บทที่ 30 วิญญาณมืดออกสู้ครั้งแรก
“อย่าขึ้นรถ อย่าเข้าไปในรถ!” หยางเซี่ยวเฉินตะโกนบอก
"รถ..พวกนั้น รถพวกนั้น! ประตูถูกเปิดออกและกระเป๋าเดินทางถูกเอาไปด้วย หมายความว่าคนในรถวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก”
“แต่ทำไมรถทุกคันจอดอยู่ เพราะรถมันพัง! คนพวกนี้โง่ถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าควรปิดกระจกตอนขับเจอซอมบี้หรือไง! ถ้าเราเข้าไปในรถมันต้องอันตรายกว่านี้แน่!”
"ตอนนี้ฉันยังทำยังไงดี?" หลังจากตะโกนหยางเซี่ยวเฉินก็รีบหันกลับมาถามหวางไห่และหยูเชียน
ในแง่ของประสบการณ์การต่อสู้ พวกเขามีมากกว่าเขาเยอะ
“คนที่มีปืนยืนเป็นวงกลมล้อมรอบ อย่าแน่นเกินไปจนรบกวนการกระทำของคนอื่นและอย่าหลวมเกินไปจนทำให้เกิดจุดบอดทางสายตา คนอื่นๆ”
“ให้หันหลังชนกันอยู่ในวงกลม ฉัน หยางเซี่ยวเฉิน แล้วก็ใครคนนั้น จะเป็นคนที่สร้างวงกลมนอกสามเหลี่ยม ถ้ามองเห็นอะไรรีบแจ้งเตือนทันที”
หวางไห่ให้แผนรับมือ ด้วยวิธีที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับหยางหยานและคนอื่น ๆ ที่มักจะตื่นตระหนกจากการไม่เคยได้รับการฝึกฝนทันที
แต่เห็นได้ชัดว่าหยูเชียนไม่พอใจที่ถูกเรียกว่า "ใคร" และไม่พอใจยิ่งกว่าที่เขาต้องยืนอยู่รอบนอกเพื่อปกป้องความปลอดภัยของกลุ่มคนธรรมดา
"วงในโอเค แต่วงนอกไม่โอเค" หยูเชียนพูดอย่างเคร่งขรึมหากศัตรูแข็งแกร่งเกินไป เขายังสามารถใช้คนธรรมดาที่อยู่รอบนอกเป็นเหยื่อล่อได้
"ใช้วงกลมล้อมสามเหลี่ยม!" หยางเซี่ยวเฉินตกลงทันที ในเวลานี้การขัดแย้งกับหยูเชียนไม่มีความหมายอะไรเลย
ใครจะรู้ว่าเขาจะถูกโจมตีในวินาทีถัดไปแล้วตายไปหรือไม่? นอกจากนี้ยังมีพลังพิเศษเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้สามเหลี่ยมในวงกลมเหมาะสำหรับการช่วยเหลือมากกว่า
เมื่อเห็นว่าหวางไห่ยังคงลังเล หยางเซี่ยวเฉินจึงร้องบอก "อย่ากังวล เราสามคนสามารถปกป้องพวกเขาได้ดีกว่าโดยการใช้วงกลมด้านนอกสามเหลี่ยมด้านใน ฉันกับหยูเชียนมีพลังพิเศษ!"
หวางไห่จึงเลือกเชื่อใจเขาแทนที่ความลังเลก่อนหน้า
"แล้วอย่างไงต่อ?" เสียงสั่นๆของหยางหยานแสดงความตื่นตระหนกในใจของเขา เขายังคงประหม่าราวกับคนที่พึ่งเคยเห็นซอมบี้ครั้งแรก
ภรรยาและลูกชายของหมอเหลียงที่อยู่ข้างๆ ตัวสั่นและพูดไม่ออกภายใต้ความกลัวสิ่งที่ไม่รู้จัก
"ค่อยๆ เดินไปที่เรือเฟอร์รี่ก่อน" หยางเซี่ยวเฉินชี้ไปที่เรือข้ามฟากที่ท่าเรือ หยูเชียนคัดค้านทันที
"อย่าทิ้งอาวุธและแกนสมองพวกนั้นไว้ในรถ!"
