บทที่ 217: ยามที่เหมันต์มาเยือน
อย่างที่เคยกล่าวไปก่อนหน้านี้ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็รักสวยรักงามกันทั้งนั้น
เมื่อหู่จิงเห็นว่าหูเจียวเจียวใช้ปิ่นหยกมวยผมแล้วดูงดงามแค่ไหน นางเองก็รู้สึกอยากได้มันเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่หญิงสาวมีคู่ชีวิตแล้ว นางยังอยากให้ตัวเองดูสวยขึ้นอีกสักเล็กน้อย เผื่อจะทำให้ภูตหญิงในเผ่าเลิกเรียกตนว่าแม่เสือสาวจอมพลังสักที
นางเองก็อยากจะเป็นแม่เสือสาวแสนสวยกับคนอื่นเขาเหมือนกัน!
ทว่าลู่เมี่ยนเอ๋อห้ามปรามสหายคนสนิทเอาไว้ทันที “การที่เจ้าไปถามหลงโม่แบบนั้น มันเสียมารยาทนะ”
เนื่องจากทรัพยากรที่ภูตพบมักจะเก็บไว้เป็นความลับ ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากจะบอกสถานที่เก็บเกี่ยวของตนให้ภูตคนอื่นรู้
หู่จิงยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองเบา ๆ “ถ้าอย่างนั้นข้าจะแลกเปลี่ยนสิ่งของกับนาง” จากนั้นนางก็หันไปถามน้องสาวของสามีว่า “เจียวเจียว เจ้าต้องการอะไร ข้าแลกเปลี่ยนมันกับเจ้าได้ไหม?”
ของของหลงโม่ก็ถือได้ว่าเป็นของของหูเจียวเจียวเช่นกัน เสือสาวจึงเลือกที่จะหันไปทำข้อตกลงกับอีกฝ่ายโดยตรง
แน่นอนว่าโลกภูตฝ่ายหญิงจะเป็นใหญ่มากกว่าฝ่ายชาย ดังนั้นเมื่อหลายปีก่อน หูเจียวเจียวคนเก่าจึงมีสิทธิ์ที่จะไล่หลงโม่ออกจากเผ่า
“ไม่ต้องเอาอะไรมาแลกหรอก” จิ้งจอกสาวโบกมือ “หลงโม่พบหินก้อนนี้โดยบังเอิญ ข้าเลยไม่รู้ว่าเจ้าจะยังหาหินแบบเดียวกันเจออีกหรือไม่”
นอกจากรูปลักษณ์ที่สวยงามของหยกแล้ว สิ่งนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกในโลกของภูต แต่ถ้ามีหยกฝังอยู่ในดินจริง ๆ แทนที่จะปล่อยให้มันเปล่าประโยชน์อยู่อย่างนั้น ให้เหล่าภูตได้ขุดมันออกมาใช้ประโยชน์จะดีเสียกว่า
แม้ว่าหูเจียวเจียวจะคิดเช่นนี้ แต่เธอก็หันไปมองคู่ของตนและถามความคิดเห็นของเขาว่า “หลงโม่ เจ้าบอกพวกเขาได้ไหมว่าเจ้าพบหินชนิดนี้ที่ไหน?”
ชายร่างสูงชำเลืองมองไปทางหู่จิงโดยคิดว่าหูชิงหยวนช่วยทดลองยาพิษให้เขาแล้ว... ไม่สิ อีกฝ่ายช่วยชิมอาหารฝีมือเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าตอบรับพลางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ข้าจะบอกที่ตั้งของมันให้หูชิงหยวนพรุ่งนี้”
นี่คือความยินยอมของมังกรหนุ่ม
ทางด้านหู่จิงฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุขและยกมือขึ้นหมายจะตบไหล่น้องสาวของสามี แต่หลงโม่หยุดนางไว้ด้วยสายตาเสียก่อน
เสือสาวจึงทำเพียงยิ้มแบบเขินอายปนอิจฉา “หลงโม่ของเจ้าจับเหยื่อตัวใหญ่ได้มากมาย ไม่เหมือนหูชิงหยวนที่เอาแต่จับเจ้ากระต่ายที่มีเนื้อน้อยพวกนี้ทุกวัน ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าในหัวเขาคิดอะไรอยู่...”
นางบ่นพลางยกกระต่ายที่ตนหิ้วอยู่ขึ้นมา
ทันทีที่หญิงสาวพูดจบ กระต่ายในมือของนางก็เตะขาประท้วง
…
“ฮัดชิ้ว!” หูชิงหยวนซึ่งกำลังล่าสัตว์อยู่ในป่าจามออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“แปลกจัง ทำไมจู่ ๆ ข้าถึงจาม..”
จิ้งจอกหนุ่มพึมพำกับตัวเองโดยยังคงหมอบตัวอยู่หน้ารังกระต่าย
…
วันต่อมา
หลงโม่บอกตำแหน่งที่เขาพบก้อนหินสีมรกตให้หูชิงหยวนทราบ จากนั้นเขาก็เป็นคนแรกที่ไปแบกก้อนหินขนาดใหญ่ออกมาจากหลุมที่ตนขุดหิน แล้วขนพวกมันไปกองไว้ในสวนหลังบ้าน
เป็นเพราะว่าเจียวเจียวชอบหินชนิดนี้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงอยากเก็บมันไว้ทำของอื่น ๆ ให้นางอีกในอนาคต
แม้ว่าจะมีหินมากมายในหลุม แต่ส่วนใหญ่แล้วมันมีขนาดเล็กกว่าหินที่มังกรหนุ่มเอามาทำอ่างอาบน้ำ
เนื่องจากหลงโม่เลือกหินก้อนใหญ่ออกไป เมื่อหูชิงหยวนมาถึงสถานที่ตั้ง เขาจึงได้แต่เลือกหยิบหินก้อนเล็กไปเท่านั้น
ในเวลาเดียวกัน ทันทีที่ข่าวเกี่ยวกับหยกแพร่กระจายออกไปทั่วทั้งเผ่า เหล่าภูตจำนวนมากก็รู้เรื่องดังกล่าว
พอภูตหญิงในเผ่าหลายคนเห็นว่าหูเจียวเจียวใส่ปิ่นหยกแล้วดูดีแค่ไหน พวกนางต่างก็พากันรู้สึกอิจฉา และไปเร่งเร้าให้คู่ของตัวเองออกไปตามหาหินชนิดนี้
ขณะนั้นภูตชายแทบทั้งหมดของเผ่ามุ่งหน้าไปเก็บหินสีเขียวจากหลุมที่หลงโม่ขุดมันออกมา
ทว่าสถานที่แห่งนี้หลงเหลือเพียงหินขนาดเล็กเป็นส่วนมากเพราะมังกรหนุ่มขนหินขนาดใหญ่ไปหมดแล้ว
หลังจากที่พวกภูตชายผ่าหินบางก้อนออกมา มันก็มีหยกซ่อนอยู่ข้างใน แต่กว่าที่แต่ละคนจะขัดเกลามันจนเป็นก้อนหยกก้อนหนึ่ง พวกเขาก็ต้องใช้ความพยายามสูงมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจะนำหยกมาทำเป็นเครื่องประดับชิ้นเล็กเลย แม้แต่การทำให้มันแตกออกก็ยังเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร
ความแข็งของหยกทำให้ภูตบางคนถึงกับเล็บหัก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำปิ่นปักผมเหมือนของหูเจียวเจียวขึ้นมาได้อยู่ดี
ในเวลาเพียงไม่กี่วัน เหล่าภูตหญิงมีอารมณ์แปรปรวนกันมาก ถึงแม้ว่าที่บ้านของพวกนางจะมีหยกก้อนโต แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรมันได้อยู่ดี ทุกคนจึงได้แต่มองก้อนหินสีมรกตด้วยสายตาว่างเปล่า
แม้แต่อิงหยวนก็ไม่สามารถทำอะไรกับหยกได้
ส่วนหูชิงหยวนโชคดีที่พบหยกสีใสรูปหยดน้ำ แม้ว่ามันจะไม่สามารถแกะสลักเป็นลายเสือได้ แต่เขาก็ขอให้หลงโม่ช่วยทำรูและร้อยด้วยเชือกเพื่อทำเป็นสร้อยคอแล้วมอบให้กับหู่จิง
ต่อให้สร้อยเส้นนี้จะไม่ได้อยู่ในรูปร่างของเสือน้อย แต่ภรรยาของเขาก็ชอบมันมาก
ถ้าเป็นปกติมังกรหนุ่มคงจะไม่ช่วยหูชิงหยวน แต่ใครใช้ให้เขามี ‘ความลับที่ลึกซึ้ง’ กับพี่ชายของหูเจียวเจียว เขาจึงอยู่ในภาวะจำใจช่วยเหลืออีกฝ่าย
ระหว่างที่ในเผ่ากำลังคึกคักวุ่นวาย ทางด้านหูเจียวเจียวก็ไม่ได้ปล่อยให้เวลาเสียไปแบบเปล่าประโยชน์
เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลงโม่พบผลทับทิมในป่า และเธอวางแผนที่จะใช้ผลทับทิมกับส้มโอในโกดังมาทำเป็นเหล้าผลไม้
อันที่จริงลูกพลับก็สามารถนำมาใช้ทำเหล้าผลไม้ได้ด้วยเช่นกัน
แต่ปัจจุบันเธอนำลูกพลับไปแปรรูปเป็นลูกพลับตากแห้งหมดแล้ว
ถัดมา จิ้งจอกสาวขอให้มังกรหนุ่มทำไหหินที่มีฝาปิดสนิทให้ ส่วนเธอจะจัดการปอกเปลือกผลไม้ออก
เนื่องจากการแกะเม็ดทับทิมเป็นเรื่องยุ่งยาก ลูก ๆ จึงมาช่วยกันนั่งทำอยู่ที่ม้านั่งขนาดเล็กในสวนหลังบ้าน
ส่วนหูเจียวเจียวไปเตรียมวัตถุดิบอื่น ๆ ทำความสะอาดไหหินแล้วตากให้แห้งเพื่อใช้ในภายหลัง จากนั้นเธอก็นำน้ำตาลกรวดกับเหล้าขาวออกมาจากมิติ
ปัจจุบันเด็กทุกคนกำลังตั้งใจปอกผลไม้ แต่มีเพียงหลงเหยาเท่านั้นที่กำลังนั่งน้ำลายไหล แล้วเขามักจะฉวยโอกาสตอนที่แม่จิ้งจอกไม่ทันได้สังเกตแอบหยิบเม็ดทับทิมยัดเข้าปาก
หลังจากที่หูเจียวเจียวเตรียมเครื่องมือและวัตถุดิบเสร็จแล้ว เธอก็หันกลับมามองเหล่าลูกน้อย ก่อนจะพบกองเม็ดทับทิมที่ถูกกินเนื้อจนหมดอยู่บนเปลือกทับทิมที่ถูกทิ้งบนพื้น...
ดูเหมือนว่ามันจะเป็น “ฝีมือ” ของเด็กชายร่างจ้ำม่ำตรงหน้า
“เหยาเอ๋อ!”
แม่จิ้งจอกที่รู้ว่าหลงเหยากำลังขโมยเม็ดทับทิมกินก็ส่งเสียงเตือนเขา ทำให้เจ้าเด็กน้อยสะดุ้งโหยงจนเผลอกลืนเม็ดทับทิมลงท้องไป
จากนั้นเขาก็รีบปิดปาก กะพริบตามองผู้เป็นแม่ปริบ ๆ
“ท่านแม่ เสี่ยวเหยาผิดไปแล้ว... เสี่ยวเหยาควบคุมมือตัวเองไม่ได้...”
ใจจริงเขาไม่ต้องการที่จะขโมยผลไม้ แต่มือป้อมสั้นเจ้ากรรมกลับไม่ให้ความร่วมมือแล้วส่งเม็ดทับทิมเข้าปากเรื่อย ๆ
เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินคำตอบของลูกชายก็อดกุมหน้าผากไม่ได้ ก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมา
“เหยาเอ๋อไม่ต้องทำแล้ว เจ้าหยิบกินได้เลย”
หญิงสาวพูดพลางหยิบทับทิมผลหนึ่งพร้อมหนังสัตว์ใส่ไว้ในอ้อมแขนของเขา
หากเธอใช้ผลทับทิมที่เจ้าตัวแสบปอกมาทำเหล้าผลไม้ มันคงไม่ต่างจากการดื่มน้ำลายของอีกคน
เดิมทีหูเจียวเจียววางแผนที่จะมอบผลทับทิมที่เขาปอกให้เขาเก็บไว้กินเองอยู่แล้ว
ทางด้านหลงเหยาถือผลทับทิมลูกโตด้วยใบหน้าประหลาดใจ “ท่านแม่ นี่คือของเสี่ยวเหยาหรือ?”
