ได้กวาดสายตามองไปทั่วผู้ชม

“คุณหลิน ผมยังไม่ค่อยเข้าใจว่า.. จุดประสงค์ของการประกาศอย่างเป็นทางการของคุณเกี่ยวกับ คุณเฉิน ซื่อหง เมื่อวานนี้?” นักข่าวคนหนึ่งได้ถามขึ้นมา

หลินฟาน กล่าวว่า : “ที่ผมได้ประกาศเรื่อง คุณเฉิน ซื่อหง ออกไปต่อหน้าสาธารณะ ผมเองก็มีเพียงสองจุดประสงค์ หนึ่งก็คือ เพื่อสำหรับ วั่นกู่ กรุ๊ป ผมเองต้องการที่จะตรวจสอบว่าเขาได้จงใจที่จะต่อต้านผมหรือไม่ สุดท้ายทุกคนก็เห็นแล้ว และพอเขาหันหลังกลับก็รีบคว้าตัว เฉิน ซื่อหง ไปจริงๆ สองคือ ตัวของ เฉิน ซื่อหง เอง คุณเฉิน ซื่อหง คนนี้ มีชื่อเสียงมาก และเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในสิบสถาปนิกชั้นนําของโลก แต่ผมกลับไม่ค่อยพอใจกับ คุณเฉิน ซื่อหง รวมถึงบุคลิกของเขาด้วย ดังนั้นนี่จึงถือว่าเป็นเรื่องระหว่างผมกับ คุณเฉิน ซื่อหง และยิ่งคําถามสัมภาษณ์ข้อสุดท้ายของผมที่ใช้เพื่อทดสอบบุคลิกของเขา แต่ คุณเฉิน ซื่อหง ก็ไม่ทําให้ผมผิดหวัง เขาได้หันหลังกลับ และวิ่งจากไปจริงๆ ดังนั้นแทนที่จะบอกว่า เว่ย เทียนเฉิง ได้ขโมย แย่งชิง เฉิน ซื่อหง ไป มันคงจะดีกว่าที่จะบอกว่า เฉิน ซื่อหง ไม่ผ่านการประเมินของผม และถูกปฏิเสธโดยผม!”

“คุณเว่ย ที่ได้คิดว่าการแย่งชิง เฉิน ซื่อหง ไปจะทำให้ผมอึดอัดได้ ตอนนี้.. คุณคงได้รู้แล้ว ผมไม่เพียงแต่ไม่อึดอัด แต่ผมกลับยังต้องขอขอบคุณคุณ ที่ได้ช่วยผมเก็บคนที่บุคลิกไม่ดีออกไป” หลินฟาน ได้ยิ้มเล็กน้อย และจ้องมองไปที่กล้องถ่ายทอดสด

อ่า?

ทุกคนประหลาดใจมาก ปรากฎว่า.. ที่เมื่อวาน หลินฟาน ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ เฉิน ซื่อหง นั้น ..คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นหลุมที่ถูกขุดเอาไว้ โดย หลินฟาน.. และมันก็เป็นผลให้ เว่ย เทียนเฉิง และเฉิน ซื่อหง กระโดดลงไปในหลุมด้วยกันทั้งคู่!

หลินฟาน พูดต่อไปว่า : “ที่ผมได้ใช้ เฉิน ซื่อหง มาสร้างความสับสนให้กับ เว่ย เทียนเฉิง นั้น จุดประสงค์ที่แท้จริงก็คือ เพื่อ คุณอู๋ ครับ และมันก็เป็นไปตามที่ผมได้คาดไว้ หลังจากได้ เฉิน ซื่อหง ไปแล้ว เว่ย เทียนเฉิง ก็ได้คิดว่าตัวเองได้ทำแผนสำเร็จแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดสนใจ คุณอู๋ อีกต่อไป คุณอู๋ จึงได้ยกเลิกสัญญากับเขาไปได้อย่างง่ายดาย ด้วยวิธีนี้ ผมจึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่เห็นใจ คุณเว่ย และผมเองก็คงต้องขอบคุณ คุณเว่ย มากที่ไม่ได้ต้องการ คุณอู๋ และก็ คุณอู๋ ..ก็คือคนที่ผมต้องการจริงๆ ขอบคุณ!”

หลินฟาน ได้ส่งยิ้มต่ำ ดูราคาถูก ส่งไปให้กับกล้องถ่ายทอดสด..

กลับด้านเสียแล้ว!

ทุกอย่างมันกลับตาลปัตร!

คนที่ชนะกลับไม่ใช่ เว่ย เทียนเฉิง แต่เป็น หลินฟาน!

ตำนานของ คุณหลิน ยังไม่ล่มสลาย และการรบครั้งนี้ รูปแบบ และการตอบโต้กลับของ หลินฟาน นั้น ..ก็ช่างยอดเยี่ยม เจ๋งมาก และก็เทพมากๆ!

ทุกคนในวงการธุรกิจต่างตกตะลึง

วั่นกู่ กรุ๊ป..

ในตอนนี้ ..ใบหน้าของ เว่ย เทียนเฉิง ได้เขียวช้ำไปหมด เขาเองได้ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว และตะโกนออกไปทันทีว่า “หลินฟาน ตัวน้อย!”

ด้วยความโกรธของเขาในตอนนี้ เขาเองแทบเกือบที่จะกระอักเลือดออกมา

(1)[ระเบิดหลังม้า (马后炮)] - เป็นศัพท์หมากรุกจีน หมายถึง สายเกินไป หรือช้าเกินไป เป็นอุปมาที่จะใช้มาตรการต่างๆ หลังจากที่มันไม่มีประโยชน์ หรือสายเกินไปเสียแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด