ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 665 ความจริงที่เกิดขึ้นกับจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ (ฟรี)
มังกรพิษผีดิบนั้นรู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อทันที และไม่กล้าที่จะใช้ร่างมังกรต่อหน้าซู่เสี่ยวไป่อีกต่อไป และได้กลายร่างเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเฉี่ยวเห้อ
มังกรพิษผีดิบเมื่ออยู่ในร่างมนุษย์มันกลับมีรูปร่างเป็นเด็กอ้วนตัวใหญ่ที่หน้าตาไร้เดียงสา
“มังกรพิษผีดิบนั้นมีอายุขัยยืนยาวมาก และสำหรับวัยของเขาในตอนนี้เทียบได้กับเด็กสำหรับมนุษย์”
มังกร 9 มายาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับมังกรพิษผีดิบ
แน่นอนว่านี้เป็นสัตว์อสูรสายพันธ์พิเศษเหมือนกัน และมีอยู่มาตั้งแต่ยุคเก่าแก่ และถูกผนึกเอาไว้ในไข่ จนกระทั่งมีผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งฟักมันขึ้นมา และเลี้ยงดูเอาไว้ในสถานที่แห่งนี้
แล้วมังกรพิษผีดิบก็ได้นำทางทั้งสองเข้าไปในวังผลึกแก้ว พาไปยังห้องคลังสมบัติ
“โห….ราวกับที่นี่เป็นที่รวมผลึกต้นกำเนิดของทั้งจักรวรรดิเอาไว้เลย”
แววตาของซู่เสี่ยวไป่ส่องเป็นประกายทันที และมองไปยังผลึกต้นกำเนิดจำนวนมาก จากการคาดเดาซู่เสี่ยวไป่คิดว่าคงไม่ต่ำกว่าแสนล้านก้อน
ผู้นำสูงสุดของจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์นั้นร่ำรวยเกินไปจริงๆ รวยจนซู่เสี่ยวไป่ขนลุก
โชคดีที่ยังไม่มีใครมาพบเข้า ไม่งั้นซู่เสี่ยวไป่คงร้องไห้เสียใจแน่ที่ต้องแบ่งสมบัตินี้กับใคร
“ถึงจะยังงั้นก็เถอะ เจ้ามังกรพิษ…รู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผู้นำสูงสุดของจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์”
ซู่เสี่ยวไป่ถามขึ้น
มังกรพิษผีดิบแอบซ่อนตัวเองอยู่ในวังแห่งนี้ตลอดมันต้องได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับจักรพรรดินีพระแม่ศักดิ์สิทธิ์บ้าง
เด็กอ้วนเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าซู่เสี่ยวไป่ และพูดขึ้น
“อย่าบอกว่าท่านทั้งสองมาที่นี่เพื่อหาความจริงเรื่องนี้?”
ซู่เสี่ยวไป่พยักหน้า
“นั้นก็ส่วนหนึ่ง ยังไงอีกเป้าหมายก็คือเอาสมบัติ”
ไม่มีทางที่เขาจะปฏิเสธความจริงอยู่แล้ว ว่าเขาต้องการอะไร ดีกว่าทำอ้อมๆ แล้วสุดท้ายก็เอาไปอยู่ดี
มังกรพิษผีดิบถึงกับส่ายหัว
“ถ้าอยากจะรู้เรื่องนี้จริงๆ ข้าว่านายท่านทั้งสองกลับไปเถอะ!! เพราะรู้ไปก็ทำอะไรไม่ได้”
“ไอ้เด็กเวรนี้!! กล้าสงสัยในพลังของนายท่านของข้างั้นหรอ!!”