“อืม” ผู้เป็นแม่พยักหน้า
“ขอบคุณท่านแม่! ท่านแม่ใจดีที่สุด!”
เจ้าตัวเล็กรู้สึกมีความสุขมากจนกระโดดโลดเต้นไปมา ก่อนจะหยิบผลทับทิมขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย
เมื่อเหล่าพี่น้องเห็นใบหน้าที่ตะกละตะกลามของหลงเหยา ทุกคนก็ส่ายหัวด้วยความเอือมระอา
หากพวกเขาไม่เคยเห็นร่างมังกรของน้องชายคนสุดท้องมาก่อน เป็นใครก็ต้องสงสัยว่าเขาไม่ได้เกิดมาจากแม่คนเดียวกันหรือเปล่า
พ่อแม่เดียวกันจะคลอดลูกที่มีนิสัยแตกต่างกันมากแบบนี้ออกมาได้อย่างไร!
พอไม่มีหลงเหยา งานที่ทุกคนทำในวันนี้ก็รวดเร็วมากขึ้น จนในที่สุดพวกเขาก็ใช้เวลาปอกผลทับทิมและส้มโอเสร็จในระยะเวลาอันสั้น
หลังจากนั้นหูเจียวเจียวก็ให้รางวัลแก่เด็กทั้ง 6 ด้วยส้มโอและผลทับทิมสด ๆ ก่อนที่เธอจะเริ่มทำเหล้าผลไม้
เมื่อหญิงสาวล้างทำความสะอาดทับทิมกับส้มโอแล้ว เธอก็นำพวกมันไปตากให้แห้ง พอผลไม้แห้งเธอก็เอาไปใส่ในไหหิน เติมน้ำตาลกรวดในปริมาณที่พอเหมาะ เทเหล้าขาวลงไปก่อนจะปิดฝาให้แน่น
เหล้าผลไม้ต้องใช้เวลาหมักประมาณ 1 เดือนจึงจะสามารถดื่มได้
หากจะถามหาเหตุผลว่าทำไมต้องใช้เหล้าขาวในการทำเหล้าผลไม้ เป็นเพราะว่าเธอไม่รู้วิธีการทำเหล้าผลไม้ที่ถูกต้องจริง ๆ ซึ่งวิธีการนั้นมันยุ่งยากกว่ามาก ด้วยเหตุนี้เธอจึงลองทำแบบง่าย ๆ ไปก่อน
ส่วนไหหินที่จิ้งจอกสาวนำมันมาบรรจุเหล้าผลไม้มีปริมาณเทียบเท่ากับเหล้าผลไม้ 20 จิน*
*1 จิน = 500 กรัม
ในครั้งนี้เธอหมักเหล้าผลไม้ทั้งหมด 20 ไห
เวลาต่อมา เธอย้ายไหทั้งหมดเข้าไปเก็บในโกดัง และเมื่อเธอเดินออกมาจากห้อง เธอก็เห็นหลงโม่เดินเข้ามาจากนอกลานบ้าน แต่ตามร่างกายของเขาเต็มไปด้วยชั้นละอองสีขาว
ในขณะเดียวกันก็มีอากาศหนาวเย็นพัดตามหลังมังกรหนุ่มเข้ามาในบ้าน
ภาพดังกล่าวทำให้ดวงตาของหูเจียวเจียวเป็นประกาย “ข้างนอกหิมะตกหรือ?”
ทางด้านหลงโม่ถอดเสื้อหนังสัตว์ออกมาสะบัด เนื่องจากเขากลัวว่าอากาศเย็นบนร่างกายของตนจะแผ่ไปถึงภรรยาสาว ดังนั้นเขาจึงเอาปุยหิมะตามตัวออกก่อนที่จะเดินเข้าไปหาอีกคนและตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า
“อืม ฤดูหนาวมาเยือนแล้ว”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: อิงหยวนพ่อพระเอกผู้น่าสงสาร เพิ่งโผล่มาแต่ชื่อ หายไปเป็นร้อยตอน 5555