"ขึ้นเรือข้ามฟากก่อนค่อยว่ากัน!" หยางเซี่ยวเฉินเน้นย้ำ
"ส่งพ่อฉันและคนอื่นๆ ขึ้นเรือก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาปลอดภัย แล้วฉันจะค่อยกลับมารับสินค้ากับนาย"
หยูเชียนกัดฟันอย่างขมขื่น เขารู้อยู่แล้วว่าหยางเซี่ยวเฉินต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของหยางหยานเป็นอันดับแรก
แต่เขาไม่เข้าใจทำไมสิทธิในการพูดของเขาอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ซึ่งแตกต่างจากที่เขาคิดไว้
บางทีฉันควรจะเข้มงวดกว่านี้ ต้องทำให้เขารู้ว่าใครจะเป็นคนตัดสินใจคนสุดท้ายหยูเชียคิดในใจ
เมื่อหยูเชียนกำลังคิดว่าควรจะทำอย่างไรดี ร่างเล็กๆก็ปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคน
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเดินออกมาจากท้ายรถ
หยางเซี่ยวเฉินเห็นเธอเป็นครั้งแรกด้วยผมทรงหางเปียสองข้าง กระโปรงยาวสีแดงกุหลาบ ถุงน่องสีขาวและรองเท้าหนังขนาดเล็ก เป็นโลลิในความฝันที่สมบูรณ์แบบในหัวใจใครหลายๆคน
เมื่อมองเห็นดวงตาที่สวยงามพร้อมกับน้ำตาใสๆที่มุมตาของเธอ มือของหยางเซี่ยวเฉินก็ปล่อยไกปืนออกโดยไม่รู้ตัว
เด็กผู้หญิงน่ารักคนนี้ไม่สามารถทำให้ผู้คนไม่รู้สึกคุกคามได้เลยจริงๆ
"ช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วย..." เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ สะอื้นไห้ขณะค่อย ๆเดินเข้าไปหาหยางเซี่ยวเฉินและคนอื่น ๆ พร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ
“ปัง” กระสุนพุ่งเข้าที่ข้างๆเท้าของสาวน้อยทำให้เธอล้มลงกับพื้นด้วยความตกใจ
“ใครยิงปืน ทำอะไรน่ะ” หวางไห่ซึ่งลดปากกระบอกปืนลงพื้นรู้สึกโกรธทันที
เขาหันศีรษะไปมองรอบ ๆ และพบว่าหยูเชียนกำลังถือปืนพกชี้เด็กหญิงที่ล้มลงกับพื้นด้วยสายตาเย็นชา
"นายบ้าหรือเปล่า?" หวางไห่ก้าวไปข้างหน้าแล้วคว้าคอเสื้อของหยูเชียน แต่ถูกหยุดด้วยมีดคมกริบที่ลอยอยู่ในอากาศ
นี่คือสิ่งที่หยางเซี่ยวเฉินพูดเกี่ยวกับพลังพิเศษของพวกเขาหรือไม่? แต่สิ่งนี้ไม่สามารถดับความโกรธของหวางไห่ได้ แม้ว่าเขาจะหยุดแต่เขายังคงจ้องมองไปที่หยูเชียนและนิ้วของเขาก็อยู่บนไกปืน
“ฉันแนะนำให้คุณอย่าทำในสิ่งที่คุณเสียใจภายหลัง อาวุธของคุณใช้ไม่ได้ผลกับฉัน” หยูเชียนไม่ใส่ใจที่จะมองเขาและเอาแต่จ้องเด็กสาวที่กำลังร้องไห้
หวางไห่โยนคำถามไปที่หยางเซี่ยวเฉินด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดี: "พวกนาย... ยังต้องการให้ฉันช่วยทำในเรื่องที่ขออยู่รึเปล่า"
หัวใจของหยางเซี่ยวเฉินนั้นรู้สึกอันตราย แต่จริงๆแล้วเขาเองก็ได้ลดการป้องกันลงเพราะรูปลักษณ์ของโลลิน่ารักตัวน้อยนี้จริงๆ โชคดีที่หยูเชียนไม่ได้ถูกหลอกไปด้วย