มังกร 9 มายา ยกมือขึ้นทำท่าจะตบใส่เด็กอ้วน
ทำให้ท่าทางของมังกรพิษผีดิบนั้นเปลี่ยนไป และดูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“ก็ใช่ว่าจะบอกไม่ได้…”
การมาถึงของท่านซือนั้น และเหตุการณ์ที่จักรพรรดินีสูงสุดถูกสังหารนั้นอยู่ในสายตาของมังกรพิษผีดิบทั้งหมด
เรื่องมีอยู่ว่าผู้นำสูงสุดของจักรวรรดินั้นได้ทำการปิดด่านฝึกตนอยู่มาหลายปี และสามารถทะลวงเขตแดนจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ได้ สร้างความแตกตื่นให้กับขุมอำนาจอื่นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้ทำให้จักรพรรดินีสามารถปกครองจักรวรรดิระดับสูงต่อไปได้ และเป็นที่เกรงขามของจักรวรรดิระดับสูงอื่นๆ
แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อจักรพรรดินีเลือกที่จะตัดขาด
อย่างที่รู้กันว่าการตัดขาดนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับภพแห่งนี้ และการจะตัดขาดนั้นจำเป็นต้องมีวิธี และต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนถึงจะทำได้
เนื่องจากสิ่งที่จักรพรรดินีเลือกจะตัดขาด ทำให้มีราชฑูตที่อยู่ในโลกที่สูงส่งกว่าได้ปรากฏตัวขึ้นนั้นคือท่านซือ และได้ห้ามปรามจักรพรรดินีเอาไว้
“ตอนที่คนที่ชื่อท่านซือปรากฏตัว เขาบอกกับจักรวรรดินีว่านางยังไม่เหมาะสม และไม่มีสิทธิ์ตัดขาด”
“เขารู้ว่าจักรพรรดินีไม่มีคุณสมบัติที่เพียงพอ และนางก็ยังฝืนที่จะทำการตัดขาดต่ออยู่ดี นั้นเป็นเหตุที่ทำให้จักรวรรดินีสิ้นพระชน”
มังกรพิษผีดิบนั้นพูดราวกับว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องของคนอื่น แต่น้ำเสียงของเขานั้นกลับแฝงไปด้วยความหวาดกลัว
“ในตอนที่จักรพรรดินีเตรียมการตัดขาดนั้น ข้าได้รับภารกิจลับให้เตรียมการกับจ้าวภัยพิบัติอีก 10 คนเพื่อทำการตัดขาดเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าราชฑูตนั้นจะไม่ได้มาเตือนแค่จักรพรรดินี เขาเตือนถึงทุกคนที่อยู่ในจักรวรรดิแห่งนี้”
“เพราะแบบนั้นในพริบตาเดียวจ้าวภัยพิบัติกว่า 10 คนได้ถูกฆ่าไปด้วย”
ซู่เสี่ยวไป่ถึงกับตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
ตัดหัวจ้าวภัยพิบัติขั้นสูงพร้อมกันได้สิบคน?
ในบรรดาทั้งสิบคนนี้มีจักรพรรดินีของจักรวรรดิอยู่ด้วย คนอื่นที่นอกจากจักรพรรดินีก็น่าจะเป็นจ้าวภัยพิบัติขั้น 8
แล้วผู้ทรงพลังขนาดนั้นถูกสังหารพร้อมกัน หนึ่งในนั้นเป็นจ้าวภัยพิบัติขั้น 10!
“แกบอกว่าทุกคนถูกฆ่าในพริบตา? แปลว่าท่านซือนั้นแข็งแกร่งมากเลยงั้นหรอ!”
ซู่เสี่ยวไป่ถามอย่างสนใจมากขึ้น แม้ว่าเขาจะมีขอบเขตพลังเท่ากับจ้าวภัยพิบัติขั้น 8 แล้วก็ตาม แต่เขายังไม่สามารถจินตนาการพลังที่สามารถฆ่าจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 และ 8 ได้ในพริบตาเดียวแบบนี้
เมื่อก่อนในจักรวาลทวีปใหญ่ เขาได้เคยพูดคุยกับท่านซือมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่อีกฝ่ายไม่ได้แสดงเจตนาร้ายกับเขา เพียงแค่ห้ามปรามเขาไว้เท่านั้นให้ห่างจากการตัดขาด แต่เขาก็ได้เตือนไว้ด้วยว่าผลลัพธ์ที่ตามมาหากไม่ฟังเขาคืออะไร
-แต่จักรพรรดินีคงจะไม่เชื่อฟัง และนี้คือผลลัพธ์ของการไม่เชื่อคำเตือนของเขา
มังกรพิษผีดิบนั้นพยักหัวอย่างจริงจัง
“เรื่องจริง!! ราชฑูตคนนั้นมาจากโลกที่อยู่เหนือขึ้นไป และเขาเป็นผู้กำหนดและควบคุมผู้ที่จะทำการตัดขาด เพราะจักรพรรดินีพยายามที่จะตัดขาดโดยที่คุณสมบัติไม่เพียงพอ ทำให้ถูกท่านฑูตฆ่าทันที”
“และคนอื่นๆ ก็ด้วยเช่นเดียวกันถูกสังหารตายเพราะไม่มีคุณสมบัติที่เพียงพอ”
นี้เป็นเหตุผลที่ทำให้ขุมอำนาจของจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์เสื่อมถอยอย่างรวดเร็วเนื่องจากรากฐานของจักรวรรดิล้มตายพร้อมกัน จนไม่สามารถรักษาสถานภาพเอาไว้ได้
แต่สิ่งที่ซู่เสี่ยวไป่ตกใจยิ่งกว่าก็คือ ความแข็งแกร่งของท่านซือนั้นอยู่ในจุดไหนกันแน่ ถ้าเขาสามารถฆ่าจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ได้ในพริบตา นั้นแปลว่าเขตแดนของเขาสูงกว่าจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ไปอีก และมันคือเขตแดนอะไร?
เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว ซู่เสี่ยวไป่ก็ถึงกับส่ายหัวอย่างแรง และทิ้งความคิดที่จะท้าทายตัวตนนี้ไปก่อน
ไม่ว่าการตัดขาดจะน่าสนใจแค่ไหน แต่การท้าทายท่านซือเวลานี้ก็ไม่ต่างจากการฆ่าตัวตาย
เฉี่ยวเห้อ เดินไปรอบๆ คลังสมบัติด้วยท่าทางสง่างาม
“ที่นี่ไม่มีร่องรอยของการต่อสู้เลย มีแต่ร่องรอยของการใช้ชีวิตเท่านั้น”
ซู่เสี่ยวไป่เองก็มองไปรอบๆ ด้วยเช่นเดียวกัน และตรวจดูว่าสิ่งที่มังกร 9 มายาพูดเป็นจริงไหม
และนั้นคือความจริงไม่มีร่องรอยอะไรเลย ทำให้ซู่เสี่ยวไป่จำได้ว่าตอนที่ท่านซือปรากฏตัว เขาเองก็อยู่ในสภาพที่ไม่อาจจะต้านทานได้ และแปลกเลยที่เขาจะฆ่าทุกคนได้ในพริบตา
“สิ่งที่อยู่ในโลกเบื้องบนโหดร้ายจริงๆ หากวันนั้นเราไม่ฟังคำเตือนก็คงถูกเขาสังหารในพริบตาเหมือนกัน”
ซู่เสี่ยวไป่บ่นกับตัวเองเบาๆ
ตัวตนของท่านซือนั้นเรียกได้ว่ามีพลังที่คุมกาลเวลาได้อย่างเบ็ดเสร็จ หากว่าอ่อนแอเกินไปหรือคุณสมบัติไม่เพียงพอเขาก็จะฆ่าผู้ที่ไม่เชื่อฟังในทันที
ยังไงเป้าหมายของซู่เสี่ยวไป่ก็คือการตัดขาดไม่ใช่การยึดครองจักรวรรดิ หากถึงตอนนั้นเขาต้องเผชิญหน้ากับราชฑูตซืออีก หรืออาจจะเป็นคนอื่นมาแทน เพราะแบบนั้นหากเขาไม่แข็งแกร่งพอเขาจะถูกฆ่าทันที
จะต้องแข็งแกร่งมากขึ้นไปกว่านี้ และทรงพลังกว่าจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ต้องไปให้ไกลกว่านั้น กลายเป็นผู้อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แต่เขาต้องเริ่มจากหนทางสู่จุดนั้นให้ได้เสียก่อน