เมื่อได้ยินคำถามที่คุกคามอย่างคลุมเครือของหวางไห่ หยางเซี่ยวเฉินส่ายหัวเล็กน้อยและยกมือขึ้นเล็งปืนไปที่เด็กสาวแล้วพูดว่า
"อย่าตื่นเต้นไป คุณไม่คิดว่าเด็กหญิงคนนี้แปลกไปหน่อยเหรอ? จำการประกาศก่อนหน้านี้ในปลิวของ PDA ได้ไหมมันเขียนว่า: ประสาทสัมผัสทั้งห้าของซอมบี้ไม่ได้อ่อนแอลง แต่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นในระดับหนึ่ง มันไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเขาที่จะซ่อนตัวจากซอมบี้อยู่ใต้ท้องรถเลย”
"หมายความว่ายังไง เธอกำลังขอความช่วยเหลืออยู่! เธอพูดได้! นายบอกว่าเธอไม่ใช่มนุษย์เหรอ! นายตาบอดหรือไง?" หวางไห่ตะโกนด้วยความโกรธ
"ฉันไม่ได้บอกว่าเธอไม่ใช่มนุษย์ ฉันแค่จะบอกว่า... บางครั้งอันตรายก็ไม่จำเป็นต้องมาในรูปแบบสัตว์ประหลาด ผู้คนก็กลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวได้เช่นกัน"
หยางเซี่ยวเฉิน ม่ต้องการอธิบายเพิ่มเติมและสังเกตสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวังเพื่อดูว่ามีอะไรที่ที่สามารถหลบซ่อนได้หรือไม่ อย่างเช่นสถานที่ซุ่มโจมตี
"เธอไม่จำเป็นต้องเป็นคนจริงๆ" หยูเชียนกล่าว
"ฮะ?" หยางเซี่ยวเฉินจึงจำสิ่งที่หยูเชียนพูดได้ ซอมบี้ที่กินเนื้อสดจำนวนมากไม่เพียงแต่จะมีพลังในการต่อสู้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังอาจพัฒนาคุณสมบัติพิเศษบางอย่างด้วย
อย่าบอกนะว่า?
"ลองแล้วคุณจะรู้" เสียงของหยูเชียนลดลงและใบมีดที่ลอยอยู่ในอากาศก็พุ่งออกไปราวกับกระสุน ตรงเข้าไปที่คิ้วของเด็กสาว
ความเร็วของใบมีดนั้นเร็วเกินไป เร็วจนหวางไห่ไม่มีเวลาตอบสนอง มีเพียงหยางเซี่ยวเฉินที่คุ้นเคยกับสไตล์ของหยูเชียนและรู้ว่าเขาทำได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ
ชั่วขณะหนึ่ง จิตวิญญาณของหยางเซี่ยวเฉินตึงเครียดและเขาถึงกับเปิดใช้งานความสามารถในการปล่อยให้วิญญาณมือออกมาปิดกั้นใบมีดโดยไม่รู้ตัว
แต่ทันใดนั้นวินาทีต่อมาเด็กหญิงที่ล้มลงบนพื้นก็มีใบหน้าบิดเบี้ยว ปากสีเชอร์รี่ของเธอกลับมีฟันแหลมคนงอกออกมา
ดวงตาที่เคยพร่ามัวของเธอกลสยมาเป็นสีแดงเลือดน่าสะพรึงกลัว ทันใดนั้นเธอก็หลบไปด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงใบมีดจากนั้นคลานไปบนพื้นด้วยท่าทางแปลกประหลาดที่ไม่มีความเป็นมนุษย์
อีกทั้งยังมีความเร็วที่ไม่ได้ช้าไปกว่าคนวิ่งเลย
ใบมีดของหยูเชียนลอยอยู่ในอากาศถ้าหญิงสาวไม่ขยับ มีดสั้นนั้นควรจะแทงทะลุคิ้วของเธอไปแล้ว
อย่างที่หยูเชียนบอกแค่ลองดูแล้วคุณจะรู้
"ยิง ยิง ยิง!" หยางเซี่ยวเฉินเปิดโซ่ออกทันที ร่างสีดำที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่มองเห็น ได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขา โดยตั้งท่าป้องกันเพื่อป้องกันหยางหยานพ่อของเขาที่อยู่ด้านหลัง
หวางไห่เองก็ไม่ลังเลที่จะยกปืนขึ้นและยิงทันที แม้ว่าเขาจะตะโกนใส่หยูเชียนทั้งยังต้องการที่จะต่อสู้กับเขาในวินาทีสุดท้าย ถึงแม้จะโกรธแต่มันก็ไม่ได้เผาความคิดของเขาสักหน่อย
แต่ความเร็วของเด็กสาวชุดโลลิที่คลานบนพื้นนั้นเร็วเกินไป และไม่สามารถหาวิถีการเคลื่อนที่ของเธอได้ ไม่ว่านักแม่นปืนอย่างหวางไห่จะแม่นแค่ไหน มันก็ยากที่จะยิงถูกอยู่ดี
ท้ายที่สุดแล้วประสบการณ์การต่อสู้ของเขานั้นเป็นการต่อสู้กับมนุษย์ และเขามีประสบการณ์น้อยมากในการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์
ซอมบี้สองตัวที่ถูกยิงบนทางเดินก็เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์เท่านั้นและการกระทำของพวกมันก็ไม่ต่างจากคนปกติมากนัก
แต่หลังจากที่หญิงสาวน่ารักตรงหน้าแสดงใบหน้าที่น่าเกลียดของเธอ มือและเท้าของเธอก็พับไปด้านหลังและบิดตัวราวกับแมงมุมสี่ขาหน้ามนุษย์ที่มีความเร็วสูง
“หยูเชี่ยน!” เมื่อเห็นเด็กหญิงซอมบี้เข้าใกล้มาอย่างรวดเร็ว หยางเซี่ยวเฉินรีบตะโกนให้หยูเชียน ตอบโต้คราวนี้เขาไม่ได้ใช้ใบมีดอีกต่อไป แต่ใช้โซ่หนาแทน
ภายใต้การควบคุมของหยูเชียนโซ่เหล็กเข้าโจมตีเด็กสาวซอมบี้ราวกับหนวดปลาหมึก
ฉากนี้ดูแปลกๆนิดหน่อย หากไม่ใช่เพราะกำลังมีอันตรายถึงชีวิต หยางเซี่ยวเฉินอาจจะหยิบมือถือออกมาบันทึกวิดีโอพร้อมกับแสดงความคิดเห็นอย่างประหลาดใจไปด้วยแล้ว
“วิญญาณมืดเมื่อโซ่เหล็กมัดมันไว้แล้ว จงเข้าไปใกล้ๆแล้วเอาปืนจ่อหัวมัน!” หยางเซี่ยวเฉินออกคำสั่งในใจของเขาและวิญญาณมืดก็ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นทันที
แต่สิ่งที่น่าอายก็เกิดขึ้นด้วยส่วนสูงและมือที่ใหญ่ผิดปกติของมัน ทำให้ไม่สามารถใช้ปืนไรเฟิลอัตโนมัติ Type 95 ที่หยูเชียน "ยืม" มาจากกองกำลังตำรวจติดอาวุธได้
เพราะวิญญาณมืดมันไม่สามารถสอดนิ้วเข้าไปในไกปืน!
ปืนที่หนักมากในมือของหยางเซี่ยวเฉิน ถูกวางไว้ในมือของวิญญาณมืดเหมือนกับโมเดลของเล่น
“ลืมมันไปเถอะ ใช้มือก็ได้วะ” หยางเซี่ยวเฉินมองไปที่นิ้วทั้งสิบของวิญญาณมืดที่คมเหมือนใบมีด มันน่าจะไม่มีปัญหาที่จะใช้มือตัดหัวซอมบี้ "อย่างไรก็ตาม นาย... ไม่น่าจะติดเชื้อใช่ไหม? รู้สึกเหมือนนายมีอวัยวะภายในแต่ไม่มีเลือดนี่นะ"
"สวัสดี สวัสดี" วิญญาณมืดยักไหล่และเดินเข้าไปหาเด็กสาวซอมบี้
“ฉันควรบอกว่าฉันมีความสามารถเป็นร่างแยกดีรึเปล่าเนี้ย?” หยางเซี่ยวเฉิน รู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย